นายพันเอก พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตน์จาตุรนต์ (2 ธันวาคม พ.ศ. 2426 – 12 สิงหาคม พ.ศ. 2478) มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าออศคาร์นุทิศ อดีตประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตน์จาตุรนต์ | |
---|---|
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ | |
ดำรงตำแหน่ง 2 มีนาคม พ.ศ. 2478 – 12 สิงหาคม พ.ศ. 2478 | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร |
นายกรัฐมนตรี | พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) |
ประสูติ | 2 ธันวาคม พ.ศ. 2426 |
สิ้นพระชนม์ | 12 สิงหาคม พ.ศ. 2478 (51 ปี) |
หม่อม |
|
พระบุตร |
|
ราชวงศ์ | จักรี |
ราชสกุล | จักรพันธุ์ |
พระบิดา | สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงษ์ |
พระมารดา | หม่อมราชวงศ์สว่าง จักรพันธุ์ |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | สยาม |
แผนก/ | กองทัพบกสยาม |
ชั้นยศ | พันเอก |
พระประวัติ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตน์จาตุรนต์ มีพระนามเดิมว่า หม่อมเจ้าออศคาร์นุทิศ จักรพันธุ์ เป็นพระโอรสในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงษ์ ประสูติแต่หม่อมราชวงศ์สว่าง จักรพันธุ์ (ราชสกุลเดิม ศิริวงศ์) ได้รับพระราชทานพระนามจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตามพระนามของสมเด็จพระเจ้าออสการ์ที่ 2 แห่งสวีเดน เพื่อเป็นที่ระลึกในเหตุการณ์ที่เจ้าชายออสการ์ เบอร์นาดอตต์ เคานต์แห่งวิสบอร์ก พระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าออสการ์ที่ 2 เสด็จฯ เยือนประเทศไทยในปี พ.ศ. 2427 ซึ่งสมเด็จเจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี ได้ถวายการรับเสด็จ และกราบทูลว่า[1]
I have just had a new son,and I shall name him Oscar,and should he have a son he shall be called Gustavus.
วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2441 พระองค์เจ้าออศคาร์นุทิศทรงผนวชเป็นสามเณร ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส เป็นพระอุปัชฌาย์ หม่อมเจ้าพระสถาพรพิริพรตเป็นพระศีลาจารย์[2] และผนวชเป็นภิกษุเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2447 ณ พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส เป็นพระอุปัชฌาย์ พระญาณวราภรณ์ (ม.ร.ว.ชื่น สุจิตฺโต) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ผนวชแล้วเสด็จไปประทับ ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร[3]
วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานตราตั้งเป็นองคมนตรี ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย[4][5]
วันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2471 ได้รับโปรดเกล้าให้เป็นผู้รั้งตำแหน่งราชเลขานุการในพระองค์[6] จนถึงวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2472 จึงได้รับโปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งราชเลขานุการในพระองค์[7]
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2478 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสละราชสมบัติ ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติเห็นชอบตามกฎมณเฑียรบาล ให้พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล เป็นพระมหากษัตริย์ สืบพระราชสันตติวงศ์ เป็นพระองค์ที่ 8 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ แต่เนื่องจากขณะนั้นมีพระชนมายุเพียง 9 พรรษา และกำลังศึกษาอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทางรัฐสภาจึงได้กราบทูลเชิญสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ให้ทรงดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ แต่ได้ทรงปฏิเสธด้วยเหตุผลว่าพระองค์ทรงพระชราภาพมากแล้ว และได้ข้อสรุปว่า ให้มีพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นคณะบุคคล เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จำนวน 3 คน จนกว่าจะทรงบรรลุนิติภาวะ คือ[8]
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตน์จาตุรนต์ เป็นประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา
- เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)
พระองค์เจ้าออศคาร์นุทิศ ประทับอยู่ที่วังบริเวณตำบลสนามกระบือ ใกล้คลองรอบกรุง เป็นวังหนึ่งในจำนวน 6 วังที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานที่สร้างให้กับพระราชนัดดา 6 พระองค์ ซึ่งเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนต์รัศมี กรมพระจักรพรรดิพงษ์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ ถนนหลานหลวง ในปัจจุบัน [9]
สิ้นพระชนม์
ในระหว่างที่เป็นประธานคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ กรมหมื่นอนุวัตน์จาตุรนต์ทรงเผชิญปัญหาหลายด้าน โดยเฉพาะการปรับลดเงินปีพระบรมวงศานุวงศ์จนทำให้เจ้านายบางพระองค์ไม่พอพระทัย พระองค์จึงมักไม่ได้รับความเคารพจากเจ้านายบางพระองค์ในระหว่างเสด็จในพระราชพิธีต่าง ๆ[10] ส่วนหม่อมเจ้าพูนพิศมัย ดิศกุล ทรงบันทึกว่ากรมหมื่นอนุวัตน์จาตุรนต์ทรงถูกกดดันจากการที่รัฐบาลฟ้องศาลเพื่อริบพระราชทรัพย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมายังมีปัญหาอื่น ๆ ทั้งเรื่องราชการและส่วนพระองค์รุมเร้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบทรงพระประชวรเรื้อรัง มีพระกายซูบผอมดำลงเรื่อย ๆ จนประชวรพระโรคซึมเศร้า ในที่สุดจึงปลงพระชนม์พระองค์เองด้วยการยิงพระแสงปืนเข้าในพระโอษฐ์ สิ้นพระชนม์บนที่บรรทมเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2478[11] โดยกรมตำรวจบันทึกรายงานการไต่สวนว่าสาเหตุมาจากทรง ประสบกับเหตุลำบากพระทัยในการปฏิบัติงานในฐานที่ทรงเป็นผู้จัดการพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ของพระปกเกล้าฯ[10]มีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2478 ณ พระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร[12]
พระโอรส-ธิดา
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตน์จาตุรนต์ เสกสมรสกับหม่อมจำรัส จักรพันธุ์ ณ อยุธยา (สกุลเดิม ปิยะวัตร; พฤษภาคม พ.ศ. 2427 – กันยายน พ.ศ. 2501) และหม่อมหวน จักรพันธุ์ ณ อยุธยา (สกุลเดิม บุนนาค; มิถุนายน พ.ศ. 2428 – 6 มีนาคม พ.ศ. 2512)[1][13] มีพระโอรสธิดารวม 5 องค์
- หม่อมเจ้าดวงตา สวัสดิวัตน์ (14 ตุลาคม พ.ศ. 2448 – 22 ตุลาคม พ.ศ. 2525) ในหม่อมจำรัส เสกสมรสกับหม่อมเจ้าสวัสดีประดิษฐ์ สวัสดิวัตน์ (16 กรกฎาคม พ.ศ. 2449 – 2 สิงหาคม พ.ศ. 2519) มีธิดา 2 คน
- พลโท หม่อมเจ้าคัสตาวัส จักรพันธุ์ (30 สิงหาคม พ.ศ. 2449 – 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2526) ในหม่อมหวน เสกสมรสกับหม่อมเจ้าทิตยาทรงกลด จักรพันธุ์ (ราชสกุลเดิม รพีพัฒน์; 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2459 – 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553) มีโอรสและธิดา 3 คน
- หม่อมเจ้าสรัทกาล (23 สิงหาคม พ.ศ. 2451 – 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2454) ในหม่อมหวน
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ (27 กรกฎาคม พ.ศ. 2452 – 13 ตุลาคม พ.ศ. 2536) ในหม่อมจำรัส เสกสมรสกับหม่อมวิภา จักรพันธุ์ ณ อยุธยา (สกุลเดิม เก่งระดมยิง; พ.ศ. 2460 – มกราคม พ.ศ. 2548) ต่อมาทรงหย่าและเสกสมรสอีกครั้งกับหม่อมประพาล จักรพันธุ์ ณ อยุธยา (สกุลเดิม รจนานนท์; 12 สิงหาคม พ.ศ. 2472 – 17 มกราคม พ.ศ. 2563) มีธิดารวม 6 คน
- หม่อมเจ้าลุอิสาณ์ ดิศกุล[14] ท.จ.ว.,ภ.ป.ร.3 (18 มกราคม พ.ศ. 2453 - 23 ธันวาคม พ.ศ. 2537) ในหม่อมหวน มีพระนามลำลองว่าท่านหญิงหลุยส์ เสกสมรสกับหม่อมเจ้าดิศานุวัติ ดิศกุล ท.จ. (4 สิงหาคม พ.ศ. 2445 – 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2520) มีโอรสและธิดา 3 คน
พระอิสริยยศและพระเกียรติยศ
พระอิสริยยศ
- 2 ธันวาคม พ.ศ. 2426 – 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2436 : หม่อมเจ้าออศคาร์นุทิศ จักรพันธุ์
- 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2436 – 12 เมษายน พ.ศ. 2443 : พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าออศคาร์นุทิศ[15]
- 12 เมษายน พ.ศ. 2443 – 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463 : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าออศคาร์นุทิศ[16]
- 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2463 – 12 สิงหาคม พ.ศ. 2478 : พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตน์จาตุรนต์[17]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2463 – เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ (ม.จ.ก.) (ฝ่ายหน้า)[18]
- พ.ศ. 2456 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ชั้นที่ 1 เสนางคะบดี (ส.ร.)
- พ.ศ. 2472 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)
- พ.ศ. 2469 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
- พ.ศ. 2470 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) (ฝ่ายหน้า)
- พ.ศ. 2471 – เหรียญดุษฎีมาลา เข็มราชการในพระองค์ (ร.ด.ม.(พ))[19]
- พ.ศ. 2456 – เหรียญดุษฎีมาลา เข็มกล้าหาญ (ร.ด.ม.(ห))
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)
- พ.ศ. 2465 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 6 ชั้นที่ 3 (ว.ป.ร.3)
- พ.ศ. 2477 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 7 ชั้นที่ 1 (ป.ป.ร.1)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 8 ชั้นที่ 1 (อ.ป.ร.1)
พระยศ
พระยศทางทหาร
พงศาวลี
พงศาวลีของพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตน์จาตุรนต์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
Wikiwand in your browser!
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.