Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ศุภชัย ใจเด็ด (ชื่อเล่น อาร์ม; เกิด 1 ธันวาคม พ.ศ. 2541)[1] เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวไทย ปัจจุบันเล่นตำแหน่งกองหน้าให้กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดในไทยลีก และทีมชาติไทย
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | ศุภชัย ใจเด็ด | ||
วันเกิด | [1] | 1 ธันวาคม ค.ศ. 1998||
สถานที่เกิด | จังหวัดปัตตานี ประเทศไทย | ||
ส่วนสูง | 1.85 เมตร (6 ฟุต 1 นิ้ว)[2] | ||
ตำแหน่ง | กองหน้า / กองกลาง | ||
ข้อมูลสโมสร | |||
สโมสรปัจจุบัน | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | ||
หมายเลข | 9 | ||
สโมสรเยาวชน | |||
2555–2557 | สันติภาพ | ||
2557–2558 | ปทุมคงคา | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
2558–2559 | โอสถสภา | 20 | (1) |
2560– | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | 181 | (65) |
ทีมชาติ‡ | |||
2558–2559 | ไทย อายุไม่เกิน 19 ปี | 16 | (7) |
2560–2562 | ไทย อายุไม่เกิน 21 ปี | 2 | (1) |
2561–2564 | ไทย อายุไม่เกิน 23 ปี | 16 | (10) |
2561– | ไทย | 39 | (7) |
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2567 ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2567 |
ศุภชัย คว้าตำแหน่งดาวซัลโวของไทยลีก ฤดูกาล 2565–66 ซึ่งเป็นคนไทยคนแรกในรอบ 10 ปีหลังจากธีรศิลป์ แดงดา ทำได้ในฤดูกาล 2555
ศุภชัยทำหนึ่งประตูตลอดการลงเล่นให้กับโอสถสภา/ซุปเปอร์ พาวเวอร์ ในนัดที่โอสถสภาเปิดบ้านแพ้ให้กับบีอีซี เทโรศาสน 2–3 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2559
ในเดือนตุลาคม 2559 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดบรรลุข้อตกลงในการคว้าตัวศุภชัย ใจเด็ด จากซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ[3] โดยเขาจะได้สวมเสื้อหมายเลข 22
ก่อนเปิดฤดูกาล ศุภชัยได้เปลี่ยนไปใส่เสื้อหมายเลข 9 ต่อมาในวันที่ 4 กรกฎาคม 2561 ศุภชัยทำประตูและแฮตทริกแรกนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับบุรีรัมย์ โดยทำได้ในการแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะลำปาง เอฟซี 6–0 ต่อมาในวันที่ 25 กรกฎาคม 2561 ช้าง เอฟเอคัพรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศุภชัยทำประตูในนัดที่บุรีรัมย์บุกไปชนะนครปฐม ยูไนเต็ด 2–1 ต่อมาในวันที่ 1 สิงหาคม ช้าง เอฟเอคัพรอบ 8 ทีมสุดท้าย ศุภชัยทำประตูขึ้นนำช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปชนะการท่าเรือที่แพตสเตเดียม 3–1 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ และในวันที่ 12 กันยายน ศุภชัยทำสองประตูในลีก นัดที่บุรีรัมย์เปิดบ้านแซงชนะสุโขทัย เอฟซี 4–1
ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 การแข่งขันไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ ศุภชัยทำสองประตูแซงช่วยให้บุรีรัมย์เอาชนะเชียงราย ยูไนเต็ด ที่สนามกีฬากองทัพบก 3–1 พาทีมคว้าแชมป์ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพสมัยแรกได้สำเร็จ[4] ต่อมาในวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2562 ศุภชัยทำประตูแรกในลีกช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านตามตีเสมอตราด 1–1[5] ต่อมาในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ศุภชัยทำประตูที่ 2 ในลีก ในนัดที่บุรีรัมย์บุกไปเสมอสุโขทัยที่สนามทุ่งทะเลหลวง 1–1[6] ต่อมาในวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2562 การแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย ศุภชัยทำหนึ่งประตู ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะลำปางไปได้ 4–1 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ[7] ต่อมาในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ช้าง เอฟเอคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย บุรีรัมย์บุกไปตามตีเสมอตราด 2–2 ทั้งที่ถูกนำก่อน 0–2 ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ ซึ่งศุภชัยเป็นผู้ยิงคนที่สอง และเขาก็ยิงเข้าไปได้ สุดท้าย บุรีรัมย์สามารถเอาชนะตราดในการยิงลูกโทษไปได้ 5–4 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ[8] ต่อมาในวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2562 โตโยต้า ลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์พบกับ พีที ประจวบ ที่เอสซีจีสเตเดียมในจังหวัดนนทบุรี ศุภชัยทำประตูช่วยให้บุรีรัมย์ตามตีเสมอ 1–1 และจบด้วยผลนี้ในเวลา 120 นาที ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ ศุภชัย เป็นคนยิงคนที่ 4 และเขาก็ยิงเข้าไปได้ แต่สุดท้าย บุรีรัมย์พ่ายแพ้ประจวบในช่วงลูกโทษ 7–8 ผลประตูรวม 8–9 พลาดโอกาสคว้าแชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ อย่างน่าเสียดาย[9]
วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2563 ในงานแถลงข่าว "สานพลังบอลไทยไปเลสเตอร์ซิตี" มีการเปิดเผยว่า ศุภชัย ร่วมกับเพื่อนร่วมทีมอีกสองคน ได้แก่ สุภโชค สารชาติ และศุภณัฏฐ์ เหมือนตา จะได้ไปทดสอบฝีเท้ากับเลสเตอร์ซิตีในอังกฤษหลังจบฤดูกาล 2563–2564[10] (อย่างไรก็ตาม โครงการทดสอบฝีเท้านี้เลื่อนไปเป็นหลังจบฤดูกาล 2564–65 เนื่องจากการระบาดทั่วของโควิด-19) ต่อมาในวันที่ 7 พฤศจิกายน การแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ รอบ 64 ทีมสุดท้าย เขาทำหนึ่งประตูช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะสมุทรสงครามไปอย่างขาดลอย 9–0 ผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ[11] ต่อมาในวันที่ 11 พฤศจิกายน เขาทำประตูแรกในไทยลีก ฤดูกาล 2563–64 ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะระยองในนัดตกค้างไปได้ 5–1[12] ต่อมาในวันที่ 22 พฤศจิกายน เขาทำประตูที่ 2 ในลีก ช่วยให้บุรีรัมย์บุกไปเอาชนะสุโขทัยที่สนามทุ่งทะเลหลวง 3–0[13] ต่อมาในวันที่ 6 ธันวาคม การแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ 2563–64 รอบ 32 ทีมสุดท้าย ศุภชัยทำสองประตูช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านเอาชนะโปลิศ เทโรไปได้ 4–0 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ[14] ต่อมาในวันที่ 18 ธันวาคม เขาทำประตูที่ 3 ในลีก ช่วยให้ทีมบุกเอาชนะพีที ประจวบ ที่สามอ่าวสเตเดียม 1–0[15]
วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2564 เขาทำประตูที่ 4 ในลีก ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะตราด 2–0[16] ต่อมาในวันที่ 18 มีนาคม เขาทำประตูที่ 5 ในลีก ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด 2–0[17]
วันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2564 ศุภชัยทำประตูแรกในไทยลีก ฤดูกาล 2564–65 ช่วยให้บุรีรัมย์เปิดบ้านแซงเอาชนะโปลิศ เทโรในเกมลีกนัดที่สองไปได้ 3–1[18] และในสัปดาห์ถัดมา เขาทำประตูที่สองในลีก ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะทีมน้องใหม่อย่างเชียงใหม่ ยูไนเต็ด 4–0[19] วันที่ 2 ตุลาคม เขาทำประตูที่สามในลีก ช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะพีที ประจวบที่สามอ่าวสเตเดียม 2–0[20] ต่อมาในวันที่ 10 ตุลาคม เขาทำประตูที่ 4 ในลีก ช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะการท่าเรือที่แพตสเตเดียม 2–0[21] วันที่ 24 ตุลาคม เขาทำประตูที่ 5 ในลีก ช่วยให้ทีมบุกไปแซงเอาชนะราชบุรี มิตรผลที่มิตรผลสเตเดียม 2–1[22] ต่อมาในวันที่ 27 ตุลาคม การแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ 2564–65 รอบ 64 ทีมสุดท้าย ศุภชัยทำประตูช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะสโมสรแพร่ ยูไนเต็ดจากไทยลีก 2 ด้วยผล 3–0 ทำให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ[23] ต่อมาในวันที่ 20 พฤศจิกายน เขาทำสองประตูในลีก ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะขอนแก่น ยูไนเต็ดไปได้ 4–0 ทำให้ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่เขาทำประตูในลีกมากที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมบุรีรัมย์[24] และในวันที่ 28 พฤศจิกายน นัดสุดท้ายของการแข่งขันไทยลีกเลกแรก ศุภชัยทำประตูที่ 8 ในลีก ช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ดที่ลีโอ เชียงราย สเตเดียม 1–0 ทำให้บุรีรัมย์จบอันดับที่หนึ่งของตารางหลังจบเลกแรก
วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2565 ศุภชัยทำ 2 ประตูในลีก ช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะเชียงใหม่ ยูไนเต็ดที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี 4–1[25] วันที่ 9 กุมภาพันธ์ เขาทำประตูในการแข่งขันรีโว่ ลีกคัพ 2564–65 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะสมุทรปราการ ซิตี้ 4–1 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้สำเร็จ[26] วันที่ 19 กุมภาพันธ์ เขาทำประตูที่ 11 ในลีก ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะการท่าเรือไปได้ 2–1[27] และในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เขาทำประตูที่ 12 ในลีก ช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะนครราชสีมา มาสด้าที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 3–0[28]
วันที่ 9 มีนาคม เขาทำสองประตูช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะชลบุรี 2–1[29] จบฤดูกาล เขาทำ 14 ประตูจากการลงเล่นในลีก 26 นัด เป็นผู้เล่นชาวไทยที่ทำประตูสูงสุดในลีกฤดูกาล ทำให้เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของไทยลีกในฤดูกาลนั้นด้วย
วันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2565 ศุภชัยทำสองประตูในนัดเปิดสนามไทยลีก ฤดูกาล 2565–66 ช่วยให้ทีมบุกแซงชนะนครราชสีมา มาสด้าที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวา 2550 2–1[30] ต่อมาในวันที่ 19 สิงหาคม เขาทำสองประตูในลีก ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะสุโขทัย 6–1[31] ต่อมาในวันที่ 4 กันยายน เขาทำประตูที่ 5 ในลีก โดยเป็นประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บท้ายเกม ช่วยให้ทีมเปิดบ้านไล่ตามตีเสมอบีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2–2
วันที่ 2 ตุลาคม เขาทำสองประตูในลีก ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะพีที ประจวบ 3–1[32] ต่อมาในวันที่ 9 พฤศจิกายน เขาทำสองประตูในลีก ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด 4–1[33] ต่อมาในวันที่ 16 พฤศจิกายน การแข่งขันรีโว่ คัพ 2565–66 รอบ 32 ทีมสุดท้าย เขาทำประตูช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะเอ็มเอช นครศรีฯ ซิตี้ ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 2–0 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ[34] ต่อมาในวันที่ 25 พฤศจิกายน เขาทำประตูที่ 10 ในลีก โดยเป็นประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บท้ายเกม นาทีที่ 90+1 ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะราชบุรี 1–0 และจบเลกแรกด้วยอันดับจ่าฝูง[35]
วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2566 เขาทำประตูที่ 11 ในลีก ช่วยให้ทีมบุกไปเอาชนะสุโขทัยที่สนามทะเลหลวง 0–3[36] และในสัปดาห์ถัดมา เขาทำประตูที่ 12 ในลีก ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะชลบุรี 2–0[37] ต่อมาในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เขาทำประตูที่ 13 ในลีก ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะโปลิศ เทโร 3–0[38] ต่อมาในวันที่ 1 มีนาคม การแข่งขันช้าง เอฟเอคัพ 2565–66 รอบก่อนรองชนะเลิศ เขาทำสองประตูช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะแพร่ ยูไนเต็ด 5–2 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ[39] ต่อมาในวันที่ 18 มีนาคม เขาทำประตูที่ 14 ในลีก ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะขอนแก่น ยูไนเต็ด 4–1[40]
วันที่ 4 เมษายน เขาทำ 2 ประตูในลีกในนัดที่ทีมบุกไปแพ้ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ดที่ทรูสเตเดียม 4–3 นับเป็นการยุติสถิติไร้พ่ายในลีก 24 นัดของทีมแต่เพียงเท่านี้[41] ต่อมาในวันที่ 30 เมษายน เขาทำประตูที่ 17 ในลีก ในนัดที่ทีมเปิดบ้านแพ้การท่าเรือ 2–3 นับเป็นความพ่ายแพ้ในบ้านครั้งแรกของทีมในฤดูกาลนี้[42]
วันที่ 12 พฤษภาคม การแข่งขันไทยลีกนัดปิดฤดูกาล เขาทำ 2 ประตูในลีก ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะนครราชสีมา มาสด้า 4–0[43] ส่งผลให้เขากลายเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในลีกฤดูกาลนี้ด้วยจำนวน 19 ประตู และเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในลีกคนแรกที่เป็นคนไทย นับตั้งแต่ที่ธีรศิลป์ แดงดาเคยทำได้เมื่อฤดูกาล 2555 ส่วนนครราชสีมา ตกชั้นจากลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาในฤดูกาล 2558 ต่อมาในวันที่ 20 พฤษภาคม การแข่งขันรีโว่ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ที่สนามกลาง ธันเดอร์โดมสเตเดียม เขาทำประตูช่วยให้ทีมเอาชนะบีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2–0 คว้าแชมป์ไทยลีกคัพสมัยที่ 7 ได้สำเร็จ[44]
ศุภชัยเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี และพาทีมชนะเลิศฟุตบอลอาเซียนชิงแชมป์เยาวชนในปี 2558[45]
ในวันที่ 4 สิงหาคม 2561 ศุภชัยถูกวรวุฒิ ศรีมะฆะเรียกตัวติดทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย[46] ต่อมาในวันที่ 14 สิงหาคม การแข่งขันนัดแรกของกลุ่มบี ศุภชัยทำประตูช่วยให้ไทยตามตีเสมอกาตาร์ 1–1 อีกสามวันถัดมา เขาทำประตูช่วยให้ไทยตีเสมอบังกลาเทศ 1–1[47] อย่างไรก็ตาม หลังจบสามนัดในรอบแบ่งกลุ่ม ทีมชาติไทยมีเพียง 2 คะแนน ไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบแพ้คัดออกได้ในรอบ 24 ปี[48]
ในการแข่งขันฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก กลุ่ม K นัดแรก วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2562 ศุภชัยทำ 2 ประตูช่วยให้ทีมชาติไทยเอาชนะอินโดนีเซียไปได้ 4–0[49] ต่อมาในนัดที่สอง วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 ศุภชัยทำแฮตทริกช่วยให้ทีมชาติไทยเอาชนะบรูไนไปได้ 8–0[50] ทว่าในนัดที่สาม หรือนัดสุดท้าย วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2562 ไทย ที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายไปแล้วในฐานะเจ้าภาพ จะต้องพบกับเวียดนาม ที่สนามกีฬาหมีดิ่ญในฮานอย ในนัดนั้น ศุภชัยไปเล่นนอกเกมใส่ผู้เล่นของเวียดนาม จนถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม สุดท้าย ไทยพ่ายแพ้ต่อ เวียดนาม ย่อยยับ 0–4 และเมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว ศุภชัยได้กล่าวขอโทษแฟน ๆ ในเหตุการณ์ที่เขาไปเล่นนอกเกมในนัดนั้น[51]
ในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลในซีเกมส์ 2019 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 2 วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ศุภชัยยิงหนึ่งประตูช่วยให้ทีมชาติไทยเอาชนะบรูไนไปได้ 7–0[52] และในนัดสุดท้าย วันที่ 5 ธันวาคม ทีมชาติไทยพบกับกับเวียดนาม โดยในนัดนี้ ทีมชาติไทยต้องชนะอย่างน้อย 2 ประตู จึงจะการันตีเข้ารอบตัดเชือก ศุภชัยยิงให้ทีมชาติไทยขึ้นนำ 1–0 แต่สุดท้ายก็ถูกเวียดนามตามตีเสมอ 2–2 ทำให้ทีมชาติไทยตกรอบแบ่งกลุ่มซีเกมส์เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี[53]
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 ศุภชัย มีชื่อติดทีมชาติไทยในรอบ 23 คนสุดท้าย ในการแข่งขันฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 23 ปี 2020 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ[54]
ในวันที่ 4 ตุลาคม 2561 ศุภชัยถูกมิโลวาน ราเยวัชเรียกตัวติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ในนัดกระชับมิตรที่จะพบกับฮ่องกงและตรินิแดดและโตเบโก[55] ต่อมาในวันที่ 11 ตุลาคม ศุภชัยลงเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในนัดที่ไทยบุกไปชนะฮ่องกง 1–0[56] ต่อมาในวันที่ 9 พฤศจิกายน การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน ศุภชัยทำประตูแรกในนามทีมชาติในนัดที่ไทยเปิดบ้านเอาชนะติมอร์เลสเตไปได้ 7–0 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน[57] ต่อมาในวันที่ 21 พฤศจิกายน ศุภชัยทำประตูในนัดที่ไทยบุกไปเสมอฟิลิปปินส์ที่สนามกีฬาปานาอัด 1–1[58] และในวันที่ 25 พฤศจิกายน ศุภชัยทำประตูในนัดที่ไทยเปิดบ้านเอาชนะสิงคโปร์ไปได้ 3–0[59] ลูกยิงของเขาในนัดนั้นยังได้รับรางวัลลูกยิงทีมชาติยอดเยี่ยมแห่งปีจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยอีกด้วย[60]
ในวันที่ 20 มกราคม 2562 การแข่งขันเอเชียนคัพ 2019 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ศุภชัยทำประตูขึ้นนำในนัดที่ไทยพบกับจีน แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ไป 1–2 ทำให้ไทยต้องจบเส้นทางเอเชียนคัพที่ยูเออีเพียงเท่านี้
ในวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ศุภชัย มีชื่อติดทีมชาติไทยเบื้องต้น 33 คน[61] และในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2562 ศุภชัย ยังคงมีชื่อติดทีมชาติไทยในรอบที่ตัดตัวเหลือ 23 คนสุดท้าย ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก นัดที่ไทยจะเปิดบ้านพบกับเวียดนามและออกไปเยือนอินโดนีเซีย[62]
ในทัวร์นาเมนต์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ศุภชัยมีชื่อติดทีมชาติไทย 30 คนสุดท้าย และสามารถทำได้ 1 ประตูในเกมรอบแรกพบกับสิงคโปร์ ซึ่งทีมชาติไทยเอาชนะด้วยสกอร์ 2-0 และเป็นหนึ่งในขุนพลที่พาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ในรายการนี้[ต้องการอ้างอิง]
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | เอฟเอคัพ | ลีกคัพ | เอเชีย | อื่น ๆ | ทั้งหมด | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ระดับ | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | 2560 | ไทยลีก | 19 | 0 | 0 | 0 | ? | 0 | — | — | ? | 0 | ||
2561 | ไทยลีก | 31 | 2 | 6 | 5 | 4 | 0 | 7 | 0 | 1[a] | 0 | 49 | 7 | |
2562 | ไทยลีก | 28 | 2 | 5 | 1 | 4 | 1 | 6 | 0 | 1[a] | 2 | 44 | 6 | |
2563–64 | ไทยลีก | 28 | 5 | 5 | 3 | — | 0 | 0 | — | 33 | 8 | |||
2564–65 | ไทยลีก | 26 | 14 | 4 | 1 | 2 | 1 | 1[b] | 0 | — | 33 | 16 | ||
2565–66 | ไทยลีก | 28 | 19 | 5 | 2 | 5 | 2 | 0 | 0 | 1[a] | 0 | 39 | 23 |
ทีมชาติ | ปี | ลงเล่น | ประตู |
---|---|---|---|
ไทย | 2561 | 8 | 3 |
2562 | 9 | 1 | |
2564 | 9 | 1 | |
2565 | 1 | 0 | |
2566 | 4 | 0 | |
2567 | 8 | 2 | |
ทั้งหมด | 39 | 7 |
# | วันที่ | สนาม | คู่แข่ง | ทำประตู | ผล | การแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|
1. | 28 สิงหาคม 2558 | สนามกีฬาแห่งชาติลาว หลัก 16 เวียงจันทน์ ลาว | ฟิลิปปินส์ | 5–0 | 6–0 | ฟุตบอลอาเซียนชิงแชมป์เยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี 2015 |
2. | 30 สิงหาคม 2558 | สนามกีฬาแห่งชาติลาว หลัก 16 เวียงจันทน์ ลาว | กัมพูชา | 5–0 | 6–0 | ฟุตบอลอาเซียนชิงแชมป์เยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี 2015 |
3. | 6–0 | |||||
4. | 12 กันยายน 2559 | ฮานอย เวียดนาม | ลาว | 2–1 | 2–1 | ฟุตบอลอาเซียนชิงแชมป์เยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี 2016 |
5. | 18 กันยายน 2559 | ฮานอย เวียดนาม | ออสเตรเลีย | 2–1 | 5–1 | ฟุตบอลอาเซียนชิงแชมป์เยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี 2016 |
6. | 3–1 | |||||
7. | 4–1 | |||||
8. | 20 กันยายน 2559 | ฮานอย เวียดนาม | พม่า | 1–1 | 1–1 | ฟุตบอลอาเซียนชิงแชมป์เยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี 2016 |
9. | 19 ตุลาคม 2559 | เมืองอิซา บาห์เรน | บาห์เรน | 2–3 | 2–3 | ฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี 2016 |
# | วันที่ | สนาม | คู่แข่ง | ทำประตู | ผล | การแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|
1. | 5 ตุลาคม 2560 | กรุงเทพมหานคร ไทย | จอร์แดน | 1–0 | 2–2 | กระชับมิตร |
# | วันที่ | สนาม | คู่แข่ง | ทำประตู | ผล | การแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|
1. | 10 สิงหาคม 2561 | สนามฟุตบอลธรรมศาสตร์ รังสิต จังหวัดปทุมธานี ไทย | เนปาล | 1–0 | 4–0 | กระชับมิตร |
2. | 14 สิงหาคม 2561 | สนามกีฬาปากันซารี ซิบินอง อินโดนีเซีย | กาตาร์ | 1–1 | 1–1 | เอเชียนเกมส์ 2018 |
3. | 16 สิงหาคม 2561 | สนามกีฬาปากันซารี ซิบินอง อินโดนีเซีย | บังกลาเทศ | 1–1 | 1–1 | เอเชียนเกมส์ 2018 |
4. | 24 มีนาคม 2562 | สนามมี ดินห์ สเตเดียม กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม | บรูไน | 3-1 | 8-0 | AFCCUP U23 |
# | วันที่ | สนาม | คู่แข่ง | ทำประตู | ผล | การแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|
1. | 9 พฤศจิกายน 2561 | ราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพมหานคร ไทย | ติมอร์-เลสเต | 7–0 | 7–0 | ชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2018 |
2. | 21 พฤศจิกายน 2561 | ปานาอัดปาร์กแอนด์สเตเดียม บาโคโลด ฟิลิปปินส์ | ฟิลิปปินส์ | 1–0 | 1–1 | |
3. | 25 พฤศจิกายน 2561 | ราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพมหานคร ไทย | สิงคโปร์ | 2–0 | 3–0 | |
4. | 20 มกราคม 2562 | สนามกีฬาฮัซซาอ์ บิน ซายิด อัลอัยน์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | จีน | 1–0 | 1–2 | เอเชียนคัพ 2019 |
5. | 18 ธันวาคม 2564 | สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์, กัลลัง, ประเทศสิงคโปร์ | สิงคโปร์ | 2–0 | 2–0 | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2020 |
6. | 16 มกราคม 2567 | อับดุลลาห์ บิน คาลิฟา, โดฮา, กาตาร์ | คีร์กีซสถาน | 1–0 | 2–0 | เอเชียนคัพ 2023 |
7. | 2–0 |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.