ประเทศบังกลาเทศ
From Wikipedia, the free encyclopedia
บังกลาเทศ (เบงกอล: বাংলাদেশ บังลาเทศ) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ (เบงกอล: গণপ্রজাতন্ত্রী বাংলাদেশ) เป็นประเทศในเอเชียใต้ ซึ่งครอบครองเนื้อที่ในส่วนตะวันตกของภูมิภาคเบงกอล มีประชากรราว 165 ล้านคน ถือเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับแปดของโลก ด้วยพื้นที่ 148,460 ตารางกิโลเมตร (57,320 ตารางไมล์) บังกลาเทศจึงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหนาแน่นประชากรมากที่สุดในโลก มีอาณาเขตติดกับอินเดียทางทิศเหนือ ทิศตะวันออก และตะวันตก ติดกับพม่าทางตะวันออกเฉียงใต้ และติดอ่าวเบงกอลทางทิศใต้ เมืองหลวงของประเทศคือธากาซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการปกครอง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของประเทศ โดยมีจิตตะกองเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองซึ่งเป็นท่าเรือที่คับคั่งมากที่สุดในอ่าวเบงกอล ภาษาราชการคือภาษาเบงกอลซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูลภาษาอินโด-ยูโรเปียน คำว่า "บังกลาเทศ (Bangladesh)" หมายถึง "ประเทศแห่งเบงกอล"
สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ
| |
---|---|
เมืองหลวง และเมืองใหญ่สุด | ธากา 23°45′50″N 90°23′20″E |
ภาษาราชการ และภาษาประจำชาติ | เบงกอล[4] |
กลุ่มชาติพันธุ์ (ค.ศ. 2011[5]) |
|
ศาสนา (ค.ศ. 2020 โดยสำนักวิจัยพิว[6]) | |
การปกครอง | รัฐเดี่ยว สาธารณรัฐระบบรัฐสภา ระบบพรรคเด่น |
โมฮัมหมัด ชาฮาบุดดิน [7] | |
• นายกรัฐมนตรี | เศข หาสินา |
• ประธานสภา | Shirin Sharmin Chaudhury |
• หัวหน้าศาล | Hasan Foez Siddique |
สภานิติบัญญัติ | รัฐสภาแห่งชาติ |
เอกราช จากปากีสถาน | |
• ประกาศ | 26 มีนาคม ค.ศ. 1971 |
• วันชัย | 16 ธันวาคม ค.ศ. 1971 |
• รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน | 16 ธันวาคม ค.ศ. 1972 |
พื้นที่ | |
• รวม | 148,460[8] ตารางกิโลเมตร (57,320 ตารางไมล์) (อันดับที่ 92[8]) |
6.4 | |
• พื้นที่ดิน | 130,170 ตร.กม.[8] |
• พื้นที่น้ำ | 18,290 ตร.กม.[8] |
ประชากร | |
• สำมะโนประชากร ค.ศ. 2023 | 169,828,911[9] (อันดับที่ 8) |
1,305 ต่อตารางกิโลเมตร (3,379.9 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 7) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | ค.ศ. 2023 (ประมาณ) |
• รวม | 1.475 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ[10] (อันดับที่ 25) |
• ต่อหัว | 8,663 ดอลลาร์สหรัฐ[10] (อันดับที่ 128) |
จีดีพี (ราคาตลาด) | ค.ศ. 2023 (ประมาณ) |
• รวม | 421 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[10] (อันดับที่ 37) |
• ต่อหัว | 2,469 ดอลลาร์สหรัฐ[10] (อันดับที่ 145) |
จีนี (ค.ศ. 2021) | 32.4[11] ปานกลาง |
เอชดีไอ (ค.ศ. 2021) | 0.661[12] ปานกลาง · อันดับที่ 129 |
สกุลเงิน | ฏากา (৳) (BDT) |
เขตเวลา | UTC+6 (เวลามาตรฐานบังกลาเทศ) |
รูปแบบวันที่ | <abbr {{#if:-<abbr {{#if:-<abbr {{#if: (สากลศักราช) |
ขับรถด้าน | ซ้ายมือ |
รหัสโทรศัพท์ | +880 |
รหัส ISO 3166 | BD |
โดเมนบนสุด | .bd .বাংলা |
ดินแดนของบังกลาเทศเคยเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นเบงกอลก่อนจะแยกตัวออกมาจากการแบ่งแยกอินเดียใน พ.ศ. 2490[13] ชาวมุสลิมเบงกาลีเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ แคว้นเบงกอลในอดีตเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญของอนุทวีปอินเดีย โดยเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรโบราณมากมาย อาทิ วานกา ปันดรา คงคาริได เกาดา และ หริกาลา ราชวงศ์โมริยะ จักรวรรดิคุปตะ จักรวรรดิปาละ ราชวงศ์เสนะ อาณาจักรจันดรา และอาณาจักรเทวา เคยเป็นผู้ปกครองในบริเวณนี้ ก่อนที่การพิชิตเบงกอลของชาวมุสลิมจะเริ่มขึ้นใน พ.ศ. 1747 เมื่อ มูฮัมหมัด บิน บัคติยาร์ คัลจี แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์กูริดพิชิตดินแดนทางเหนือของเบงกอลตามด้วยการรุกรานทิเบต และดินแดนทั้งหมดกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเดลีสุลต่าน นครรัฐสามแห่งถือกำเนิดขึ้นประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 14 ผู้นำแห่งลัทธิศูฟี ได้แก่ สุลต่าน บาลคี, ชาห์ จาลาล และชาห์ มัคดัม รูโปส มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ศาสนาและวัฒนธรรมของชาวมุสลิม ต่อมา ดินแดนส่วนใหญ่รวมตัวกันเป็นอาณาจักรสุลต่านแห่งเบงกอล ในศตวรรษที่ 14 ถึง 16 ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิโมกุล รัฐเบงกอลตะวันออกเจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่องโดยเป็นศูนย์กลางของชาวมุสลิมบริเวณอนุทวีป และดึงดูดพ่อค้าจากทั่วโลก ในช่วงเวลานี้ ชนชั้นสูงชาวเบงกาลีถือเป็นหนึ่งในกลุ่มสังคมที่มีฐานะมั่งคั่งที่สุดในโลกจากการมีพันธมิตรทางการค้าจำนวนมาก รายได้หลักมาจากการค้าผ้าทอมัสลินที่มีชื่อเสียง[14] อาณาจักรยังเจริญรุ่งเรืองต่อเนื่องในช่วงศตวรรษที่ 18 ต่อมาใน พ.ศ. 2300 การทรยศของ มีร์ จาฟาร์ นำไปสู่การสิ้นอำนาจของ ศรีรัช อุดดอลา สหราชอาณาจักรในนามบริษัทอินเดียตะวันออกเข้ามาเรืองอำนาจในภูมิภาคเอเชียใต้ ภูมิภาคเบงกอลกลายเป็นหน่วยการปกครองที่ใหญ่ที่สุดในเขตปกครองและมณฑลของบริติชอินเดีย การก่อตั้งรัฐเบงกอลตะวันออกและรัฐอัสสัมใน พ.ศ. 2448 เป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งประเทศ และในปี 2483 นายกรัฐมนตรีคนแรกแห่งรัฐเบงกอลได้สนับสนุน มติละฮอร์ หรือที่รู้จักกันในนาม "มติแห่งปากีสถาน" ด้วยปณิธานในการสร้างรัฐบริเวณตะวันออกของภูมิภาคเอเชียใต้ นายกรัฐมนตรีแห่งเบงกอลยังได้เสนอให้มีการจัดตั้งรัฐอธิปไตยของชาวเบงกาลี ก่อนจะมีการแบ่งแยกดินแดน การลงประชามติและการแบ่งแยกดินแดนโดยอิงเส้นแรดคลิฟฟ์ได้กำหนดเขตแดนของบังกลาเทศในปัจจุบัน
ในปี 2490 เบงกอลตะวันออกกลายเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดของปากีสถานในเครือจักรภพ ก่อนจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็นปากีสถานตะวันออกโดยมีธากาเป็นเมืองหลวง เหตุการณ์สำคัญ ได้แก่ ขบวนการภาษาเบงกาลีปี 2495, การเลือกตั้งสภานิติบัญญัติของเบงกาลีตะวันออกปี 2497, การรัฐประหารของปากีสถานปี 2501, การเคลื่อนไหวหกจุดในปี 2509 และการเลือกตั้งทั่วไปของปากีสถานในปี 2513 ส่งผลให้ลัทธิชาตินิยมเบงกาลีและขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยเพิ่มขึ้นในปากีสถานตะวันออก การปฏิเสธการถ่ายโอนอำนาจของรัฐบาลเผด็จการไปยังสันนิบาตอวามีซึ่งนำโดย ชีค มูจิบูร์ เราะห์มาน นำไปสู่สงครามปลดปล่อยบังกลาเทศในปี 2514 และจบลงด้วยชัยชนะของขบวนการปฏิวัติซึ่งได้รับความช่วยเหลือทางอาวุธจากอินเดีย ทว่าความขัดแย้งยังทวีความรุนแรงต่อเนื่องนำไปสู่พันธุฆาตครั้งใหญ่ และการสังหารหมู่พลเรือนเบงกาลี รัฐใหม่ของบังกลาเทศกลายสภาพเป็นรัฐโลกวิสัยแห่งแรกในเอเชียใต้ตามรัฐธรรมนูญในปี 2515[15] ศาสนาอิสลามได้รับการประกาศให้เป็นศาสนาประจำชาติในปี 2531[16][17][18]
บังกลาเทศเป็นประเทศอำนาจปานกลางในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก[19] มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในเอเชียใต้ และมีกองทัพที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามในภูมิภาคและอันดับแปดของโลก จากการมีบทบาทสำคัญในการร่วมรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ บังกลาเทศยังมีกองกำลังกึ่งทหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นประเทศที่มีชาวมุสลิมมากเป็นอันดับสามของโลก บังกลาเทศเป็นรัฐเดี่ยวด้วยระบบรัฐสภา และปกครองแบบสาธารณรัฐโดยอิงตามระบบเวสต์มินสเตอร์ ชาวเบงกอลเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศโดยคิดเป็นอัตราส่วนสูงถึงร้อยละ 99[20] ประเทศประกอบไปด้วย 8 ภาค 64 อำเภอ และ 495 ตำบล[21] และถือเป็นหนึ่งในที่อยู่อาศัยของผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกสืบเนื่องจากการกวาดล้างชาวโรฮีนจา[22] ปัญหาสำคัญในปัจจุบันคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ[23] ส่งผลให้รัฐบาลมีบทบาทในการเป็นหนึ่งในผู้นำกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน และยังเป็นสมาชิกของบิมสเทค รวมทั้งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมเอเชียใต้เพื่อความร่วมมือระดับภูมิภาค และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในองค์การความร่วมมืออิสลาม และเครือจักรภพแห่งประชาชาติ