Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พลเอก พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ (4 มกราคม พ.ศ. 2441 – 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496) เมื่อแรกประสูติมีพระอิสริยยศที่ หม่อมเจ้านักขัตรมงคล เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ กับหม่อมเจ้าอับศรสมาน กิติยากร (ราชสกุลเดิม เทวกุล) เป็นพระสัสสุระในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้วยเป็นพระราชชนกในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเป็นพระราชอัยกาในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ | |
---|---|
พระวรวงศ์เธอ ชั้น 5 พระองค์เจ้าชั้นตรี | |
ประสูติ | 4 มกราคม พ.ศ. 2441 เมืองพระนคร ประเทศสยาม |
สิ้นพระชนม์ | 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496 (55 ปี) จังหวัดพระนคร ประเทศไทย |
พระราชทานเพลิง | 7 มิถุนายน พ.ศ. 2496 พระเมรุ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม |
หม่อม | หม่อมหลวงบัว กิติยากร |
พระบุตร | |
ราชสกุล | กิติยากร |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ |
พระมารดา | หม่อมเจ้าอับศรสมาน กิติยากร |
พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ ทรงรับการศึกษาเบื้องต้น ณ วังที่ประทับ จากนั้นทรงศึกษาในโรงเรียนราชวิทยาลัย (ปัจจุบันคือโรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์) กระทั่ง พ.ศ. 2453 ทรงศึกษาในโรงเรียนนายร้อยทหารบก ชั้นประถม และชั้นมัธยมตามลำดับ ครั้น พ.ศ. 2454 เสด็จไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ เป็นนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม เมื่อ พ.ศ. 2457 เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยม ในประเทศฝรั่งเศส กระทั่งได้รับประกาศนียบัตร Baccalauréat ทั้ง 2 ภาค ในทางวิทยาศาสตร์ จากนั้นจึงเข้าศึกษาในโรงเรียนนายร้อยฝรั่งเศส École Spéciale Militaire de Saint Cyr โดยได้รับยศสิบโทและสิบเอกแห่งกองทัพฝรั่งเศส
พ.ศ. 2463 ทรงศึกษาจนจบหลักสูตร พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้พระราชทานสัญญาบัตรเป็นร้อยตรีเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2463[1] ตำแหน่งนายทหารนอกกอง สังกัดกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมาในวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2465 โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ร้อยโท ขณะศึกษาวิชาการทหารอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส[2] และยังได้ประจำการในกรมทหารราบฝรั่งเศสหลายแห่งด้วย ขณะเดียวกันได้ทรงรับคำสั่งเป็นนายทหารประจำพระองค์พันเอก สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิ์เดชน์ กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา (ภายหลังคือพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว) และได้เสด็จไปทอดพระเนตรงานในกองทัพฝรั่งเศสอย่างกว้างขวาง และได้รู้จักคุ้นเคยนายทหารผู้ใหญ่เป็นจำนวนมาก จากนั้นในวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2467 ได้รับพระราชทานยศ ร้อยเอก[3] ต่อมาในวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2469 รับพระราชทานยศ พันตรี[4]
วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2472 ทรงรับราชการทหารจนได้รับพระราชทานยศพันโท[5] วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2473 รับพระราชทานยศพันเอก[6] ระหว่างนี้ทรงสร้างตำราทางทหารและสร้างแบบฝึก และวางแผนการป้องกันราชอาณาจักรไว้หลายอย่าง เมื่อ พ.ศ. 2474 ทรงได้รับตำแหน่งเลขานุการสภาการป้องกันพระราชอาณาจักร [7] และตำแหน่งผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกด้วยเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2475[8] โดยก่อนหน้านั้นในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2474 พระองค์ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายทหาร [9]
เมื่อ พ.ศ. 2475 ทรงออกจากประจำการเป็นนายทหารกองหนุน[10] แล้วย้ายไปรับราชการในกระทรวงการต่างประเทศ ตำแหน่งเลขานุการเอกประจำสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. อีกสองปีต่อมา ทรงลาออกจากตำแหน่งและเสด็จกลับประเทศไทย ระหว่างนี้ทรงศึกษาวิชาการต่าง ๆ หลายแขนง เช่น ประวัติศาสตร์ โหราศาสตร์ และวรรณคดี
วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2489 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กลับเข้ารับราชการในตำแหน่ง อัครราชทูตประจำราชสำนักเซนต์เจมส์ สหราชอาณาจักร[11] ต่อมาในวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2489 อันตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เป็นอัครราชทูตไทยประจำราชสำนักเซนต์เจมส์อีกวาระหนึ่ง[12] วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2490 ย้ายไปดำรงตำแหน่งอัครราชทูตประจำประเทศเดนมาร์ก[13] และฝรั่งเศส ตามลำดับ[14] จากนั้นก็ย้ายไปดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตประจำสำนักเซนต์เจมส์[15] อันเป็นตำแหน่งสุดท้ายในกระทรวงการต่างประเทศ
พ.ศ. 2493 ทรงพ้นตำแหน่งเอกอัครราชทูต และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานยศทหารเป็น พลเอก นายทหารพิเศษประจำกองพันที่ 1 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ และเป็นราชองครักษ์พิเศษ เมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2493[16] และโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2493[17] และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์ขึ้นเป็น พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้านักขัตรมงคล เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2493[18]
เมื่อ พ.ศ. 2495 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยศักดิ์ขึ้นเป็น พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ[19] และรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก และมหาจักรีบรมราชวงศ์ ตามลำดับ
พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ เริ่มประชวรพระโรคหลอดลมอักเสบ เมื่อกลางเดือนมกราคม พ.ศ. 2496 และยังประชวรพระโรควักกะ (ไต) พิการด้วย จนถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496 เวลา 7.45 น. ก็สิ้นพระชนม์ ณ วังที่ประทับ สิริพระชันษา 55 ปี 1 เดือน 8 วัน ในการนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระโกศกุดั่นน้อยทรงพระศพ ประดิษฐานพระศพ ณ พระที่นั่งทรงธรรม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามฯ ทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานบำเพ็ญพระราชกุศล 7 วัน 15 วัน 50 วัน และ 100 วัน อุทิศถวาย มีพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2496 ณ พระเมรุ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร
พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ ทรงเสกสมรสกับหม่อมหลวงบัว กิติยากร (ราชสกุลเดิม สนิทวงศ์; 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2452 − 19 กันยายน พ.ศ. 2542); บุตรีของเจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์)) เมื่อ พ.ศ. 2471 ทรงมีพระโอรส-ธิดา ดังนี้
ธรรมเนียมพระยศของ พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ | |
---|---|
การทูล | ฝ่าพระบาท |
การแทนตน | เกล้ากระหม่อม/เกล้ากระหม่อมฉัน |
การขานรับ | เกล้ากระหม่อม/เพคะ |
ลำดับโปเจียม | ไม่ทราบ |
พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ | |
---|---|
รับใช้ | ไทย |
แผนก/ | กองทัพบกไทย |
ประจำการ | พ.ศ. 2463 - 2496 |
ชั้นยศ | พลเอก |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.