Loading AI tools
หน่วยการบินนาวีสังกัดกองเรือยุทธการ กองทัพเรือไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กองการบินทหารเรือ (อังกฤษ: Royal Thai Naval Air Division หรือ RTNAD[4]) เป็นการบินนาวีของกองทัพเรือไทย สังกัดกองเรือยุทธการ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2464[5] กองการบินทหารเรือประกอบไปด้วยกองบิน 2 กองบิน และหน่วยบิน 1 หน่วยของเรือหลวงจักรีนฤเบศร ปฏิบัติการด้วยอากาศยานปีกตรึง 23 ลำ และเฮลิคอปเตอร์ 26 ลำ[3]จากอู่ตะเภา สงขลา และภูเก็ต กองบิน 1 มี 3 ฝูงบิน; กองบิน 2 มี 3 ฝูงบิน และอีก 1 กองบินสำหรับหน่วยบินเรือหลวงจักรีนฤเบศร
กองการบินทหารเรือ | |
---|---|
เครื่องหมายอากาศยานกองทัพเรือไทย | |
ประจำการ | 7 ธันวาคม พ.ศ. 2464[1] |
ประเทศ | ไทย |
เหล่า | กองทัพเรือไทย |
รูปแบบ | การบินนาวี |
กำลังรบ | กำลังพล 1,200 นาย [2] อากาศยานมากกว่า 49 ลำ[3] |
วันสถาปนา | 7 ธันวาคม[1] |
เครื่องหมายสังกัด | |
เครื่องหมายอากาศยาน |
การก่อตั้งกองการบินทหารเรือเริ่มต้นขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2464 เมื่อพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระราชทานความเห็นต่อสภาบัญชาการ กระทรวงทหารเรือ ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2464[1] ให้ก่อตั้งกองบินทะเลขึ้นโดยใช้สัตหีบเป็นฐาน และเริ่มต้นจากเครื่องบินทะเล 2 ลำ และเสนอให้ นายนาวาเอก พระประติยัตินาวายุทธ (พลเรือโท พระยาราชวังสัน) ซึ่งกำลังไปศึกษาดูงานที่ยุโรปศึกษาระเบียบเกี่ยวกับการจัดหาเครื่องบินทะเล และเลือกนายทหารที่มีคุณสมบัติเหมาะสมไปฝึกหัดการบินกับกรมการบินทหารบก[5] ซึ่งต่อมาสภาบัญชาการอนุมัติข้อเสนอนี้เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2469[1] และมอบหมายให้กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ดำเนินโครงการต่อ[5]
จากนั้นในยุคของสมเด็จเจ้าฟ้าอัษฏางค์ภานุพันธ์ทรงมีดำริที่จะจัดตั้งแผนกการบินทหารเรือขึ้นตามแบบของประเทศตะวันตก เนื่องจากในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าอากาศยานมีบทบาทสำคัญในการป้องกันประเทศ ซึ่งการปฏิบัติการทางทะเลก็มีความสำคัญเช่นกันในการรักษาทะเลและชายฝั่ง รวมไปถึงการลาดตระเวน โจมตี คุ้มกัน หรือการช่วยเหลือผู้ประสบภัยซึ่งอากาศยานทางบกอาจจะไม่สามารถปฏิบัติการห่างจากฝั่งมากได้ และการปฏิบัติการร่วมกับเรือรบจะต้องมีความเข้าใจในการรบทางเรือ มีความสามารถในการขึ้นลงในทะเลสำหรับการส่งกำลังบำรุงจากเรือในทะเลได้ สามารถปฏิบัติการได้จากทุกพื้นที่ กระทรวงทหารเรือจึงจัดตั้งหน่วยบินนาวีขึ้น และได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหม กองทัพเรือจึงส่งนายทหารเรือ 2 นาย คือ เรือเอก หลวงพลสินธวาณัติก์ และเรือเอก เจริญ ทุมมานนท์ ไปศึกษาต่อวิชาการบินและตรวจการณ์จากกรมอากาศยานทหารบก แต่ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งได้เกิดสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกรวมไปถึงประเทศไทย ทำให้ต้องลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้การบินทหาเรือไม่ได้รับการสานต่อในยุคดังกล่าวซึ่งยังอยู่ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์[5]
ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 พลเรือตรี พระยาราชวังสัน เสนาธิการทหารเรือ และ พลตรี พระเฉลิมอากาศ เจ้ากรมอากาศยานทหารบก ได้ร่วมกันสำรวจชายฝั่งทะเลในอ่าวไทยเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับการบินและการสร้างฐานบิน โดยได้ข้อสรุปว่าบริเวณอ่าวสัตหีบ (จุกเสม็ด) อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีความเหมาะสมในการสร้างสนามบินและที่ทำการของหน่วยบินนาวี และพิจารณาพื้นที่อีกแห่งในจังหวัดจันทบุรีสำหรับการสร้างสนามบินอีกแห่งหนึ่ง รวมถึงได้ส่งนายทหารเรือไปศึกษาวิชาการบินจากทหารบกในกรมอากาศยานทหารบกเพิ่มขึ้นจนมีนักบินที่มีความพร้อมมากขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถก่อตั้งหน่วยบินขึ้นมาได้ ทำได้เพียงเตรียมความพร้อมรอวันและเวลาที่จะได้ก่อตั้งหน่วยบินนาวี[5]
กระทั่งในปี พ.ศ. 2481 กองทัพเรือได้ก่อตั้งหมวดบินทะเลขึ้น สังกัดกองเรือรบ ประกอบด้วยเครื่องบินแบบวาตานาเบ จำนวน 6 ลำ ฝูงบินตั้งอยู่ที่ ตำบลจุกเสม็ด บริเวณอ่าวสัตหีบ และกระทรวงกลาโหมได้แต่งตั้งหม่อมเจ้ารังสิยากร อาภากร เป็นผู้ดำรงตำแหน่งผู้บังคับหมวดบินทะเล ต่อมาในปี พ.ศ. 2485 กระทรวงกลาโหมได้ยกฐานะหมวดบินทะเลขึ้นมาเป็นกองบินทหารเรือ สังกัดกองเรือรบ กระทั่งเกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา กองทัพเรือจึงได้สั่งซื้อเครื่องบินแบบ นากาซิมา มาประจำการเพิ่มอีก 27 ลำ รวมถึงสั่งซื้อเครื่องบินแบบซีโร่จำนวน 3 ลำ เพื่อเข้าร่วมกันกับฝ่ายสัมพันธมิตรในการตรวจการณ์และปฏิบัติการรวมถึงการช่วยเหลือกู้ภัยในตลอดช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา[5]
หลังสงครามสิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2488 กองทัพเรือได้ดำเนินการปรับปรุงสนามบินและซื้อเครื่องบินสื่อสารขนาดเล็กแบบแอล-4 มาจำนวนหนึ่ง เครื่องบินฝึกแบบที่ 6 จำนวน 12 ลำ เครื่องบินฝึกแบบไทเกอร์มอธ สั่งซื้อจากอังกฤษจำนวน 30 ลำ เครื่องบินโจมตีแบบไฟร์ฟลายจำนวนหนึ่ง เครื่องบินสะเทินน้ำสะเทินบก แบบกรัมมันวิตเยียนจำนวน 6 ลำ เครื่องบินสื่อสารแบบโบนันซ่ากับแบบไปเปอร์คับสเปเชียลอีกส่วนหนึ่ง จนกระทั่งมีความพร้อม จึงได้แยกตัวออกมาจากกองเรือรบมาเป็นหน่วยขึ้นตรงของกองทัพเรือเมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2491[5]
ในปี พ.ศ. 2498 กองบินทหารเรือมีขนาดโครงสร้างที่ใหญ่ขึ้น มีนักบินประมาณ 30 นาย เครื่องบิน 74 ลำ 11 แบบ มีโรงเรียนการบินทหารเรือ โรงเรีนยช่างเครื่องบินซึ่งมีศักยภาพในการผลิตบุคลากรดูแลกองบินของตนเอง ซึ่งในปีนั้นเองก็เกิดเหตุการณ์กบฏแมนฮัตตันเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2494 จึงทำให้รัฐบาลได้เข้าควบคุมกองบินทหารเรือซึ่งมีแสงยานุภาพที่เป็นที่น่ากังวลต่อรัฐบาลขณะนั้น และให้กองทัพอากาศเป็นผู้ดูแลและโอนหน่วยงานภายในทั้งหมดไปขึ้นเป็นกองบินน้อยที่ 7 ทำให้บุคลากรทั้งหมดที่เคยสังกัดในกองทัพเรือได้ย้ายไปสังกัดในเหล่าทัพอากาศ มีนาวาโท บุญชู จันทรุเบกษา เป็นผู้บังคับการกองบินคนแรกของกองบินน้อยที่ 7[5]
จากความจำเป็นในการใช้กำลังทางอากาศของกองทัพเรือ ทำให้ 9 ปีต่อมา กองทัพเรือได้รับอนุญาตให้ก่อตั้งหน่วยบินขึ้นอีกครั้ง ชื่อว่าหมวดบินทหารเรือ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของกองทัพอากาศ ประกอบไปด้วยเครื่องบินสะเทินน้ำสะเทินบกแบบ เอชยู 16 ดี ซึ่งได้จากสหรัฐตามความช่วยเหลือทางทหาร[5]
ต่อมา กองบินทหารเรือมีเครื่องบินประจำการอยู่กับฐานทัพอากาศมากขึ้น จึงเกิดความไม่สะดวกในการปฏิบัติการ ดังนั้นในปี พ.ศ. 2507 กองทัพเรือจึงได้สร้างสนามบินขึ้นมาที่บ้านอู่ตะเภา จังหวัดระยอง โดยใช้งบประมาณของกองทัพเรือในการก่อสร้าง โดยประเทศสหรัฐได้ช่วยเหลือในการก่อสร้างและขอใช้สนามบินทหารเรืออู่ตะเภาบางส่วนเป็นการตอบแทน ซึ่งหลังจากนั้นกิจการการบินของกองทัพเรือจึงได้รับการขยายอัตราขึ้นเป็นกองบินทหารเรือในวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2514 และจากภารกิจที่สูงขึ้นและมากขึ้น จึงได้รับการขยายอัตราอีกครั้งขึ้นเป็น กองการบินทหารเรือ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2533 โดยถือเอาวันที่สภาบัญชาการ กระทรวงทหารเรืออนุมัติให้จัดตั้งกองการบินเป็นวันสถาปนากองการบินทหารเรือ[5]
กองการบินทหารเรือ เป็นหน่วยรบในสังกัดกองเรือยุทธการ มีหน่วยงานภายใน[4] ดังนี้
กองการบินทหารเรือแบ่งออกเป็น 6 กรม สอดคล้องกับหน่วยบังคับบัญชาเพิ่มเติมอีก 1 หน่วย ประกอบไปด้วย[6]
กองทัพเรือประกอบด้วยสนามบินในสังกัด ดังนี้
ฝูงบิน | สถานะ | บทบาท | ประเภท | ||
---|---|---|---|---|---|
กองบิน 1 | |||||
101 | พร้อม | ค้นหาและกู้ภัย | อากาศยานตรวจการณ์ทางทะเล | ||
102 | พร้อม | การสงครามผิวน้ำ และ การสงครามปราบเรือดำน้ำ | อากาศยานตรวจการณ์ทางทะเล | ||
103 | พร้อม | ควบคุมอากาศยานหน้า | อากาศยานตรวจการณ์ทางทะเล | ||
104 | พร้อม | การเฝ้าตรวจทางทะเล | อากาศยานไร้คนขับ | ||
กองบิน 2 | |||||
201 | พร้อม | ขนส่งทางทหาร | อากาศยานตรวจการณ์ทางทะเล | ||
202 | พร้อม | ขนส่งทางทหาร | เฮลิคอปเตอร์ | ||
203 | พร้อม | การสงครามผิวน้ำ และ ขนส่งทางทหาร | เฮลิคอปเตอร์ | ||
หน่วยบินเรือหลวงจักรีนฤเบศร | |||||
1 | ไม่พร้อม | ||||
2 | พร้อม | การสงครามปราบเรือดำน้ำ และ ขนส่งทางทหาร | เฮลิคอปเตอร์ |
ฝูงบินในประจำการกองการบินทหารเรือ ประกอบไปด้วย[8]
ฝูงบิน | ยุทโธปกรณ์ | กองบิน | ฐานบิน | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
ฝูงบิน 101 | ดอร์เนียร์ 228 | กองบิน 1 | อู่ตะเภา | |
ฝูงบิน 102 | ฟอกเกอร์ เอฟ-27 | กองบิน 1 | อู่ตะเภา | |
ฝูงบิน 103 | เซสนา 337 ซูเปอร์สกายมาสเตอร์ | กองบิน 1 | อู่ตะเภา | |
ฝูงบิน 104 | ชีเบล คัมค็อพแทร์ เอส-100, Aeronautics Defense Orbiter | กองบิน 1 | อู่ตะเภา | |
ฝูงบิน 201 | ฟอกเกอร์ เอฟ-27, Embraer ERJ-135LR | กองบิน 2 | อู่ตะเภา | |
ฝูงบิน 202 | เบลล์ 212, ยูโรคอปเตอร์ อีซี145 | กองบิน 2 | อู่ตะเภา | |
ฝูงบิน 203 | ซิคอร์สกี้ เอส-76, ซูเปอร์ลิงซ์ 300 | กองบิน 2 | อู่ตะเภา | |
ฝูงบิน 1 | - | หน่วยบินเรือหลวงจักรีนฤเบศร | อู่ตะเภา | |
ฝูงบิน 2 | เอส-70บี ซีฮอว์ก, เอ็มเอช-60เอส ไนท์ฮอว์ก | หน่วยบินเรือหลวงจักรีนฤเบศร | อู่ตะเภา | |
อากาศยาน | แหล่งกำเนิด | แบบ | จำนวน | หมายเหตุ | |
---|---|---|---|---|---|
อากาศยานปีกตรึง | |||||
ฟอกเกอร์ เอฟ-27 | เนเธอร์แลนด์ | การสงครามปราบเรือดำน้ำ, ขนส่งทางทหาร |
2 MK400 3 MK200 |
[3] | |
ดอร์เนียร์ 228 | เยอรมนี | ค้นหาและกู้ภัย | 7 | ใช้ในโครงการฝนหลวงด้วย[3] | |
NAX seaplane | ไทย | ค้นหาและกู้ภัย | 4 | หมายเลขลำดับ NAX-01 ถึง NAX-04 สร้างขึ้นในท้องถิ่นโดย โครงการวิจัยเครื่องบินทางทะเล กองทัพเรือ[9] | |
CASA/IPTN CN-235 | สเปน | อากาศยานตรวจการณ์ทางทะเล | (+3) | อยู่ระหว่างสั่งซื้อ 3 ลำ[3] | |
Embraer ERJ-135LR | บราซิล | อากาศยานขนส่งบุคคลสำคัญ | 2 | [3] | |
เซสนา 337 ซูเปอร์สกายมาสเตอร์ | สหรัฐ | อากาศยานควบคุมอากาศยานหน้า | 4 H-SP 3 SP 2 G |
[3] | |
เฮลิคอปเตอร์ | |||||
ซิคอร์สกี้ เอส-76บี | สหรัฐ | ค้นหาและกู้ภัย, ขนส่งทางทหาร |
5 | [3] | |
เวสต์แลนด์ซูเปอร์ลิงซ์ 300 | สหราชอาณาจักร | การสงครามผิวน้ำ | 2 | [3] | |
เอส-70บี ซีฮอว์ก | สหรัฐ | การสงครามปราบเรือดำน้ำ | 6 | หน่วยบินเรือหลวงจักรีนฤเบศร[3] | |
เอ็มเอช-60เอส ไนท์ฮอว์ก | สหรัฐ | ขนส่งทางทหาร | 2 | หน่วยบินเรือหลวงจักรีนฤเบศร[3] | |
ยูโรคอปเตอร์ อีซี145 | เยอรมนี | ขนส่งทางทหาร | 5 | [3] | |
Bell UH-1N Twin Huey | สหรัฐ | ขนส่งทางทหาร | 7 | [3] | |
อากาศยานเฝ้าตรวจไร้คนขับ | |||||
Aeronautics Orbiter 3B | อิสราเอล | อากาศยานเฝ้าตรวจไร้คนขับ | ไม่ทราบ | ใช้งานมาตั้งแต่ปี 2563[10] | |
Elbit Hermes 900 | อิสราเอล | อากาศยานเฝ้าตรวจไร้คนขับ | ไม่ทราบ | สั่งซื้อในปี 2565[10] | |
Aeronautics Defense Dominator | อิสราเอล | อากาศยานเฝ้าตรวจไร้คนขับ | ไม่ทราบ | [จัดทำโดยแหล่งข้อมูลบางส่วน แต่ยังไม่เห็นภาพเผยแพร่][10] | |
Boeing Insitu RQ-21 Blackjack | สหรัฐ | อากาศยานเฝ้าตรวจไร้คนขับ | ไม่ทราบ | [จัดทำโดยแหล่งข้อมูลบางส่วน แต่ยังไม่เห็นภาพเผยแพร่][10] | |
DTI U-1 'Sky Scout' | ไทย | อากาศยานเฝ้าตรวจไร้คนขับ | ไม่ทราบ | ไม่ทราบว่ามีเพียงการประจำการในกองทัพบกหรือไม่ (ใช้งานมาตั้งแต่ปี 2560)[10] | |
DTI D-Eyes 02 | ไทย | อากาศยานเฝ้าตรวจไร้คนขับ | ไม่ทราบ | ไม่ทราบว่ามีเพียงการประจำการในกองทัพบกหรือไม่ (ใช้งานมาตั้งแต่ปี 2560)[10] | |
อากาศยานเฝ้าตรวจไร้คนขับขึ้นลงทางดิ่ง | |||||
TOP Falcon-V | จีน ไทย |
อากาศยานเฝ้าตรวจไร้คนขับขึ้นลงทางดิ่ง | ไม่ทราบ | ใช้งานมาตั้งแต่ปี 2560[10] | |
นารายณ์ 3.0 | ไทย | อากาศยานเฝ้าตรวจไร้คนขับขึ้นลงทางดิ่ง | ไม่ทราบ | ใช้งานมาตั้งแต่ปี 2560[10] (ใช้ในกองทัพเรือและกองบัญชาการกองทัพไทย) | |
ชีเบล คัมค็อพแทร์ เอส-100 | ออสเตรีย | อากาศยานเฝ้าตรวจไร้คนขับขึ้นลงทางดิ่ง | ไม่ทราบ | ใช้งานมาตั้งแต่ 2563[10] | |
NRDO MARCUS-B | ไทย | อากาศยานเฝ้าตรวจไร้คนขับขึ้นลงทางดิ่ง | ไม่ทราบ | ใช้งานมาตั้งแต่ 2563[10] (สำหรับใช้งานบนเรือหลวงจักรีนฤเบศร).[10] |
อากาศยาน | แหล่งกำเนิด | แบบ | ประจำการ | จำนวน | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|
Avro 504N | ไทย สหราชอาณาจักร | ฝึก | 2472-2491 | 2 | สร้างขึ้นในท้องถิ่น[1][11] |
WS-103S | ญี่ปุ่น | ลาดตระเวน | 2481-2489 | 6 | [11] |
Nakajima E8N | ญี่ปุ่น | ลาดตระเวน | 2481-2489 | 27 | [1] |
Aichi E13A | ญี่ปุ่น | ลาดตระเวน | 2482-2488+ | 6 | เครื่องบินสามลำสั่งซื้อในปี พ.ศ. 2482 และสามลำในปี พ.ศ. 2484[11] |
มิตซูบิชิ เอ6เอ็ม ซีโร่ | ญี่ปุ่น | ขับไล่ | 2485-2488 | 3 | [11] |
Beechcraft 35 Bonanza | สหรัฐ | ลาดตระเวน | 2491-2494 | 3 | [11] |
Piper Pa-11 | สหรัฐ | ลาดตระเวน | 2492-2494 | 2 | [11] |
Fairey Firefly | สหราชอาณาจักร | ขับไล่ | 2494-2494 | 12 | F Mk. 1 10 ลำ และ T Mk. 2 2 ลำ[11] |
de Havilland Tiger Moth | สหราชอาณาจักร | ฝึก | 2494-2494 | 30 | [11] |
Curtiss SB2C Helldiver | สหรัฐ | ทิ้งระเบิด | 2494-2498 | 6 | [11] |
Grumman HU-16D | สหรัฐ | ค้นหาและกู้ภัย | 2505-2524 | 3 | [11] |
Grumman S-2 Tracker | สหรัฐ | การสงครามปราบเรือดำน้ำ | 2509-2542 | 12 | [11] |
Cessna O-1G Bird Dog | สหรัฐ | ลาดตระเวน | 2511-2540 | 8 | [11] |
Cessna U-17 | สหรัฐ | ลาดตระเวน | 2517-2540 | 8 | [11] |
เบลล์ 205 ยูเอช-1เอช | สหรัฐ | เฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์ | 2518-?? | 4 | [11] |
Douglas C-47 Skytrain | สหรัฐ | ขนส่งทางทหาร | 2521-2542 | 13 | [11] |
Canadair CL-215 | แคนาดา | ค้นหาและกู้ภัย | 2521-2560 | 2 | [11] |
GAF N.24A Normad | ออสเตรเลีย | ขนส่งทางทหาร | 2527-2558 | 5 | [11] |
Bell 214ST | สหรัฐ | เฮลิคอปเตอร์อเนกประสงค์ | 2530-2553 | 5 | [11] |
เอ-7อี คอร์แซร์ 2 | สหรัฐ | โจมตี | 2538-2550 | 21 | เฟรมเครื่องบินทั้งหมดถูกเก็บไว้[11] |
พี-3 โอไรออน | สหรัฐ | การสงครามปราบเรือดำน้ำ | 2539-2557 | 5 | มือสองแต่ปรับปรุงให้ทันสมัยก่อนส่งมอบ[11] |
ฮ็อคเกอร์-ซิดเดลี่ย์ เอวี-8เอส มาทาดอร์ | สหราชอาณาจักร | โจมตี | 2540-2549 | 9 | มือสองจาก
กองบินนาวิกโยธินสเปน ใช้งานบนเรือหลวงจักรีนฤเบศร[11] |
กลุ่มชั้นยศ | นายพล / นายทหารชั้นนายพล | นายทหารสัญญาบัตรอาวุโศ | นายทหารสัญญาบัตร | นักเรียนนายเรือ | ||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
รหัสเนโท | OF-10 | OF-9 | OF-8 | OF-7 | OF-6 | OF-5 | OF-4 | OF-3 | OF-2 | OF-1 | OF (D) | นักเรียนนายทหาร | ||||||||||||||||||||||||
กองทัพเรือไทย[12] |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
จอมพลเรือ Chom phon ruea |
พลเรือเอก Phon ruea ek |
พลเรือโท Phon ruea tho |
พลเรือตรี Phon ruea tri |
นาวาเอก Nawa ek |
นาวาโท Nawa tho |
นาวาตรี Nawa tri |
เรือเอก Ruea ek |
เรือโท Ruea tho |
เรือตรี Ruea tri |
นักเรียนนายเรือ Nak-rian nairuea |
กลุ่มชั้นยศ | นายทหารประทวนอาวุโส | นายทหารประทวน | พลสมัคร และพลทหาร | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
รหัสเนโท | OR-9 | OR-8 | OR-7 | OR-6 | OR-5 | OR-4 | OR-3 | OR-2 | OR-1 | |||||||||||||||||||||||||||
กองทัพเรือไทย[12] |
ไม่มี เครื่องหมาย | |||||||||||||||||||||||||||||||||||
พันจ่าเอก Phan cha ek |
พันจ่าโท Phan cha tho |
พันจ่าตรี Phan cha tri |
จ่าเอก Cha ek |
จ่าโท Cha tho |
จ่าตรี Cha tri |
พลทหาร Phon thahan |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.