Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 32 (อังกฤษ: WrestleMania 32) เป็นการแสดงมวยปล้ำอาชีพแบบเพย์-เพอร์-วิว (PPV) ของเรสเซิลเมเนียเป็นครั้งที่ 32 จัดโดยดับเบิลยูดับเบิลยูอี(WWE) โดยมีกำหนดจัดวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 2016 ที่สนามเอทีแอนด์ทีสเตเดียม ที่เมืองอาร์ลิงตัน, รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา[2][1]
เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 32 | |||
---|---|---|---|
สมาคม | ดับเบิลยูดับเบิลยูอี | ||
วันที่ | 3 เมษายน ค.ศ. 2016 | ||
เมือง | อาร์ลิงตัน, รัฐเท็กซัส | ||
สถานที่ | เอทีแอนด์ทีสเตเดียม | ||
ผู้ชม | 101,763[1] | ||
ลำดับเหตุการณ์ดับเบิลยูดับเบิลยูอี เน็ตเวิร์ค | |||
| |||
ลำดับเหตุการณ์เรสเซิลเมเนีย | |||
|
เรสเซิลเมเนียถือว่าเป็นรายการเรือธงของ WWE[3] และได้รับการอธิบายว่าซูเปอร์โบว์ลของความบันเทิงกีฬา[4]
ตั๋วไปขายที่ 6 พฤศจิกายน 2015 กับตั๋วแต่ละต้นทุน $18 ถึง $1180 ผ่านจากTicketmaster 13 ตุลาคม 2015 แพคเกจเดินทางไปกับห้องตั้งแต่ 575$ ไป $6,625 ต่อคนถูกขาย[5] สมาชิกใหม่ที่สมัคร WWE Network สามารถดูรายการที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม[6]
เป็นเรสเซิลเมเนียครั้งที่สามที่จะจัดขึ้นในรัฐเท็กซัสหลังจาก 2001 และ2009 และเป็นครั้งแรกที่จะเกิดขึ้นในสนาม Dallas-Fort Worth Metroplex[7] เพลงประกอบรายการมี "My House" โดย Flo Rida, "Hello Friday" โดย Flo Rida feat. Jason Derulo, "Hail to the King" โดย Avenged Sevenfold, "Sympathy for the Devil" โดย Motörhead และ "Oh No" โดย Goodbye June[8] วันที่ 21 มีนาคม ได้ประกาศว่า ฟิฟท์ฮาร์โมนี จะมาร้องเพลง America the Beautiful ในช่วงเปิดรายการเรสเซิลเมเนีย[9] ในเดือนธันวาคม 2015 WWE ได้ประกาศว่า เดอะร็อก จะมาร่วม เรสเซิลเมเนีย 32[10]
ฟอบส์ ได้สันนิษฐานว่า เรสเซิลเมเนีย 32 สามารถทำลายสถิติผู้ชม 93,173 คนในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 3 ที่Pontiac Silverdome ในPontiac, มิชิแกน บันทึกนี้ยืนอยู่ในฐานะผู้เข้าร่วมมากที่สุดสำหรับการแข่งขันในร่มจนกระทั่ง 2010 NBA All-Star Game นอกจากนี้ยังจัดขึ้นที่สนามกีฬา AT&T, คาดว่าจะสามารถดึงคนดูได้ถึง 108,713 คน[11] ฟอบส์ ทำนายพิสูจน์ให้เห็นว่าถูกต้องว่ามีคนดูถึง 101,763 คน
CNET เขียนว่า เรสเซิลเมเนีย 32 จะมี "สุดยอด" ของ "เรื่องที่ใหญ่ที่สุดใน WWE" ซึ่งก็คือ "การสร้างโรแมน เรนส์เป็นธรรมะตัวเอกผู้ที่จะเป็นใบหน้าของบริษัทฯ - ถ้า WWE มีวิธีการของ -- ทศวรรษหน้า ". "ที่ผ่านมาสองปี WWE ได้รับการเคลื่อนย้ายสวรรค์และโลก" ในความพยายามที่จะได้รับเรนส์ที่ "ระดับของการรับรู้" ของ "ชื่อเหมือน ฮัลค์ โฮแกน, สตีฟ ออสติน, เดอะร็อก และจอห์น ซีนา" แต่ "ของมัน ฝ่ายตรงข้ามที่ยากที่สุด "คือ" ผู้ชมมวยปล้ำ "ซึ่งเริ่มมีแฟน" จลาจล "ในการต่อต้านการสนับสนุนของ WWE ที่มีต่อเรนส์ แฟนๆเลือกที่จะสนับสนุนดีน แอมโบรสแทน[12] เพื่อต่อสู้กับแนวโน้มนี้ WWE มีมาตรการรวมถึงการปิดฝูงชนโห่และท่อในกระป๋องเชียร์ระหว่างเรนส์' ปรากฏตัวในปี 2016[13][14] The A.V. Club เห็นด้วยว่า "WWE มีปัญหาร้ายแรงเกี่ยวกับโรแมน เรนส์" เนื่องจาก "โดยทั่วไปไม่มีใครอยากเห็นโรแมน เรนส์เป็นคู่เอก" ของเรสเซิลเมเนีย[15]
เดฟ เมลเซอร์ของผู้สังเกตการณ์มวยปล้ำรายงานว่า เรสเซิลเมเนีย 32 ได้ทำลายสถิติของ WWE สำหรับตั๋วที่ขายมากที่สุดอย่างน้อย 84,000 ขายตั๋ว[16]
เรสเซิลเมเนีย กับประเภทแมตช์การปล้ำ จะถูกกำหนดโดยการวางพล็อตเรื่อง และเขียนบท โดยนักมวยปล้ำจะถูกวางตัวให้เป็น ธรรมะ หรือ อธรรม ทั้งหมดโดยการจัดแมตช์ นักมวยปล้ำทั้งหมดของ WWE บางคนเท่านั้นที่มีความบาดหมางจากรายการทีวีของ WWE จะได้มาแสดงที่เรสเซิลเมเนีย[17][18]
เรื่องราวสู่ เรสเซิลเมเนีย 32 ยังไม่ได้รับการตอบรับดีจากนักวิจารณ์ เจสันพาวเวลของโปรมวยปล้ำ Dot Net เสียใจที่ "สร้างเพื่อเรสเซิลเมเนีย ได้รับระเบียบความคิดสร้างสรรค์" และ WWE บัญชีรายชื่อที่ได้รับบาดเจ็บตีไม่ได้แก้ตัว "บุ๊กกิ้งเลอะเทอะหรือเรื่องราวที่มีช่องว่างใหญ่และช่องว่างตรรกะ"[19] เจฟฟ์ แฮมลินแห่ง Wrestling Observer criticized "มีโมเมนตัมสำหรับเรสเซิลเมเนีย ไม่เป็นที่ทั้งหมด กรณีที่ขายตัวเองหมดจดในชื่อแบรนด์ของตน"[20] เบนทักเกอร์ของโปรมวยปล้ำไฟฉายเขียน "ไม่ได้ตั้งแต่เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 13 ของ WWE ซูเปอร์โบว์ลมาร่วมกันในการดังกล่าวเป็นแฟชั่นที่แปลกประหลาดกับ WWE ทำให้บางส่วนของมากที่สุดในการตัดสินใจหัวเกาผมเคยเห็นในทุกเพศทุกวัย"[21] ไคล์ Fowle ของ A.V. Club ประกาศว่า WWE ของ "เรือมุ่งตรงไปที่โขดหิน" และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ศึกชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทเป็นภัย"[22]
ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2015) โรแมน เรนส์ได้เป็นผู้ชนะในทัวร์นาเมนต์และเป็นแชมป์ WWE World Heavyweight Championship ที่ว่างอยู่ได้สำเร็จ หลังแมตช์ ทริปเปิลเอชได้ออกมาขอให้เรนส์เข้าร่วมกลุ่มดิออธอริตี แต่เรนส์ปฏิเสธ จากนั้นเชมัสก็ฉวยโอกาสใช้สิทธิ์กระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์กระชากแชมป์ไปจากเรนส์[23][24][25] หลังจากเชมัสป้องกันแชมป์จากเรนส์ได้ในแมตช์ TLC ในทีแอลซี (2015) โดยการช่วยเหลือจากอัลเบร์โต เดล รีโอและรูเซฟ เรนส์ได้อาละวาดจัดการทั้งสามคน และทำร้ายทริปเปิล เอชจนบาดเจ็บ[26][27] คืนต่อมาในรอว์ เรนส์สามารถคว้าแชมป์จากเชมัสคืนมาได้ในการเดิมพันระหว่าง ตำแหน่งแชมป์ กับ อาชีพ[28] จากการที่ทำร้ายทริปเปิลเอช และท้าทายตระกูลแม็กแมน เจ้าของ WWE/ประธาน/CEO วินซ์ แม็กแมนบังคับให้เรนส์ป้องกันแชมป์ในแมตช์รอยัลรัมเบิล 30 คน ในรอยัลรัมเบิล (2016)[29] ในรอยัลรัมเบิล ทริปเปิล เอชได้กลับมาโดยเข้าร่วมเป็นคนสุดท้ายคนที่ 30 และเป็นผู้ชนะคว้าแชมป์จากเรนส์เป็นสมัยที่14ได้สำเร็จ[30] ในฟาสต์เลน (2016) เรนส์ได้ชนะ ดีน แอมโบรส และบร็อก เลสเนอร์ ในแมตช์สามเส้า ทำให้ได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ชิงแชมป์กับทริปเปิลเอชในเรสเซิลเมเนีย[31][32] คืนต่อมาในรอว์ 22 กุมภาพันธ์ ทริปเปิลเอชได้มาทำร้ายเรนส์จนเลือดอาบ ก่อนจะใส่ Pedigree กับบันไดเหล็กจนต้องพักการปล้ำ[33] ในรอว์ถัดมา แอมโบรสขอท้าชิงแชมป์กับทริปเปิลเอช ในรายการพิเศษ โรดบล็อก วันที่ 12 มีนาคม ทาง WWE Network และทริปเปิลเอชก็ป้องกันแชมป์ไว้ได้[34][35][36] ในรอว์ 14 มีนาคม เรนส์ได้รีเทิร์นกลับมาล้างแค้นทริปเปิลเอช[15][37][38][39]
ในรอว์ 22 กุมภาพันธ์ วินซ์ แม็กแมน ออกมามอบรางวัล "Vincent J. McMahon Legacy of Excellence" เป็นครั้งแรก โดยมอบให้กับสเตฟานี แม็กแมนลูกสาวของเขา ระหว่างที่สองพ่อลูกกำลังพูดยกย่องกันเองอย่างสนุกสนาน เชน แม็กแมน ที่หายไปหลายปีก็ได้กลับมา WWE อีกครั้ง โดยออกมาขัดจังหวะพ่อและน้องสาว และบอกว่าจะบริหารรายการรอว์แทนเอง วินซ์ไม่ยอมให้ แต่ก็จะจัดแมตช์ให้เชนปล้ำ 1 แมตช์ ถ้าชนะก็จะยอมให้เชนบริหาร แต่ถ้าแพ้ละก็เขาจะยึดเงินและทรัพย์สินทั้งหมดของเชน เชนยอมตกลง และวินซ์ก็เปิดเผยแมตช์ว่าให้ปล้ำในเรสเซิลเมเนีย กับดิอันเดอร์เทเกอร์ และเป็นเฮลล์อินเอเซลล์ แมทช์[33] ในรอว์ถัดมา อันเดอร์เทเกอร์ได้ปรากฏตัว และบอกว่าเลือดของเชนจะอยู่บนมือของวินซ์ไม่ใช่ของเขา[34][37][40][41][42] ในรอว์ 21 มีนาคม วินซ์ได้ประกาศเงื่อนไขเพิ่มเติมว่าถ้าโดยถ้าอันเดอร์เทเกอร์แพ้จะเป็นเรสเซิลเมเนียครั้งสุดท้ายของเขา[38] อันเดอร์เทเกอร์และเชนได้สู้กันในรอว์ตอนสุดท้ายก่อนเรสเซิลเมเนีย ก่อนจบลงโดยเชนทิ้งศอกใส่อันเดอร์เทเกอร์บนโต๊ะผู้บรรยาย[39]
ในฟาสต์เลน ระหว่างแมตช์สามเส้า ขณะที่บร็อก เลสเนอร์กำลังใส่ Kimura Lock เล่นงานโรแมน เรนส์อยู่นั้น ดีน แอมโบรสได้เอาเก้าอี้ตีใส่หลังเลสเนอร์จนกลิ้งตกเวที ทำให้หมดโอกาสชิงแชมป์เป็นคู่เอกในเรสเซิลเมเนีย[32] วันรุ่งขึ้นก่อนถ่ายทอดสดรอว์ เลสเนอร์ได้มาลอบทำร้ายแอมโบรสตั้งแต่มาถึงสนาม และก็จับสแลมใส่กระจกหน้ารถยนต์จนพังและแอมโบรสก็ต้องถูกส่งขึ้นรถพยาบาลไป ในรอว์ พอล เฮย์แมน ได้ท้าสตาร์ทุกคนมาเจอกับเลสเนอร์ในเรสเซิลเมเนีย แอมโบรสขับรถพยาบาลลุยเข้ามาในสนาม และก็คลานมาหาเลสเนอร์อย่างทุลักทุเล แต่เลสเนอร์เดินเหยียบหน้าแอมโบรสแล้วจะเดินกลับไป แต่แอมโบรสตะโกนเรียกเลสเนอร์ และท้าให้เจอกันในเรสเซิลเมเนีย ในแมตช์ไม่มีกฏกติกาแบบสตรีตไฟต์ (No Holds Barred Street Fight match) เลสเนอร์เดินมาจับแอมโบรสใส่ F-5 โดยเฮย์แมนพูดรับคำท้าให้เลสเนอร์[33] ในรอว์ วันที่ 14 มีนาคม ตำนานฮาร์ดคอร์มิค โฟลีย์ได้มอบไม้เบสบอลพันลวดหนามให้กับแอมโบรส[37] สัปดาห์ถัดมาในรอว์ ตำนานฮาร์ดคอร์เทร์รี ฟังก์ได้มอบเลื่อยให้กับแอมโบรส[38] ในสแมคดาวน์ วันที่ 24 มีนาคม เลสเนอร์ได้ท้าแอมโบรสออกมาสู้ แต่เดอะไวแอ็ตต์แฟมิลีได้ออกมารุมเล่นงาน แอมโบรสวิ่งออกมาพร้อมกับไม้เคนโด้ไล่ฟาดพวกไวแอ็ตต์ และก็ฟาดใส่เลสเนอร์ด้วย เลสเนอร์สวนด้วย Clothesline และจับมาใส่ F5[43][39]
หลังจากชาร์ลอตต์เอาชนะเบกกี ลินช์ ป้องกันแชมป์ WWE Divas Championship เอาไว้ได้ในรอยัลรัมเบิล (2016) หลังจากจบแมตช์ ซาชา แบงส์ได้มาเล่นงานชาร์ลอตต์[30] ในฟาสต์เลน ชาร์ลอตต์สามารถป้องกันแชมป์จากบรี เบลลา ได้สำเร็จ[32] คืนต่อมาในรอว์ 22 กุมภาพันธ์ ชาร์ลอตต์ได้ประกาศท้า เบกกี ลินช์ และซาชา แบงส์ ว่าจะให้หนึ่งในสองคนนี้ได้ชิงแชมป์กับเธอในเรสเซิลเมเนีย[33] ในรอว์ 29 กุมภาพันธ์ แมตช์เพื่อหาผู้ท้าชิงอันดับ 1 ระหว่าง เบกกี ลินช์ กับ ซาชา แบงส์ ซึ่งผลออกมาเป็นเสมอ[34] ทำให้ต้องรีแมตช์กันอีกในสแมคดาวน์ 3 มีนาคม โดยชาร์ลอตต์มาก่อกวนทำให้ไม่มีผลตัดสิน ก่อนจะประกาศเป็นแมตช์สามเส้าชิงแชมป์ดีวาส์ในเรสเซิลเมเนีย[44]
ในสแมคดาวน์ วันที่ 17 มีนาคม โซเชียลเอาต์แคตส์ (ฮีท สเลเตอร์, เคอร์ติส แอ็กเซล, อดัม โรส และโบ ดัลลัส) ได้ประกาศจะเข้าร่วมแบทเทิลรอยัลชิงรางวัลอนุสรณ์สถานอ็องเดรเดอะไจแอนต์ในเรสเซิลเมเนีย[45] ตามด้วยบิ๊กโชว์และเคน ในรอว์ 21 มีนาคม[38] ในสแมคดาวน์ วันที่ 24 มีนาคม ไทเลอร์ บรีซได้ประกาศเข้าร่วม[46] ในรอว์ วันที่ 28 มีนาคม ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในแมตช์อีก 9 คน[39]
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ ในรอว์ หลังจากชนะ เดอะนิวเดย์ และมาร์ก เฮนรี, เดอะ ดัดลีย์ บอยซ์ ได้ทำร้ายดิอูโซส์ และกลายเป็นฝ่ายอธรรม[47] วันที่ 14 มีนาคม ได้ประกาศว่า ดิอูโซส์ จะเจอกับ ดัดลีย์ บอยซ์ ในเรสเซิลเมเนีย ก่อนจะมีการประกาศให้เป็นแมตช์ช่วงก่อนเริ่มรายการ (Kickoff)[48]
ในโรดบล็อก แชมป์ WWE Tag Team Championship เดอะนิวเดย์ เอาชนะ2สมาชิกทีมเดอะลีกออฟเนชันส์ เชมัส และคิง บาร์เร็ตต์ ป้องกันแชมป์แทกทีมไว้ได้[36] 2วันต่อมาในรอว์ นิวเดย์ก็เอาชนะ2สมาชิกทีมลีกออฟเนชันส์ อัลเบร์โต เดล รีโอ และรูเซฟ ป้องกันแชมป์ไว้ได้อีกครั้ง ต่อมาลีกออฟเนชันส์ได้ขอท้าเจอกับนิวเดย์ในเรสเซิลเมเนีย[37] วันที่ 15 มีนาคม นิวเดย์ได้รับคำท้าของลีกออฟเนชันส์
ในรอว์ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ หลังจากไรแบ็กเดินหนีเคน และบิ๊กโชว์ ระหว่างแมตช์จนแพ้ให้กับไวแอ็ตต์แฟมิลี ทำให้เขากลายเป็นฝ่ายอธรรม ในรอว์ วันที่ 14 มีนาคม ไรแบ็กได้ท้าชิงแชมป์ WWE United States Championship กับเจ้าของแชมป์คาลิสโตในเรสเซิลเมเนีย[37] ซึ่งในวันที่ 16 มีนาคมคาลิสโตได้รับคำท้า ก่อนจะมีการประกาศให้แมตช์นี้ไปเป็นโชว์ก่อนเริ่มรายการ (Kickoff)
ในรอว์ วันที่ 21 มีนาคม เจ้าของแชมป์ WWE Intercontinental Championship เควิน โอเวนส์ ได้ประกาศจัดแมตช์สามเส้าระหว่าง สตาร์ดัสต์, ซินคารา และแซค ไรเดอร์ เพื่อหาผู้ท้าชิงแชมป์กับเขา ระหว่างแมตช์ แซมี เซน, เดอะมิซ และดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ ได้ออกมารบกวนและทำให้ไม่มีผลตัดสิน จากนั้นสเตฟานีประกาศให้โอเวนส์ป้องกันแชมป์กับนักมวยปล้ำทั้งหกในแมตช์ไต่บันไดในเรสเซิลเมเนีย[38]
ในฟาสต์เลน เอเจ สไตส์เอาชนะคริส เจริโคไปได้ด้วยท่าซับมิสชั่น[32] ต่อมาทั้งคู่ได้ร่วมทีมกันในนาม Y2AJ และได้ท้าชิงแชมป์แท็กทีมกับเดอะนิวเดย์[33][34] ในรอว์ วันที่ 7 มีนาคม แต่ไม่สำเร็จ หลังแมตช์เจริโคได้ทำร้ายเอเจและกลายเป็นฝ่ายอธรรม[49] ในรอว์ วันที่ 21 มีนาคม เอเจได้ขอท้าเจอกับเจริโคในเรสเซิลเมเนีย[38][50] ซึ่งในรอว์ต่อมา 28 มีนาคม เจริโคได้ประกาศรับคำท้า[39]
ในรอว์ วันที่ 28 มีนาคม ได้ประกาศว่าทีมโทเทิลดีวาส์ (บรี เบลลา, อลิเซีย ฟอกซ์, เพจ, นาตาเลีย และอีวา มารี) จะเจอกับทีมแบดแอนด์บรอนด์ (ลานา, เนโอมี, ทามีนา, ซัมเมอร์ เรย์ และเอ็มมา) เป็นแมตช์แท็กทีมหญิง 10 คน ในช่วงก่อนเริ่มรายการเรสเซิลเมเนีย (Kickoff)[37][51][52][39]
WWE อ้างว่า Wrestlemania ในปีดังกล่าวมีผู้ชมถึง 101,763 ในสนามกีฬา AT&T, มากกว่าสถิตืเดิมที่เคยทำไว้คือ Wrestlemania 3 ที่มีคนดูถึง 93,173 คน WrestleMania III นอกจากนี้ WWE ยังทำรายได้ถึง 17.3 $ ล้านถือว่าสูงสุดแล้วใน WWE[1] แต่มีข่าวออกมาว่าตัวเลขกว่าหนึ่งแสนคนนั้นเป็นเพียงตัวเลขปั้นแต่งของ WWE เท่านั้น จำนวนผู้ชมของจริงนั้นอยู่ที่ประมาณ 94,000 คนหรือน้อยกว่า ถึงกระนั้นก็ยังสามารถล้มสถิติเดิมของ Wrestlemania ครั้งที่ 3 ที่มียอดผู้ชม 93,173 ซึ่งเป็นตัวเลขปั้นแต่งเช่นเดียวกันได้อยู่ดี อนึ่ง การบอกยอดผู้ชมใน Wrestlemania ด้วยตัวเลขเท็จ เป็นสิ่งที่ WWE นิยมทำจนเป็นเรื่องปกติ เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจที่ผู้ชมทางบ้านจะได้ซึมซับข้อมูลที่ว่ามวยปล้ำเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่ผู้ชมทั่วไปนั่นเอง [53]
WrestleMania 32 ที่ได้รับการวิจารณ์ในเชิงลบจากนักวิจารณ์ที่วิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์สำหรับความยาวของมันและการตัดสินใจจองสงสัย
Troy L. Smith ของ cleveland.com เขียนว่า "WrestleMania 32 เป็นคืนที่ท้าทายความคาดหวังต่ำขอบคุณในส่วนใหญ่ของความคิดถึงตัน WWE เป็น" แต่เสริมว่า "บางส่วนของค่าความนิยมที่ได้รับการ squandered ต้นจากการตัดสินใจจองแปลก" สมิธ รู้สึกว่ากิจกรรมหลักคือ "น่าเบื่อมาก - หนึ่งในกิจกรรมหลักที่เลวร้ายที่สุดที่เคยที่ WrestleMania" ". WWE พบว่าตัวเองติดอยู่ในช่วงเวลาที่มันไม่สามารถได้รับจากการที่มีการโห่มากกว่าไชโย" กับตอนจบที่เห็น ในท้ายที่สุดสมิธ กล่าวสรุปว่า "WrestleMania 32 พิสูจน์แซคไรเดอร์ (หรือใครก็ตาม) จะดีกว่าโรแมน เรนส์"[54]
เจมส์ Caldwell ของโปรมวยปล้ำไฟฉายอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็น "การแสดงที่แปลก" เขาจัดอันดับการแข่งขันกิจกรรมหลัก 1.5 ดาวจาก 5 คำถามว่าทำไม "ทุกคนอยากจะนั่งผ่านยาวนานของเหตุการณ์สำคัญนี้" และวิจารณ์ "อัตตาของฮอนครอบครัว" สำหรับการจองห้องพักการแข่งขัน Caldwell ไปในการอธิบายรัชกาล "เป็นโครงการสัตว์เลี้ยงที่จะหัวเราะออกมาจากจุดนี้ในยุคอื่น ๆ " Caldwell เลือกที่จะไม่ให้คะแนนนรกในการแข่งขันถือ, อธิบายว่ามันเป็น "ข้อตกลงแปลก" กับ "เชน แม็กแมนไม่ใช่นักมวยปล้ำกับดิอันเดอร์เทคเกอร์ ของการแข่งขัน WrestleMania ล่าสุด" ของผู้หญิงชื่อการแข่งขันเป็นอันดับ 3 ดาว "แข็งแกร่ง" อื่น ๆ กว่าชัยซึ่งงงงวย Caldwell เมื่อเห็นได้ชัดว่า "บ้าไม่ได้เป็นเหตุการณ์ใหญ่พอที่จะจ่ายออกรบกวนซ้ำ Flair กับใบหน้า (s) ชนะ"[55]
พอล Tamburro ของ CraveOnline เขียนว่าการแสดงที่โดดเด่นด้วย "การตัดสินใจจองลึกลับที่แข็งขันทำลายทุกความก้าวหน้าของเค้า" เสริมว่า "WWE ประจำเลี้ยวแฟน ๆ ของมันที่มีเสร็จสิ้นเพื่อการแข่งขันที่เป็นที่น่าตื่นเต้นน้อยกว่าสิ่งที่ได้รับการคาดหวัง" ได้ทรงกำหนดกิจกรรมหลักเป็น "หมองคล้ำแข่งขันช้าเดิน" และอธิบายรัชกาล 'ดันเบบี้เฟซว่า "ไร้สาระ" และ "การทดลองล้มเหลวที่น่าอายสำหรับ บริษัท " กับ "ฝูงชนยังคงถูกให้เหตุผลที่จะรู้สึกอะไรให้ไม่มี ผู้ชายที่ด้านนอกของความสับสนที่แท้จริงหรือความเกลียดชังพิษ " Tamburro ก็ยังสำคัญของการแข่งขันเชน แม็กแมน-ดิอันเดอร์เทคเกอร์ซึ่งเขาอธิบายว่า "ไม่มีจุดหมายได้อย่างทั่วถึง" และการจองห้องพักของดีน แอมโบรสที่เขียนว่า "เขาแพ้ Lesnar ในลักษณะที่น่าผิดหวังทำให้บุ๋มใหญ่ในค่าของเขา" เขามีการวิจารณ์ต่อไปสำหรับ บริษัท มากกว่าการพึ่งพาดาวที่ผ่านมาเขียนว่า "ในขณะที่การดำเนินงานของชื่อใหญ่เหล่านี้เป็นจำนวนมากสนุกก็ยังคงเกิดขึ้นกับการสูญเสียของความสามารถในปัจจุบันในบัญชีรายชื่อ" ในทางตรงกันข้าม Tamburro ยกย่องสตรีชนะเลิศการแข่งขันเรียกมันว่า "ชัยชนะ" และอธิบายที่ไม่คาดคิดชนะแซคไรเดอร์เป็น "ช่วงเวลาที่ความรู้สึกที่ดีของการแสดง"[56]
โนแลนโฮเวลของแคนาดาออนไลน์สำรวจอธิบายแสดงเป็น "ที่แปลกประหลาดอย่างไร้เหตุผล. ตัดสินใจจองแปลกและไม่มีอะไรที่ดูเหมือนจะได้รับการแก้ไขที่ทุกคนนอกเหนือจากเชนทันควันกับเรื่องสัปเหร่อซึ่งจะได้รับการผูกขึ้นตลอดเวลา" โฮเวลเขียนว่าขณะที่ "คุณภาพการแข่งขันได้ดี" แสดงเป็น "ปรากฏการณ์โดยไม่ต้องมากของสาร" เขาอธิบายว่าในช่วงครึ่งหลังของการแสดงเป็น "ซากรถไฟสร้างสรรค์" เสริมว่า "WWE ก็ไม่สามารถทำอะไรที่เหมาะสมจริงๆ" โฮเวลดาอธิบายสตรีชนะเลิศการแข่งขันขณะที่การแข่งขันของคืนและสำหรับกิจกรรมหลักความเห็นเกี่ยวกับเสียงโห่ "ส่วนใหญ่คาดการณ์" สำหรับโรแมนเรนส์กับไมโครโฟนฝูงชน "มีพิรุธ" ไปหลายครั้งเงียบส่วนใหญ่ในระหว่างและหลังกิจกรรมหลัก[57]
เดฟเรอร์ของวงโปรมวยปล้ำความเห็นเกี่ยวกับการตอบสนองที่ WrestleMania 32 คือ "ยิ่งใหญ่" โต้ตอบว่า "เว้นแต่คุณจะวางกรอบการทำงานในสถานที่สำหรับอนาคตที่คุณจะไปถึงจุดที่มากที่สุดของทรัพย์สินของคุณจะหายไปและคุณจะอยู่ใน สถานที่ที่เป็นหมัน. " นี่คือการอ้างอิงว่า "เสร็จสิ้นและการพัฒนาตัวละคร (หรือขาดมัน)" ที่เกิดในดาวของคนรุ่นที่ผ่านมา (ออสติน, โฟลีย์, ไมเคิล,เจริโค, ร็อค) ที่ส่องแสงค่าใช้จ่ายของนักมวยปล้ำของคนรุ่นปัจจุบัน (Styles, เดอะนิวเดย์ , ลีกออฟเนชันและไวแอตต์แฟมมิลี่) เชียเรอร์ยังวิพากษ์วิจารณ์วินซ์แม็คมานสำหรับการละเว้น "การประกาศชัดเจน" จากแฟน ๆ กับโรแมนคว้าตำแหน่งแชมป์โลก[58]
สกอตต์คีธของข่าวกีฬาเขียนว่า Wrestlemania 32 "จบลงด้วยการหวดห้าชั่วโมง (เจ็ดชั่วโมงกับการแสดง pregame) และเป็นหนึ่งในเรสเซิลเมเนียที่เลวร้ายที่สุดเมื่อทั้งหมดได้พูดและทำ" เขาเขียนว่า "โรแมน เรนส์แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเขาไม่ใช่คนที่จะเป็นดาวบนแม้จะมีความพยายามที่ดีที่สุดทริปเปิล เอชที่จะได้รับการจับคู่ 'คลาสสิก' ออกมาจากเขาและการจับคู่เชน แม็กแมน-ดิอันเดอร์เทคเกอร์จบลงด้วยการเป็น snoozefest 30 นาทีแทน ของระเบียบวุ่นวายที่ทุกคนต้องการ " คีธ ยกย่องตรงกับชื่อเรื่องของผู้หญิงและแซคไรเดอร์สำหรับการมีเขา "ช่วงเวลา Wrestlemania"[59]
ความรู้เพิ่มเติม
John Cena ได้ Return โดยการออกมาช่วย The Rock หลังจากที่ The Rock ชนะ Erick Rowan ด้วยเวลาเพียง 6 วินาที ซึ่ง John Cena ได้กลับมาท่ามกลางเสียง ''John Cena Suck'' แต่ยังไงคนทั้งสนามก็ยังดีใจที่ได้เห็น Hero คนเก่ง อย่าง Cena กลับมา ^^
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.