Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023–24 จะเป็นฤดูกาลที่ 32 ของพรีเมียร์ลีก และเป็นฤดูกาลที่ 125 ของฟุตบอลลีกสูงสุด ฤดูกาลเริ่มต้นในวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 2023 และสิ้นสุดในวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2024[2][3][4][5]
ฤดูกาล | 2023–24 |
---|---|
วันที่ | 11 สิงหาคม ค.ศ. 2023 – 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 |
ทีมชนะเลิศ | แมนเชสเตอร์ซิตี |
ตกชั้น | |
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก |
|
ยูโรปาลีก | |
คอนเฟอเรนซ์ลีก | เชลซี |
จำนวนนัด | 380 |
จำนวนประตู | 1,246 (3.28 ประตูต่อนัด) |
ผู้ทำประตูสูงสุด | อาลิง โฮลัน (27 ประตู) |
ผู้รักษาประตูที่ดีที่สุด | ดาบิด รายา (16 คลีนชีตส์) |
ทีมเหย้า ชนะสูงสุด | เชลซี 6–0 เอฟเวอร์ตัน (15 เมษายน 2024) |
ทีมเยือน ชนะสูงสุด | เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด 0–8 นิวคาสเซิลยูไนเต็ด (24 กันยายน 2023) |
จำนวนประตูสูงสุด | เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด 0–8 นิวคาสเซิลยูไนเต็ด (24 กันยายน 2023) เชลซี 4–4 แมนเชสเตอร์ซิตี (12 พฤศจิกายน 2023) นิวคาสเซิลยูไนเต็ด 4–4 ลูตันทาวน์ (3 กุมภาพันธ์ 2024) |
ชนะติดต่อกัน มากที่สุด | 9 นัด แมนเชสเตอร์ซิตี[1] |
ไม่แพ้ติดต่อกัน มากที่สุด | 23 นัด แมนเชสเตอร์ซิตี[1] |
ไม่ชนะติดต่อกัน มากที่สุด | 14 นัด เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด[1] |
แพ้ติดต่อกัน มากที่สุด | 7 นัด เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด[1] |
จำนวนผู้ชมสูงสุด | 73,612 คน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3-0 เวสต์แฮมยูไนเต็ด (4 กุมภาพันธ์ 2024) |
จำนวนผู้ชมต่ำสุด | 10,421 คน บอร์นมัท 0–0 เชลซี (17 กันยายน 2023) |
จำนวนผู้ชมรวม | 14,674,624 |
จำนวนผู้ชมเฉลี่ย | 38,617 |
← 2022–23 2024–25 → |
แมนเชสเตอร์ซิตี เป็นทีมที่ป้องกันแชมป์ไว้ได้ สามารถคว้าแชมป์ 4 สมัยติดต่อกัน และกลายเป็นสโมสรฟุตบอลชายแห่งแรกในประวัติศาสตร์ลีกอังกฤษที่บรรลุเป้าหมายนี้[6][7][8]
ฤดูกาลนี้เป็นการกลับมาของช่วงพักกลางฤดูกาลซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 13 ถึง 20 มกราคม ค.ศ. 2024[9] พรีเมียร์ลีกยืนยันว่าตลาดซื้อขายช่วงฤดูร้อนจะเปิดในวันที่ 14 มิถุนายนและจะปิดเวลา 23:00 น. ตามเวลาฤดูร้อนของอังกฤษในวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2023 ตลาดซื้อขายนักเตะช่วงฤดูหนาวจะเปิดในวันที่ 1 มกราคม และจะปิดในเวลา 23:00 (เวลามาตรฐานกรีนิช) ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024[10]
ระหว่างฤดูกาลมีสถิติการทำประตูเป็นประวัติการณ์ถึง 1,246 ประตู (380 นัด เฉลี่ย 3.28 ประตูต่อนัด) ทำลายสถิติก่อนหน้าที่ 1,222 ประตูในฤดูกาล 1992–93 (ซึ่งมี 462 นัด เฉลี่ย 2.65 ประตูต่อนัด) ประตูเฉลี่ยต่อนัดสูงที่สุดในลีกสูงสุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1964–65 ทั้งสามทีมที่ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาในฤดูกาลนี้ตกชั้น (ลูตันทาวน์, เบิร์นลีย์ และเชฟฟีลด์ยูไนเต็ด) เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ฤดูกาล 1997–98 ทั้งสามทีมมีคะแนนรวมกัน 66 แต้ม น็อตทิงแฮมฟอเรสต์รอดจากการตกชั้นด้วยคะแนน 32 แต้ม (รวมการถูกหัก 4 แต้ม) ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์สำหรับทีมที่รอดจากการตกชั้น
เป็นครั้งที่ 3 เท่านั้นในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก (ต่อจากมิดเดิลส์เบรอในฤดูกาล 1996–97 และพอร์ทสมัทในฤดูกาล 2009–10) ที่ทีมในพรีเมียร์ลีกถูกหักคะแนน เมื่อเอฟเวอร์ตันถูกหัก 10 แต้มจากคะแนนรวมของพวกเขาเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2023 เนื่องจากละเมิดกฎการทำกำไรและความยั่งยืนของพรีเมียร์ลีก การหักคะแนนดังกล่าวถือเป็นการหักคะแนนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก[11] เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2024 หลังจากการอุทธรณ์ ได้มีการประกาศว่าการหักคะแนนได้ลดลงเหลือแค่หัก 6 แต้มจากคะแนนรวมของพวกเขา[12] เมื่อวันที่ 8 เมษายน สโมสรถูกหักคะแนนเพิ่มเติมอีก 2 แต้ม เนื่องจากการละเมิดกฎการทำกำไรและความยั่งยืนเพิ่มเติม ซึ่งหมายความว่าถูกหักคะแนนรวม 8 แต้ม[13] ขณะนี้การตัดสินหักคะแนนครั้งที่สองยังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์[14]
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2023 ในการแข่งขันระหว่างทอตนัมฮอตสเปอร์และลิเวอร์พูล ดาร์เรน อิงแลนด์ ผู้ช่วยผู้ตัดสินใช้วีดิทัศน์ (VAR) ของพรีเมียร์ลีก มีความผิดพลาดในการตัดสินที่ระงับการทำประตูของ ลุยส์ ดิอัซ ซึ่งเป็นการทำประตูทีถูกต้องตามกฎ ทำให้ลิเวอร์พูลแพ้การแข่งขัน 2–1 และสมาคมผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (PGMOL) ยอมรับว่าการตัดสินล้ำหน้านั้นเป็น "ข้อผิดพลาดของมนุษย์ที่มีนัยสำคัญ" มีการเปิดเผยว่าอิงแลนด์และผู้ช่วยของผู้ช่วยผู้ตัดสินใช้วีดิทัศน์ แดน คุก ใช้เวลาโดยสารเที่ยวบิน 8 ชั่วโมงกลับจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อวันก่อน เจ้าหน้าที่ PGMOL กลุ่มหนึ่งอยู่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อดูแลการแข่งขันระหว่างสโมสรฟุตบอลชาร์จาห์และสโมสรฟุตบอลอัลอิน ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการตัดสินใจของ PGMOL ที่จะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของการแข่งขันชั้นนำเข้ารับงานที่มีรายได้ในยูเออีโปรลีก แม้ว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะเป็นเจ้าของสโมสรในพรีเมียร์ลีกอย่างแมนเชสเตอร์ซิตีก็ตาม[15]
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2023 เชฟฟีลด์ยูไนเต็ดกลายเป็นสโมสรแรกที่ปลดพอล เฮคกิงบอททอม ผู้จัดการทีมของพวกเขาออกจากตำแหน่งหลังจากแพ้เบิร์นลีย์ของแว็งซ็อง กงปานี 0–5 เขาถูกแทนที่โดยคริส วิลเดอร์ อดีตผู้จัดการทีมที่นำเชฟฟีลด์ยูไนเต็ดเลื่อนชั้นกลับสู่พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2019–20 ถือเป็นการกลับมาที่สโมสรของเขาตั้งแต่ฤดูกาล 2020–21 ในเวลานั้นเชฟฟีลด์ยูไนเต็ดอยู่บ๊วยของตารางโดยเก็บได้เพียง 5 แต้มจาก 14 นัด
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2023 การแข่งขันระหว่างบอร์นมัทและลูตันทาวน์ที่ไวทาลิตีสเตเดียมถูกยกเลิกหลังจากเล่นไปได้ 65 นาที เนื่องจากทอม ล็อคเยอร์ กัปตันทีมลูตันทาวน์ประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นล้มลงกลางสนาม การแข่งขันถูกระงับในตอนแรก โดยผู้ตัดสินนำผู้เล่นทั้งสองทีมออกจากสนามในช่วงกลางครึ่งหลัง ในขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ดูแลล็อคเยอร์ ในที่สุดเขาก็ถูกเปลหามและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ต่อมาได้รับแจ้งว่าเขาตอบสนองได้ดีแล้ว และอยู่ในอาการทรงตัวแล้ว จากนั้นผู้ตัดสินก็ระงับการแข่งขันหลังจากผ่านไป 65 นาที โดยมีคะแนนอยู่ที่ 1–1 [16]
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2023 นอตทิงแฮมฟอเรสต์เป็นสโมสรที่สองที่ปลดผู้จัดการทีม โดยปลดสตีฟ คูเปอร์ออกจากตำแหน่งหลังจากไร้ชัยชนะมา 6 นัดติดต่อกัน นัดสุดท้ายที่เขาคุมทีมคือแพ้ในบ้าน 0–2 ต่อ ทอตนัมฮอตสเปอร์ เขาถูกแทนที่โดยนูนู อึชปีรีตู ซังตู อดีตผู้จัดการทีมวุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ และทอตนัมฮอตสเปอร์ ซึ่งนัดแรกของเขาในการคุมทีมคือแพ้ในบ้าน 2–3 ต่อบอร์นมัท ทำให้สโมสรไร้ชัย 7 นัดติดต่อกัน ในนัดที่ 2 ของเขา นูนูจบสถิติไร้ชัยของนอตทิงแฮมฟอเรสต์ด้วยการชนะ 3–1 ในการแข่งขันกับนิวคาสเซิลยูไนเต็ดที่เซนต์เจมส์พาร์ก โดยคริส วูดทำแฮตทริกใส่สโมสรเก่าของเขา ซึ่งเขาออกจากสโมสรในตลาดซื้อขายเดือนมกราคมของฤดูกาล 2022–23
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2024, เยือร์เกิน คล็อพ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ประกาศอำลาการเป็นผู้จัดการทีมในช่วงท้ายของฤดูกาล หลังจากอยู่กับทีมเป็นระยะเวลา 8 ปี[17]
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2024 รอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการทีมคริสตัลพาเลซ ลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม พาเลซแพ้ 10 นัด จากนัดก่อนหน้า 16 นัด และอยู่ในอันดับที่ 16 ของตารางคะแนน มี 5 แต้มเหนือโซนตกชั้น ฮอดจ์สันซึ่งป่วยในช่วงการฝึกซ้อมกับทีม ถูกแทนที่โดยโอลิเวอร์ กลาสเนอร์ อดีตผู้จัดการทีมไอน์ทรัคท์ฟรังค์ฟวร์ท[18]
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2024 นอตทิงแฮมฟอเรสต์ เป็นสโมสรที่สี่ในพรีเมียร์ลีกที่ถูกหักคะแนน พวกเขาถูกหัก 4 แต้ม เนื่องจากละเมิดกฎการทำกำไรและความยั่งยืนของพรีเมียร์ลีก[19] ขณะนี้การตัดสินยังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์[20]
เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2024 เชฟฟีลด์ยูไนเต็ดกลายเป็นสโมสรแรกที่ตกชั้นสู่แชมเปียนชิป หลังจากแพ้ในเกมเยือน 5–1 ต่อนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ทำให้ทีมต้องใช้คะแนน 10 แต้มในการแข่งขันอีกสามนัดเพื่อที่จะปลอดภัยจากการตกชั้น[21] เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พวกเขากลายเป็นทีมแรกในพรีเมียร์ลีกที่เสียประตู 100 ประตู จาก 38 นัดในฤดูกาล เท่ากับสถิติของสวินดอนทาวน์ที่เสียประตู 100 ประตู ในฤดูกาล 1993–94 จาก 42 นัดในฤดูกาล[22] เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พวกเขาทำลายสถิติของพรีเมียร์ลีกด้วยการเสียประตูที่ 101 ในความพ่ายแพ้ 1–0 ต่อเอฟเวอร์ตัน โดยเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลเสียประตูทั้งหมด 104 ประตู ซึ่งมากที่สุดของทีมในลีกสูงสุดนับตั้งแต่อิปสวิชทาวน์ที่เสียประตู 121 ประตูในฤดูกาล 1963–64[ต้องการอ้างอิง]
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2024 เวสต์แฮมยูไนเต็ด ประกาศว่า เดวิด มอยส์ จะออกจากการเป็นผู้จัดการทีมหลังสิ้นสุดฤดูกาล เมื่อสัญญาของเขาหมดอายุลง[23]
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2024 เบิร์นลีย์กลายเป็นสโมสรที่สองที่ตกชั้น หลังจากแพ้ในเกมเยือน 2–1 ต่อทอตนัมฮอตสเปอร์ ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ทำให้ทีมต้องใช้คะแนน 5 แต้มในการแข่งขันอีกหนึ่งนัดเพื่อที่จะปลอดภัยจากการตกชั้น โดยล้มเหลวในการออกจากโซนตกชั้นนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล[24][25]
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2024 เช่นกันนั้น ลูตันทาวน์ แพ้ในเกมเยือน 3–1 ต่อเวสต์แฮมยูไนเต็ด ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ทำให้ทีมต้องใช้คะแนน 3 แต้มในการแข่งขันอีกหนึ่งนัดเพื่อที่จะปลอดภัยจากการตกชั้น แม้จะไม่ยืนยันการตกชั้นในทางคณิตศาสตร์ แต่ก็ต้องใช้การพลิกผันผลต่างประตูถึง 13 ประตู ในวันสุดท้ายของฤดูกาลเพื่อจะแย่งอันดับที่ 17 จากนอตทิงแฮมฟอเรสต์[26] การตกชั้นของพวกเขาได้รับการยืนยันในวันสุดท้ายของฤดูกาล เมื่อพวกเขาแพ้ 4–2 ต่อฟูลัม และนอตทิงแฮมฟอเรสต์ชนะเบิร์นลีย์ 2–1[27][28]
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2024 ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ประกาศว่าพวกเขาได้รับความยินยอมร่วมกันกับโรแบร์โต เด แซร์บี ผู้จัดการทีม ในการสิ้นสุดสัญญาหลังจากสิ้นสุดฤดูกาลในวันรุ่งขึ้น[29]
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2024 วันสุดท้ายของฤดูกาล แมนเชสเตอร์ซิตีชนะเวสต์แฮมยูไนเต็ด 3–1 ในเกมเหย้า เพื่อคว้าแชมป์ด้วยคะแนน 91 แต้ม นำหน้าคู่แข่งอย่างอาร์เซนอลด้วยคะแนน 2 แต้ม ซึ่งชนะเอฟเวอร์ตัน 2–1 ในเกมเหย้า อาร์เซนอลจบอันดับรองชนะเลิศด้วยคะแนน 89 แต้ม กลายเป็นทีมอันดับรองชนะเลิศที่มีคะแนนมากที่สุดเป็นอันดับที่สามในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก[30]
ในฤดูกาลนี้เห็นได้ถึงการเติบโดอย่างต่อเนื่องของแอสตันวิลลา ภายใต้การคุมทีมโดยอูไน เอเมรี โดยพวกเขาคว้าอันดับที่จะได้ไปแข่งขันในแชมเปียนส์ลีก ภายใต้'รูปแบบลีก'ที่เป็นรูปแบบใหม่ และเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1983 ในขณะที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ประสบกับฤดูกาลที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก หลังจากจบอันดับที่ 3 และคว้าแชมป์อีเอฟแอลคัพในฤดูกาลเปิดตัวของเอริก เติน ฮัค ยูไนเต็ดทำสถิติอันดับต่ำที่สุดครั้งใหม่ในฤดูกาลที่สองของเขา รวมถึงอันดับต่ำที่สุดเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล (อันดับที่ 8 โดยสถิติก่อนหน้านี้เป็นอันดับที่ 7 ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2013–14 ภายใต้การคุมทีมของเดวิด มอยส์) จำนวนนัดที่แพ้มากที่สุดในหนึ่งฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก (แพ้ 14 นัด) ผลต่างประตู -1 และเสียประตู 58 ประตู (เสียประตู 82 ประตูในทุกรายการ) มากที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1976–77[ต้องการอ้างอิง] อย่างไรก็ตาม ยูไนเต็ดกอบกู้ฤดูกาลนี้ได้โดยการชนะแมนเชสเตอร์ซิตี ในเอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ ทำให้แมนเชสเตอร์ซิตีไม่ได้แชมป์ลีกพร้อมแชมป์บอลถ้วยติดต่อกัน และได้ที่นั่งเข้าสู่ยูโรปาลีกรอบลีกสำหรับฤดูกาลถัดไป
เช่นเดียวกับฟุตบอลโลก 2022 กฎการหยุดเวลาใหม่จะนำมาใช้ในพรีเมียร์ลีก จากความพยายามที่ควบคุมการเสียเวลา และเพื่อปรับปรุงความแม่นยำของเวลาที่ทดเข้าไป เวลาทดบาดเจ็บจะนานขึ้นในแต่ละการแข่งขัน กฎใหม่จะคำนึงถึงการหยุดการแข่งขันเนื่องจากอาการบาดเจ็บ การฉลองประตู ใบเหลืองและใบแดง และการตรวจสอบ VAR นอกจากนี้ จะมีความผิดเกี่ยวกับใบเหลือง/ใบแดง จากการไม่เห็นด้วยและการถ่วงเวลา ซึ่งส่งผลให้ใบเหลืองและใบแดงเพิ่มขึ้นอย่างมากในฤดูกาลนี้[31]
ประกอบด้วย 17 ทีมจากฤดูกาลที่แล้ว และ 3 ทีมที่เลื่อนชั้นมาจากแชมเปียนชิป ณ วันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 มี 14 ทีมจากทั้งหมด 17 ทีมที่ได้รับการการันตี เนื่องจากพวกเขามีคะแนนเพียงพอที่จะไม่ตกชั้น[32] ทีมที่เลื่อนชั้นคือ เบิร์นลีย์, เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด และ ลูตันทาวน์ ซึ่งจะกลับสู่ลีกสูงสุดหลังจากห่างหายไป 1, 2 และ 31 ปีตามลำดับ นี่จะเป็นฤดูกาลแรกของลูตันทาวน์ในพรีเมียร์ลีกด้วย ด้วยการเลื่อนชั้นของพวกเขาครั้งนี้ ลูตันทาวน์จะกลายเป็นทีมแรกที่ได้เลื่อนชั้นจากนอกลีกสู่ลีกสูงสุดในยุคพรีเมียร์ลีก ขณะเดียวกันก็เท่ากับสถิติเดิมของวิมเบิลดันที่เร็วที่สุดในการขึ้นสู่ลีกสูงสุดจากนอกลีก (9 ปี) พวกเขาจะแทนที่เซาแธมป์ตัน, ลีดส์ยูไนเต็ดและเลสเตอร์ซิตี้ที่ตกชั้นสู่อีเอฟแอลแชมเปียนชิป หลังจากเล่นเป็นเวลา 11, 3 และ 9 ปีในลีกสูงสุด
ทีม | ผู้จัดการทีม | กัปตันทีม | ผู้ผลิตชุดแข่ง | สปอนเซอร์เสื้อ (หน้าอก) | สปอนเซอร์เสื้อ (แขนเสื้อ) |
---|---|---|---|---|---|
อาร์เซนอล | มิเกล อาร์เตตา | มัตติน เออเดอโกร์ | อาดิดาส[33] | เอมิเรตส์[34] | Visit Rwanda[35] |
แอสตันวิลลา | อูไน เอเมรี | จอห์น แม็กกินน์ | แคสโตเร[36] | BK8[37] | Trade Nation[38] |
บอร์นมัท | อันโดนี อิราโอลา | แนตู | อัมโบร[39] | ดาฟาเบต[40] | DeWalt[41] |
เบรนต์ฟอร์ด | ทอแมส ฟรังก์ | เครสแจน เนอร์เกอร์ | อัมโบร[42] | Hollywoodbets[43] | Safetyculture[44] |
ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน | โรแบร์โต เด แซร์บี | ลูวิส ดังก์ | ไนกี้[45] | อเมริกันเอ็กซ์เพรส[45] | SnickersUK.com[46] |
เบิร์นลีย์ | แว็งซ็อง กงปานี | แจ็ก คอร์ก | อัมโบร[47] | Classic Football Shirts[48] | รอระบุ |
เชลซี | เมาริซิโอ โปเชติโน | รีซ เจมส์ | ไนกี้[49] | Infinite Athlete[50] | BingX[51] |
คริสตัลพาเลซ | โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ | โจเอล วาร์ด | มาครอน[52] | ซินช์[53] | Kaiyun Sports[54] |
เอฟเวอร์ตัน | ชอน ไดช์ | เชมัส โคลแมน | ฮุมเมล[55] | Stake.com[56] | BOXT[57] |
ฟูลัม | มาร์กู ซิลวา | ทอม แคร์นีย์ | อาดิดาส[58] | W88[59] | World Mobile[60] |
ลิเวอร์พูล | เยือร์เกิน คล็อพ | เฟอร์จิล ฟัน ไดก์ | ไนกี้[61] | สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด[62] | เอ็กซ์พีเดีย[63] |
ลูตันทาวน์ | ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์ | ทอม ล็อกเยอร์ | อัมโบร[64] | Utilita (เหย้า) Star Platforms (เยือน) Ryebridge (สาม) |
Toureen Group (เหย้า) Utilita (เยือน & สาม) |
แมนเชสเตอร์ซิตี | แป็ป กวาร์ดิออลา | ไคล์ วอล์กเกอร์[65] | พูมา[66] | สายการบินเอทิฮัด[67] | OKX[68] |
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | เอริก เติน ฮัค | บรูนู ฟือร์นังดึช | อาดิดาส[69] | ทีมวีเวอร์[70] | DXC Technology[71] |
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด | เอ็ดดี ฮาว | จามาล ลัสเซลส์ | แคสโตเร[72] | เซลา[73] | noon.com[74] |
นอตทิงแฮมฟอเรสต์ | นูนู อึชปีรีตู ซังตู | โจ วอร์รอลล์ | อาดิดาส[75] | ยูเอ็นเอชซีอาร์[76] | ไม่มี |
เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด | คริส วิลเดอร์ | จอห์น อีแกน | เอร์เรอา | Randox | Ultimate Champions |
ทอตนัมฮอตสเปอร์ | แอนจ์ พอสเตคอกลู | ซน ฮึง-มิน | ไนกี้[77] | เอไอเอ[78] | Cinch[79] |
เวสต์แฮมยูไนเต็ด | เดวิด มอยส์ | กูร์ต ซูมา | อัมโบร[80] | เบตเวย์[81] | เจดี สปอร์ตส์[82] |
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ | แกรี โอนีล | แมกซ์ คิลแมน | แคสโตเร[83] | แอสโตรเพย์[84] | 6686.com[85] |
ทีม | ผู้จัดการที่ออก | สาเหตุที่ออก | วันที่ตำแหน่งว่าง | อันดับในตารางคะแนน | ผู้จัดการคนใหม่ | วันที่ได้รับการแต่งตั้ง |
---|---|---|---|---|---|---|
เชลซี | แฟรงก์ แลมพาร์ด[86] | สิ้นสุดการจัดการทีมชั่วคราว | 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 | ก่อนฤดูกาล | เมาริซิโอ โปเชติโน | 29 พฤษภาคม ค.ศ. 2023[87][88] |
ทอตนัมฮอตสเปอร์ | ไรอัน เมสัน[89] | แอนจ์ พอสเตคอกลู | 6 มิถุนายน ค.ศ. 2023[90] | |||
บอร์นมัท | แกรี โอนีล[91] | ถูกไล่ออก | 19 มิถุนายน ค.ศ. 2023 | อันโดนี อิราโอลา | 19 มิถุนายน ค.ศ. 2023[92] | |
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ | ยูเลน โลเปเตกี[93] | ได้รับความยินยอมร่วมกัน | 8 สิงหาคม ค.ศ. 2023 | แกรี โอนีล[94] | 9 สิงหาคม ค.ศ. 2023 | |
เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด | พอล เฮคกิงบ็อททอม[95] | ถูกไล่ออก | 5 ธันวาคม ค.ศ. 2023 | อันดับที่ 20 | คริส วิลเดอร์[96] | 5 ธันวาคม ค.ศ. 2023 |
นอตทิงแฮมฟอเรสต์ | สตีฟ คูเปอร์[97] | 19 ธันวาคม ค.ศ. 2023 | อันดับที่ 17 | นูนู อึชปีรีตู ซังตู[98] | 20 ธันวาคม ค.ศ. 2023 | |
คริสตัลพาเลซ | รอย ฮอดจ์สัน[99] | ลาออก | 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024 | อันดับที่ 16 | โอลิเวอร์ กลาสเนอร์[100] | 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024 |
อันดับ | ทีม | เล่น | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ได้ | เสีย | ต่าง | คะแนน | การผ่านเข้ารอบหรือการตกชั้น |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | แมนเชสเตอร์ซิตี (C) | 38 | 28 | 7 | 3 | 96 | 34 | +62 | 91 | ผ่านเข้าสู่ แชมเปียนส์ลีก รอบลีก |
2 | อาร์เซนอล | 38 | 28 | 5 | 5 | 91 | 29 | +62 | 89 | |
3 | ลิเวอร์พูล | 38 | 24 | 10 | 4 | 86 | 41 | +45 | 82 | |
4 | แอสตันวิลลา | 38 | 20 | 8 | 10 | 76 | 61 | +15 | 68 | |
5 | ทอตนัมฮอตสเปอร์ | 38 | 20 | 6 | 12 | 74 | 61 | +13 | 66 | ผ่านเข้าสู่ ยูโรปาลีก รอบลีก |
6 | เชลซี | 38 | 18 | 9 | 11 | 77 | 63 | +14 | 63 | ผ่านเข้าสู่ คอนเฟอเรนซ์ลีก รอบเพลย์-ออฟ[lower-alpha 1] |
7 | นิวคาสเซิลยูไนเต็ด | 38 | 18 | 6 | 14 | 85 | 62 | +23 | 60 | |
8 | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 38 | 18 | 6 | 14 | 57 | 58 | −1 | 60 | ผ่านเข้าสู่ ยูโรปาลีก รอบลีก[lower-alpha 2] |
9 | เวสต์แฮมยูไนเต็ด | 38 | 14 | 10 | 14 | 60 | 74 | −14 | 52 | |
10 | คริสตัลพาเลซ | 38 | 13 | 10 | 15 | 57 | 58 | −1 | 49 | |
11 | ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน | 38 | 12 | 12 | 14 | 55 | 62 | −7 | 48 | |
12 | บอร์นมัท | 38 | 13 | 9 | 16 | 54 | 67 | −13 | 48 | |
13 | ฟูลัม | 38 | 13 | 8 | 17 | 55 | 61 | −6 | 47 | |
14 | วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ | 38 | 13 | 7 | 18 | 50 | 65 | −15 | 46 | |
15 | เอฟเวอร์ตัน | 38 | 13 | 9 | 16 | 40 | 51 | −11 | 40[lower-alpha 3] | |
16 | เบรนต์ฟอร์ด | 38 | 10 | 9 | 19 | 56 | 65 | −9 | 39 | |
17 | นอตทิงแฮมฟอเรสต์ | 38 | 9 | 9 | 20 | 49 | 67 | −18 | 32[lower-alpha 4] | |
18 | ลูตันทาวน์ (R) | 38 | 6 | 8 | 24 | 52 | 85 | −33 | 26 | ตกชั้นสู่ อีเอฟแอลแชมเปียนชิป |
19 | เบิร์นลีย์ (R) | 38 | 5 | 9 | 24 | 41 | 78 | −37 | 24 | |
20 | เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด (R) | 38 | 3 | 7 | 28 | 35 | 104 | −69 | 16 |
เหย้า / เยือน | ARS | AVL | BOU | BRE | BHA | BUR | CHE | CRY | EVE | FUL | LIV | LUT | MCI | MUN | NEW | NFO | SHU | TOT | WHU | WOL |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
อาร์เซนอล | — | 0–2 | 3–0 | 2–1 | 2–0 | 3–1 | 5–0 | 5–0 | 2–1 | 2–2 | 3–1 | 2–0 | 1–0 | 3–1 | 4–1 | 2–1 | 5–0 | 2–2 | 0–2 | 2–1 |
แอสตันวิลลา | 1–0 | — | 3–1 | 3–3 | 6–1 | 3–2 | 2–2 | 3–1 | 4–0 | 3–1 | 3–3 | 3–1 | 1–0 | 1–2 | 1–3 | 4–2 | 1–1 | 0–4 | 4–1 | 2–0 |
บอร์นมัท | 0–4 | 2–2 | — | 1–2 | 3–0 | 2–1 | 0–0 | 1–0 | 2–1 | 3–0 | 0–4 | 4–3 | 0–1 | 2–2 | 2–0 | 1–1 | 2–2 | 0–2 | 1–1 | 1–2 |
เบรนต์ฟอร์ด | 0–1 | 1–2 | 2–2 | — | 0–0 | 3–0 | 2–2 | 1–1 | 1–3 | 0–0 | 1–4 | 3–1 | 1–3 | 1–1 | 2–4 | 3–2 | 2–0 | 2–2 | 3–2 | 1–4 |
ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน | 0–3 | 1–0 | 3–1 | 2–1 | — | 1–1 | 1–2 | 4–1 | 1–1 | 1–1 | 2–2 | 4–1 | 0–4 | 0–2 | 3–1 | 1–0 | 1–1 | 4–2 | 1–3 | 0–0 |
เบิร์นลีย์ | 0–5 | 1–3 | 0–2 | 2–1 | 1–1 | — | 1–4 | 0–2 | 0–2 | 2–2 | 0–2 | 1–1 | 0–3 | 0–1 | 1–4 | 1–2 | 5–0 | 2–5 | 1–2 | 1–1 |
เชลซี | 2–2 | 0–1 | 2–1 | 0–2 | 3–2 | 2–2 | — | 2–1 | 6–0 | 1–0 | 1–1 | 3–0 | 4–4 | 4–3 | 3–2 | 0–1 | 2–0 | 2–0 | 5–0 | 2–4 |
คริสตัลพาเลซ | 0–1 | 5–0 | 0–2 | 3–1 | 1–1 | 3–0 | 1–3 | — | 2–3 | 0–0 | 1–2 | 1–1 | 2–4 | 4–0 | 2–0 | 0–0 | 3–2 | 1–2 | 5–2 | 3–2 |
เอฟเวอร์ตัน | 0–1 | 0–0 | 2–0 | 1–0 | 1–1 | 1–0 | 2–0 | 1–1 | — | 0–1 | 2–0 | 1–2 | 1–3 | 0–3 | 3–0 | 2–0 | 1–0 | 2–2 | 1–3 | 0–1 |
ฟูลัม | 2–1 | 1–2 | 3–1 | 0–3 | 3–0 | 0–2 | 0–2 | 1–1 | 0–0 | — | 1–3 | 1–0 | 0–4 | 0–1 | 0–1 | 5–0 | 3–1 | 3–0 | 5–0 | 3–2 |
ลิเวอร์พูล | 1–1 | 3–0 | 3–1 | 3–0 | 2–1 | 3–1 | 4–1 | 0–1 | 2–0 | 4–3 | — | 4–1 | 1–1 | 0–0 | 4–2 | 3–0 | 3–1 | 4–2 | 3–1 | 2–0 |
ลูตันทาวน์ | 3–4 | 2–3 | 2–1 | 1–5 | 4–0 | 1–2 | 2–3 | 2–1 | 1–1 | 2–4 | 1–1 | — | 1–2 | 1–2 | 1–0 | 1–1 | 1–3 | 0–1 | 1–2 | 1–1 |
แมนเชสเตอร์ซิตี | 0–0 | 4–1 | 6–1 | 1–0 | 2–1 | 3–1 | 1–1 | 2–2 | 2–0 | 5–1 | 1–1 | 5–1 | — | 3–1 | 1–0 | 2–0 | 2–0 | 3–3 | 3–1 | 5–1 |
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 0–1 | 3–2 | 0–3 | 2–1 | 1–3 | 1–1 | 2–1 | 0–1 | 2–0 | 1–2 | 2–2 | 1–0 | 0–3 | — | 3–2 | 3–2 | 4–2 | 2–2 | 3–0 | 1–0 |
นิวคาสเซิลยูไนเต็ด | 1–0 | 5–1 | 2–2 | 1–0 | 1–1 | 2–0 | 4–1 | 4–0 | 1–1 | 3–0 | 1–2 | 4–4 | 2–3 | 1–0 | — | 1–3 | 5–1 | 4–0 | 4–3 | 3–0 |
นอตทิงแฮมฟอเรสต์ | 1–2 | 2–0 | 2–3 | 1–1 | 2–3 | 1–1 | 2–3 | 1–1 | 0–1 | 3–1 | 0–1 | 2–2 | 0–2 | 2–1 | 2–3 | — | 2–1 | 0–2 | 2–0 | 2–2 |
เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด | 0–6 | 0–5 | 1–3 | 1–0 | 0–5 | 1–4 | 2–2 | 0–1 | 2–2 | 3–3 | 0–2 | 2–3 | 1–2 | 1–2 | 0–8 | 1–3 | — | 0–3 | 2–2 | 2–1 |
ทอตนัมฮอตสเปอร์ | 2–3 | 1–2 | 3–1 | 3–2 | 2–1 | 2–1 | 1–4 | 3–1 | 2–1 | 2–0 | 2–1 | 2–1 | 0–2 | 2–0 | 4–1 | 3–1 | 2–1 | — | 1–2 | 1–2 |
เวสต์แฮมยูไนเต็ด | 0–6 | 1–1 | 1–1 | 4–2 | 0–0 | 2–2 | 3–1 | 1–1 | 0–1 | 0–2 | 2–2 | 3–1 | 1–3 | 2–0 | 2–2 | 3–2 | 2–0 | 1–1 | — | 3–0 |
วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ | 0–2 | 1–1 | 0–1 | 0–2 | 1–4 | 1–0 | 2–1 | 1–3 | 2–0 | 2–1 | 1–3 | 2–1 | 2–1 | 3–4 | 2–2 | 1–1 | 1–0 | 2–1 | 1–2 | — |
อันดับ | ผู้เล่น | สโมสร | ประตู[104] |
---|---|---|---|
1 | อาลิง โฮลัน | แมนเชสเตอร์ซิตี | 27 |
2 | โคล พาลเมอร์ | เชลซี | 22 |
3 | อาเล็กซันเดอร์ อีซัก | นิวคาสเซิลยูไนเต็ด | 21 |
4 | ฟิล โฟเดน | แมนเชสเตอร์ซิตี | 19 |
ดอมินิก โชลังเก | บอร์นมัท | ||
ออลลี วอตกินส์ | แอสตันวิลลา | ||
7 | มุฮัมมัด เศาะลาห์ | ลิเวอร์พูล | 18 |
8 | ซน ฮึง-มิน | ทอตนัมฮอตสเปอร์ | 17 |
9 | จาร์ร็อด โบเวน | เวสต์แฮมยูไนเต็ด | 16 |
ฌ็อง-ฟิลิปป์ มาเตตา | คริสตัลพาเลซ | ||
บูกาโย ซากา | อาร์เซนอล |
ผู้เล่น | ทีม | พบกับทีม | ผล | วันที่ |
---|---|---|---|---|
ซน ฮึง-มิน | ทอตนัมฮอตสเปอร์ | เบิร์นลีย์ | 5–2 (A)[105] | 2 กันยายน 2023 |
อาลิง โฮลัน | แมนเชสเตอร์ซิตี | ฟูลัม | 5–1 (H)[106] | |
เอฟวัน เฟอร์กูสัน | ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน | นิวคาสเซิลยูไนเต็ด | 3–1 (H)[107] | |
ออลลี วอตกินส์ | แอสตันวิลลา | ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน | 6–1 (H)[108] | 30 กันยายน 2023 |
เอ็ดดี เอ็นเคเตียห์ | อาร์เซนอล | เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด | 5–0 (H)[109] | 28 ตุลาคม 2023 |
นิโคลัส แจ็คสัน | เชลซี | ทอตนัมฮอตสเปอร์ | 4–1 (A)[110] | 6 พฤศจิกายน 2023 |
ดอมินิก โชลังเก | บอร์นมัท | นอตทิงแฮมฟอเรสต์ | 3–2 (A)[111] | 23 ธันวาคม 2023 |
คริส วูด | นอตทิงแฮมฟอเรสต์ | นิวคาสเซิลยูไนเต็ด | 3–1 (A)[112] | 26 ธันวาคม 2023 |
เอไลจาห์ อาเดบาโย | ลูตันทาวน์ | ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน | 4–0 (H)[113] | 30 มกราคม 2024 |
มาเทอุส คุนญา | วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ | เชลซี | 4–2 (A)[114] | 4 กุมภาพันธ์ 2024 |
ฟิล โฟเดน | แมนเชสเตอร์ซิตี | เบรนต์ฟอร์ด | 3–1 (A)[115] | 5 กุมภาพันธ์ 2024 |
จาร์ร็อด โบเวน | เวสต์แฮมยูไนเต็ด | 4–2 (H)[116] | 26 กุมภาพันธ์ 2024 | |
ฟิล โฟเดน | แมนเชสเตอร์ซิตี | แอสตันวิลลา | 4–1 (H)[117] | 3 เมษายน 2024 |
โคล พาลเมอร์ | เชลซี | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 4–3 (H)[118] | 4 เมษายน 2024 |
โคล พาลเมอร์4 | เอฟเวอร์ตัน | 5–0 (H) | 15 เมษายน 2024 | |
อาลิง โฮลัน4 | แมนเชสเตอร์ซิตี | วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ | 5–1 (H)[119] | 4 พฤษภาคม 2024 |
ฌ็อง-ฟิลิปป์ มาเตตา | คริสตัลพาเลซ | แอสตันวิลลา | 5–0 (H)[120] | 19 พฤษภาคม 2024 |
4 ผู้เล่นทำประตู 4 ประตู
อันดับ | ผู้เล่น | สโมสร | จำนวนคลีนชีตส์[121] |
---|---|---|---|
1 | ดาบิด รายา | อาร์เซนอล | 16 |
2 | จอร์แดน พิกฟอร์ด | เอฟเวอร์ตัน | 13 |
3 | แบนท์ เลโน | ฟูลัม | 10 |
แอแดร์ซง | แมนเชสเตอร์ซิตี | ||
5 | เอมิเลียโน มาร์ติเนซ | แอสตันวิลลา | 8 |
อ็องเดร ออนานา | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | ||
7 | อาลีซง | ลิเวอร์พูล | 7 |
มาร์ก เฟล็คเคิน | เบรนต์ฟอร์ด | ||
แนตู | บอร์นมัท | ||
10 | แซม จอห์นสโตน | คริสตัลพาเลซ | 6 |
กูลเยลโม วีการีโอ | ทอตนัมฮอตสเปอร์ |
เดือน | ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือน | ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือน | ประตูยอดเยี่ยมประจำเดือน | เซฟยอดเยี่ยมประจำเดือน | อ้างอิง | ||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ผู้จัดการทีม | สโมสร | ผู้เล่น | สโมสร | ผู้เล่น | สโมสร | ผู้เล่น | สโมสร | ||
สิงหาคม | แอนจ์ พอสเตคอกลู | ทอตนัมฮอตสเปอร์ | เจมส์ แมดดิสัน | ทอตนัมฮอตสเปอร์ | คาโอรุ มิโตมะ | ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน | อาลีซง | ลิเวอร์พูล | [126][127][128][129] |
กันยายน | ซน ฮึง-มิน | บรูนู ฟือร์นังดึช | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | โรเบร์ต ซันเชซ | เชลซี | [130][131][132][133] | |||
ตุลาคม | มุฮัมมัด เศาะลาห์ | ลิเวอร์พูล | ซามาน ก็อดดอส | เบรนต์ฟอร์ด | อาลฟงส์ อาเรออลา | เวสต์แฮมยูไนเต็ด | [134][135][136][137] | ||
พฤศจิกายน | เอริก เติน ฮัค | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | แฮร์รี แมไกวร์ | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | อาเลฆันโดร การ์นาโช | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | โธมัส คามินสกี | ลูตันทาวน์ | [138][139][140][141] |
ธันวาคม | อูไน เอเมรี | แอสตันวิลลา | ดอมินิก โชลังเก | บอร์นมัท | อาเลกซิส มัก อาลิสเตร์ | ลิเวอร์พูล | เวส โฟเดริงแฮม | เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด | [142][143][144][145] |
มกราคม | เยือร์เกิน คล็อพ | ลิเวอร์พูล | ดีโยกู ฌอตา | ลิเวอร์พูล | ออสการ์ บอปป์ | แมนเชสเตอร์ซิตี | จอร์แดน พิกฟอร์ด | เอฟเวอร์ตัน | [146][147][148][149] |
กุมภาพันธ์ | มิเกล อาร์เตตา | อาร์เซนอล | รัสมุส ฮอยลุนด์ | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | ค็อบบี ไมนู | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | มาร์ก เฟล็คเคน | เบรนต์ฟอร์ด | [150][151][152][153] |
มีนาคม | อันโดนิ อิราโอลา | บอร์นมัท | โรดริโก มูนิซ | ฟูลัม | มาร์คัส แรชฟอร์ด | มัตซ์ เซ็ลส์ | นอตทิงแฮมฟอเรสต์ | [154][155][156][157] | |
เมษายน | ชอน ไดช์ | เอฟเวอร์ตัน | โคล พาลเมอร์ | เชลซี | โคล พาลเมอร์ | เชลซี | อ็องเดร ออนานา | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | [158][159][160][161] |
รางวัล | ผู้ชนะเลิศ | สโมสร |
---|---|---|
นักฟุตบอลแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอล[162] | ฟิล โฟเดน | แมนเชสเตอร์ซิตี |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.