Loading AI tools
นักฟุตบอลชายชาวนอร์เวย์ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อาลิง เบราต์ โฮลัน (นอร์เวย์: Erling Braut Haaland, เดิมสะกดว่า Håland, ออกเสียง: [ˈhòːlɑn]; เกิด 21 กรกฎาคม ค.ศ. 2000) เป็นนักฟุตบอลชาวนอร์เวย์ ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าให้แก่แมนเชสเตอร์ซิตีและทีมชาตินอร์เวย์ มีจุดเด่นในด้านการทำประตู และได้รับการยกย่องในด้านฝีเท้า การวิ่ง ความแข็งแรง การจ่ายบอล และการหาโอกาสเข้าทำในกรอบเขตโทษ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในกองหน้าตัวเป้าที่ดีที่สุดในโลก[5]
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | อาลิง เบราต์ โฮลัน[1] | ||
ชื่อเกิด | อาลิง เบราต์ โฮลัน[2] | ||
วันเกิด | [3] | 21 กรกฎาคม ค.ศ. 2000||
สถานที่เกิด | ลีดส์ ประเทศอังกฤษ | ||
ส่วนสูง | 1.95 เมตร (6 ฟุต 5 นิ้ว)[4] | ||
ตำแหน่ง | กองหน้าตัวเป้า | ||
ข้อมูลสโมสร | |||
สโมสรปัจจุบัน | แมนเชสเตอร์ซิตี | ||
หมายเลข | 9 | ||
สโมสรเยาวชน | |||
2005–2016 | บรีเนอ | ||
2017 | ม็อลเดอ | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
2015–2016 | บรีเนอ 2 | 14 | (18) |
2016–2017 | บรีเนอ | 16 | (0) |
2017 | ม็อลเดอ 2 | 4 | (2) |
2017–2019 | ม็อลเดอ | 39 | (14) |
2019–2020 | เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค | 16 | (17) |
2020–2022 | โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ | 67 | (62) |
2022– | แมนเชสเตอร์ซิตี | 69 | (70) |
ทีมชาติ‡ | |||
2015 | นอร์เวย์ อายุไม่เกิน 15 ปี | 4 | (4) |
2016 | นอร์เวย์ อายุไม่เกิน 16 ปี | 17 | (1) |
2017 | นอร์เวย์ อายุไม่เกิน 17 ปี | 5 | (2) |
2017 | นอร์เวย์ อายุไม่เกิน 18 ปี | 6 | (6) |
2018 | นอร์เวย์ อายุไม่เกิน 19 ปี | 6 | (6) |
2019 | นอร์เวย์ อายุไม่เกิน 20 ปี | 5 | (11) |
2018 | นอร์เวย์ อายุไม่เกิน 21 ปี | 3 | (0) |
2019– | นอร์เวย์ | 33 | (31) |
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 31 สิงหาคม ค.ศ. 2024 (UTC) ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 21:25, 8 มิถุนายน ค.ศ. 2024 (UTC) |
โฮลันเริ่มต้นอาชีพกับสโมสรในบ้านเกิดอย่างบรีเนอใน ค.ศ. 2016 และย้ายไปม็อลเดอในปีถัดมา เขาลงเล่นให้กับม็อลเดอสองปีก่อนที่จะเซ็นสัญญากับเร็ดบุลซัลทซ์บวร์คในออสเตรียเมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 2019[6] เขาพาทีมชนะเลิศออสเตรียนบุนเดิสลีกาสองสมัย และออสเตรียนคัพหนึ่งสมัย และในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 เขาเป็นผู้เล่นดาวรุ่งคนแรกที่ทำประตูในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้ถึงห้านัดติดต่อกัน[7] ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2019 โฮลันย้ายไปโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ ซึ่งเขาประสบความสำเร็จกับการทำประตูในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาล 2019–20 จนกลายเป็นผู้เล่นดาวรุ่งคนที่สองที่ทำ 10 ประตูในรายการนี้ เขาชนะเลิศการแข่งขันเดเอ็ฟเบ-โพคาล ฤดูกาล 2020–21 และได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของบุนเดิสลีกา ก่อนจะย้ายไปแมนเชสเตอร์ซิตีใน ค.ศ. 2022 ด้วยค่าตัว 60 ล้านยูโรซึ่งเขาทำสถิติเป็นผู้เล่นที่ใช้เวลาน้อยที่สุดที่ทำแฮตทริกได้สองครั้ง, สามครั้ง, สี่ครั้ง และห้าครั้งในพรีเมียร์ลีก และเป็นผู้เล่นคนแรกในลีกที่ทำแฮตทริกในเกมเหย้าสามนัดติดต่อกัน โฮลันประสบความสำเร็จพาแมนเชสเตอร์ซิตีคว้าสามถ้วยรางวัลใหญ่ตั้งแต่ฤดูกาลแรก และทำไปถึง 52 ประตูจากการลงสนาม 53 นัดทุกรายการซึ่งเป็นสถิติตลอดกาลของผู้เล่นในพรีเมียร์ลีก เขายังเป็นผู้เล่นคนแรกของพรีเมียร์ลีกที่ได้รับทั้งรางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยม และผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลในฤดูกาลเดียวกัน
โฮลันได้รับรางวัลเกียรติประวัติส่วนตัวมากมาย และทำลายสถิติในการทำประตูหลายรายการ เขาคว้ารางวัลโกลเดินบอยประจำปี 2020 และมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยม 11 คนจากการประกาศรางวัลขององค์กรฟิฟโปรสองปีติดต่อกันใน ค.ศ. 2021–22 ต่อมาใน ค.ศ. 2023 โฮลันทำสถิติยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้มากที่สุดต่อหนึ่งฤดูกาล (36 ประตู) เขายังได้รับรางวัลผู้ทำประตูสูงสุดประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก, รางวัลรองเท้าทองคำยุโรป และถ้วยรางวัลแกร์ท มึลเลอร์ ตามด้วยรางวัลนักฟุตบอลชายแห่งปีของสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป และคว้าอันดับสองในการประกาศรางวัลบาลงดอร์ 2023
แม้จะมีสิทธิ์เลือกเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ แต่โฮลันเลือกเล่นให้กับนอร์เวย์ หลังจากฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี 2019 ที่เขาได้รับรางวัลรองเท้าทองคำจากการทำคนเดียวเก้าประตูในหนึ่งนัดจนสร้างสถิติใหม่ โฮลันลงเล่นให้กับทีมชาตินอร์เวย์ชุดใหญ่ครั้งแรกใน ค.ศ. 2019[8] ปัจจุบันเขาเป็นผู้ทำประตูสูงสุดอันดับสองของทีมชาตินอร์เวย์
โฮลันเกิดในวันที่ 21 กรกฎาคม ค.ศ. 2000 ที่ลีดส์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งอัลฟ์-อิงเก้ โฮลัน บิดาของเขา เป็นนักฟุตบอลที่กำลังลงเล่นในพรีเมียร์ลีกในตอนนั้น[9] ต่อมาใน ค.ศ. 2004 เขาย้ายไปบ้านเกิดของพ่อแม่ที่บรีเนอ ประเทศนอร์เวย์ ตอนอายุ 3 ขวบ[10][11]
โฮลันเริ่มเล่นให้กับทีมเยาวชนของบรีเนอในวัยห้าขวบ[12][13] ในบทสัมภาษณ์ของ โกล Alf Ingve Berntsen อดีตผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนของโฮลัน พูดถึงพรสวรรค์ในวัยเด็กของเขาว่า:
“ | ผมเห็นโฮลันครั้งแรกตอนเขาอายุห้าขวบ เมื่อเขาเข้าร่วมทีมและฝึกซ้อมกับกลุ่มเพื่อนที่อายุมากกว่าหนึ่งปี สองสัมผัสของเขานำไปสู่ประตู เขาเล่นได้ดีมาก ๆ ในช่วงแรกของเขา แม้ว่าตอนนั้นเขาจะยังไม่เคยเล่นในสโมสรมาก่อน เขาเริ่มเล่นในกลุ่มอายุของเขา แต่เป็นเพราะเขาดีกว่าคนอื่นมาก ๆ เราจึงต้องดึงเขาขึ้นไปเล่นในรุ่นอายุไม่เกิน 6 ปี[14] | ” |
ระหว่างฤดูกาล 2015–16 โฮลันได้เล่นให้กับทีมสำรองของบรีเนอ เขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจโดยยิง 18 ประตูจาก 14 นัด[15] เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2016 Gaute Larsen ถูกไล่ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมบรีเนอ และ Berntsen ผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนได้เลื่อนขึ้นมาทำหน้าที่รักษาการ เนื่องจาก Berntsen ได้ทำงานร่วมกับโฮลันในชุดเยาวชนหลายรุ่นอายุ ผู้จัดการทีมชั่วคราวคนนี้จึงดึงโฮลันขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่แม้ว่าเขาจะมีอายุเพียง 15 ปี 9 เดือนก็ตาม[14][13] เขาลงเล่นนัดแรกให้กับทีมชุดใหญ่ในลีกระดับสองนัดที่พบกับ Ranheim เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2016[16]
หลังจากที่วางตำแหน่งปีกให้กับโฮลันในช่วงแรก Berntsen ได้ย้ายเขาไปเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าในอีกไม่กี่นัดถัดมา โฮลันลงเล่นให้กับบรีเนอทั้งสิ้น 16 นัด[15] แม้ว่าเขาจะยังไม่ประสบความสำเร็จในด้านการทำประตูในฤดูกาลกับบรีเนอ แต่เขาก็ได้รับข้อเสนอจากเทเอ็สเก 1899 ฮ็อฟเฟินไฮม์ จากเยอรมนี ก่อนที่จะย้ายไปม็อลเดอ ซึ่งอยู่ภายใต้การคุมทีมของอดีตผู้เล่นชาวนอร์เวย์ อูเลอ กึนนาร์ ซูลชาร์[14]
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 ม็อลเดอประกาศว่าได้เซ็นสัญญากับโฮลัน[17] เขาลงเล่นนัดแรกให้กับสโมสรเมื่อวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2017 ในนอร์เวเจียนคัพนัดที่พบกับโวลดา ซึ่งเขาสามารถทำประตูแรกให้กับสโมสร ช่วยให้ทีมชนะ 3–2[18] เขาลงเล่นนัดแรกในลีกเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ค.ศ. 2017 โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 71 ในการพบกับซาร์ปสเบิร์ก 08 เขาได้รับใบเหลืองหลังจากที่ลงสนามเพียง 65 วินาที[19] อย่างไรก็ตาม เขาสามารถทำประตูชัยในนาทีที่ 77 ซึ่งเป็นประตูแรกที่เขาทำได้ในเอลีเตอเซเรียน ต่อมา เขาทำประตูที่สองในลีกของฤดูกาลเมื่อวันที่ 17 กันยายน โดยเป็นประตูชัยช่วยให้ทีมเอาชนะไวกิง 3–2 แต่เขาถูกวิพากย์วิจารณ์จากเพื่อนร่วมทีม Björn Bergmann Sigurðarson ถึงการฉลองการทำประตูต่อหน้าผู้สนับสนุนไวกิง[20] โฮลันจบฤดูกาลแรกกับม็อลเดอด้วยการทำ 4 ประตูจากการลงเล่น 20 นัด[21]
วันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 โฮลันทำคนเดียวสี่ประตูภายใน 21 นาทีแรกของเกม ช่วยให้ทีมบุกเอาชนะบรันน์ 4–0 ทำลายสถิติไร้พ่ายในลีกของเจ้าบ้าน ในนัดนั้น เขาทำแฮตทริกภายในเวลา 11 นาที 2 วินาที และทำครบสี่ประตูภายในเวลา 17 นาที 4 วินาที ทีมงานแมวมองของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็มารับชมเกมนัดนี้ด้วย[22] ผู้จัดการทีมม็อลเดอ อูเลอ กึนนาร์ ซูลชาร์ เปรียบเทียบรูปแบบการเล่นของโฮลันว่าคล้ายกับของโรเมลู ลูกากู และเปิดเผยว่า สโมสรได้ปฏิเสธข้อเสนอซื้อตัวโฮลันจากสโมสรต่าง ๆ[23]
นัดถัดมา วันที่ 8 กรกฎาคม โฮลันทำสองประตูและหนึ่งแอสซิสต์ช่วยให้ทีมเอาชนะโบเลเรงกา 5–1[24] เขาทำประตูในยูฟ่ายูโรปาลีก ช่วยให้ม็อลเดอเอาชนะลาชี 3–0 เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม[25] โฮลันพลาดการลงเล่นในลีกสามนัดสุดท้ายเนื่องจากอาการข้อเท้าแพลง[26] ผลงานของเขาในลีกฤดูกาล 2018 ทำให้เขาได้รับรางวัลผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปีของเอลีเตอเซเรียน[27] เขาจบฤดูกาล 2018 ด้วยการเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของม็อลเดอจากการทำ 16 ประตูจากการลงเล่น 30 นัดจากทุกรายการ[28]
ฟิล เฮย์ จากดิแอธเลติก เปิดเผยว่า ก่อนที่โฮลันจะย้ายไปเร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค เขาเคยได้รับข้อเสนอจากลีดส์ยูไนเต็ดในแชมเปียนชิปของอังกฤษ[29]
วันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 2018 สโมสรเร็ดบุลซัลทซ์บวร์คในออสเตรียนบุนเดิสลีกาประกาศว่าโฮลันจะย้ายมาร่วมทีมในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2019 โดยจะเซ็นสัญญาห้าปี[6] วันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 โฮลันทำแฮตทริกแรกให้กับสโมสรในออสเตรียนคัพนัดที่เอาชนะ SC-ESV Parndorf 7–1[30] ต่อมาในวันที่ 10 สิงหาคม เขาทำแฮตทริกแรกในออสเตรียนบุนเดิสลีกาช่วยให้ทีมเอาชนะ Wolfsberger AC 5–2[31] ต่อมาเขาทำแฮตทริกที่สามให้กับสโมสรเมื่อวันที่ 14 กันยายน ช่วยให้ทีมเอาชนะ TSV Hartberg 7–2 เขาทำ 11 ประตูจากการลงเล่นเพียง 7 นัด ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในฤดูกาลนั้น[32] สามวันถัดมา เขาลงเล่นครั้งแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 และทำแฮตทริกที่สี่กับสโมสร ช่วยให้เอาชนะเคงก์[33]
ฮาลันเป็นผู้เล่นดาวรุ่งคนที่สองในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกที่ทำประตูในสามนัดแรกที่ได้ลงเล่นในรายการนี้ครบทุกนัด ต่อจากการีม แบนเซมา โดยฮาลันทำหนึ่งประตูใส่ลิเวอร์พูลและทำสองประตูใส่นาโปลี[34] หกประตูของเขาในสามนัดแรกที่ลงเล่นนับเป็นสถิติสูงสุดของแชมเปียนส์ลีก[34] ต่อมาเมื่อเขาทำหนึ่งประตูในนาโปลี เขากลายเป็นผู้เล่นดาวรุ่งคนแรกที่ทำประตูครบทั้งสี่นัดแรกที่ลงเล่นในรายการแข่งขัน และเป็นผู้เล่นคนที่สี่ทำสถิตินี้ได้หากนับรวมทุกอายุ ต่อจากเซการ์ลูส, อาเลสซันโดร เดล ปีเอโร และดิเอโก โกสตา[7] วันที่ 27 พฤศจิกายน เขาทำอีกหนึ่งประตูใส่เคงก์ ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนที่หกที่ทำประตูในรายการนี้ได้ถึงห้านัดติดต่อกัน ต่อจาก เดล ปีเอโร, เซอร์ฮิว เรบรอฟ, เนย์มาร์, คริสเตียโน โรนัลโด และรอแบร์ต แลวันดอฟสกี[35][36]
โฮลันย้ายไปโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ในบุนเดิสลีกาของเยอรมนีเมื่อสองวันก่อนที่ตลาดซื้อ-ขายฤดูหนาวประจำเดือนมกราคม ค.ศ. 2020 จะเปิด ค่าตัวที่ได้รับรายงานอยู่ที่ 20 ล้านยูโร เขาเซ็นสัญญากับสโมสรสี่ปีครึ่ง[37][38] เขาลงเล่นนัดแรกให้กับสโมสรในนัดที่พบกับเอาคส์บวร์คเมื่อวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 2020 โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 56 และทำแฮตทริกภายในเวลาเพียง 23 นาที ช่วยให้ทีมชนะ 5–3[39] เขากลายเป็นผู้เล่นคนที่สองของดอร์ทมุนท์ที่ทำสามประตูในนัดแรกที่ลงเล่นในบุนเดิสลีกา ต่อจากปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์[40] ในนัดที่สองที่ลงเล่นให้กับดอร์ทมมุนท์ เมื่อวันที่ 24 มกราคม พบกับแอร์สเทอ เอ็ฟเซ เคิลน์ โฮลันลงเล่นเป็นตัวสำรองอีกครั้งในนาทีที่ 65 และทำประตูแรกหลังจากที่ลงสนามเพียง 12 นาที ก่อนที่จะทำประตูที่สองในอีก 10 นาทีถัดมา ช่วยให้ทีมของเขาเอาชนะ 5–1[41] โฮลันกลายเป็นผู้เล่นคนแรกในบุนเดิสลีกาที่ทำ 5 ประตูจากการลงเล่นในสองนัดแรก เช่นเดียวกันกับผู้เล่นที่ทำถึง 5 ประตูในรายการนี้ได้เร็วที่สุด (56 นาที)[42] วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 โฮลันทำสองประตูช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง 2–1 ในเลกแรกของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ดาวรุ่งชาวนอร์เวย์ทำ 10 ประตูในแชมเปียนส์ลีกจากการลงเล่นเพียง 8 นัด แบ่งเป็น 8 ประตูกับเร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค และ 2 ประตูกับโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์[43]
เมื่อบุนเดิสลีกากลับมาแข่งใหม่อีกครั้ง หลังจากหยุดพักไปเนื่องจากการระบาดทั่วของไวรัสโคโรนา โฮลันทำประตูแรกหลังพักลีก ช่วยให้ทีมเอาชนะชัลเคอ 04 4–0 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม[44] ประตูนี้เป็นประตูที่ 10 ของเขาในบุนเดิสลีกา วันที่ 20 มิถุนายน ค.ศ. 2020 โฮลันทำสองประตูช่วยให้ทีมเอาชนะแอร์เบ ไลพ์ซิช 2–0 ทำให้ดอร์ทมุนท์ได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลถัดไป[45]
ในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 ทางสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตีประกาศว่าได้ทำการเซ็นสัญญาโฮลันด้วยค่าฉีกสัญญา 60 ล้านยูโร[46] จากนั้นในวันที่ 13 มิถุนายน ทางสโมสรประกาศอย่างเป็นทางการว่าโฮลันจะเข้าร่วมสโมสรในวันที่ 1 กรกฎาคม โดยมีระยะเวลาสัญญาจ้าง 5 ปี[47]
โฮลันลงสนามนัดแรกในการแข่งขันเอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 2022 ซึ่งเขาลงเล่นครบ 90 นาที และแมนเชสเตอร์ซิตีแพ้ลิเวอร์พูล 1–3[48] ในวันที่ 7 สิงหาคม ค.ศ. 2022 เขาลงสนามนัดแรกในพรีเมียร์ลีกและทำสองประตูในนัดที่แมนเชสเตอร์ซิตีบุกไปชนะเวสต์แฮมยูไนเต็ด 2–0[49] ถัดมา ในวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 2022 เขาทำแฮตทริกครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกได้ ในนัดที่ทีมเอาชนะคริสตัลพาเลซ 4–2 ตามด้วยการทำแฮตทริกอีกครั้งในอีกสี่วันถัดมา ในนัดที่แมนเชสเตอร์ซิตีเอาชนะนอตทิงแฮมฟอเรสต์ 6–0[50] ส่งผลให้โฮลันกลายเป็นนักเตะที่ใช้เวลาน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ทำแฮตทริกได้สองครั้ง[51] ในวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 2022 โฮลันทำสองประตูช่วยให้ทีมบุกไปชนะเซบิยา 4–0 ในรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่าแชมเปียนส์ ส่งผลให้เขาเป็นผู้เล่นคนแรกที่ทำ 25 ประตูจากการลงสนาม 20 นัดในรายการนี้[52][53] ก่อนจะคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกประจำเดือนสิงหาคมในวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2022[54] ต่อมา ในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2022 โฮลันสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักเตะคนแรกในยุคพรีเมียร์ลีกที่ทำแฮตทริกจากการแข่งขันเกมเหย้า 3 นัดติดต่อกัน ในนัดที่แมนเชสเตอร์ซิตีเปิดบ้านเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 6–3[55] รวมทั้งเป็นผู้เล่นที่ใช้เวลาน้อยที่สุดที่ทำแฮตทริกได้สามครั้งในพรีเมียร์ลีก โดยลงสนามไปเพียงแปดนัดทำลายสถิติเดิมของ ไมเคิล โอเวน ที่ใช้เวลาถึง 48 นัดใน ค.ศ. 1998[56]
ต่อมา ในวันที่ 28 ธันวาคม ค.ศ. 2022 โฮลันทำสองประตูช่วยทีมบุกเอาชนะลีดส์ยูไนเต็ด 3–1 ถือเป็นประตูที่ 20 จากการลงสนามเพียง 14 นัด ส่งผลให้เขากลายเป็นผู้เล่นที่ใช้เวลาน้อยที่สุดในการทำ 20 ประตูในพรีเมียร์ลีก ทำลายสถิตของ เควิน ฟิลลิปส์[57] เขาทำแฮตทริกได้อีกครั้งในวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 2023 นัดที่พบกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ ทำให้เขาทำไปถึง 25 ประตูจากการลงสนาม 19 นัด ซึ่งมากกว่าจำนวน 23 ประตูที่สองผู้เล่นอย่าง มุฮัมมัด เศาะลาห์ และ ซน ฮึง-มิน ทำได้ตลอดทั้งฤดูกาล 2021–22
ในวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 2023 โฮลันยิงห้าประตูในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่เอาชนะแอร์เบ ไลพ์ซิช 7–0 ทาบสถิติของ ลิโอเนล เมสซิ และ ลุยซ์ อาเดรียโน ในการทำประตูมากที่สุดในหนึ่งนัด[58] ส่งผลให้เขาทำประตูรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ให้แมนเชสเตอร์ซิตีไป 39 ประตู ทำลายสถิติตลอดกาลของ ทอมมี จอห์นสัน จำนวน 38 ประตูในฤดูกาล 1928–29[59] นอกจากนี้ เขายังทำสถิติเป็นผู้เล่นคนที่สาม ต่อจากเมสซิ และ คริสเตียโน โรนัลโด ที่ทำอย่างน้อย 10 ประตูในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกมากกว่า 1 ฤดูกาล ต่อมาในวันที่ 11 เมษายน ค.ศ. 2023 โฮลันทำหนึ่งประตูในนัดที่ทีมเอาชนะไบเอิร์นมิวนิกในรอบก่อนรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ถือเป็นประตูที่ 45 รวมทุกรายการ ทำลายสถิติจำนวน 44 ประตูของผู้เล่นในพรีเมียร์ลีกที่ทำไว้โดย รืด ฟัน นิสเติลโรย และ เศาะลาห์ ถัดมาอีกสองสัปดาห์ โฮลันทำสองประตูและอีกหนึ่งแอสซิสต์ในนัดที่แมนเชสเตอร์ซิตีเปิดบ้านเอาชนะทีมนำของลีกอย่างอาร์เซนอลด้วยผลประตู 4–1 ลดจำนวนช่องว่างในตารางเหลือเพียงสองคะแนนและซิตียังแข่งน้อยกว่าอีกสองนัด[60] ตามด้วยการทำประตูที่ 50 รวมทุกรายการในนัดที่พบฟูลัม และเขาคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนเมษายนจากผลงานหกประตูและสองแอสซิสต์[61]
ในวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 โฮลันทำประตูที่ 35 ในลีกนัดที่พบเวสต์แฮม ทำลายสถิติเดิมของแอนดรูว์ โคลและเชียเรอร์ที่ทำไว้ 34 ประตู หนึ่งสัปดาห์ถัดมา เขาได้รับรางวัลชนะเลิศนักฟุตบอลแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอล ด้วยคะแนนโหวตท่วมถ้นกว่า 82% เหนือสองผู้เล่นของอาร์เซนอลที่ทำผลงานโดดเด่นอย่างบูกาโย ซากาและมัตติน เออเดอโกร์ โฮลันเป็นเพียงผู้เล่นคนที่สี่ ที่ได้รับรางวัลในฤดูกาลแรกที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก[62][63] โฮลันคว้าแชมป์ใบแรกจากการที่ซิตีชนะเลิศพรีเมียร์ลีกวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ. 2023[64] ต่อมา ในวันที่ 24 พฤษภาคม เขาทำได้หนึ่งแอสซิสต์ซึ่งทำให้เขามีผลงานทำประตูและแอสสิสต์ในพรีเมียร์ลีกรวมกันจำนวน 44 ครั้ง ทาบสถิติของกองหน้าตำนานอย่างตีแยรี อ็องรี เขาจบฤดูกาลด้วยการเป็นผู้ทำประตูสูงสุดที่ 36 ประตู และยังคว้ารางวัลรองเท้าทองคำยุโรป[65] พร้อมทั้งทำสถิติใหม่ในการทำประตูสูงสุดต่อหนึ่งฤดูกาลในพรีเมียร์ลีก[66]
โฮลันคว้าถ้วยรางวัลใบที่สองจากการพาทีมเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ 2–1 วันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 2023[67] ตามด้วยการพาทีมเอาชนะอินเตอร์มิลานในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2023 ด้วยผลประตู 1–0 แมนเชสเตอร์ซิตีทำสถิติเป็นสโมสรที่สองของอังกฤษที่ชนะเลิศการแข่งขันสามรายการหลักในฤดูกาลเดียวกัน[68] เขายังจบฤดูกาลด้วยการเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในฤดูกาลของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งที่สอง[69] และทำสถิติเป็นหนึ่งในสองผู้เล่นร่วมกับลิโอเนล เมสซิ ในการทำประตูสูงสุดในรายการดังกล่าวสองครั้งก่อนอายุครบ 23 ปี[70] เขาคว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของยูฟ่าในเดือนสิงหาคม โดยมีคะแนนชนะเพื่อนร่วมทีมอย่างเกฟิน เดอ เบรยเนอ[71]
โฮลันเริ่มต้นพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023–24 ด้วยการทำสองประตูพาทีมบุกชนะทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาอย่างเบิร์นลีย์[72] หนึ่งวันต่อมา เขาคว้าแชมป์แรกของฤดูกาล และเป็นถ้วยรางวัลใบที่สี่กับซิตี ด้วยการเอาชนะจุดโทษเซบิยาในรายการยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2023 โดยโฮลันเป็นผู้ยิงลูกโทษคนแรก[73] ถัดมาในวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 2023 เขาคว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ หลังจากทำแฮตทริกเป็นครั้งที่เจ็ดให้กับซิตี และทำอีกหนึ่งแอสซิสต์ให้เกมที่พบฟูลัมวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 2023 โฮลันสร้างสถิติใหม่ด้วยการเป็นผู้เล่นที่มีส่วนกับประตูของทีมจำนวน 50 ประตู (นับรวมการทำประตูและแอสซิสต์) ด้วยการลงสนามเพียง 39 นัด ทำสถิติเหนือกว่าแอนดรูว์ โคลถึงสี่นัด[74] โฮลันทำไปถึงสิบประตูจากการลงสนาม 11 นัดในลีก รวมถึงการทำสองประตูในนัดที่ซิตีบุกไปชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วยผลประตู 3–0 วันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2023
ในวันที่ 30 ตุลาคม ค.ศ. 2023 ในงานประกาศรางวัลบาลงดอร์ 2023 โฮลันได้รับถ้วยรางวัลแกร์ท มึลเลอร์[75] ต่อมาในวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 2023 โฮลันกลายเป็นผู้เล่นที่ทำครบ 50 ประตูในพรีเมียร์ลีกได้เร็วที่สุด จากการทำประตูในนัดที่ซิตีเปิดบ้านเสมอลิเวอร์พูล 1–1 โดยโฮลันลงสนามในลีกไปเพียง 48 นัด ทำลายสถิติเดิมของแอนดรูว์ โคล ที่ลงเล่นไป 65 นัด[76] โฮลันได้รับบาดเจ็บบริเวณกระดูกข้อเท้า และต้องพักการลงสนามเป็นเวลาเกือบสองเดือน ทำให้เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในการคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2023 ก่อนจะกลับมาลงสนามในช่วงปลายเดือนมกราคม ค.ศ. 2024[77] ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024 โฮลันทำประตูให้ทีมเปิดบ้านชนะเบรนต์ฟอร์ด 1–0 ส่งผลให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนที่สองในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ที่ยิงประตูครบทุกสโมสรที่เขาเคยลงแข่งขันด้วย[78] สัปดาห์ต่อมา โฮลันทำคนเดียวห้าประตูช่วยให้ทีมบุกไปชนะลูตันทาวน์ 6–2 ในเอฟเอคัพรอบที่ 5 ทำสถิติเป็นผู้เล่นคนแรกที่ทำห้าประตูในหนึ่งนัดให้แก่สโมสรได้ถึงสองครั้ง[79] และกลายเป็นผู้เล่นคนที่สามของแมนเชสเตอร์ซิตีทำที่ห้าประตูในเอฟเอฟคัพ ต่อจาก แฟรงค์ โรเบิร์ต ใน ค.ศ. 1926 และ บ็อบบี มาร์แชลล์ ใน ค.ศ. 1930 และถือเป็นผู้เล่นคนแรกนับตั้งแต่จอร์จ เบสต์ ใน ค.ศ. 1970 ที่ทำห้าประตูในการแข่งขันเอฟเอคัพ
ในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 โฮลันทำสี่ประตูช่วยให้สโมสรเปิดบ้านเอาชนะวุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ด้วยผลประตู 5–1 โดยเป็นการทำแฮตทริกครั้งที่สองในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ และเป็นครั้งแรกของปี 2024[80] ต่อมา เขาทำสองประตูสำคัญให้ทีมบุกไปชนะสเปอร์ด้วยผลประตู 2–0 ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 ช่วยให้ซิตีกลับขึ้นไปเป็นทีมนำในตารางโดยเหลือการแข่งขันอีกหนึ่งนัด และเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกร่วมกับสโมสรเป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกันในอีกห้าวันถัดมา[81] เขายังมีส่วนร่วมในเอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ 2024 ซึ่งซิตีพบกับยูไนเต็ดเป็นปีที่สองติดต่อกัน ก่อนที่ซิตีจะแพ้ด้วยผลประตู 1–2 ผลงานโดยรวมในฤดูกาลนี้ของโฮลันคือการทำ 27 ประตูในลีก และ 38 ประตูรวมทุกรายการ
โฮลันคว้าแชมป์เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 2024 ร่วมกับสโมสรภายหลังเสมอกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วยผลประตู 1–1 และเขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิงจุดโทษเข้า โฮลันลงสนามให้แมนเชสเตอร์ซิตีครบ 100 นัดในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 2024 และทำได้หนึ่งประตูช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะเชลซีด้วยผลประตู 2–0 ในสัปดาห์ต่อมา เขาทำแฮตทริกครั้งแรกของฤดูกาลในนัดที่ซิตีเปิดบ้านเอาชนะทีมน้องใหม่อย่างอิปสวิชทาวน์ด้วยผลประตู 4–1 ซึ่งถือเป็นแฮตทริกครั้งที่เจ็ดในพรีเมียร์ลีก[82] ตามด้วยการทำแฮตทริกได้อีกครั้งในสัปดาห์ต่อมา ในนัดที่ซิตีบุกไปชนะเวสต์แฮมด้วยผลประตู 3–1 ส่งผลให้แมนเชสเตอร์ซิตีแซงหน้าลิเวอร์พูลในการเป็นสโมสรที่ทำแฮตทริกได้มากที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก[83] นอกจากนี้ การทำถึงเจ็ดประตูจากการลงเล่นเพียงสามนัดแรก ส่งผลให้โฮลันแซงหน้าเอดิน เจกอ ในการทำประตูมากที่สุดจากการลงเล่นสามนัดแรกในพรีเมียร์ลีก และเขากลายเป็นผู้เล่นคนแรกนับตั้งแต่พอล จีเวลล์ของแบรดฟอร์ดซิตีใน ค.ศ. 1994 ที่ทำแฮตทริกได้ถึงสองครั้งจากการลงแข่งขันในสามนัดแรกของพรีเมียร์ลีก
แม้ว่าจะสามารถเลือกเล่นให้กับอังกฤษ แต่โฮลันเลือกเล่นให้กับนอร์เวย์และเป็นตัวแทนของทีมชาตินอร์เวย์ในหลายรุ่นอายุ ตอนที่เล่นให้กับทีมชาตินอร์เวย์รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี[84] เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 2018 เขาทำแฮตทริกช่วยให้ทีมเอาชนะสกอตแลนด์ 5–4 ทำให้นอร์เวย์ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี 2018[85] ต่อมาในรอบสุดท้าย วันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 โฮลันทำประตูให้กับทีมชาตินอร์เวย์รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีในนัดที่เสมอกับอิตาลี 1–1[86]
วันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 โฮลันทำ 9 ประตูช่วยให้นอร์เวย์เอาชนะฮอนดูรัส 12–0 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี 2019 ที่ลูบลินในโปแลนด์[87][88] ทำให้เป็นชัยชนะที่ขาดลอยที่สุดของทีมชาตินอร์เวย์รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี และเป็นความพ่ายแพ้ขาดลอยที่สุดของทีมชาติฮอนดูรัสรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี นอกจากนี้ เขายังทำสถิติทำประตูมากที่สุดต่อหนึ่งนัดในฟุตบอลโลกเยาวชน[89] และนัดนี้ก็เป็นนัดที่มีทีมชนะขาดลอยมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกเยาวชน[90] อย่างไรก็ตาม นอร์เวย์ตกรอบแบ่งกลุ่มและโฮลันไม่ได้ทำประตูในนัดที่เหลือ แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เขาได้รับรางวัลรองเท้าทองคำ[91]
หลังจากที่ทำผลงานอันยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี 2019 ประกอบด้วยกับผลงานที่ดีกับเร็ดบุลซัลทซ์บวร์คที่เขาทำ 6 ประตูจากการลงเล่นในลีก 4 วันแรก ทำให้ในวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 2019 โฮลันจึงถูก Lars Lagerbäck เรียกติดทีมชาตินอร์เวย์ชุดใหญ่ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบคัดเลือก นัดที่จะพบกับมอลตาและสวีเดน เขาลงเล่นนัดแรกให้กับทีมชาติชุดใหญ่เมื่อวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 2019 ในนัดที่พบกับมอลตา[8] วันที่ 4 กันยายน ค.ศ. 2020 โฮลันทำประตูแรกในนามทีมชาติในนัดที่แพ้ออสเตรีย 1–2 ในยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 ลีกบี[92] ต่อมาในวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 2020 เขาทำสองประตูในนัดที่พบกับนอร์เทิร์นไอร์แลนด์[93]
โฮลันได้รับการยอมรับในด้านการวิ่งและก้าวที่ทรงพลัง ความเป็นนักกีฬา ความแข็งแรง และการจ่ายลูกบอลที่แม่นยำ การวิ่งของโฮลันในแนวรับฝั่งตรงข้ามทำให้เขาอยู่ในตำแหน่งที่ดีต่อการทำประตู[94] โฮลันมีความเร็วจนเป็นที่ยอมรับว่าผู้เล่นทีมคู่แข่งมัวแต่สนใจลูกบอลจนเขาได้โอกาสสอดแทรกในช่องว่างระหว่างแนวรับคู่แข่งเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับเพื่อนร่วมกัมของเขา[94] ในช่วงอาชีพเพียงระยะสั้น ๆ โฮลันกลายเป็นผู้เล่นที่ถนัดการทำประตู โดยเขาสามารถทำประตูได้ผ่านการยิงไกลอันทรงพลัง การยิงในตำแหน่งที่ดี การดวลตัวต่อตัวกับผู้รักษาประตู และการโหม่ง[94]
ในฐานะผู้เล่นที่เล่นกันเป็นทีม โฮลันเป็นผู้ที่อ่านเกมได้อย่างมีสัญชาตญาณและรวดเร็ว จนกระทั่งว่าความเร็วในการกระโจนทำให้เขามีกรอบผู้เล่นที่กว้าง เขาสามารถเอาชนะการครอบครองบอลหรือจ่ายบอลยาวย้อนหลังให้กับเพื่อนร่วมทีมได้[94] ช่วงที่เล่นให้กับดอร์ทมุนท์ การเล่นเชิงกลยุทธ์ของเขาช่วยให้เพื่อนร่วมทีมอย่างเจดอน แซนโช, อัชร็อฟ ฮะกีมี และตอร์กาน อาซาร์ มีพื้นที่สำหรับทำประตูหรือแอสซิสต์ได้[94] เมื่อโฮลันกำลังจะเชื่อมเกม เขาจะอยู่ในตำแหน่งอ้างอิงและใช้ความแข็งแกร่งป้องกันบอลจากคู่แข่งได้[95]
โฮลันสามารถวิ่งผ่านและหลอกกองหลังฝั่งตรงข้าม ขณะเดียวกันก็เปลี่ยนทิศทางการวิ่งไปด้วย[94] นอกจากนี้ เขายังเรียกฟาล์วได้กลายครั้ง[94] ความแม่นยำในการวิ่งทำให้เขากระโจนไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้ และการเคลื่อนไหวที่เฉียบคมอย่างการวิ่งซิกแซ็กและการเคลื่อนที่สองจังหวะ ทำให้เขาเคลื่อนที่ได้อย่างลื่นไหล[94] สิ่งนี้เป็นผลดีเมื่อเขาอยู่ในกรอบเขตโทษและมีโอกาสในการทำประตูหรือโจมตีกองหลังหรือตัดบอลเข้าใน [96]
โฮลันเป็นบุตรของ Alf-Inge Håland อดีตนักฟุตบอลของนอตทิงแฮมฟอเรสต์ ลีดส์ยูไนเต็ด และแมนเชสเตอร์ซิตี และ Gry Marita Braut อดีตนักสัตตกรีฑาหญิง[97] เขาเกิดที่ลีดส์และสนับสนุนลีดส์ยูไนเต็ด ในบทความสัมภาษณ์ของหนังสือพิมพ์นอร์เวย์ Aftenposten เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2017 โฮลันกล่าวว่าอยากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับลีดส์[98]
โฮลันกล่าวถึงคริสเตียโน โรนัลโด, มิชู, เจมี วาร์ดี และโรบิน ฟัน แปร์ซีเป็นแรงบันดาลใจ และยกให้เฟอร์จิล ฟัน ไดก์กับเซร์ฆิโอ ราโมสเป็นสองกองหลังที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเผชิญหน้าในสนาม[99][100]
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ถ้วยหลัก[lower-alpha 1] | ถ้วยรอง[lower-alpha 2] | ยุโรป | อื่น ๆ | ทั้งหมด | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ระดับ | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
บรีเนอ 2 | 2015[101] | 3. divisjon | 3 | 2 | — | — | — | — | 3 | 2 | ||||
2016[101] | 11 | 16 | — | — | — | — | 11 | 16 | ||||||
รวม | 14 | 18 | — | — | — | — | 14 | 18 | ||||||
บรีเนอ | 2016[101] | 1. divisjon | 16 | 0 | 0 | 0 | — | — | — | 16 | 0 | |||
ม็อลเดอ 2 | 2017[101] | 3. divisjon | 4 | 2 | — | — | — | — | 4 | 2 | ||||
ม็อลเดอ | 2017[101] | เอลีเตอเซเรียน | 14 | 2 | 6 | 2 | — | — | — | 20 | 4 | |||
2018[101] | 25 | 12 | 0 | 0 | — | 5[lower-alpha 3] | 4 | — | 30 | 16 | ||||
รวม | 39 | 14 | 6 | 2 | — | 5 | 4 | — | 50 | 20 | ||||
เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค | 2018–19[102] | ออสเตรียนบุนเดิสลีกา | 2 | 1 | 2 | 0 | — | 1[lower-alpha 3] | 0 | — | 5 | 1 | ||
2019–20[102] | 14 | 16 | 2 | 4 | — | 6[lower-alpha 4] | 8 | — | 22 | 28 | ||||
รวม | 16 | 17 | 4 | 4 | — | 7 | 8 | — | 27 | 29 | ||||
โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ | 2019–20[102] | บุนเดิสลีกา | 15 | 13 | 1 | 1 | — | 2[lower-alpha 4] | 2 | — | 18 | 16 | ||
2020–21[102] | 28 | 27 | 4 | 3 | — | 8[lower-alpha 4] | 10 | 1[lower-alpha 5] | 1 | 41 | 41 | |||
2021–22[102] | 24 | 22 | 2 | 4 | — | 3[lower-alpha 4] | 3 | 1[lower-alpha 5] | 0 | 30 | 29 | |||
รวม | 67 | 62 | 7 | 8 | — | 13 | 15 | 2 | 1 | 89 | 86 | |||
แมนเชสเตอร์ซิตี | 2022–23[103] | พรีเมียร์ลีก | 35 | 36 | 4 | 3 | 2 | 1 | 11[lower-alpha 4] | 12 | 1[lower-alpha 6] | 0 | 53 | 52 |
2023–24[104] | 31 | 27 | 3 | 5 | 0 | 0 | 9[lower-alpha 4] | 6 | 2[lower-alpha 7] | 0 | 45 | 38 | ||
2024–25[105] | 3 | 7 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 1[lower-alpha 6] | 0 | 4 | 7 | ||
รวม | 69 | 70 | 7 | 8 | 2 | 1 | 20 | 18 | 4 | 0 | 102 | 97 | ||
รวมทั้งหมด | 225 | 183 | 24 | 22 | 2 | 1 | 45 | 45 | 6 | 1 | 302 | 252 |
ทีมชาติ | ปี | ลงเล่น | ประตู |
---|---|---|---|
นอร์เวย์ | 2019 | 2 | 0 |
2020 | 5 | 6 | |
2021 | 8 | 6 | |
2022 | 8 | 9 | |
2023 | 6 | 6 | |
2024 | 4 | 4 | |
รวมทั้งหมด | 33 | 31 |
ลำดับ | วันที่ | สนาม | คู่แข่ง | ประตู | ผล | รายการแข่งขัน | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | 4 กันยายน ค.ศ. 2020 | Ullevaal Stadion, ออสโล, ประเทศนอร์เวย์ | ออสเตรีย | 1–2 | 1–2 | ยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 ลีกบี | [107] |
2 | 7 กันยายน ค.ศ. 2020 | วินด์เซอร์พาร์ก เบลฟาสต์ ไอร์แลนด์เหนือ | ไอร์แลนด์เหนือ | 2–1 | 5–1 | ยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 ลีกบี | [108] |
3 | 5–1 | ||||||
4 | 11 ตุลาคม ค.ศ. 2020 | Ullevaal Stadion, ออสโล, ประเทศนอร์เวย์ | โรมาเนีย | 1–0 | 4–0 | ยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 ลีกบี | [109] |
5 | 3–0 | ||||||
6 | 4–0 | ||||||
7 | 2 มิถุนายน ค.ศ. 2021 | สนามกีฬาลาโรซาเลดา, มาลากา, ประเทศสเปน | ลักเซมเบิร์ก | 1–0 | 1–0 | กระชับมิตร | [110] |
8 | 1 กันยายน ค.ศ. 2021 | Ullevaal Stadion, ออสโล, ประเทศนอร์เวย์ | เนเธอร์แลนด์ | 1–0 | 1–1 | ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก | [111] |
9 | 4 กันยายน ค.ศ. 2021 | สนามกีฬาเดากาวา, รีกา, ประเทศลัตเวีย | ลัตเวีย | 1–0 | 2–0 | ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก | [112] |
10 | 7 กันยายน ค.ศ. 2021 | Ullevaal Stadion, ออสโล, ประเทศนอร์เวย์ | ยิบรอลตาร์ | 2–0 | 5–1 | ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก | [113] |
11 | 3–0 | ||||||
12 | 5–1 | ||||||
13 | 25 มีนาคม ค.ศ. 2022 | Ullevaal Stadion, ออสโล, ประเทศนอร์เวย์ | สโลวาเกีย | 1–0 | 2–0 | กระชับมิตร | [114] |
14 | 29 มีนาคม ค.ศ. 2022 | Ullevaal Stadion, ออสโล, ประเทศนอร์เวย์ | อาร์มีเนีย | 1–0 | 9–0 | กระชับมิตร | [115] |
15 | 5–0 |
นอร์เวย์ อายุไม่เกิน 17 ปี
รางวัลส่วนตัว
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.