คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

สนธิ บุญยรัตกลิน

นายพลและนักการเมืองชาวไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สนธิ บุญยรัตกลิน
Remove ads

พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน (เกิด 2 ตุลาคม พ.ศ. 2489) ชื่อเล่น บัง เป็นทหารบกและนักการเมืองชาวไทย เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (ชุดที่ 24) ผู้บัญชาการทหารบก หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งก่อรัฐประหาร ใน พ.ศ. 2549 และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ

ข้อมูลเบื้องต้น สนธิ บุญยรัตกลินม.ป.ช. ม.ว.ม., ผู้ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ...
Remove ads
Remove ads

ประวัติ

สรุป
มุมมอง

ชีวิส่วนตัว

พลเอก สนธิ เกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2489 เป็นบุตรของ พันเอก สนั่น (นามสกุลเดิม อหะหมัดจุฬา)[3]และนางมณี บุญยรัตกลิน ชาวไทยเชื้อสายมอญ เป็นบุตรชายคนโตในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 6 คน เติบโตในครอบครัวมุสลิม ที่นับถือนิกายชีอะห์ ในจังหวัดปทุมธานี (บิดานับถือนิกายชีอะห์) แต่ตนเองนับถือศาสนาอิสลาม นิกายซุนนีย์ (มารดานับถือนิกายซุนนีย์)[4] ต้นตระกูลเฉกอะหมัด นามสกุล "บุญยรัตกลิน" (อ่านว่า บุน-ยะ-รัด-กะ-ลิน) เป็นนามสกุลพระราชทานจากรัชกาลที่ 6 มีที่มาจากการที่หนึ่งในสาแหรกฝั่งย่าเป็นทหารเรือ สังกัดพรรคกลิน คือหลวงพินิจกลไก (บุญรอด)[5] พลเอก สนธิ มีชื่อทางมุสลิมว่า "อับดุลเลาะห์ อหะหมัดจุฬา" ได้ฉายาจากสื่อมวลชนทั่วไปว่า "บิ๊กบัง"

พลเอก สนธิ มีภรรยาทั้งหมด 3 คน ภรรยาคนแรกชื่อ สุกัญญา จดทะเบียนสมรสขณะที่ พลเอก สนธิ ยังเป็นพลโทภรรยาคนที่สองชื่อ ปิยะดา จดทะเบียนสมรสเมื่อเป็นนายพล ภรรยาคนที่สามชื่อ วรรณา[6] ปัจจุบันอาศัยอยู่กันทั้งหมดแม้ว่าการมีภรรยาสี่คนจะเป็นเรื่องผิดกฎหมายในประเทศไทยก็ตาม อย่างไรก็ตาม นายอารีย์ วงศ์อารยะ[7] [8] วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 พลเอก สนธิ กล่าวว่า"ตนไม่ยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินของภรรยาคนที่ 3 ต่อ ป.ป.ช. เนื่องจากไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางกฎหมาย"[9]

บุตรที่เกิดกับนางปิยะดา บุญยรัตกลิน มี 2 คน คือ

  1. นาวาตรี นิธิ บุญยรัตกลิน (ป๊อป)
  2. นายนิรินทร์ บุญยรัตกลิน (ไปป์)

บุตรที่เกิดกับนางวรรณา บุญยรัตกลิน มี 2 คน คือ

  1. พันตำรวจเอก สุทธิเวท บุญยรัตกลิน
  2. พันตรี สุธาวิทย์ บุญยรัตกลิน[10]

บุตรที่เกิดกับนางสุกัญญา บุญยรัตกลิน มี 2 คน คือ

  1. นายเอกรินทร์ บุญยรัตกลิน
  2. ร้อยโทหญิง ศศิภา บุญยรัตกลิน (พลอย)

การศึกษา

พลเอก สนธิ ศึกษาในระดับประถมและมัธยมที่ โรงเรียนวัดพระศรีมหาธาตุ และศึกษาต่อโรงเรียนเตรียมทหาร (รุ่นที่ 6) และศึกษาต่อ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เหล่าทหารราบ (รุ่นที่ 17) และได้ศึกษาในระดับอุดมศึกษาระดับปริญญาโท สาขาศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (การทหาร) โรงเรียนเสนาธิการทหารบก สถาบันวิชาการทหารบกชั้นสูง และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (รุ่นที่ 42) ในปี พ.ศ. 2556 จบการศึกษาปริญญาเอก สาขารัฐศาสตร์ (สาขาวิชาการเมือง) มหาวิทยาลัยรามคำแหง[11] รุ่นแรกของคณะ โดยมีพลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นประธานรุ่น ที่มีอายุมากที่สุดคือ 63 ปีนอกจากนี้ได้มีหลักสูตรพิเศษอื่น ได้แก่

  • หลักสูตรส่งทางอากาศและหลักสูตรจู่โจม โรงเรียนศูนย์การทหารราบ
  • หลักสูตรชั้นนายร้อยทหารราบ หลักสูตรสงครามทุ่นระเบิด โรงเรียนศูนย์การทหารช่าง
  • หลักสูตรผู้บังคับหมวดช่างโยธาและกระสุน โรงเรียนศูนย์การทหารราบ
  • หลักสูตรภาษาอังกฤษ โรงเรียนยุทธศึกษาทหารบก
  • หลักสูตรลาดตระเวนระยะไกล โรงเรียนสงครามพิเศษ โรงเรียนเสนาธิการทหารบก
  • หลักสูตรหลักประจำ ชุดที่ 57
Remove ads

การทำงาน

  • ผู้บังคับหมวดปืนเล็ก กองร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบ ศูนย์การทหารราบ
  • ผู้บังคับหมวดปืนเล็ก กองร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ 2 กองพลทหารอาสาสมัคร ผลัดที่ 3
  • รองผู้บังคับกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 9 กาญจนบุรี
  • ผู้บังคับการกรมรบพิเศษที่ 1 รองผู้บัญชาการกองพลรบพิเศษที่ 1
  • ผู้บัญชาการกองพลรบพิเศษที่ 1 รองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
  • ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
  • ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2547[12] จนพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่[13]
  • ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารบก
  • ประธานคณะกรรมการบริหารจัดการให้เป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์เสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้[14]

พลเอก สนธิ เป็นนายทหารของหน่วยรบพิเศษ ที่ผ่านการรบด้านการปราบปราม ผกค. ด้าน อ.กุยบุรี และ จ.ปราจีนบุรี รวมถึงการออกไปรบที่ประเทศเวียดนามใต้และกัมพูชา

Remove ads

บทบาททางการเมือง

สรุป
มุมมอง

รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549

วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 พลเอก สนธิ เป็นหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจการปกครองของ รัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเกิดขึ้นก่อนจะมีการเลือกตั้งเดือนหน้า และ ซึ่งอยู่ระหว่างการประชุมสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก

อนึ่งในวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 พลเอก สนธิ เป็นหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้มีประกาศคำสั่งให้อำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีเป็นของหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้นจึงให้ถือว่า พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน เคยดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีด้วย

หลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว พลเอก สนธิ ได้เปลี่ยนตำแหน่งจากหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไปเป็นประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ

หลังเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ. 2550 พลเอก สนธิ ได้รับพระราชทานโปรดเกล้า ฯ ให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ดูแลความมั่นคงโดยเฉพาะ ในรัฐบาลพล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์[15]

หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ

หลังพ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี พลเอก สนธิ ก็มักปรากฏข่าวคราวว่าจะเล่นการเมือง โดยจะเป็นหัวหน้าพรรคเอง ในที่สุด ในวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 พลเอก สนธิก็รับตำแหน่งประธานพรรคมาตุภูมิ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ก่อตั้งโดยนักการเมืองใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เป็นมุสลิม โดยมีเป้าหมายหวังฐานเสียงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ [16] และรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคในปี พ.ศ. 2554 โดยการเลือกตั้งในวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ได้ลงรับสมัครเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 พรรคมาตุภูมิ[17]

ประธานคณะกรรมาธิการปรองดองฯ

พลเอก สนธิ กล่าวในฐานะประธานกรรมาธิการปรองดองว่า ที่ผ่านมา ความพยายามในการสร้างความปรองดอง แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น สภาจึงเป็นทางออกที่เหลืออยู่ ทั้งนี้ทราบดีว่า กรรมาธิการแต่ละคนมีความเชื่อต่างกัน แต่ขอให้ทุกคนให้อภัยกัน[18]

พรรคชาติไทยพัฒนา

พลเอก สนธิ ได้เข้าร่วมงานการเมืองกับพรรคชาติไทยพัฒนา และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 เขาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา ลำดับที่ 8[19] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง

Remove ads

บัญชีทรัพย์สิน

วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้เปิดเผยรายการบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินของคณะรัฐมนตรี ในรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ โดย พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ยื่นบัญชีทรัพย์สินเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีมีทรัพย์สิน 38,796,977 บาท ประกอบด้วยเงินฝากในธนาคารพาณิชย์ 10,241,195 บาท เงินฝากในสถาบันการเงินอื่น 13,355,541 บาท หลักทรัพย์รัฐบาล และรัฐบาลค้ำประกัน 142,600 บาท หลักทรัพย์จดทะเบียนและรับอนุญาต 6,393,240 บาท หลักทรัพย์และเงินลงทุนอื่น 4,664,400 บาท สิ่งปลูกสร้าง 1 หลัง มูลค่า 4 ล้านบาท ภรรยาทั้ง 2 คน ที่จดทะเบียนสมรสคือ นางสุกัญญา มีทรัพย์สินกว่า 14 ล้านบาท และ นางปิยะดา 42 ล้านบาท บุตรสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะกว่า 3 แสนบาท ซึ่งรวมทั้งครอบครัวแล้วมีทรัพย์สินกว่า 94 ล้านบาท[20]

Remove ads

ความชื่นชอบส่วนตัว

พลเอก สนธิชอบเล่นกีฬามาก โดยเฉพาะฟุตบอลและเทนนิส และชอบ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด[21]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

ต่างประเทศ

  •  สหรัฐ :
    • พ.ศ. 2513 – Thumb เหรียญคอมเมนเดชัน (ทหารบก) ประดับ วี
  •  เวียดนามใต้ :
    • พ.ศ. 2516 – Thumb แกลแลนทรี่ครอส ประดับใบปาร์ม
    • พ.ศ. 2513 – Thumb เหรียญรณรงค์เวียดนาม
  •  มาเลเซีย :
    • พ.ศ. 2550 – Thumb เครื่องราชอิสริยาภรณ์เกปาละวานัน อังกะตัน เตนเตรา ชั้นที่ 1
  •  สิงคโปร์ :
    • พ.ศ. 2550 – Thumb เหรียญปิงกัต จาซา เกมิลัง (เท็นเทรา)[28]
Remove ads

ลำดับสาแหรก

ข้อมูลเพิ่มเติม ลำดับสาแหรกของสนธิ บุญยรัตกลิน ...
Remove ads

เชิงอรรถ

    อ้างอิง

    แหล่งข้อมูลอื่น

    Loading content...
    Loading related searches...

    Wikiwand - on

    Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

    Remove ads