รัฐประหาร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

รัฐประหาร

รัฐประหาร (ฝรั่งเศส: coup d'état หรือ coup) เป็นความพยายามที่ผิดกฎหมายและเปิดเผยโดยกองทัพหรือชนชั้นสูงอื่น ๆ ในรัฐบาล เพื่อถอดถอนผู้นำที่ดำรงตำแหน่งอยู่[1][2] ส่วนรัฐประหารตัวเองเป็นสิ่งที่ผู้นำที่ขึ้นสู่อำนาจโดยวิธีทางกฎหมาย พยายามจะอยู่ในอำนาจด้วยวิธีที่ผิดกฎหมาย[2]

Thumb
นายพล นโปเลียน โบนาปาร์ต ในช่วงรัฐประหาร 18 บรูว์แมร์ที่แซ็ง-กลู ภาพวาดโดยฟร็องซัว บูโช ใน ค.ศ. 1840

จากการประมาณการครั้งหนึ่ง มีการพยายามรัฐประหาร 457 ครั้งระหว่างปี พ.ศ. 2493 ถึง 2553 ซึ่งครึ่งหนึ่งทำได้สำเร็จ ในจำนวนนี้มีครึ่งหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ[1] ความพยายามรัฐประหารส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1960 แต่ก็มีความพยายามรัฐประหารจำนวนมากที่เกิดขึ้นในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1970 ถึงต้นคริสต์ทศวรรษ 1990[1] การรัฐประหารที่เกิดขึ้นในสมัยหลังสงครามเย็นมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้เกิดระบอบประชาธิปไตยมากกว่ารัฐประหารในสงครามเย็น[3][4][5] แม้ว่าการรัฐประหารส่วนใหญ่ยังคงปกครองแบบอำนาจนิยมต่อไป[6]

ปัจจัยที่อาจนำไปสู่การเกิดรัฐประหารและตัวกำหนดความสำเร็จหรือล้มเหลวของการรัฐประหารมีอยู่หลายปัจจัย เมื่อเกิดรัฐประหารขึ้น ความสำเร็จในการทำรัฐประหารจะได้รับการขับเคลื่อนด้วยความสามารถของผู้ทำรัฐประหารในการให้ชนชั้นสูงและสาธารณชนเชื่อว่าความพยายามรัฐประหารจะประสบความสำเร็จ[7] เมื่อเวลาผ่านไป จำนวนรัฐประหารที่ประสบความสำเร็จมีจำนวนลดลง[1] การรัฐประหารที่ล้มเหลวในระบอบอำนาจนิยมมีแนวโน้มที่จะทำให้อำนาจของผู้ปกครองเผด็จการเข้มแข็งขึ้น[8][9] จำนวนรัฐประหารสะสมเป็นตัวทำนายการรัฐประหารในอนาคตได้อย่างชัดเจน ปรากฏการณ์นี้มีชื่อเรียกว่า "กับดักรัฐประหาร" (coup trap)[10][11][12][13]

ส่วน "มาตรการป้องกันรัฐประหาร" (coup-proofing) เป็นสิ่งที่ระบอบการปกครองสร้างโครงสร้างที่ทำให้กลุ่มเล็กใด ๆ ยึดอำนาจได้ยาก ยุทธศาสตร์ป้องกันการรัฐประหารเหล่านี้อาจรวมถึงการวางครอบครัว ชาติพันธุ์ และกลุ่มศาสนาในกองทัพตามเชิงยุทธศาสตร์ และการกระจายตัวหน่วยงานทางทหารและหน่วยความมั่นคง[14] อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ทำให้ประสิทธิผลฝ่ายทหารลดลง[15][16][17][18][19][20] เหตุผลหนึ่งที่รัฐบาลเผด็จการมีแนวโน้มที่จะมีทหารที่ไร้ความสามารถก็คือ รัฐบาลเผด็จการกลัวว่าทหารจะก่อรัฐประหารหรือปล่อยให้เกิดการลุกฮือในประเทศอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ ผู้ปกครองเผด็จการจึงมีแรงจูงใจที่จะวางผู้จงรักภักดีที่ไร้ความสามารถในตำแหน่งสำคัญของกองทัพ[21]

ผลลัพธ์

การรัฐประหารที่ประสบความสำเร็จเป็นหนึ่งในวิธีการเปลี่ยนระบอบการปกครองที่ขัดขวางการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติ[22][23] งานวิจัยใน พ.ศ. 2559 จัดผลลัพธ์ของรัฐประหารในระบอบเผด็จการที่เป็นไปได้ 4 รูปแบบ:[4]

  • รัฐประหารล้มเหลว
  • ไม่มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง เช่น เมื่อผู้นำถูกสับเปลี่ยนอำนาจอย่างผิดกฎหมาย โดยไม่เปลี่ยนสถานะกลุ่มที่มีอำนาจหรือกฎหมายในการปกครอง
  • แทนที่ผู้ดำรงตำแหน่งด้วยเผด็จการคนอื่น
  • การโค่นล้มเผด็จการที่ตามมาด้วยประชาธิปไตย (มีชื่อเรียกว่า "democratic coups")[24]

รัฐประหารที่เกิดขึ้นในสมัยหลังสงครามเย็นมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้เกิดระบอบประชาธิปไตยมากกว่ารัฐประหารในสงครามเย็น[3][4][5] แม้ว่าการรัฐประหารส่วนใหญ่ยังคงใช้ระบอบอำนาจนิยมต่อไป[6] การรัฐประหารที่เกิดขึ้นในระหว่างสงครามกลางเมืองทำให้สงครามมีระยะเวลาสั้นลง[25]

ตัวทำนาย

สรุป
มุมมอง

บทวิจารณ์วรรณกรรมทางวิชาการใน พ.ศ. 2546 พบว่า ปัจจัยดังต่อไปนี้มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดรัฐประหาร

  • ความไม่พอใจส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่รัฐ
  • ความไม่พอใจของหน่วยงานทางทหาร
  • ความเป็นที่นิยมของกองทัพ
  • ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทางเจตคติของกองทัพ
  • การตกต่ำทางเศรษฐกิจ
  • วิกฤตการเมืองท้องถิ่น
  • อิทธิพลจากรัฐประหารในภูมิภาค
  • ภัยคุกคามจากภายนอก
  • การเข้ามีส่วนร่วมในสงคราม
  • การสมรู้ร่วมคิดกับอำนาจทางการทหารจากต่างประเทศ
  • หลักยึดเหนี่ยวของกองทัพต่อความมั่นคงของรัฐ
  • วัฒนธรรมทางการเมืองของเจ้าหน้าที่รัฐ
  • หน่วยงานที่ขาดการมีส่วนร่วมทางการบริหาร
  • ประวัติของการเป็นอาณานิคม
  • การพัฒนาเศรษฐกิจ
  • การส่งออกที่ไม่กระจายรูปแบบ
  • องค์ประกอบทางชนชั้นของเจ้าหน้าที่รัฐ
  • ขนาดของกองทัพ
  • ความเข้มแข็งของสังคมภาคพลเมือง
  • ความน่าไว้วางใจของระบบการปกครอง
  • ประวัติการเกิดรัฐประหารในรัฐ[26][10]

บทวิจารณ์วรรณกรรมใน พ.ศ. 2559 มีการกล่าวถึงปัจจัยอื่นเพิ่มเข้ามา เช่น ความแตกย่อยเป็นกลุ่มของกลุ่มชาติพันธุ์ (ethnic factionalism), การสนับสนุนจากรัฐบาลต่างประเทศ, ความขาดประสบการณ์ของผู้นำ, การเติบโตที่เป็นไปอย่างเชื่องช้า, การสูงขึ้นของค่าครองชีพอย่างฉับพลัน และความยากจน[27]

กับดักรัฐประหาร

ตัวทำนายที่สำคัญหนึ่งของการเกิดรัฐประหารในอนาคตคือจำนวนรัฐประหารสะสมในอดีต[10][11][12]

ระบอบการปกครองและการแบ่งขั้ว

ระบบการปกครองแบบผสมมีแนวโน้มที่จะเกิดรัฐประหารมากกว่ารัฐเผด็จการหรือรัฐประชาธิปไตย[28]

ความเหลื่อมล้ำทางสังคมก็เป็นอีกตัวแปรที่ทำให้มีแนวโน้มเกิดรัฐประหารเพิ่มขึ้น[29]

รายชื่อผู้นำจากรัฐประหารในปัจจุบัน

สรุป
มุมมอง

ตารางด้านล่างแสดงรายชื่อประเทศและผู้นำที่เข้าสู่อำนาจจากรัฐประหาร และยังคงอยู่ในตำแหน่งในปัจจุบัน

ข้อมูลเพิ่มเติม ตำแหน่ง, ผู้นำจากรัฐประหาร ...
ตำแหน่ง ผู้นำจากรัฐประหาร ผู้นำที่ถูกปลด ประเทศ เหตุการณ์ วันที่
ประธานาธิบดีเตโอโดโร โอเบียง อึงเกมา อึมบาโซโกฟรันซิสโก มาซิอัส อึงเกมา อิเควทอเรียลกินีรัฐประหารในประเทศอิเควทอเรียลกินี ค.ศ. 19793 สิงหาคม พ.ศ. 2522
ประธานาธิบดีโยเวรี มูเซเวนีตีโต โอเคลโล ยูกันดาสงครามบุช ยูกันดา29 มกราคม พ.ศ. 2529
ประธานาธิบดีเอมอมาลี ราห์มอนราห์มอน นาบีเยฟ[n 1] ทาจิกิสถานสงครามกลางเมืองทาจิกิสถาน19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2535
ประธานาธิบดีเดอนี ซาซู-อึนแกโซปาสกัล ลิสซูบา คองโกสงครามกลางเมืองสาธารณรัฐคองโก25 ตุลาคม พ.ศ. 2540
ประธานาธิบดีอับดุลฟัตตาห์ อัสซีซีมุฮัมมัด มุรซี อียิปต์รัฐประหารในประเทศอียิปต์ พ.ศ. 25563 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
ประธานสภาการเมืองสูงสุดมะห์ดี อัลมาซัตอับดราบบูห์ มันซูร์ หะดี[n 2] เยเมนรัฐประหารในประเทศเยเมน ค.ศ. 2014–20156 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
ประธานาธิบดีเอ็มเมอร์สัน อึมนังกากวารอเบิร์ต มูกาบี[n 3] ซิมบับเวรัฐประหารในประเทศซิมบับเว ค.ศ. 201724 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
ประธานสภาเปลี่ยนผ่านอธิปไตยอับดุลฟัตตาห์ อัลบุรฮานอุมัร อัลบะชีร ซูดานรัฐประหารในประเทศซูดาน ค.ศ. 201921 สิงหาคม พ.ศ. 2562
ประธานสภาบริหารแห่งรัฐมี่นอองไลง์อองซานซูจี พม่ารัฐประหารในประเทศพม่า พ.ศ. 25641 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564
ประธานกรรมการแห่งชาติเพื่อความอยู่รอดของประชาชนอัสซิมี โกอิตาบาห์ เอ็นดาอู มาลีรัฐประหารในประเทศมาลี ค.ศ. 202125 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
ประธานาธิบดีก็อยส์ ซะอีดฮิเชม เมชิชิ[n 4] ประเทศตูนิเซียวิกฤตการการเมืองตูนิเซีย ค.ศ. 202125 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
ประธานคณะกรรมการปรองดองและพัฒนาแห่งชาติมามาดี ดูมบูยาอาลฟา กงเด กินีรัฐประหารในประเทศกินี พ.ศ. 25645 กันยายน พ.ศ. 2564
ประธานขบวนการรักชาติเพื่อการปกป้องและการฟื้นฟูอิบราฮิม ตราโอเร่ปอล-อ็องรี ดามีบา บูร์กินาฟาโซรัฐประหารในประเทศบูร์กินาฟาโซ กันยายน ค.ศ. 202230 กันยายน พ.ศ. 2565
ประธานสภาแห่งชาติเพื่อการคุ้มกันบ้านเกิดเมืองนอนอาบดูราอามาน ชียานีมุฮัมมัด บาซูม ไนเจอร์รัฐประหารในประเทศไนเจอร์ พ.ศ. 256626 กรกฎาคม พ.ศ. 2566
หัวหน้าคณะกรรมาธิการเพื่อการเปลี่ยนผ่านและฟื้นฟูรัฐธรรมนูญบรีซ โคลแตร์ ออลีกี เงมาอาลี บองโก ออนดิมบา กาบองรัฐประหารในประเทศกาบอง พ.ศ. 256630 สิงหาคม พ.ศ. 2566
ปิด
  1. นาบีเยฟถูกกองทหารบังคับให้ลาออกเมื่อ 7 กันยายน พ.ศ. 2535[30]
  2. หะดีถูกกบฏฮูตีบังคับให้ลาออก
  3. มูกาเบลาออกเมื่อ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560
  4. ไม่ใช่ประธานาธิบดี แต่เป็นนายกรัฐมนตรีที่ถูกประธานาธิบดียึดอำนาจ

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

บรรณานุกรม

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.