Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เรสเซิลเมเนีย XXVI เป็นการแสดงมวยปล้ำอาชีพแบบ Pay-Per-View (PPV) ของศึก เรสเซิลเมเนีย เป็นครั้งที่ 26 จัดโดย เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ (WWE), โดยมีกำหนดจัดวันที่ 28 มีนาคม ค.ศ. 2010 ที่ ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ฟีนิกซ์ สเตเดียม ใน เกลนเดล, แอริโซนา.[2] โดย เรสเซิลเมเนีย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มาจัดใน รัฐแอริโซนา และเป็น เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 3 ที่เป็นการแสดงกลางแจ้ง[2][3] โดยเป็นศึกที่รวมการแสดงนักมวยปล้ำแต่ละค่ายของ WWE เอาไว้ทั้งหมด โดยก่อนเริ่มศึกได้มีการร้องเพลง America the Beautiful ก่อนที่จะเริ่มต้นรายการอีกด้วย
เรสเซิลเมเนีย XXVI | |||
---|---|---|---|
สมาคม | เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ | ||
วันที่ | 28 มีนาคม ค.ศ. 2010 | ||
เมือง | เกลนเดล, แอริโซนา | ||
สถานที่ | ยูนิเวอร์ซิตี้ออฟฟีนิกซ์สเตเดียม | ||
ผู้ชม | 72,219 คน | ||
แท็กไลน์ | "Destruction in the Desert "[1] "History Will Be Made. Will You Be There? " "Get All Fired Up." | ||
ลำดับเหตุการณ์ Pay-per-view | |||
| |||
ลำดับเหตุการณ์เรสเซิลเมเนีย | |||
|
ก่อนการคัดเลือกสถานที่ที่ต้องใช้จัด ในศึก เรสเซิลเมเนีย ในปี 2010 ทาง Global Spectrum, ซึ่งเป็นผู้ประสานงานของสนามกีฬาของมหาวิทยาลัยฟินิกซ์ได้ติดต่อไปทาง เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ (WWE) ให้ร่วมคัดเลือกสถานที่นี้ ให้เป็นสถานที่จัดของ เรสเซิลเมเนีย ในวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 2008 ทาง WWE ได้คัดเลือกให้สถานที่นี้จัด ศึก เรสเซิลเมเนีย ในปี 2010.[4] โดยมีการแถลงข่าวในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 ที่สนาม ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ฟีนิกซ์ สเตเดียมซ์ ว่านี้ คือ จุดสำคัญที่ เรสเซิลเมเนีย ได้มาจัด ณ รัฐฟินิกซ์ เป็นครั้งแรก โดยถือว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยบัตรจำหน่ายที่ ทิคเกตส์มาสเตอร์ ในเวลา 10.00 น. ตามเขตเวลา MST
ในปี ค.ศ. 2010 รูปแบบการจัดศึก เรสเซิลเมเนีย ได้ลงนิตยสารของ WWE แสดงภาพว่า ระหว่างการจัดศึก เรสเซิลเมเนีย จะมีการเปิดหลังคาของสนามเพื่อให้โล่งแจ้งอีกด้วย หลังจากที่มีการจัด เรสเซิลเมเนีย ในที่โล่งแจ้งมาแล้ว 2 ครั้ง คือ เรสเซิลเมเนีย IX และ เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 24
2 ซิงเกิ้ลเพลงจาก Kevin Rudolf ได้ถูกนำมาใช้ในการประชาสัมพันธ์ โดยการจัดจำหน่ายบัตรใช้เพลง Welcome to the World ในเดือน พฤศจิกายน ปี ค.ศ. 2009 [5] และในเดือน มกราคม ปี ค.ศ. 2010 WWE ได้จัดทำโฆษณาการนับถอยหลังของ เรสเซิลเมเนีย คือ เพลง ไอ เมด อิท [6] เพลง ไอ เมด อิท เป็นเพลงล่าสุดที่ใช้เป็นเพลงประจำศึก เรสเซิลเมเนีย และในวันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2010 ระหว่างการจัดรายการ สแมคดาวน์ ได้มีการประชาสัมพันธ์ว่า เพลงในอัลบั้ม AD/DC ไอร่อนแมน 2 คือ เพลง ทันเดอร์สตรัค จะใช้เป็นเพลงประจำศึก เรสเซิลเมเนีย อีก 1 เพลง
เรสเซิลเมเนีย กับ ประเภทแมตช์การปล้ำ จะถูกกำหนดโดย การวางพล็อตเรื่อง และ เขียนบท โดยที่ เรสเซิลเมเนีย ทำการแสดงไม่เกี่ยวกับรายการทีวีของ WWE รายการใดทั้งสิ้น โดยนักมวยปล้ำจะถูกวางตัวให้เป็น ตัวร้าย หรือ ซุปเปอร์ฮีโร่ ทั้งหมดโดยการจัดแมชท์[7] นักมวยปล้ำทั้งหมดที่มาจาก รอว์ และ สแมคดาวน์ บางคนเท่านั้นที่มีความบาดหมางจากรายการทีวีของ WWE จะได้มาแสดงที่ เรสเซิลเมเนีย [8]
ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25 ชอว์น ไมเคิลส์ ไม่สามารถเอาชนะ ดิอันเดอร์เทเกอร์ ได้[9] ซึ่งแมตช์นั้นเป็นแมตช์สุดยอดประจำปี 2009 ของรางวัล สแลมมีอะวอร์ด ในการรับรางวัลนั้น ชอว์น ไมเคิลส์ ได้ประกาศท้า อันเดอร์เทเกอร์ ว่า เขาจะขอเจอกับ อันเดอร์เทเกอร์ ในศึก เรสเซิลเมเนีย โดยเป็นการรีแมตช์จากศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่แล้วที่เขาแพ้[10] หลังจากนั้น 1 เดือน อันเดอร์เทเกอร์ ที่เป็น แชมป์โลกเฮฟวี่เวท ในขณะนั้น ได้ตอบชอว์น กลับมาว่า เขาไม่ยอมรับคำท้า[11] โดยชอว์นได้ลอบทำร้ายในแมตช์ที่ อันเดอร์เทเกอร์ ปล้ำ โดยทำร้ายกรรมการ ชาลส์ โรบินสัน และผู้จัดการทั่วไปของ สแมคดาวน์ ทีโอดอร์ ลอง[12] .และในศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ชอว์นลอบทำร้าย อันเดอร์เทเกอร์ ในแมตช์ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ เพื่อชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท โดยใช้ท่า สวิชชิน มิวซิค ทำให้ คริส เจอริโค ได้แชมป์โลกเฮฟวี่เวท ไปครอง ในคืน ต่อมา อันเดอร์เทเกอร์ จึงเปลี่ยนใจยอมรับคำถ้าของชอว์น โดยมีข้อแม้คือ ถ้า ชอว์น แพ้ เขาต้องยุติอาชีพของตัวเอง ชอว์น ไมเคิลส์ ตกลง พร้อมโปรยคำทิ้งท้ายว่า “ไม่มีทาง เขาจะต้องทำลายสถิติของอันเดอร์เทเกอร์ ให้ได้ และไม่มีทางที่อาชีพของเขาจะจบลง" และแมตช์นี้ได้มีกติกาเสริม คือ ไม่มีการยอมแพ้ ไม่มีการจับแพ้ฟาล์ว
ในศึก เดอะแบช ค.ศ. 2009 เอดจ์ และ คริส เจอริโค ที่เป็นคู่แทคทีมกัน ได้ แชมป์แทคทีมยูนิฟายด์ ในคืนนั้น[13] ต่อมา เอดจ์ ได้รับบาดเจ็บและพักการปล้ำไป เจอริโคจึงกล่าวโจมตีเอดจ์ ทำให้ เอดจ์ ที่บาดเจ็บอยู่ไม่พอใจ[14][15] ในศึก รอยัลรัมเบิล (2010) เอดจ์หายจากอาการบาดเจ็บ กลับมา พร้อมทั้งชนะในแมตช์ รอยัลรัมเบิล ได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ตามกฎของผู้ชนะ เขารอผู้ชนะจากศึก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ อีกที[16] In the main event of the อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2010) โดย 3 อาทิตย์ ต่อมา เจอริโก้ ได้แชมป์โลกเฮฟวี่เวท จาก ดิอันเดอร์เทเกอร์ ในแมตช์ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์[17] คืนต่อมา ในศึกรอว์ เอดจ์ ได้ประกาศว่าเขาจะขอชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท จาก เจอริโค ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งนี้[18]
อีกหนึ่งคู่ที่มีการปล้ำเพื่อชิงเข็มขัด แชมป์ WWE ในศึก เรสเซิลเมเนีย คือ จอห์น ซีนา พบ บาทิสตา โดยเริ่มจากที่ จอห์น ซีนา กับ เบรต ฮาร์ต มีปัญหากับ เจ้าของ WWE วินซ์ แม็กแมน[19] ต่อมา ในศึกรอว์ ในเดือนกุมภาพันธ์ บาทิสตา มาช่วย วินซ์ และทำร้ายเบรต[20] หลังจากที่การปล้ำจบลง ซีนาได้ออกมาช่วยเบรต และ โจมตี บาทิสตา[21] ต่อจากนั้นใน รายการ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2010) ในแมทช์เปิดรายการ ซีนา ชนะ เชมัส คว้าแชมป์ WWE มาครอง ในแมตท์ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ เพื่อการชิงแชมป์ WWE แต่หลังจากที่จบแมชท์ วินซ์ได้ประกาศให้ บาทิสตา ชิงแชมป์ WWE กับ ซีนา ต่อจากนั้นโดยทันที โดยที่ ซีนา พึ่งปล้ำเสร็จ ยังไม่ได้รับการพักผ่อน ทำให้ ซีนา แพ้ บาทิสตา พร้อมกับเสียแชมป์โลก WWEไปอีกด้วย [22] ในศึกรอว์ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ซีนา แค้นมากจึงขอท้าเจอ บาทิสตา รีแมตช์ ในศึก เรสเซิลเมเนีย แต่วินซ์ให้ ซีนา รีแมตช์ กับ บาทิสตา ในรายการวันนั้น ให้ชนะ จึงจะได้รีแมตช์ ในศึก เรสเซิลเมเนีย และในคืนนั้น จอห์น ซีนา ชนะ ฟาล์ว จึงได้ ไปปล้ำชิงแชมป์ WWE ในศึก เรสเซิลเมเนีย
ได้มีการคัดเลือกนักมวยปล้ำไปปล้ำกติกา Money In The Bank จำนวน 10 คน โดยผู้ชนะจะสามารถท้าชิงแชมป์อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาใดก็ได้ [23] โดยผู้เข้าร่วมทั้งหมดได้แก่ คริสเตียน, ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์, เคน, ดรูว์ แม็กอินไทร์, เชลตัน เบนจามิน, แจ็ก สแวกเกอร์, เอ็มวีพี, แมต ฮาร์ดี, อีแวน บอร์น และโคฟี คิงส์ตัน[24][25]
ในวันที่ 4 มกราคม 2010 เบรต ฮาร์ต ได้กลับมาเป็นแขกรับเชิญในรายการ รอว์ อีกครั้ง หลังจากเกิดเหตุการณ์ มอนทรีออลสครูว์จ็อบ ในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (1997) เป็นครั้งแรก และในคืนนั้นเขาถูก วินซ์ แม็กแมน ทำร้ายด้วยการเตะ[26]หลังจากนั้น วินซ์ และ เบรต ประกาศว่า พ่อของ เบรต นั้นคือ สตู ฮาร์ต เข้าสู่ หอเกียรติยศ ของปี 2010 โดยเป็นครั้งที่ 2 ที่คนจากตระกูล ฮาร์ท ได้เข้าหอเกียรติยศ ต่อมา ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ จอห์น ซีนา ได้ท้า วินซ์ เจอกับ เบรต ในศึก เรสเซิลเมเนีย ซึ่ง วินซ์ ตอบ ตกลง หลังจากนั้น เบรท ได้ออกมาทำร้าย วินซ์ ทำให้ วินซ์ เปลี่ยนใจ ไม่ยอมรับคำท้า. ทำให้แมตช์ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เบรต จึงบอกว่ากลับแล้ว และขอบคุณแฟนๆทุกคน ระหว่างจะขึ้นรถเกิดเหตุการณ์ ทำให้ขาของเบรตเจ็บ และต้องส่งโรงพยาบาล[27] ในรายการ รอว์ วันที่ 1 มีนาคม วินซ์ จึงใช้โอกาสนี้ ขอท้า เบรต เจอกัน ในศึก เรสเซิลเมเนีย อีกครั้ง แต่ เบรต ยังเจ็บขาอยู่ ทำให้มาปล้ำไม่ได้ ต่อมา เบรท จึงรับคำท้าแล้วบอกว่า เขาหายแล้ว และพร้อมจะเจอกับวินซ์เสมอ ต่อมา วันที่ 19 มีนาคม ได้มีการเซ็นสัญญาระหว่าง เบรต กับ วินซ์ โดยมี สโตน โคลด์ สตีฟ ออสติน เป็นคนรับรองการเซ็นสัญญาครั้งนี้ หลังจากเซ็นสัญญาแล้ว ความจริงก็ถูกเปิดเผย คือ เบรตหายเจ็บขาแล้ว แล้วในที่สุดความแค้น 13 ปี จะได้สะสางสักที
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.