ที่ราบสูงโกลัน
From Wikipedia, the free encyclopedia
ที่ราบสูงโกลัน (อาหรับ: هضبة الجولان, อักษรโรมัน: Haḍbatu l-Jawlān or مرتفعات الجولان Murtafaʻātu l-Jawlān, ฮีบรู: רמת הגולן) เป็นภูมิภาคในลิแวนต์ที่มีเนื้อที่ราว 1,800 ตารางกิโลเมตร (690 ตารางไมล์) ความหมายของที่ราบสูงโกลันแตกต่างไปตามสาขาวิชา ในทางธรณีวิทยาและชีวภูมิศาสตร์ ที่ราบสูงโกลันหมายถึงที่ราบสูงหินบะซอลต์ที่มีอาณาบริเวณแม่น้ำยาร์มุกทางใต้ ทะเลกาลิลีและหุบเขาฮูลาทางตะวันตก เทือกเขาแอนติเลบานอนและภูเขาเฮอร์มอนทางเหนือ และ Ruqqad ทางตะวันออก ขณะที่ในทางภูมิรัฐศาสตร์จะหมายถึงพื้นที่ของซีเรียที่ถูกอิสราเอลยึดครองในสงครามหกวันเมื่อปี ค.ศ. 1967 และปกครองโดยอิสราเอลตั้งแต่ปี ค.ศ. 1981
ที่ราบสูงโกลัน هضبة الجولان רמת הגולן | |
---|---|
ที่ตั้งของที่ราบสูงโกลัน | |
พิกัด: 32°58′54″N 35°44′58″E | |
สถานภาพ | นานาชาติถือเป็นพื้นที่ของซีเรียที่ถูกอิสราเอลยึดครอง[1] ดูเนื้อหา |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 1,800 ตร.กม. (700 ตร.ไมล์) |
• ยึดครองโดยอิสราเอล | 1,200 ตร.กม. (500 ตร.ไมล์) |
• ควบคุมโดยซีเรีย (รวมเขต UNDOF 235 km2) | 600 ตร.กม. (200 ตร.ไมล์) |
ความสูงจุดสูงสุด | 2,814 เมตร (9,232 ฟุต) |
ความสูงจุดต่ำสุด | −212 เมตร (−696 ฟุต) |
ประชากร | |
• ทั้งหมด | 40,000–49,700 คน |
• อาหรับ | 20,000–25,700 คน |
• ยิว | 20,000–22,300 คน |
เขตเวลา | UTC+2 |
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | UTC+3 |
หลักฐานแรกสุดที่ชี้ว่ามนุษย์ตั้งถิ่นฐานในที่ราบสูงโกลันอยู่ในช่วงปลายยุคหิน[5] ในคัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่าที่ราบสูงแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเบชัน อาณาจักรของชาวอามูร์ที่ถูกวงศ์วานอิสราเอลพิชิต[6] ในคัมภีร์โทราห์ระบุว่าที่ราบสูงโกลันเป็น "ศูนย์กลางของการแย่งชิงอำนาจระหว่างกษัตริย์แห่งอิสราเอลกับชาวแอราเมียนที่มีฐานอยู่ใกล้ดามัสกัสในปัจจุบัน"[7] หลังอัสซีเรียและบาบิโลเนียเสื่อมอำนาจ เปอร์เซียได้เข้ามามีอำนาจและอนุญาตให้ชาวยิวกลับมาอาศัยยังที่ราบสูงนี้หลังถูกกวาดต้อนมาจากเยรูซาเลมที่เสียเมืองให้แก่พระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ที่ 2 แห่งบาบิโลเนีย[8] ต่อมาในศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล ชาวอิทูเรียนตั้งรกรากที่นี่และอาศัยเรื่อยมาจนสิ้นยุคไบแซนไทน์[9] หลังจากนั้นมีชนหลายกลุ่มอาศัยในที่ราบสูงโกลัน เช่น เบดูอิน ดรูซ เติร์กเมน และเซอร์คัสเซียน[10]
นับตั้งแต่สงครามหกวัน พื้นที่ทางตะวันตกสองในสามของที่ราบสูงโกลันถูกยึดและปกครองโดยอิสราเอล[11] ขณะที่พื้นที่ทางตะวันออกอยู่ใต้การปกครองของซีเรีย ซีเรียปฏิเสธที่จะเจรจากับอิสราเอลตามข้อมติคาร์ทูมหลังสงคราม[12] ในปี ค.ศ. 1974 มีการจัดตั้งพื้นที่กันชนที่ดูแลโดยกองกำลังสังเกตการณ์การถอนกำลังแห่งสหประชาชาติ (UNDOF) ระหว่างอิสราเอล–ซีเรีย[13] ด้านอิสราเอลปกครองส่วนที่ยึดได้ด้วยกำลังทหารจนกระทั่งมีการผ่านกฎหมายปกครองในปี ค.ศ. 1981 ซึ่งบางฝ่ายมองว่าเป็นการผนวกดินแดน[14] ฝ่ายคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประณามการผ่านกฎหมายนี้ โดยกล่าวว่า "การตัดสินใจของอิสราเอลในการบังคับใช้กฎหมาย เขตอำนาจ และการจัดการการปกครองที่ราบสูงโกลันที่ยึดครองจากซีเรียถือเป็นโมฆะ และไม่มีผลทางกฎหมายระหว่างประเทศ"[15] คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติยังเน้นย้ำถึง "การถือครองดินแดนด้วยสงครามเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้" ตามข้อมติที่ 242 ซึ่งอิสราเอลก็อ้างสิทธิ์ในการถือครองที่ราบสูงนี้ตามข้อมติเดียวกันที่เรียกร้องให้มี "เขตแดนที่ปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับ ปลอดจากภัยคุกคามและกำลังทหาร"[16] เมื่อเกิดสงครามกลางเมืองซีเรียในปี ค.ศ. 2011 การปกครองที่ราบสูงโกลันของซีเรียแตกออกเป็นฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้าน และกลายเป็นสมรภูมิรบของทั้งสองฝ่ายจนในปี ค.ศ. 2018 ฝ่ายรัฐบาลก็มีชัยและควบคุมฝั่งตะวันออกไว้ได้[17]
ในปี ค.ศ. 2019 ดอนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศยอมรับที่ราบสูงโกลันเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอล ทำให้สหรัฐกลายเป็นชาติแรกที่ยอมรับอำนาจอธิปไตยของอิสราเอลเหนือที่ราบสูงนี้[18] ด้านสหภาพยุโรปประกาศไม่ยอมรับอำนาจอธิปไตยของอิสราเอลเหนือที่ราบสูงโกลัน[19] ขณะที่อังตอนียู กูแตรึช เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่า "สถานภาพของที่ราบสูงโกลันนั้นไม่เปลี่ยนแปลง"[20]