Remove ads

คริสโตเฟอร์ คีท เออร์วิน (Christopher Keith Irvine) เกิดวันที่ 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1970[5] นักมวยปล้ำอาชีพชาวแคนาดา แต่เกิดที่สหรัฐอเมริกา เซ็นสัญญาปล้ำกับ WWE ในชื่อที่รู้จักกันดี คริส เจริโค (Chris Jericho)[1] เป็นทั้งนักร้องนำของวงฟอซซี[6] และเป็นนักแสดงทางโทรทัศน์, ละครเวที อีกทั้งยังเป็นเจ้าของ สถานีวิทยุ และโทรทัศน์ อีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะนักมวยปล้ำของสมาคม WCW และ ECW[7] และเขายังปล้ำให้กับสมาคมนานาประเทศอย่าง แคนาดา, เม็กซิโก และญี่ปุ่น อีกด้วย และเป็นหนึ่งในผู้แข่งขันในปี 2011 ประเภทเต้นรำในรายการแดนซิ่งวิชเดอะสตาร์ส ซีซั่น 12 และได้ถูกโหวตออกในสัปดาห์ที่ 5[8]

ข้อมูลเบื้องต้น Chris Jericho, เกิด ...
Chris Jericho
Thumb
เกิดChristopher Keith Irvine
(1970-11-09) พฤศจิกายน 9, 1970 (54 ปี)
Manhasset, New York, U.S.
พลเมือง
  • American
  • Canadian
ศิษย์เก่าRed River College Polytechnic
อาชีพ
  • Professional wrestler
  • singer
  • podcaster
  • actor
  • author
คู่สมรสJessica Lockhart (สมรส 2000)
บุตร3
ญาติTed Irvine (father)
เว็บไซต์chrisjericho.com
talkisjericho.com
webisjericho.com
ชื่อบนสังเวียนChris Jericho[1]
Corazón de León
Lionheart
León D' Oro
Lion Do
Super Liger[2]
ส่วนสูง6 ฟุต 0 นิ้ว (183 เซนติเมตร)[1]
น้ำหนัก227 ปอนด์ (103 กิโลกรัม)[1]
มาจากCalgary, Alberta, Canada
Manhasset, New York[3]
Winnipeg, Manitoba, Canada
ฝึกหัดโดยEd Langley
Stu Hart[4]
เปิดตัวOctober 2, 1990[4]
ลายเซ็น
ปิด
Remove ads

ประวัติ

เวิลด์เรสต์ลิงเฟดเดอเรชั่น/เอ็นเตอร์เทนเมนต์

Thumb
ท่าเปิดตัวในยุคแรกของเจริโค

เจริโคได้เปิดตัวครั้งแรกใน WWF (WWE ในปัจจุบัน) เมื่อปี 1999 เขามีชื่อเสียงโด่งดังโดยการคว้าแชมป์โลกอันดิสพิวเด็ดเป็นคนแรก และเขายังได้เป็นแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลที่สมัยมากที่สุด ด้วยสถิติถึง 9 สมัย เป็นแชมป์โลก 6 สมัย (แชมป์โลก WCW 2 สมัย, แชมป์ WWE 1 สมัย และแชมป์โลกเฮฟวี่เวท 3 สมัย) และยังเป็นแชมป์ทริปเปิลคราวน์คนที่9 และแชมป์แกรนด์สแลมคนที่4 ของ WWE อีกด้วย[9] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 21 เขาได้ร่วมปล้ำมันนีอินเดอะแบงก์แลดเดอร์แมตช์เป็นครั้งแรกแต่ไม่ชนะ ในรอว์ สิงหาคม 2005 เขาแพ้ในการชิงแชมป์ WWE กับจอห์น ซีนา ทำให้ถูกผู้จัดการทั่วไปของรอว์ เอริก บิสชอฟฟ์ ไล่ออกจาก WWE

การกลับมา WWE

Thumb
ในตอนกำลังสู้กับริกกี สตีมโบตในแบคแลช (2009)

ในช่วงปลายปี 2007 เจริโคได้กลับมาWWE และได้เปิดศึกท้ากับชิงแชมป์ WWE กับแรนดี ออร์ตันในอาร์มาเกดดอน (2007) แต่ถูกเจบีแอลลอบทำร้ายในแมตช์ ทำให้เจริโคชนะฟาล์ว แต่ไม่ได้เข็มขัด[10] ในรอยัลรัมเบิล (2008) เจริโคได้เจอกับเจบีแอล เพื่อล้างแค้น แต่เจริโคถูกปรับแพ้ฟาล์ว[11] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 24 ได้เข้าร่วมปล้ำมันนีอินเดอะแบงก์แลดเดอร์แมตช์แต่ไม่ชนะ ในอันฟอร์กิฟเว่น (2008) เจริโคสามารถคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวทมาได้[12] ก่อนจะเสียแชมป์ให้บาทิสตาในไซเบอร์ซันเดย์ (2008) ในรอว์เจริโคสามารถคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวทกลับคืนมาได้จากบาทิสตาในแมตช์กรงเหล็ก[13] ต่อมาก็เสียแชมป์ให้จอห์น ซีนาในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2008) เจริโคยังได้รับรางวัลสแลมมีอะวอร์ด ประจำปี 2008 ในฐานะเป็นซูเปอร์สตาร์ยอดเยี่ยมแห่งปี[14] ต่อมาเจริโคได้เข้ารอบคัดเลือกหาผู้ท่าชิงอันดับ 1 ในแมตช์ 3 เส้า โดยมีบาทิสตา และแรนดี ออร์ตัน ร่วมชิงด้วย เพื่อหาผู้ชนะไปชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทกับซีนาในอาร์มาเกดดอน (2008) สุดท้ายเจริโคก็ไม่ชนะ[15]

Thumb
เป็นแชมป์แทกทีมยูนิฟายด์ร่วมกับบิ๊กโชว์ในนามเจริ-โชว์

เจริโคได้มีเรื่องกับนักมวยปล้ำในตำนาน ได้แก่ ริกกี สตีมโบต, จิมมี สนูกกา, ร็อดดี ไพเพอร์ และริก แฟลร์ จนทำให้ต้องเจอกันในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25 โดยมีริก แฟลร์ยีนอยู่ข้างเวที ผลสรุปคือเจริโคเอาชนะตำนานทั้ง 3 คนไปได้[16] ในเดือนเมษายน 2009 เจริโคก็ได้ถูกดราฟท์ตัวไปอยู่สแมคดาวน์[17] เขาได้มีเรื่องกับสตีมโบตอีกจนทำให้ต้องเจอกันในแบคแลช (2009) ผลปรากฏว่าเจริโคชนะไปได้[18] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2009) เจริโคสามารถคว้าแชมป์อินเตอร์สมัยที่9 ได้จากเรย์ มิสเตริโอ โดยการใช้กลโกงดึงหน้ากากของเรย์ออก[19] ในเดอะแบช (2009)ได้เสียแชมป์คืนให้กับเรย์ คืนเดียวกันก็สามารถคว้าแชมป์แท็กทีมยูนิฟายด์ร่วมกับเอดจ์มาได้[20] แต่ก็ครองแชมป์ได้เดือนเดียวเอดจ์ก็มีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าต้องพักการปล้ำไป ส่วนเจริโคก็พูดจาถากถางเอดจ์ว่าเป็นจุดอ่อนของทีม และก็เอาบิ๊กโชว์มาเป็นคู่แทนและได้ตั้งชื่อทีมว่าเจริ-โชว์ โดยเอดจ์บอกกับเจริโคว่าถ้าเขาหายเมื่อไหร่เขาจะกลับมาแก้แค้น[21] ในทีแอลซี (2009) เจริ-โชว์เสียแชมป์ให้ดิ-เจเรเนชั่น เอ็กซ์ (ทริปเปิลเอชและชอว์น ไมเคิลส์) ในTLC Match

เจริโคได้เข้าร่วมปล้ำแมตช์รอยัลรัมเบิล (2010)ออกมาลำดับที่28 แต่ก็ไม่ได้ชนะ โดยถูกเอดจ์ซึ่งกลับมาล้างแค้นจับเหวี่ยงออกจากเวที ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2010) เจริโคได้คว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวทจากแมตช์อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26 เจริโคสามารถป้องกันแชมป์จากเอดจ์ที่เป็นผู้ชนะรอยัลรัมเบิลเอาไว้ได้ แต่ว่าในสแมคดาวน์ เพียง 5 วัน เอดจ์ได้ออกมาลอบทำร้ายเจริโค และแจ็ก สแวกเกอร์ได้มาขอใช้สิทธิ์กระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทกับเจริโคในสภาพไม่พร้อมปล้ำ ทำให้เสียแชมป์ให้กับสแวกเกอร์ ต่อมาเจริโคก็ได้ถูกดราฟท์ตัวกลับมารอว์[22] ในซัมเมอร์สแลม (2010) เจริโคได้ร่วมปล้ำแทกทีมกับทีม WWE นำทีมโดย จอห์น ซีนา เพื่อล้างแค้นเดอะเน็กซัส ในรูปแบบแทกทีม 7 ต่อ 7 แต่สมาชิกในทีมอย่างเดอะเกรทคาลีถูกเน็กซัสลอบทำร้ายจนมาร่วมปล้ำไมได้ ทำให้ต้องหาคนมาแทน โดยซีนาได้เลือกแดเนียล ไบรอัน อดีตกลุ่มเน็กซัส มาร่วมทีม WWE และสามารถเอาชนะกลุ่มเน็กซัสได้[23] ในรอว์ 27 กันยายน เจริโคได้ถูกแรนดี ออร์ตันเตะเข้าที่ศีรษะจบเจ็บตามบท แท้จริงแล้วเขาต้องไปทัวร์คอนเสิร์ตกับวงฟอซซี ทำให้ต้องอำลาวงการมวยปล้ำ[24]

การกลับมา WWE ครั้งที่ 2

Thumb
เจริโคในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28

ในปี 2012 เจริโคได้กลับมา WWE หลังจากหายไปเป็นเวลา 1 ปีกว่า โดยกลับมาในรอว์ 2 มกราคม มาถึงก็เดินขึ้นเวทีทักทายคนดูยิ้มแย้มมากขึ้นเวทีไปก็พยายามเรียกเสียงเชียร์พอจะหบิบไมค์พูด สุดท้ายเจอริโคกลับไม่พูดอะไร และเดินกลับไปหลังเวทีท่ามกลางเสียโห่ของคนดู ในรอว์ 16 มกราคม เจอริโคได้ขึ้นปล้ำครั้งแรกหลังจากกลับมาใน WWE โดยปล้ำแทกทีม 6 คนจับคู่กับ ซีเอ็ม พังก์ (แชมป์ WWE) และแดเนียล ไบรอัน ระหว่างแมตช์พังก์แทกเอาเจอริโคเข้ามาปล้ำแต่กลับไม่ปล้ำแล้วแทกเอาไบรอันและเดินหนีกลับไปหลังเวที ในรอว์ 23 มกราคม เจริโคออกมาจัดรายการ Highlight Reel โดยบอกว่า ในรอยัลรัมเบิล มันจะเป็นวาระสุดท้ายของโลก" ในรอยัลรัมเบิล (2012) เจริโคได้เข้าร่วมแมตช์รอยัลรัมเบิล โดยออกมาเป็นลำดับที่29 แต่ก็ถูกเหวี่ยงออกจากเวทีเป็นคนสุดท้ายโดยเชมัส[25] ในรอว์คืนต่อมา ได้มาก่อกวนการปล้ำของซีเอ็ม พังก์ โดยหลังแมตช์เจริโคขึ้นมาใส่ท่า Codebreaker เล่นงานพังก์ก่อนจะกลับจากไป ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2012) ได้ปล้ำแมตช์อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ชิงแชมป์ WWE แต่ไม่สำเร็จเพราะต้องออกจากการแข่งขันจากการถูกพังก์เตะออกนอกกรงและหัวไปกระแทกกับกล้องนอกสนามจนกรรมการส่งสัญญาณตัว X ให้เจอริโคออกจากแมตช์ทันที[26] ในรอว์คืนต่อมา ได้ชนะแบทเทิลรอยัล ทำให้ได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับซีเอ็ม พังก์ ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 ในรอว์สัปดาห์ต่อมา เจริโคได้ออกมาลอบทำร้ายพังก์ จับสแลมใส่พื้นโลหะแล้วก็ใส่ Liontamer ก่อนที่กรรมการจะรีบออกมาห้ามและท้าพังก์ ว่าใครคือ "สุดยอดที่สุดของโลก" ต่อมาเจริโคได้พูดด่าถึงครอบครัวของพังก์โดยเจอริโคได้พูดด่าพ่อของพังก์ ว่าเป็นคนติดเหล้า, น้องสาวติดยา และได้พูดด่าแม่ของพังก์โดยบอกว่าพ่อแม่ของพังก์แต่งงานกันหลังจากที่คลอดพังก์เรียบร้อยแล้ว ในเรสเซิลเมเนีย แมตช์ชิงแชมป์ WWE โดยถ้าพังก์ถูกปรับแพ้ฟาล์วจะเสียแชมป์ให้กับเจริโคทันที สุดท้ายเจริโคไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้[27] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2012) ได้ขอรีแมตช์ชิงแชมป์ในแมตช์ชิคาโกสตรีทไฟท์ สุดท้ายเจริโคก็ยังไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้[28]

ในโอเวอร์เดอะลิมิต (2012) ได้ปล้ำชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท 4 เส้ากับ เชมัส, อัลเบร์โต เดล รีโอ และแรนดี ออร์ตัน แต่ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้[29] ต่อมาเจริโคได้ก่อเหตุเตะธงชาติบราซิลระหว่างแมตช์ ในเฮาส์โชว์ที่ WWE ไปเยือนกรุงเซาเปาโล ประเทศบราซิล ทำให้ WWE ตัดสินใจสั่งแบนเจริโคอย่างไม่มีกำหนด และต้องแถลงการขอโทษแฟนๆ ชาวบราซิลและรัฐบาลบราซิลด้วย WWE ไปทัวร์ที่เซาเปาโล เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม เจริโคได้แสดงความหยาบคายต่อธงชาติบราซิลในระหว่างแมตช์กับซีเอ็ม พังก์ ระหว่างแมตช์ดังกล่าว เจริโคเจอธงชาติบนเวที เขาจึงหยิบธงขึ้นมาเตะ ทำให้ทีมงานต้องรีบมาหยุดแมตช์และให้เจริโคขอโทษต่อแฟนๆ ก่อนที่จะดำเนินแมตช์ต่อไป เมื่อจบแมตช์แล้วทีมงาน WWE จึงได้สั่งแบนเจอริโคอย่างไม่มีกำหนดทันที[30][31] หลังจากพ้นโทษแบนในรอว์ 25 มิถุนายน เจอริโคได้กลับมาแล้วก็ไล่จอห์น ซีนา บอกว่าคืนนี้เป็นคืนที่จะต้องต้อนรับการกลับมาของชั้นไม่ใช่ให้แกมาเล่นตลกโชว์ ซีนาบอกตอนนี้บิ๊กโชว์มันกำลังคลั่งมันจะเข้าร่วมแมตช์มันนีอินเดอะแบงก์ เพราะฉะนั้นชั้นจึงขอเข้าร่วมแมตช์นี้ด้วยเพื่อหยุดยั้งบิ๊กโชว์ เจริโคบอกว่าแกจะเล่นบทฮีโร่ไปถึงไหนแมตช์มันนีอินเดอะแบงก์มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มันเป็นแมตช์ที่โหดและอาจทำให้ต้องยุติอาชีพได้เลย วิกกี เกร์เรโรออกมาและบอกว่าจะมีแมตช์มันนีอินเดอะแบงก์ สองแมตช์ทั้งรอว์และสแมคดาวน์ โดยฝั่งรอว์จะอนุญาตให้เฉพาะอดีตแชมป์ WWE เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์เข้าร่วมผู้ที่จะได้เข้าร่วมก็คือ บิ๊กโชว์, เคน, เจริโค และซีนา[32] ในมันนีอินเดอะแบงก์ (2012) ซีนาก็คว้ากระเป๋าสิทธิ์ชิงแชมป์ WWE ไปได้[33]

ในรอว์ 16 กรกฎาคม เจริโคออกมาขัดจังหวะดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ แต่ยังไม่ทันพูดอะไร ซิกก์เลอร์ก็ชิงด่าก่อนทันที เจริโครำคาญเลยใส่ท่า Codebreaker ใส่ซิกก์เลอร์แล้วเดินจากไป ในสแมคดาวน์ 17 สิงหาคม 2012 เจริโคได้เจอกับอัลเบร์โต เดล รีโอ โดยก่อนเริ่มปล้ำซิกก์เลอร์เอากระเป๋ามาฟาดใส่หัวเจริโค จากนั้นซิกก์เลอร์ก็เอารถชั้นวางของมาชนซ้ำอีกจนเจริโคบาดเจ็บที่ท้อง แต่ก็ยังออกมาปล้ำได้แบบฝืนๆ สุดท้ายเจริโคก็แพ้ด้วยท่า Enzuigiri โดยการก่อกวนจากซิกก์เลอร์ หลังแมตช์เดล รีโอจับเจริโคมาใส่ Cross ArmBreaker โดยที่ซิกก์เลอร์ขึ้นมาหัวเราะเยาะเย้ย แต่เชมัสออกมาช่วยไล่เดล รีโอกับซิกก์เลอร์ไป ในซัมเมอร์สแลม (2012) เจริโคได้เอาชนะซิกก์เลอร์ไปได้[34] ในรอว์คืนต่อมา เจริโคได้เจอกับซิกก์เลอร์ โดยผู้จัดการทั่วไปของรอว์ เอเจ ลี ได้มีข้อแม้ว่าถ้าเจอริโคแพ้จะต้องถูกไล่ออก และถ้าซิกก์เลอร์แพ้ก็จะเสียกระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ให้เจอริโค[35] สุดท้ายเจริโคก็เป็นฝ่ายแพ้ ทำให้ต้องถูกไล่ออกจาก WWE ซึ่งแท้จริงแล้ว เจริโคจะต้องไปร่วมทัวร์คอนเสิร์ตกับวงฟอซซี หลังแมตช์เจริโคเอากระเป๋ามากระทุ้งใส่ท้องและตีใส่หลังของซิกก์เลอร์ และปิดท้ายด้วยท่า Codebreaker จากนั้นก็ได้อำลาแฟนๆ ในสนามก่อนจาก[36] ในรอยัลรัมเบิล (2013) เจริโคได้เซอไพรส์แฟนๆ โดยมาขึ้นปล้ำรอยัลรัมเบิลเป็นคนที่2 ต่อจากซิกก์เลอร์คนที่1 สุดท้ายเจริโคถูกกำจัดโดยซิกก์เลอร์[37] ต่อมาได้เปิดศึกกับฟันดังโก โดยในรอว์ 18 มีนาคม เจริโคให้สัมภาษณ์อยู่หลังเวที ฟันดังโกเข้ามาขัดจังหวะ บอกว่าเขาชื่อ Fannnnn Dangggg Goooooo แต่เจริโคล้อเลียนชื่อของฟันดังโก[38] ในสแมคดาวน์ 22 มีนาคม เจริโคมีแมตช์กับแจ็ก สแวกเกอร์ และพยายามจะใส่ Lionsalz แต่ฟันดังโกโดดขึ้นมาเตะก้านคอ ก่อนจะเป็นสแวกเกอร์กลับมาใส่ Swagger bomb จับกดชนะไป หลังแมตช์ถูกฟันดังโกลอบทำร้าย[39] ในรอว์ 25 มีนาคม เจริโคได้ออกมาอัดฟันดังโกที่กำลังเปิดตัว ทำให้ฟันดังโกหนีไป หลังจากเจริโคชนะซิกก์เลอร์ไปได้ บิ๊กอีมาลอบทำร้ายเจริโค ฟันดังโกออกมาต่อยเจริโคซ้ำอีกเป็นชุด ต่อด้วยท่าไม้ตาย Diving Legdrop คืนเดียวกันเจริโคให้สัมภาษณ์ว่าเขาไปคุยกับวิกกีมาแล้ว และขอให้จัดแมตช์เจอกับฟันดังโกในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29[40] สุดท้ายเจอริโคก็แพ้ไป[41] แต่เจอริโคก็สามารถเอาชนะฟันดังโกมาได้ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2013)[42] ในรอว์ 27 พฤษภาคม เจริโคได้จัดรายการ Highlight Reel โดยแขกรับเชิญคือพอล เฮย์แมน เจริโคบอกจะวัดความเป็นสุดยอดที่สุดในโลกของจริงไปเลย ก่อนจะเอ่ยปากขอท้าเจอกับซีเอ็ม พังก์ในเพย์แบ็ค (2013)[43] ในเพย์แบ็กได้แพ้ให้กับพังก์[44] ต่อมาเจริโคได้เปิดศึกกับไรแบ็ก[45] และได้มีแมตช์ในมันนีอินเดอะแบงก์ (2013) แต่เจริโคแพ้ไป[46] ในสแมคดาวน์ 19 กรกฎาคม เจริโคได้แพ้ให้กับเคอร์ติส แอ็กเซล หลังแมตช์ไรแบ็กออกมาเยาะเย้ยและเล่นงานเจอริโค[47] จากนั้นเจอริโคก็หายไปทัวร์คอนเสิร์ตอีกครั้ง[48][49]

ในรอว์ 30 มิถุนายน 2014 เจริโคได้กลับมาจัดการ Codebreaker ใส่เดอะมิซ ก่อนจะบอกว่ารู้สึกดีเหลือเกิน รอเวลามานานแล้วที่จะได้พูดว่า RAW is... แต่เดอะไวแอ็ตต์แฟมิลี (เบรย์ ไวแอ็ตต์, ลู้ก ฮาร์เปอร์ และอีริก โรแวน) โผล่มารุมเล่นงานเจริโค[50] ในรอว์ 7 กรกฎาคม เจริโคมีแมตช์ชนะเดอะมิซไปได้ด้วยท่า Walls of Jericho หลังแมตช์เบรย์โผล่มานั่งเก้าอี้โยกที่ทางเดิน และก็บอกว่าเจริโคน่าจะเลิกพูดมากได้แล้ว เพราะการกระทำสำคัญกว่าคำพูด เจริโคก็บอกว่าเห็นด้วย การกระทำสำคัญกว่าการพูด และตอนนี้แกก็อยู่คนเดียวพอดี จะไปกระทืบแกให้ตกเก้าอี้เดี๋ยวนี้แหละ เจริโคเดินไปหาเบรย์ แต่ฮาร์เปอร์กับโรแวนก็มายืนอยู่ข้างหลังเบรย์ ทำให้เจริโคไม่เข้าไป ในแบทเทิลกราวด์ (2014) เจริโคเอาชนะเบรย์ไปได้[51] ก่อนจะรีแมตช์กันในซัมเมอร์สแลม (2014) โดยเจริโคแพ้[52] ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2014) เจริโคได้ปล้ำแพ้แรนดี ออร์ตัน[53][54] ในสแมคดาวน์ 14 พฤศจิกายน เจริโคได้จัดรายการ Highlight Reel โดยดิออธอริตีเป็นแขกรับเชิญ[55] ต่อมาในรอว์ 15 ธันวาคม เจริโคได้มาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทั่วไปรับเชิญ และพอล เฮย์แมนก็ออกมาขัดจังหวะ เจริโคเลยจัดแมตช์ให้ตัวเองเจอกับเฮย์แมนแบบ Street Fight แต่เฮย์แมนเรียกบร็อก เลสเนอร์ออกมาช่วย และจับเจริโคใส่ F-5[56]

ในเดือนมกราคม 2015 เจริโคได้เผยในทวิตเตอร์ว่าสัญญาของเขาที่ทำไว้กับ WWE คือขึ้นปล้ำเฮาส์โชว์ 16 โชว์ในวันที่ 10 มกราคม ถึง 1 มีนาคม โดยไม่ปรากฏตัวออกจอทีวี[57] ก่อนที่จะเซ็นสัญญาขึ้นปล้ำอีก 19 โชว์ที่ไม่ได้ออกทีวีระหว่างเดือนมิถุนายนและสิงหาคม[58] ในเดือนพฤษภาคม ได้เป็นผู้ดำเนินรายการทัฟ อีนัฟซีซั่นที่6[59] วันที่ 4 กรกฎาคม ในโชว์พิเศษทาง WWE Network เจริโคได้กลับมาขึ้นปล้ำถ่ายทอดสดอีกครั้งโดยเอาชนะเนวิลล์ไปได้[60] ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2015) เจริโคได้เซอร์ไพรส์มาร่วมปล้ำแทกทีม 6 คนกับดีน แอมโบรสและโรแมน เรนส์ แพ้ให้กับไวแอ็ตต์แฟมิลี[61] ในWWE Live from Madison Square Gardenได้แพ้ในการชิงแชมป์อินเตอร์สมัยที่10กับเควิน โอเวนส์[62]

ในเดือนมกราคม 2016 เจริโคได้รีเทิร์นและประกาศเข้าร่วมแมตช์รอยัลรัมเบิล (2016)[63] โดยขึ้นมาเป็นลำดับที่6 แต่ไม่ได้ชนะ[64] ต่อมาได้เปิดศึกกับเอเจ สไตส์ โดยผลัดกันแพ้-ชนะ 1-1 ทำให้ต้องตัดสินกันในฟาสต์เลน (2016) ซึ่งเจริโคเป็นฝ่ายแพ้[65][66][67][68][69][70] คืนต่อมาได้ร่วมทีมกับเอเจในนาม Y2AJ[71][72] และได้ชิงแชมป์แทกทีมกับเดอะนิวเดย์ ในรอว์ 7 มีนาคม แต่ไม่สำเร็จ หลังแมตช์ได้หักหลังเอเจและเป็นฝ่ายอธรรมไปอีกครั้งนับตั้งแต่ปี 2012 ต่อมาเอเจได้ขอท้าเจอกับเจริโคในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 32 โดยเจริโคเอาชนะไปได้[73] ต่อมาได้เปิดศึกกับดีน แอมโบรส แต่ก็แพ้ให้แอมโบรสทั้งในเพย์แบ็ก (2016) และเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2016)[74]

วันที่ 19 กรกฎาคม 2016 เจริโคได้ถูกดราฟท์ไปรอว์ ต่อมาได้มีบทเป็นเพื่อนรักกับแชมป์ยูนิเวอร์แซล WWE เควิน โอเวนส์[75][76] ในรอว์ 9 มกราคม เจริโคได้แชมป์ยูเอสเป็นสมัยแรกจากโรแมน เรนส์ในแฮนดิแคป 2 รุม 1 ร่วมกับโอเวนส์ และเป็นการได้แชมป์เส้นแรกในรอบหลายปี[77] และเป็นแกรนด์สแลมคนที่7 ในรูปแบบใหม่[78] ในรอยัลรัมเบิล (2017) ได้เข้าร่วมแมตช์รัมเบิลเป็นคนที่2 และสามารถอยู่ในแมตช์นานกว่าชั่วโมง ก่อนจะตกรอบในสี่คนสุดท้ายโดยเรนส์ (ทำลายสถิติในทุกๆครั้งที่เข้าร่วมมากกว่าห้าชั่วโมง)[79][80][81][82] ในรอว์ 13 กุมภาพันธ์ ได้ถูกโอเวนส์หักหลังในงานฉลอง "Festival of Friendship" ของทั้งสอง ทำให้ถูกหามส่งโรงพยาบาล[83][84] ในฟาสต์เลน (2017) เจริโคได้ออกมาก่อกวนการปล้ำของโอเวนส์จนแพ้เสียแชมป์ยูนิเวอร์แซลให้โกลด์เบิร์ก รอว์คืนต่อมาโอเวนส์ประกาศท้าชิงแชมป์ยูเอสกับเจริโคในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 33[85][86] และเจริโคก็เสียแชมป์หลังจากครองได้ 83 วัน[87][88] ในเพย์แบ็ก (2017)เจริโคสามารถคว้าแชมป์ยูเอสกลับคืนมาได้และได้ย้ายไปสแมคดาวน์ แต่ครองได้เพียงสองวันก็เสียแชมป์คืนให้โอเวนส์ ในสแมคดาวน์ 25 กรกฎาคม 2017 เจริโคได้เซอร์ไพรส์โดยมาร่วมชิงแชมป์ยูเอสแบบสามเส้ากับเอเจและโอเวนส์ซึ่งเอเจคว้าแชมป์ไปได้[89]

การกลับมา NJPW

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2017 เจริโคได้ปรากฏตัวที่ NJPW ผ่านทางเทปโดยประกาศขอท้าเจอกับเคนนี โอเมกาชิงแชมป์ IWGP United States Heavyweight Championship ในWrestle Kingdom 12 วันที่ 4 มกราคม 2018 ที่ Tokyo Dome[90][91] ซึ่งเป็นการขึ้นปล้ำนอกสังเวียน WWE ครั้งแรกของเจริโคนับตั้งแต่ปี 1999[92] นอกจากนี้ยังได้รับการยืนยันจาก Dave Meltzer (ผ่าน Twitter) และ Forbes ว่าสัญญาของเขากับ WWE ได้หมดลงแล้วทำให้สถานะของเขาเป็น "free agent"[93][94] แต่มีการเพิ่มเติมข้อมูลจาก Tokyo Sport เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเปิดเผยว่าเจริโคไม่ได้ปล้ำฟูลไทม์กับ NJPW เขายังมีสัญญากับ WWE นอกจากนี้วินซ์ แม็กแมนยังเป็นคนอนุญาตให้เขามาปล้ำกับโอเมกาอีกด้วย[95] ใน Wrestle Kingdom 12 โอเมกาป้องกันแชมป์ไปได้แบบไม่มีกฏกติกา[96][97] 22 มกราคม 2018 เจริโคได้ร่วมรอว์ครบรอบ 25 ปี โดยปรากฏตัวที่หลังเวทีและจดชื่ออีไลแอสลง List of Jericho[98] 27 เมษายน เจริโคได้ร่วมปล้ำเกรเทสต์ รอยัลรัมเบิล 50 คนแต่ไม่ชนะ วันที่ 9 มิถุนายน ในศึก Dominion 6.9 เจริโคได้คว้าแชมป์ IWGP Intercontinental Championship จากการเอาชนะ Tetsuya Naito ทำให้เป็นคนแรกที่ได้แชมป์อินเตอร์ทั้ง WWE และ NJPW[99] ก่อนเสียคืนให้ Naito ในศึก Wrestle Kingdom 13[100]

ออลอีลิตเรสต์ลิง

วันที่ 8 มกราคม 2019 เจริโคได้เซ็นสัญญากับสมาคมหน้าใหม่อย่าง All Elite Wrestling (AEW)[101] และได้คว้าแชมป์โลกของ AEW เป็นคนแรกในศึก AEW All Out วันที่ 31 สิงหาคม 2019[102] และได้ก่อตั้งกลุ่ม Inner Circle[103][104] และ Jericho Appreciation Society (JAS) ตามลำดับ[105] ในเดือนกันยายน 2022 เจริโคได้คว้าแชมป์โลก ROHเป็นสมัยแรกจากเกลาดีโอ คาสทาโญลีทำให้เป็นแชมป์โลกสมัยที่ 8 ในอาชีพการปล้ำและเป็นคนที่ 2 ต่อจากซีเอ็ม พังก์ที่ได้แชมป์ WWE, แชมป์โลกเฮฟวี่เวท, แชมป์โลก AEW และแชมป์โลก ROH[106]

Remove ads

ผลงานอื่นๆ

ข้อมูลเบื้องต้น คริส เจริโค, ข้อมูลพื้นฐาน ...
คริส เจริโค
Thumb
บนเวทีคอนเสิร์ตกับวงฟอซซี
ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อเกิดคริสโตเฟอร์ คีท เออร์วิน
รู้จักในชื่อMoongoose McQueen
เกิด (1970-11-09) 9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1970 (54 ปี)
ที่เกิดManhasset, รัฐนิวยอร์ก, U.S.
แนวเพลงเฮฟวีเมทัล, ฮาร์ดร็อก, แกลมเมทัล
อาชีพนักดนตรี, นักแต่งเพลง, นักแสดง
เครื่องดนตรีร้อง, เบส, เปียโน
ช่วงปี1999 - ปัจจุบัน
ค่ายเพลงMegaforce, ASH, Riot Entertainment, Century Media
เว็บไซต์chrisjericho.com
ปิด

เขายังมีผลงานอื่นๆ ดังนี้

ผลงานเพลง

แดนซิงวิทเดอะสตาส์

สัปดาห์ # เต้นรำ/เพลง/นักดนตรี คะแนน ผลการตัดสิน
Inaba Goodman Tonioli
1 Cha-Cha-Cha/"Should I Stay or Should I Go" 7 6 6 ไม่ถูกโหวตออก
2 Quickstep/"I Got Rhythm" 8 7 8 Safe
3 Rumba/"Let It Be" 7 7 7 Last To Be Called Safe
4 Paso Doble/"In the Hall of the Mountain King" 8 7 8 Safe
5 Viennese Waltz/"America The Beautiful" 9 8 9 Last To Be Called Safe
6 Tango/"Don't Stop Believin" 7 8 7 ถูกโหวตออก

ผลงานแสดง

ข้อมูลเพิ่มเติม ปี, เรื่อง ...
ภาพยนตร์
ปี เรื่อง รับบท หมายเหตุ
2006 Android Apocalypse TeeDee
2009 Albino Farm Levi
2009 Bloodstained Memoirs Himself Documentary
2010 MacGruber Frank Korver
2015 Sharknado 3: Oh Hell No! Bruce
2016 Nine Legends Himself
ปิด
ข้อมูลเพิ่มเติม ปี, เรื่อง ...
โทรทัศน์
ปี เรื่อง รับบท หมายเหตุ
2009 Aaron Stone Billy Cobb "Xero Control" (season 1: episode 11)
2009 Z Rock Himself "Z Wrestler" (season 2: episode 6)
2010 Downfall Himself Host
2011 Dancing with the Stars Himself Season 12 contestant
2011 Cubed Himself
2013 Robot Combat League Himself Host
2013 But I'm Chris Jericho! Himself Lead
2013 Talking Dead Himself Season 3 episode 4
2014 @midnight Himself Episode 47
2015 WWE Tough Enough Himself Host
2016 Hollywood Game Night Himself
2016 Talking Dead Himself Season 5 episode 19
2016 Whose Line Is It Anwyay? Himself Season 13 episode 13
2016 The Eric Andre Show Himself
ปิด

ดับเบิลยูดับเบิลยูอี เน็ตเวิร์ค

ข้อมูลเพิ่มเติม ปี, เรื่อง ...
ปี เรื่อง รับบท หมายเหตุ
2015 Live! With Chris Jericho Himself Host
ปิด
Remove ads

แชมป์และรางวัล

มวยปล้ำอาชีพ

อื่นๆ

  • The Order of the Buffalo Hunt of the province of Manitoba, awarded for his "championship achievements in sports and commitments to underprivileged children". (2004)[176][177]
  • Queen Elizabeth II Platinum Jubilee Medal of the province of Manitoba, for his work with various local charities. (2023)[178]
  • In 2004, Jericho received the Keys to the City of Winnipeg.[179]
  • On March 12, 2023, the city of Winnipeg renamed the street he grew up on into "Chris Jericho Way".[178]
Remove ads

นัดที่มีเดิมพัน

ข้อมูลเพิ่มเติม ผู้ชนะ(เดิมพัน), ผู้แพ้(เดิมพัน) ...
ผู้ชนะ(เดิมพัน) ผู้แพ้(เดิมพัน) สถานที่ ศึก วันที่ บันทึก
Corazón de León (ผม) Cro-Magnon (ผม) Mexico City, Distrito Federal CMLL Live event May 30, 1993
Chris Jericho (ชิงแชมป์) Juventud Guerrera (หน้ากาก) Daly City, California SuperBrawl VIII 22 กุมภาพันธ์ 1998 [9]
Chris Jericho (ผม) Kevin Nash (ผม) Grand Rapids, Michigan Raw August 18, 2003
John Cena (สัญญา/ชิงแชมป์) Chris Jericho (สัญญา) Hampton, Virginia Raw August 22, 2005
Rey Mysterio (หน้ากาก) Chris Jericho (ชิงแชมป์) Sacramento, California The Bash June 28, 2009
Dolph Ziggler (Money in the Bank) Chris Jericho (สัญญา) Fresno, California Raw August 20, 2012
ปิด
Remove ads

หมายเหตุและอ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Wikiwand in your browser!

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.

Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.

Remove ads