Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปครั้งที่ 23 และเป็นครั้งแรกภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และครั้งแรกภายหลังการรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาล พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 กำหนดให้มีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550[1] ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 กำหนดให้สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 480 คน โดยเป็นสมาชิกซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งจำนวน 400 คน และสมาชิกซึ่งมาจากการเลือกตั้งแบบสัดส่วนจำนวน 80 คน
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ทั้งหมด 480 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรไทย ต้องการ 241 ที่นั่งจึงเป็นฝ่ายข้างมาก | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ลงทะเบียน | 44,002,593 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผู้ใช้สิทธิ | 74.52% ( 1.96 จุด) | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ผลการเลือกตั้ง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
องค์ประกอบของสภาผู้แทนราษฎร หลังจากการเลือกตั้ง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
การเลือกตั้งครั้งนี้มีการกำหนดวันเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในเขตและนอกเขตวันที่ 15-16 ธันวาคม พ.ศ. 2550 โดยต้องไปลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดได้ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม - 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ส่วนเลือกตั้งในเขตไม่ต้องลงทะเบียน แต่ไปใช้สิทธิได้
วันที่ 26 ตุลาคม 2550 คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีมติแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต[2] จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีและจำนวนเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด มี 400 คนจาก 76 จังหวัด
วันที่ 17 ตุลาคม 2550 คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีมติแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. แบบสัดส่วน[3][4] มี 8 กลุ่มจังหวัด แต่ละกลุ่มมี ส.ส. 10 คน ดังนี้
หมายเลขประจำพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. แบบสัดส่วน ซึ่งเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 7-11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550[5] (19 พรรคแรกได้จากการจับสลากเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน) [6] หมายเลขเหล่านี้ไม่เหมือนกับ ส.ส.แบบแบ่งเขตที่เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2550[7]
หมายเลข | พรรค |
---|---|
1 | พรรคเพื่อแผ่นดิน |
2 | พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา |
3 | พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย |
4 | พรรคประชาธิปัตย์ |
5 | พรรคพลังเกษตรกร |
6 | พรรครักเมืองไทย |
7 | พรรคแรงงาน |
8 | พรรคเกษตรกรไทย |
9 | พรรคประชาราช |
10 | พรรคนิติศาสตร์ไทย |
11 | พรรคพัฒนาประชาธิปไตย |
12 | พรรคพลังประชาชน |
13 | พรรคชาติไทย |
14 | พรรคดำรงไทย |
15 | พรรคมัชฌิมาธิปไตย |
16 | พรรคชาติสามัคคี |
17 | พรรคความหวังใหม่ |
18 | พรรคประชากรไทย |
19 | พรรคประชามติ |
20 | พรรคไทเป็นไท |
21 | พรรคพลังแผ่นดินไทย |
22 | พรรคมหาชน |
23 | พรรคคุณธรรม |
24 | พรรคราษฎรรักไทย |
25 | พรรคกฤษไทยมั่นคง |
26 | พรรคอยู่ดีมีสุข |
27 | พรรคไทยร่ำรวย |
28 | พรรคเอกราช |
29 | พรรคพลังแผ่นดิน |
30 | พรรคสังคมประชาธิปไตย |
31 | พรรคนำวิถี |
จากรายงานของ กกต.[5] สรุปได้ว่าพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครครบทั้ง 8 กลุ่มจังหวัด มี 10 พรรค จากทั้งหมด 31 พรรค จำนวนผู้สมัคร ส.ส. แบบสัดส่วนมีจำนวนรวม 1,260 คน ในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้ชายร้อยละ 78.57 ที่เหลือเป็นผู้หญิง กลุ่มจังหวัดที่ 6 มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งมากที่สุด (19.05%) กลุ่มจังหวัดที่ 2 มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งน้อยที่สุด (9.52%) ผู้สมัครส่วนใหญ่ (33.33%) มีธุรกิจส่วนตัวหรือค้าขาย ส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือต่ำกว่าปริญญาตรี และมีอายุระหว่าง 51-60 ปี รองลงไปคือ 41-50 ปี
หลังจากมีการปิดหีบการเลือกตั้ง ผล Exit Poll จากหน่วยงานต่าง ๆ มีดังนี้
+ผล Exit Poll จากสวนดุสิตโพล [8] | |||
พรรค | แบ่งเขต | สัดส่วน | รวม |
---|---|---|---|
พรรคพลังประชาชน | 221 | 35 | 256 |
พรรคประชาธิปัตย์ | 127 | 35 | 162 |
พรรคชาติไทย | 24 | 5 | 29 |
พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา | 14 | 1 | 15 |
พรรคเพื่อแผ่นดิน | 8 | 2 | 10 |
พรรคประชาราช | 3 | 1 | 4 |
พรรคมัชฌิมาธิปไตย | 3 | 1 | 4 |
รวม | 400 | 80 | 480 |
+ผล Exit Poll จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง [10] | |||
พรรค | แบ่งเขต | สัดส่วน | รวม |
---|---|---|---|
พรรคพลังประชาชน | 218 | 37 | 255 |
พรรคประชาธิปัตย์ | 125 | 34 | 159 |
พรรคชาติไทย | 33 | 5 | 38 |
พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา | 13 | 1 | 14 |
พรรคเพื่อแผ่นดิน | 10 | 3 | 13 |
พรรคประชาราช | 1 | 0 | 1 |
พรรคมัชฌิมาธิปไตย | 0 | 0 | 0 |
รวม | 400 | 80 | 480 |
↓ | ||||
พรรค | แบบแบ่งเขต | แบบสัดส่วน | รวม | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
คะแนนเสียง | % | ที่นั่ง | คะแนนเสียง | % | ที่นั่ง | ที่นั่ง | % | |||
พลังประชาชน | 26,293,456 | 36.21 | 199 | 12,338,903 | 41.08% | 34 | 233 | 48.54% | ||
ประชาธิปัตย์ | 21,745,696 | 29.95 | 132 | 12,148,504 | 40.45% | 33 | 165 | 34.38% | ||
ชาติไทย | 6,363,475 | 8.76 | 33 | 1,213,532 | 4.04% | 4 | 37 | 7.71% | ||
เพื่อแผ่นดิน | 6,599,422 | 9.09 | 17 | 1,596,500 | 5.32% | 7 | 24 | 5.00% | ||
รวมใจไทยชาติพัฒนา | 3,395,197 | 4.68 | 8 | 740,461 | 2.47% | 1 | 9 | 1.88% | ||
มัชฌิมาธิปไตย | 3,844,673 | 5.30 | 7 | 450,382 | 1.50% | 0 | 7 | 1.45% | ||
ประชาราช | 1,632,795 | 2.25 | 4 | 408,851 | 1.36% | 1 | 5 | 1.04% | ||
อื่น ๆ | 2,730,033 | 3.76 | – | 1,136,365 | 3.78% | – | – | – | ||
คะแนนสมบูรณ์ | 72,607,256 | 100% | 400 | 30,033,498 | 100% | 80 | 480 | 100% | ||
ไม่ประสงค์ลงคะแนน | 1,499,707 | 4.58% | 953,306 | 2.85% | ||||||
คะแนนเสีย | 837,775 | 2.56% | 1,823,436 | 5.56% | ||||||
จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง | 32,775,868 | 74.49% | 32,792,246 | 74.52% | ||||||
จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง | 44,002,593 | 44,002,593 | ||||||||
ที่มา: ศูนย์กลางข้อมูลเปิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง |
พรรค | กทม | ภาคใต้ | ภาคเหนือ | ภาคอีสาน | ภาคกลาง | รวม |
---|---|---|---|---|---|---|
พรรคชาติไทยพัฒนา | - | 1 | - | 1 | 8 | 10 |
พรรคประชาธิปัตย์ | 1 | - | 1 | - | 5 | 7 |
พรรคเพื่อไทย | - | - | 1 | 4 | - | 5 |
พรรคประชาราช | - | - | - | 3 | 1 | 4 |
พรรคเพื่อแผ่นดิน | - | - | - | 2 | 1 | 3 |
รวม | 1 | 1 | 2 | 10 | 15 | 29 |
เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสกลนคร แทนที่นายพงษ์ศักดิ์ บุญศล ซี่งถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี โดยมีการเลือกตั้งในวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ซึ่งมีผู้สมัคร 2 คน คือ นางอนุรักษ์ บุญศล (พรรคเพื่อไทย) กับนายพิทักษ์ จันทศรี (พรรคภูมิใจไทย) ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นางอนุรักษ์ บุญศล เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง
เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสกลนคร แทนที่นายสุตา พรหมดวง ซี่งลาออกจากตำแหน่ง โดยมีการเลือกตั้งในวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ซึ่งมีผู้สมัคร 2 คน คือ นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ (พรรคเพื่อไทย) กับนางสกุลทิพย์ อังคสกุลเกียรติ (พรรคชาติไทยพัฒนา) ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง
เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุราษฎร์ธานี แทนที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซี่งลาออกจากตำแหน่ง โดยมีการเลือกตั้งในวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ซึ่งมีผู้สมัคร 2 คน คือ นายธานี เทือกสุบรรณ (พรรคประชาธิปัตย์) กับนายสมพล วิชัยดิษฐ (พรรคเพื่อไทย) ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นายธานี เทือกสุบรรณ เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง
เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร แทนที่นายทิวา เงินยวง ซึ่งถึงแก่กรรมไปก่อนหน้านี้ โดยมีการเลือกตั้งในวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งมีผู้สมัครคนสำคัญ 2 คน คือ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ (พรรคประชาธิปัตย์) กับนายก่อแก้ว พิกุลทอง (พรรคเพื่อไทย) ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง
เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสุราษฎร์ธานี แทนที่นายชุมพล กาญจนะ ซึ่งถูกตัดสิทธิ์จากการเมืองเป็นระยะ 5 ปี โดยมีการเลือกตั้งในวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งมีผู้สมัครคนสำคัญ 2 คน คือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ (พรรคประชาธิปัตย์) กับนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ (พรรคเพื่อไทย) ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง
เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยจำนวน 5 ตำแหน่ง ที่พ้นสมาชิกสภาพสืบเนื่องจากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีการเลือกตั้งในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ผลการเลือกตั้งปรากฏดังนี้
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน (พรรคประชาธิปัตย์) เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง
ร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช (พรรคเพื่อไทย) เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง
นายศุภรักษ์ ควรหา (พรรคภูมิใจไทย) เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง
นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร (พรรคชาติไทยพัฒนา) เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ (พรรคภูมิใจไทย) เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง
คณะกรรมการการเลือกตั้งได้มีมติให้ใบเหลือง - ใบแดง กับผู้สมัครดังต่อไปนี้
ลำดับ | นาม | จังหวัด | พรรค | ข้อกล่าวหา | มติ กกต. | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล | แพร่ เขต 1 | พลังประชาชน | แจกเงินซื้อเสียง[11] | เลือกตั้งซ่อม 20 มกราคม พ.ศ. 2551 | |
2 | ปานหทัย เสรีรักษ์ | |||||
3 | นิยม วิวรรธนดิฐกุล | |||||
4 | ธนาธร โล่ห์สุนทร | ลำปาง เขต 1 | [12] | |||
5 | เฉลิมชาติ การุญ | สกลนคร เขต 1 | สัญญาว่าจะให้ หลอกลวง และจูงใจ[13] | |||
6 | ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ | นครนายก เขต 1 | ประชาธิปัตย์ | |||
7 | สุทัศน์ จันทร์แสงศรี | เพชรบูรณ์ เขต 1 | [14] | |||
8 | ประกิจ พลเดช | บุรีรัมย์ เขต 1 | พลังประชาชน | สัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินเพื่อจูงใจในการเลือกตั้ง[15] | ||
9 | พรชัย ศรีสุริยันโยธิน | |||||
10 | รุ่งโรจน์ ทองศรี | |||||
11 | เอี่ยม ทองใจสด | เพชรบูรณ์ เขต 2 | การแจกเงิน เพื่อจูงใจให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง[16] | เลือกตั้งซ่อม 19 ตุลาคม พ.ศ. 2551 | ||
12 | วันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ | |||||
13 | สุรศักดิ์ อนรรคฆพันธ์ | |||||
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.