Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มุฮัมมัด เศาะลาห์ ฮามิด มะห์รูส ฆอลี (อาหรับ: محمد صلاح حامد محروس غالي; อังกฤษ: Mohammed Salah Ghaly; เกิดวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1992) เป็นนักฟุตบอลชาวอียิปต์ ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองหน้าและปีกขวาให้แก่ลิเวอร์พูลและทีมชาติอียิปต์ เขาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก[6][7] ด้วยความสามารถในการจบสกอร์ การเลี้ยงบอล และความเร็ว
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | มุฮัมมัด เศาะลาห์ ฮามิด มะห์รูส ฆอลี[1] | ||
วันเกิด | [2] | 15 มิถุนายน ค.ศ. 1992||
สถานที่เกิด | นัจญ์รีจญ์ บัสยูน ประเทศอียิปต์[3] | ||
ส่วนสูง | 1.75 m (5 ft 9 in)[4] | ||
ตำแหน่ง | กองหน้า ปีกขวา | ||
ข้อมูลสโมสร | |||
สโมสรปัจจุบัน | ลิเวอร์พูล | ||
หมายเลข | 11 | ||
สโมสรเยาวชน | |||
2004–2005 | Ittihad Basyoun[5] | ||
2005–2006 | Othmason Tanta[5] | ||
2006–2010 | อัลมุกาวลูน | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
2010–2012 | อัลมุกาวลูน | 38 | (11) |
2012–2014 | บาเซิล | 47 | (9) |
2014–2016 | เชลซี | 13 | (2) |
2015 | → ฟีออเรนตีนา (ยืมตัว) | 16 | (6) |
2015–2016 | → โรมา (ยืมตัว) | 34 | (14) |
2016–2017 | โรมา | 31 | (15) |
2017– | ลิเวอร์พูล | 239 | (152) |
ทีมชาติ‡ | |||
2010–2011 | อียิปต์ อายุไม่เกิน 20 ปี | 11 | (3) |
2011–2012 | อียิปต์ อายุไม่เกิน 23 ปี | 11 | (4) |
2011– | อียิปต์ | 95 | (55) |
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024 ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 19 พฤศจิกายน ค.ศ. 2023 |
เศาะลาห์เริ่มต้นอาชีพกับสโมสร Al Mokawloon ในอียิปต์ ก่อนที่จะย้ายไปบาเซิลในสวิสเซอร์แลนด์แบบไม่เปิดเผยค่าตัว ผลงานอันโดดเด่นในการเล่นที่สวิตเซอร์แลนด์ ทำให้เขาได้รับความสนใจจากเชลซีในพรีเมียร์ลีกและได้ย้ายไปที่นั่นในปี 2014 ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลแรกที่เชลซี เขาแทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามและถูกปล่อยยืมตัวให้แก่ฟีออเรนตีนาและโรมาในเซเรียอา ซึ่งเขาได้ย้ายไปโรมาแบบถาวรด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร เขามีส่วนช่วยให้โรมาจบอันดับที่สองและเก็บคะแนนในลีกได้มากที่สุดเป็นสถิติของสโมสรในปี 2017 เศาะลาห์กลับไปเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งด้วยการย้ายไปลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 36.9 ล้านปอนด์
ในช่วงที่เล่นในอังกฤษเป็นหนที่สอง เศาะลาห์ปรับการเล่นจากปีกธรรมชาติไปเป็นกองหน้า ทำให้เขายิงได้ถึง 32 ประตูจากการลงเล่นในลีก 36 นัดในฤดูกาลแรกของเขากับลิเวอร์พูล เขาได้รับรางวัลรองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีกและทำสถิติยิงประตูในพรีเมียร์ลีกหนึ่งฤดูกาลมากที่สุด ผลงานของเศาะลาห์ทำให้เขาได้รับรางวัลส่วนตัวต่าง ๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ เขายังได้อันดับที่สามของนักฟุตบอลชายที่ดีที่สุดของฟีฟ่าในปี 2018 ฤดูกาลถัดมา เขาเป็นผู้ทำประตูสูงสุดร่วมในพรีเมียร์ลีกและมีส่วนช่วยให้ลิเวอร์พูลชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 ซึ่งเขาทำประตูในนัดชิงชนะเลิศด้วย ในฤดูกาลที่สามของเขากับสโมสร เขามีส่วนช่วยให้ทีมชนะเลิศพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นับเป็นแชมป์ลีกสมัยแรกของสโมสรในรอบ 30 ปี
ในระดับทีมชาติ เศาะลาห์เคยเล่นให้แก่ทีมชาติอียิปต์ชุดเยาวชนก่อนที่จะได้ลงเล่นให้แก่ทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2011 เขาได้รับรางวัลนักฟุตบอลแอฟริกาพรสวรรค์แห่งปีจากการทำผลงานในโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 เขามีส่วนช่วยให้อียิปต์เข้าชิงชนะเลิศแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ 2017 และเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนแอฟริกา เศาะลาห์ได้รับรางวัลนักฟุตบอลแอฟริกันยอดเยี่ยมแห่งปี (2017 และ 2018), นักฟุตบอลแอฟริกันแห่งปีของบีบีซี (2017 และ 2018) และติดทีมยอดเยี่ยมในแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ 2017 และติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของแอฟริกาอีกหลายครั้ง
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ในวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ได้ตกลงย้ายไปร่วมทีมลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 36.9 ล้านปอนด์ ทำลายสถิติการซื้อตัวของสโมสรที่เคยจ่ายให้กับ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ในการคว้าตัว แอนดี แคร์โรล กองหน้าร่างยักษ์ในราคา 35 ล้านปอนด์ (ราว 1,479 ล้านบาท) เมื่อปี 2011 เซ็นสัญญากับทีมเป็นเวลา 5 ปี และรับค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 90,000 ปอนด์ (ประมาณ 4.05 ล้านบาท)[8] เขาได้รับมอบหมายให้สวมเสื้อหมายเลข 11 จาก โรแบร์ตู ฟีร์มีนู ที่เปลี่ยนไปเป็นหมายเลข 9[9] เขาจะเป็นนักเตะลิเวอร์พูลอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 เมื่อเปิดการซื้อขายนักเตะช่วงฤดูร้อน เขากลายเป็นผู้เล่นอียิปต์คนแรกของลิเวอร์พูล[10] ต่อมา ในวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ประเดิมสนามให้ลิเวอร์พูลและทำประตูแรกในช่วงปรีซีซั่น ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ วีแกนแอธเลติก ที่ดีดับเบิลยูสเตเดียม 1-1[11] ต่อมา ในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2017 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2017–18 เศาะลาห์ประเดิมสนามให้ลิเวอร์พูลนัดแรกเป็นทางการและทำประตูแรกในสีเสื้อของลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ วอตฟอร์ด ที่วิคาริจโรด 3-3[12] ต่อมา ในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบเพลย์ออฟ นัดที่ 2 เศาะลาห์ทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฮ็อฟเฟินไฮม์ จากเยอรมัน 4-2 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฮ็อฟเฟินไฮม์ 6-3 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[13] ต่อมา ในวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 4-0[14] ต่อมา ในวันที่ 13 กันยายน ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E เศาะลาห์ทำประตูที่ 2 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ เซบิยา จากสเปน 2-2[15] ต่อมา ในวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ เบิร์นลีย์ 1-1[16] ต่อมา ในวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี ที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม 3-2[17]
ในวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ มารีบอร์ จากสโลวีเนีย 7-0[18] ทำให้ ลิเวอร์พูลสร้างสถิติใหม่ด้วยการเป็นทีมจากอังกฤษที่เอาชนะนอกบ้านในเกมยุโรปด้วยสกอร์ที่มากที่สุด[19] ต่อมา ในวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ 1-4[20] ต่อมา ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E เศาะลาห์ทำประตูที่ 5 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ มารีบอร์ จากสโลวีเนีย 3-0[21] ต่อมา ในวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด ที่ลอนดอนสเตเดียม 4-1[22] ต่อมา ในวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เซาแทมป์ตัน 3-0[23]
ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับทีมเก่าของเขา เชลซี 1-1[24] ต่อมา ในวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ลงสนามเป็นตัวสำรองและยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ สโตกซิตี ที่บริแทนเนียสเตเดียม 3-0[25] ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ เศาะลาห์ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนพฤศจิกายนของพรีเมียร์ลีก[26] ต่อมา ในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2017 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2017–18 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E นัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล ชนะก็จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม เศาะลาห์ทำประตูที่ 6 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ สปาร์ตัคมอสโก จากรัสเซีย 7-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ[27] ต่อมา ในวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 13 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน คู่ปรับร่วมเมืองเมอร์ซีย์ไซด์ 1-1[28] ต่อมา ในวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 14 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บอร์นมัท ที่วิตาลิตี้ สเตเดียม 4-0[29] ต่อมา ในวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ทำประตูที่ 15 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 3-3[30] ต่อมา ในวันที่ 30 ธันวาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี 2-1[31]
ในวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 18 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 4-3[32] ต่อมา ในวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2018 เอฟเอคัพ รอบสี่ เศาะลาห์ทำประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์พ่ายแพ้ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน 2-3 ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องตกรอบ เอฟเอคัพ ไปในที่สุด[33] ด้วยประตูนี้ทำให้ เศาะลาห์ยิงไป 25 ประตูจาก 32 นัด ทำให้เขาเป็นนักเตะที่ทำประตูถึง 25 ประตูเร็วที่สุดในรอบ 102 ปี มีเพียง จอร์จ อัลเลน (1895-96) และเฟร็ด แพ็กแนม (1914-15) ที่ทำได้ด้วยจำนวนเกมน้อยกว่าเขาในประวัติศาสตร์ของสโมสร[34] ต่อมา ในวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 19 ในพรีเมียร์ลีกด้วยลูกจุดโทษในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ ที่สนามกีฬาจอห์นสมิท 3-0[35] ต่อมา ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-2[36] ต่อมา ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 22 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 2-0[37] ต่อมา ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เศาะลาห์ทำประตูที่ 7 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู จากโปรตุเกส 5-0 ด้วยประตูนี้ทำให้ เศาะลาห์ยิงไป 30 ประตูจาก 36 นัด ทำให้เขาเป็นนักเตะคนแรกของลิเวอร์พูลที่ยิงได้ 30 ประตูต่อหนึ่งฤดูกาล หลังจาก ลุยส์ ซัวเรซ เคยทำเอาไว้เมื่อฤดูกาล 2013-14 (31 ลูก) และทำให้เขาเป็นนักเตะที่ยิง 30 ประตูได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ 125 ปีของสโมสรเป็นอันดับ 2 มีเพียง จอร์จ อัลเลน (27 เกม) ที่ทำได้ไวกว่าเศาะลาห์ (36 เกม) ตามมาด้วย แดเนียล สเตอร์ริดจ์ (37), เฟร็ด แพ็คแนม (39) และเฟร์นันโด ตอร์เรส (42)[38] ต่อมา ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 23 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-1[39] ต่อมา ในวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 24 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 2-0[40] ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ เศาะลาห์ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนกุมภาพันธ์ของพรีเมียร์ลีก[41] ต่อมา ในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำแฮตทริกครั้งแรกของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล โดย เศาะลาห์ยิง 4 ประตูในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 5-0[42] ต่อมา ในวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 29 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คริสตัลพาเลซ ที่เซลเฮิสต์พาร์ก 2-1[43] ต่อมา ในวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก เศาะลาห์ทำประตูที่ 8 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-0[44] ต่อมา ในวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เศาะลาห์ทำประตูที่ 9 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่เอติฮัดสเตเดียม 2-1 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 5-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[45] เศาะลาห์กลายเป็นนักเตะลิเวอร์พูล ที่ยิงประตูต่อฤดูกาลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรตั้งแต่เข้าสู่ยุคพรีเมียร์ลีก หลังทำไปแล้ว 39 ประตูในทุกรายการ ทุบสถิติของ ร็อบบี ฟาวเลอร์ เคยทำไว้ 36 ลูก เมื่อฤดูกาล 1995–96 ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ เศาะลาห์ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนมีนาคมของพรีเมียร์ลีก และทำให้เขาเป็นนักเตะคนแรกที่คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีกได้ถึงสามครั้งในฤดูกาลเดียวกัน[46] ต่อมา ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 30 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-0[47] ต่อมา ในวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 31 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน ที่เดอะฮอว์ทอนส์ 2-2[48]
ในวันที่ 22 เมษายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์คว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ประจำฤดูกาล 2017-18 ส่งผลให้ เศาะลาห์เป็นนักเตะคนที่ 7 ของลิเวอร์พูล ที่ได้รับรางวัลนี้ถัดจาก ลุยส์ ซัวเรซ (2013-14), สตีเวน เจอร์ราร์ด (2005-06), จอห์น บาร์นส์ (1987-88), เอียน รัช (1983-84), เคนนี ดัลกลิช (1982-83) และเทอร์รี แม็คเดอร์ม็อตต์ (1979-80)[49] รวมทั้ง เศาะลาห์ยังได้ติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเออีกด้วย[50] ต่อมา ในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะทีมเก่าของเขา โรมา 5-2[51] ต่อมา เศาะลาห์คว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวอังกฤษ (เอฟดับเบิ้ลยูเอ) ไปอีกหนึ่งรางวัล[52] ต่อมา ในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์คว้า 2 รางวัลของสโมสรลิเวอร์พูล ได้แก่ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของเพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล และรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี จากการโหวตของแฟนๆ ในงานประกาศรางวัล Players' Awards 2018[53] ต่อมา เศาะลาห์คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาล 2017-18 ต่อมา ในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล 2017–18 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะเพื่อการันตีโควต้าพื้นที่ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เศาะลาห์ทำประตูที่ 32 ในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 4-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล จบอันดับที่ 4 และคว้าโควต้าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลหน้าได้สำเร็จ[54] เศาะลาห์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 32 ประตูจาก 36 นัด ทำให้ เศาะลาห์สร้างสถิติยิงประตูมากที่สุดแซง อลัน เชียเรอร์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลุยส์ ซัวเรซ นับตั้งแต่ที่มีการแข่งแบบ 38 นัดต่อฤดูกาลและคว้ารางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีกไปครอง[55]
ในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2018 ลิเวอร์พูล เจอกับแชมป์เก่า เรอัลมาดริด ที่สนามโอลิมปิสกีเนชันแนลสปอตส์คอมเพล็กซ์ ในเคียฟ ประเทศยูเครน เศาะลาห์ได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่จากการปะทะกับ เซร์ฆิโอ ราโมส ทำให้ เศาะลาห์เล่นต่อไม่ไหวและต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงครึ่งแรก สุดท้าย ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ เรอัลมาดริด 1-3 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก อย่างน่าเสียดาย[56]
ในวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล เป็นเวลา 5 ปี โดยในสัญญาฉบับใหม่ไม่มีการระบุเงื่อนไขการฉีกสัญญาเอาไว้ด้วย[57] ต่อมา ในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 2018 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2018–19 เศาะลาห์ทำประตูแรกในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 4-0[58] ต่อมา ในวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 1-0[59] ต่อมา ในวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เซาแทมป์ตัน 3-0[60] ต่อมา ในวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ ที่สนามกีฬาจอห์นสมิท 1-0[61] ต่อมา ในวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C เศาะลาห์ยิง 2 ประตูในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เรดสตาร์ เบลเกรด จากเซอร์เบีย 4-0[62] ทำให้ เศาะลาห์สร้างสถิติยิงประตูให้ลิเวอร์พูลครบ 50 ประตูรวมทุกรายการเร็วที่สุด ด้วยจำนวน 65 นัด ทุบสถิติของ อัลเบิร์ต สตั๊บบินส์ (77 นัด) ในช่วงปลายทศวรรษ 1940[63] ต่อมา ในวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ซิตี 4-1[64] ต่อมา ในวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฟูลัม 2-0[65] ต่อมา ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วอตฟอร์ด ที่วิคาริจโรด 3-0[66] ต่อมา ในวันที่ 8 ธันวาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำแฮตทริกที่ 2 ของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บอร์นมัท ที่วิตาลิตี้ สเตเดียม 4-0[67] ต่อมา ในวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 2018 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C นัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล ชนะก็จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เศาะลาห์ทำประตูที่ 3 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นาโปลี จากอิตาลิ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฐานะรองแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ[68] ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 11 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วูลฟ์แฮมตันวันเดอเรอส์ ที่สนามกีฬาโมลีนิวส์ 2-0[69] ต่อมา ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 12 ในพรีเมียร์ลีกด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 4-0[70] ต่อมา ในวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 13 ในพรีเมียร์ลีกด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 5-1[71]
ในวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 14 ในพรีเมียร์ลีกด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ที่สนามกีฬาอเมริกันเอ็กซ์เพรสคอมมูนิตี 1-0[72] ต่อมา ในวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 4-3[73] ต่อมา ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 17 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-0[74] ต่อมา ในวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 18 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เซาแทมป์ตัน ที่เซนต์แมรีส์สเตเดียม 3-1[75] ทำให้ เศาะลาห์สร้างสถิติยิงประตูให้กับลิเวอร์พูลครบ 50 ประตู ในพรีเมียร์ลีก จาก 69 นัด เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ต่อมา ในวันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 19 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะทีมเก่าของเขา เชลซี 2-0[76] ต่อมา ในวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เศาะลาห์ทำประตูที่ 4 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู จากโปรตุเกส 4-1 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู 6-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[77] ต่อมา ในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ 5-0[78] ต่อมา ในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 22 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ที่เซนต์เจมส์พาร์ก 3-2[79]
ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ และต้องลุ้นให้ แมนเชสเตอร์ซิตี ไม่ชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ด้วย ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย ลิเวอร์พูล เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 2-0 แต่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 4-1 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างน่าเสียดาย[80] เศาะลาห์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 22 ประตูจาก 38 นัด ทำให้ เศาะลาห์คว้ารางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีกไปครองเป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน ร่วมกับ ซาดีโย มาเน และ ปีแยร์-แอเมอริก โอบาเมอย็องก์ ต่อมา ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2019 ลิเวอร์พูล เจอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่วันดาเมโตรโปลิตาโน ในมาดริด, ประเทศสเปน เศาะลาห์ทำประตูด้วยลูกจุดโทษขึ้นนำ 1-0 สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6 ได้สำเร็จ[81]
ในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 2019 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2019–20 เศาะลาห์ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นอริชซิตี 4-1[82] ต่อมา ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2019 ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 เจอกับ เชลซี แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2018–19 ที่สนามโวดาโฟนพาร์ก, อิสตันบูล ประเทศตุรกี สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 5-4 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ สมัยที่ 4 ได้สำเร็จ[83] ต่อมา ในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 3-1[84] ต่อมา ในวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 3-1[85] ต่อมา ในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E เศาะลาห์ยิง 2 ประตูในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค จากออสเตรีย 4-3[86] ต่อมา ในวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม E เศาะลาห์ทำประตูที่ 3 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เคงก์ จากเบลเยียม 4-1[87] ต่อมา ในวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีกด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-1[88] ต่อมา ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-1[89] ต่อมา ในวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บอร์นมัท ที่วิตาลิตี้ สเตเดียม 3-0[90] ต่อมา ในวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E นัดสุดท้าย ลิเวอร์พูล ชนะก็จะเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย เศาะลาห์ทำประตูที่ 4 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค จากออสเตรีย 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ[91] ต่อมา ในวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 2019 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วอตฟอร์ด 2-0[92] ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ ฟลาเม็งกู ตัวแทน คอนเมบอล ในฐานะแชมป์เก่าของ โกปาลิเบร์ตาโดเรส ที่สนามกีฬาแห่งชาติคาลิฟา ในโดฮา, ประเทศกาตาร์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟลาเม็งกู ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก สมัยแรกได้สำเร็จ[93] จากนั้น เศาะลาห์ได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยม The Golden Ball ประจำทัวร์นาเม้นต์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019
ในวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด 2-0[94] ต่อมา ในวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 11 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะคู่ปรับตลอดกาล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 2-0[95] ต่อมา ในวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 12 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด ที่ลอนดอนสเตเดียม 2-0[96] ต่อมา ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เซาแทมป์ตัน 4-0[97] ต่อมา ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 15 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 3-2[98] ต่อมา ในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ลงสนามนัดที่ 100 ในพรีเมียร์ลีก และทำประตูที่ 16 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 2-1[99]
ในวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 17 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 4-0[100] ต่อมา ในวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ที่สนามกีฬาอเมริกันเอ็กซ์เพรสคอมมูนิตี 3-1[101] จบฤดูกาล เศาะลาห์ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จ[102]
ในวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 2020 พรีเมียร์ลีก นัดเปิดฤดูกาล 2020–21 เศาะลาห์ทำแฮตทริกที่ 3 ของเขาให้กับ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020–21 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ลีดส์ยูไนเต็ด 4-3[103] ทำให้ เศาะลาห์เป็นนักเตะคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำประตูได้ในนัดเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 4 ซีซั่นติดต่อกันในฤดูกาล 2017–18 ถึง 2020–21 ต่อจาก เท็ดดี้ เชอร์ริงแฮม ที่ทำไว้ในฤดูกาล 1992–93 ถึง 1995–96 นอกจากนี้ เศาะลาห์เป็นนักเตะลิเวอร์พูลคนแรกที่สามารถทำแฮตทริกได้ในนัดเปิดฤดูกาลนับตั้งแต่ จอห์น อัลดริดจ์ ทำเอาไว้นัดเจอกับ ชาร์ลตันแอธเลติก เมื่อฤดูกาล 1988–89 ต่อมา ในวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ แอสตันวิลลา ที่วิลลาพาร์ก 2-7 ต่อมา ในวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 100 ให้กับ ลิเวอร์พูล ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสันพาร์ก 2-2 ต่อมา ในวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 2020 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม D เศาะลาห์ทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 ด้วยลูกจุดโทษ นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ มิดทิลลันด์ จากเดนมาร์ก 2-0[104] ต่อมา ในวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 2-1[105] ต่อมา ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 2020 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 รอบแบ่งกลุ่ม D เศาะลาห์ทำประตูที่ 2 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาตาลันตา จากอิตาลิ ที่สตาดีโออัตเลตีอัซซูร์รีดีตาเลีย 5-0[106] ต่อมา ในวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่เอติฮัดสเตเดียม 1-1 ต่อมา ในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 4-0[107] ต่อมา ในวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 2020 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2020–21 รอบแบ่งกลุ่ม D เศาะลาห์ทำประตูที่ 3 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ มิดทิลลันด์ จากเดนมาร์ก 1-1[108] ต่อมา ในวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 10 ในพรีเมียร์ลีก ด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ ฟูลัม ที่เครเวนคอตทิจ 1-1 ต่อมา ในวันที่ 16 ธันวาคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ทำประตูที่ 11 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-1[109] ต่อมา ในวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2020 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คริสตัลพาเลซ ที่เซลเฮิสต์พาร์ก 7-0[110]
ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2021 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด ที่ลอนดอนสเตเดียม 3-1[111] ต่อมา ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เศาะลาห์ทำประตูที่ 4 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอร์เบ ไลพ์ซิช ที่ปุชกาชออเรนอ 2-0[112] ต่อมา ในวันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 2021 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เศาะลาห์ทำประตูที่ 5 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอร์เบ ไลพ์ซิช ที่ปุชกาชออเรนอ 2-0 รวมผลสองนัด ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอร์เบ ไลพ์ซิช 4-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[113] ต่อมา ในวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 2021 เศาะลาห์ทำประตูที่ 18 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 3-0[114] ต่อมา ในวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 2021 เศาะลาห์ทำประตูที่ 19 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แอสตันวิลลา 2-1[115] ต่อมา ในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2021 เศาะลาห์ทำประตูที่ 20 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 1-1 ต่อมา ในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2021 เศาะลาห์ลงสนามนัดที่ 200 ให้กับ ลิเวอร์พูล และทำประตูที่ 21 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด 4-2[116] ต่อมา ในวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2021 เศาะลาห์ทำประตูที่ 22 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เวสต์บรอมมิชอัลเบียน ที่เดอะฮอว์ทอนส์ 2-1[117]
ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2021 เศาะลาห์ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021–22 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นอริชซิตี ที่แคร์โรว์โรด 3-0 ทำให้ เศาะลาห์เป็นนักเตะคนแรกในพรีเมียร์ลีกที่ยิงในนัดเปิดฤดูกาลได้ 5 ฤดูกาลติดต่อกัน[118] ต่อมา วันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 2021 เศาะลาห์ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เชลซี 1-1 ต่อมา ในวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 2021 เศาะลาห์ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ลีดส์ยูไนเต็ด ที่เอลแลนด์โรด 3-0 และเป็นประตูที่ 100 ของเขาในพรีเมียร์ลีกอีกด้วย[119] ต่อมา ในวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 2021 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2021–22 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม B เศาะลาห์ทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2021–22 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เอซี มิลาน จากอิตาลี 3-2[120] ต่อมา ในวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 2021 เศาะลาห์ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 3-0[121] ต่อมา ในวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 2021 เศาะลาห์ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ เบรนต์ฟอร์ด ที่เบรนต์ฟอร์ดคอมมิวนิตีสเตเดียม 3-3 และเป็นประตูที่ 100 ของเขายิงให้สโมสรในพรีเมียร์ลีกเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย ต่อมา ในวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 2021 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2021–22 รอบแบ่งกลุ่ม B เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ โปร์ตู จากโปรตุเกส 5-1[122] ต่อมา ในวันที่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 2021 เศาะลาห์ทำประตูที่ 6 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี 2-2 ต่อมา ในวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 2021 เศาะลาห์ทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วอตฟอร์ด ที่วิคาริจโรด 5-0[123]ต่อมาเศาะลาห์ทำ2ประตูในเกมพบแอตเลติโก มาดริด เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ.2564 ต่อมา ในวันที่ 19 ตุลาคม ค.ศ. 2021 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2021–22 รอบแบ่งกลุ่ม B เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อัตเลติโกเดมาดริด จากสเปน 3-2[124]
ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 อีเอฟแอลคัพ 2022 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ เชลซี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 11-10 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์อีเอฟแอลคัพ สมัยที่ 9 ได้สำเร็จ[125]
ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ 2022 ลิเวอร์พูล เจอกับ เชลซี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 6-5 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์เอฟเอคัพ สมัยที่ 8 ได้สำเร็จ[126] ต่อมา ในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ และต้องลุ้นให้ แมนเชสเตอร์ซิตี ไม่ชนะ แอสตันวิลลา ด้วย ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย เศาะลาห์ยิงประตูให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 3-1 แต่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ แอสตันวิลลา 3-2 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างน่าเสียดาย[127] เศาะลาห์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 23 ประตูจาก 35 นัด ทำให้ เศาะลาห์คว้ารางวัลรองเท้าทองคำของพรีเมียร์ลีกไปครองเป็นสมัยที่ 3 รวมทั้ง เศาะลาห์ยังทำไป 13 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้ ทำให้เขาคว้ารางวัลเพลย์เมกเกอร์ของพรีเมียร์ลีกไปครองอีกหนึ่งรางวัล[128]
ในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2022 เศาะลาห์ตัดสินใจต่อสัญญา 3 ปี กับสโมสรลิเวอร์พูล จนถึงปี ค.ศ. 2025 พร้อมค่าเหนื่อย 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์[129] [130]
ในวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 2022 เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 2022 ลิเวอร์พูล เจอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม เศาะลาห์ทำประตูด้วยลูกจุดโทษ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์คอมมิวนิตีชีลด์ สมัยที่ 16 ได้สำเร็จ[131] ต่อมา ในวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 2022 เศาะลาห์ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022–23 นัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ ฟูลัม ที่เครเวนคอตทิจ 2-2 ทำให้ เศาะลาห์ทำสถิติยิงในเกมเปิดฤดูกาล 6 ฤดูกาลติดต่อกัน ต่อมา ในวันที่ 12 ตุลาคม ค.ศ. 2022 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2022–23 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม A เศาะลาห์ทำแฮตทริก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เรนเจอส์ จากสกอตแลนด์ 7-1 ทำให้ เศาะลาห์สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นเจ้าของสถิติทำแฮตทริกได้เร็วที่สุดในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เวลา 6 นาที 12 วินาที ทำลายสถิติเดิมของ บาเฟติมบี้ โกมิส ใช้เวลา 8 นาทีทำแฮตทริก ในนัดที่ โอลิมปิกลียง เอาชนะ ดินาโม ซาเกร็บ เมื่อปี 2011 นอกจากนั้น เศาะลาห์ยังเพิ่มจำนวนประตูรวมที่เขาทำกับลิเวอร์พูล ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 38 ประตู กลายเป็นผู้เล่นที่ยิงให้ทีมจากอังกฤษในรายการนี้มากที่สุดแซงหน้า ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ เซร์คิโอ อเกวโร่ ทำได้คนละ 36 ประตู[132] ต่อมา ในวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 2022 เศาะลาห์ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 1-0[133] ต่อมา ในวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 2022 เศาะลาห์ทำประตูที่ 6 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ อายักซ์ จากเนเธอร์แลนด์ 3-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ[134] ต่อมา ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ค.ศ. 2022 เศาะลาห์ทำประตูที่ 7 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นาโปลี จากอิตาลิ 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม A[135] ต่อมา ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2022 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่สนามกีฬาทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-1[136]
ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2022 เศาะลาห์ทำประตูที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอสตันวิลลา ที่วิลลาพาร์ก 3-1[137] ต่อมา ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2023 เศาะลาห์ทำประตูที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0[138] ต่อมา ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2023 เศาะลาห์ทำประตูที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ วูลฟ์แฮมตันวันเดอเรอส์ 2-0[139] ทำให้ เศาะลาห์ทำสถิติยิงได้อย่างน้อย 20 ประตู ในการแข่งขันทุกรายการ 6 ฤดูกาลติดต่อกัน ต่อมา ในวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 2023 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 7-0[140] ทำให้ เศาะลาห์ทำสถิติใหม่ยิงแซง ร็อบบี ฟาวเลอร์ เป็นดาวยิงสูงสุดของลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีกที่ 129 ประตู รวมทั้งเป็นนักเตะลิเวอร์พูลคนแรกที่ทำประตู แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 5 นัดติดต่อกัน ต่อมา ในวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2023 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ลีดส์ยูไนเต็ด ที่เอลแลนด์โรด 6-1 ทำให้ เศาะลาห์ทำสถิติใหม่ยิงแซง ร็อบบี ฟาวเลอร์ เป็นนักเตะที่ยิงประตูด้วยเท้าซ้ายมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกที่ 107 ประตู[141] ต่อมา ในวันที่ 22 เมษายน ค.ศ. 2023 เศาะลาห์ทำประตูที่ 16 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นอตทิงแฮมฟอเรสต์ 3-2[142] ต่อมา ในวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2023 เศาะลาห์ทำประตูที่ 17 ในพรีเมียร์ลีก ด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 4-3[143] ต่อมา ในวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 เศาะลาห์ทำประตูที่ 18 ในพรีเมียร์ลีก ด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ฟูลัม 1-0[144] ต่อมา ในวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 เศาะลาห์ทำประตูที่ 19 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เบรนต์ฟอร์ด 1-0[145]
ในวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 2023 เศาะลาห์ทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023–24 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 3-1[146] ต่อมา ในวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2023 เศาะลาห์ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แอสตันวิลลา 3-0[147] ต่อมา ในวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2023 ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2023–24 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E เศาะลาห์ทำประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ลัสค์ 3-1[148] ต่อมา ในวันที่ 24 กันยายน ค.ศ. 2023 เศาะลาห์ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ด้วยลูกจุดโทษ ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 3-1[149]
ในวันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 2023 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เบรนต์ฟอร์ด 3-0[150] ต่อมา ในวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 2023 ยูฟ่ายูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E เศาะลาห์ทำประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ลัสค์ 4-0[151] ต่อมา ในวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 2023 เศาะลาห์ทำประตูที่ 11 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คริสตัลพาเลซ ที่เซลเฮิสต์พาร์ก 2-1 และเป็นประตูที่ 200 ให้กับสโมสรลิเวอร์พูล อีกด้วย[152] ต่อมา ในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2024 เศาะลาห์ห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 4-2 เป็นนัดส่งท้ายก่อนที่ เศาะลาห์จะต้องไปรับใช้ทีมชาติอียิปต์ตะลุยศึกแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ 2023[153] ต่อมา ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024 เศาะลาห์ทำประตูที่ 15 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เบรนต์ฟอร์ด ที่เบรนต์ฟอร์ดคอมมิวนิตีสเตเดียม 4-1[154]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เศาะลาห์ยิงประตูให้ทีมชาติอียิปต์ 5 ประตูคว้าดาวซัลโวในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนแอฟริกา ในวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 2017 เศาะลาห์ยิง 2 ประตู ในนัดที่ อียิปต์ เอาชนะ คองโก 2-1 ช่วยให้ อียิปต์ ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่รัสเซีย ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1990 ต่อมา ทีมชาติอียิปต์เรียกตัวเศาะลาห์ติดรายชื่อ 23 คน ชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย โดย อียิปต์ ได้อยู่กลุ่มเอ ร่วมกับ อุรุกวัย, รัสเซีย และ ซาอุดีอาระเบีย ต่อมา ในวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ไม่ได้ลงสนาม ในนัดที่ อียิปต์ พ่ายแพ้ อุรุกวัย 0-1 ต่อมา ในวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ลงสนามเป็นตัวจริงในฟุตบอลโลก นัดแรก และทำประตูจากลูกจุดโทษ ในนัดที่ อียิปต์ พ่ายแพ้เจ้าภาพ รัสเซีย 1-3 ทำให้ อียิปต์ ต้องตกรอบแรกไปในที่สุด [155] ต่อมา ในวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2018 เศาะลาห์ทำประตูที่ 2 ในฟุตบอลโลก ในนัดที่ อียิปต์ พ่ายแพ้ ซาอุดีอาระเบีย 1-2 ทำให้ อียิปต์ คว้าอันดับสุดท้ายของกลุ่มเอ แพ้ 3 นัดรวด ตกรอบโดยไม่มีคะแนน [156]
เศาะลาห์กับ Maggi ภรรยาของเขา แต่งงานกันใน ค.ศ. 2013 แล้วให้กำเนิดลูกสาวชื่อ Makka ใน ค.ศ. 2014[157] ซึ่งตั้งชื่อตามมักกะฮ์ นครศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาอิสลาม[158] จากนั้น เขาจึงมีลูกสาวอีกคนชื่อ Kayan ใน ค.ศ. 2020[159] เศาะลาห์เป็นมุสลิมและฉลองการเข้าประตูด้วยการสุญูด[160] เขาพูดเรื่องนี้แก่ซีเอ็นเอ็นว่า "มันเหมือนกันการขอพรหรือขอบคุณพระเจ้าในสิ่งที่ผมทำได้...ผมทำอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กในทุกที่"[161]
ในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีอียิปต์ ค.ศ. 2018 มีบัตรเสียจำนวนมาก (อาจมากกว่าหนึ่งล้านใบ) จากการที่ผู้โหวตขีดฆ่าชื่อผู้สมัครทั้งสองคนและเขียนชื่อเศาะลาห์ลงไปแทน[162][163]
ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2020 เศาะลาห์มีผลการติดเชื้อโควิด-19 เป็นบวก[164]
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | เนชันนอลคัพ[a] | ลีกคัพ[b] | ทวีป | อื่น ๆ | รวม | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
อัลมุกาวลูน | 2009–10 | พรีเมียร์ลีกอียิปต์ | 3 | 0 | 2 | 0 | — | — | — | 5 | 0 | |||
2010–11 | พรีเมียร์ลีกอียิปต์ | 20 | 4 | 4 | 1 | — | — | — | 24 | 5 | ||||
2011–12 | พรีเมียร์ลีกอียิปต์ | 15 | 7 | 0 | 0 | — | — | — | 15 | 7 | ||||
รวม | 38 | 11 | 6 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 44 | 12 | ||
บาเซิล | 2012–13 | สวิสซูเปอร์ลีก | 29 | 5 | 5 | 3 | — | 16[c] | 2 | — | 50 | 10 | ||
2013–14 | สวิสซูเปอร์ลีก | 18 | 4 | 1 | 1 | — | 10[d] | 5 | — | 29 | 10 | |||
รวม | 47 | 9 | 6 | 4 | 0 | 0 | 26 | 7 | 0 | 0 | 79 | 20 | ||
เชลซี | 2013–14 | พรีเมียร์ลีก | 10 | 2 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | — | 11 | 2 | |
2014–15 | พรีเมียร์ลีก | 3 | 0 | 1 | 0 | 2 | 0 | 2[d] | 0 | — | 8 | 0 | ||
รวม | 13 | 2 | 2 | 0 | 2 | 0 | 2 | 0 | 0 | 0 | 19 | 2 | ||
ฟีออเรนตีนา (ยืมตัว) | 2014–15 | เซเรียอา | 16 | 6 | 2 | 2 | — | 8[e] | 1 | — | 26 | 9 | ||
โรมา (ยืมตัว) | 2015–16 | เซเรียอา | 34 | 14 | 1 | 0 | — | 7[d] | 1 | — | 42 | 15 | ||
โรมา | 2016–17 | เซเรียอา | 31 | 15 | 2 | 2 | — | 8[f] | 2 | — | 41 | 19 | ||
รวม | 65 | 29 | 3 | 2 | — | 15 | 3 | — | 83 | 34 | ||||
ลิเวอร์พูล | 2017–18 | พรีเมียร์ลีก | 36 | 32 | 1 | 1 | 0 | 0 | 15[d] | 11 | — | 52 | 44 | |
2018–19 | พรีเมียร์ลีก | 38 | 22 | 1 | 0 | 1 | 0 | 12[d] | 5 | — | 52 | 27 | ||
2019–20 | พรีเมียร์ลีก | 34 | 19 | 2 | 0 | 0 | 0 | 8[d] | 4 | 4[g] | 0 | 48 | 23 | |
2020–21 | พรีเมียร์ลีก | 37 | 22 | 2 | 3 | 1 | 0 | 10[d] | 6 | 1[h] | 0 | 51 | 31 | |
2021–22 | พรีเมียร์ลีก | 35 | 23 | 2 | 0 | 1 | 0 | 13[d] | 8 | — | 51 | 31 | ||
2022–23 | พรีเมียร์ลีก | 38 | 19 | 3 | 1 | 1 | 1 | 8[d] | 8 | 1[h] | 1 | 51 | 30 | |
2023–24 | พรีเมียร์ลีก | 21 | 15 | 0 | 0 | 2 | 1 | 5[e] | 3 | — | 28 | 19 | ||
รวม | 239 | 152 | 11 | 5 | 6 | 2 | 71 | 45 | 6 | 1 | 333 | 205 | ||
รวมทั้งหมด | 418 | 209 | 30 | 14 | 8 | 2 | 122 | 56 | 6 | 1 | 584 | 282 |
ทีมชาติ | ปี | ลงเล่น | ประตู |
---|---|---|---|
อียิปต์ | 2011 | 2 | 1 |
2012 | 15 | 7 | |
2013 | 10 | 9 | |
2014 | 9 | 5 | |
2015 | 4 | 2 | |
2016 | 6 | 5 | |
2017 | 11 | 5 | |
2018 | 6 | 7 | |
2019 | 5 | 2 | |
2020 | 0 | 0 | |
2021 | 7 | 2 | |
2022 | 12 | 4 | |
2023 | 8 | 6 | |
รวม | 95 | 55 |
No. | Date | Venue | Cap | Opponent | Score | Result | Competition | Ref. |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | 8 October 2011 | Cairo International Stadium, Cairo, Egypt | 2 | ไนเจอร์ | 2–0 | 3–0 | 2012 Africa Cup of Nations qualification | [167] |
2 | 27 February 2012 | Thani bin Jassim Stadium, Doha, Qatar | 3 | เคนยา | 1–0 | 5–0 | Friendly | [168] |
3 | 29 March 2012 | Khartoum Stadium, Khartoum, Sudan | 6 | ยูกันดา | 1–1 | 2–1 | [169] | |
4 | 31 March 2012 | Khartoum Stadium, Khartoum, Sudan | 7 | ชาด | 1–0 | 4–0 | [170] | |
5 | 22 May 2012 | Al Merrikh Stadium, Omdurman, Sudan | 10 | โตโก | 2–0 | 3–0 | [171] | |
6 | 3–0 | |||||||
7 | 10 June 2012 | Stade du 28 Septembre, Conakry, Guinea | 12 | กินี | 3–2 | 3–2 | 2014 FIFA World Cup qualification | [172] |
8 | 15 June 2012 | Borg El Arab Stadium, Alexandria, Egypt | 13 | สาธารณรัฐแอฟริกากลาง | 2–1 | 2–3 | 2013 Africa Cup of Nations qualification | [173] |
9 | 6 February 2013 | Vicente Calderón Stadium, Madrid, Spain | 18 | ชิลี | 1–2 | 1–2 | Friendly | [174] |
10 | 9 June 2013 | National Sports Stadium, Harare, Zimbabwe | 20 | ซิมบับเว | 2–1 | 4–2 | 2014 FIFA World Cup qualification | [175] |
11 | 3–1 | |||||||
12 | 4–2 | |||||||
13 | 16 June 2013 | Estádio da Machava, Maputo, Mozambique | 21 | โมซัมบิก | 1–0 | 1–0 | [176] | |
14 | 14 August 2013 | El Gouna Stadium, El Gouna, Egypt | 22 | ยูกันดา | 2–0 | 3–0 | Friendly | [177] |
15 | 10 September 2013 | El Gouna Stadium, El Gouna, Egypt | 23 | กินี | 3–2 | 4–2 | 2014 FIFA World Cup qualification | [178] |
16 | 5 March 2014 | Tivoli-Neu, Innsbruck, Austria | 27 | บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา | 2–0 | 2–0 | Friendly | [179] |
17 | 30 May 2014 | Estadio Nacional Julio Martínez Prádanos, Santiago, Chile | 28 | ชิลี | 1–0 | 2–3 | [180] | |
18 | 10 October 2014 | Botswana National Stadium, Gaborone, Botswana | 32 | บอตสวานา | 2–0 | 2–0 | 2015 Africa Cup of Nations qualification | [181] |
19 | 15 October 2014 | Cairo International Stadium, Cairo, Egypt | 33 | บอตสวานา | 2–0 | 2–0 | [182] | |
20 | 19 November 2014 | Stade Mustapha Ben Jannet, Monastir, Tunisia | 35 | ตูนิเซีย | 1–0 | 1–2 | [183] | |
21 | 14 June 2015 | Borg El Arab Stadium, Alexandria, Egypt | 37 | แทนซาเนีย | 3–0 | 3–0 | 2017 Africa Cup of Nations qualification | [184] |
22 | 6 September 2015 | Stade Omnisports Idriss Mahamat Ouya, N'Djamena, Chad | 38 | ชาด | 3–1 | 5–1 | [185] | |
23 | 25 March 2016 | Ahmadu Bello Stadium, Kaduna, Nigeria | 40 | ไนจีเรีย | 1–1 | 1–1 | [186] | |
24 | 4 June 2016 | National Stadium, Dar es Salaam, Tanzania | 42 | แทนซาเนีย | 1–0 | 2–0 | [187] | |
25 | 2–0 | |||||||
26 | 9 October 2016 | Stade Municipal de Kintélé, Brazzaville, Republic of the Congo | 44 | สาธารณรัฐคองโก | 1–1 | 2–1 | 2018 FIFA World Cup qualification | [188] |
27 | 13 November 2016 | Borg El Arab Stadium, Alexandria, Egypt | 45 | กานา | 1–0 | 2–0 | [189] | |
28 | 25 January 2017 | Stade de Port-Gentil, Port-Gentil, Gabon | 49 | กานา | 1–0 | 1–0 | 2017 Africa Cup of Nations | [190] |
29 | 1 February 2017 | Stade de l'Amitié, Libreville, Gabon | 51 | บูร์กินาฟาโซ | 1–0 | 1–1 (4–3 p) | 2017 Africa Cup of Nations | [191] |
30 | 5 September 2017 | Borg El Arab Stadium, Alexandria, Egypt | 55 | ยูกันดา | 1–0 | 1–0 | 2018 FIFA World Cup qualification | [192] |
31 | 8 October 2017 | Borg El Arab Stadium, Alexandria, Egypt | 56 | สาธารณรัฐคองโก | 1–0 | 2–1 | 2018 FIFA World Cup qualification | [193] |
32 | 2–1 | |||||||
33 | 23 March 2018 | Letzigrund, Zürich, Switzerland | 57 | โปรตุเกส | 1–0 | 1–2 | Friendly | [194] |
34 | 19 June 2018 | Krestovsky Stadium, Saint Petersburg, Russia | 58 | รัสเซีย | 1–3 | 1–3 | 2018 FIFA World Cup | [195] |
35 | 25 June 2018 | Volgograd Arena, Volgograd, Russia | 59 | ซาอุดีอาระเบีย | 1–0 | 1–2 | [196] | |
36 | 8 September 2018 | Borg El Arab Stadium, Alexandria, Egypt | 60 | ไนเจอร์ | 3–0 | 6–0 | 2019 Africa Cup of Nations qualification | [197] |
37 | 5–0 | |||||||
38 | 12 October 2018 | Al Salam Stadium, Cairo, Egypt | 61 | เอสวาตินี | 4–0 | 4–1 | [198] | |
39 | 16 November 2018 | Borg El Arab Stadium, Alexandria, Egypt | 62 | ตูนิเซีย | 3–2 | 3–2 | [199] | |
40 | 26 June 2019 | Cairo International Stadium, Cairo, Egypt | 65 | สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก | 2–0 | 2–0 | 2019 Africa Cup of Nations | [200] |
41 | 26 June 2019 | Cairo International Stadium, Cairo, Egypt | 66 | ยูกันดา | 1–0 | 2–0 | 2019 Africa Cup of Nations | [201] |
42 | 26 June 2019 | Cairo International Stadium, Cairo, Egypt | 66 | สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก | 2–0 | 2–0 | 2019 Africa Cup of Nations | [202] |
43 | 30 June 2019 | Cairo International Stadium, Cairo, Egypt | 67 | ยูกันดา | 1–0 | 2–0 | 2019 Africa Cup of Nations | [203] |
44 | 29 March 2021 | Cairo International Stadium, Cairo, Egypt | 70 | คอโมโรส | 3–0 | 4–0 | 2021 Africa Cup of Nations qualification | [204] |
45 | 4–0 | |||||||
46 | 15 January 2022 | Roumdé Adjia Stadium, Garoua, Cameroon | 77 | กินี-บิสเซา | 1–0 | 1–0 | 2021 Africa Cup of Nations | [205] |
47 | 30 January 2022 | Stade Ahmadou Ahidjo, Yaoundé, Cameroon | 80 | โมร็อกโก | 1–1 | 2–1 (ต่อเวลา) | 2021 Africa Cup of Nations | [206] |
48 | 23 September 2022 | Alexandria Stadium, Alexandria, Egypt | 86 | ไนเจอร์ | 1–0 | 3–0 | Friendly | [207] |
49 | 3–0 | |||||||
50 | 24 March 2023 | 30 June Stadium, Cairo, Egypt | 88 | มาลาวี | 1–0 | 2–0 | 2023 Africa Cup of Nations qualification | [208] |
51 | 28 March 2023 | Bingu National Stadium, Lilongwe, Malawi | 89 | มาลาวี | 3–0 | 4–0 | 2023 Africa Cup of Nations qualification | [209] |
52 | 16 November 2023 | Cairo International Stadium, Cairo, Egypt | 94 | จิบูตี | 1–0 | 6–0 | 2026 FIFA World Cup qualification | |
53 | 2–0 | |||||||
54 | 3–0 | |||||||
55 | 4–0 |
บาเซิล
ลิเวอร์พูล
อียิปต์
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.