Loading AI tools
อดีตตำรวจชาวไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พลตํารวจเอก สุรเชชษฐ์ หักพาล[2] ชื่อเล่น: โจ๊ก (ชื่อเดิม: สุรเชษฐ์ หักพาล; เกิด 29 ตุลาคม พ.ศ. 2513) เป็นข้าราชการตำรวจชาวไทย อดีตดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ด้านความมั่นคง) เคยช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี[3]
บทความนี้อาศัยการอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิมากเกินไป |
สุรเชชษฐ์ หักพาล | |
---|---|
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ | |
ดำรงตำแหน่ง 1 ตุลาคม พ.ศ. 2565 – 15 สิงหาคม พ.ศ. 2567 (1 ปี 319 วัน) ดำรงตำแหน่งร่วมกับ สราวุฒิ การพานิช ธนา ชูวงศ์ (พ.ศ. 2566–2567) รอย อิงคไพโรจน์ กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ (พ.ศ. 2565-2567) ชินภัทร สารสิน ต่อศักดิ์ สุขวิมล (พ.ศ. 2565–2566) | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | สุรเชษฐ์ หักพาล 29 ตุลาคม พ.ศ. 2513 อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ประเทศไทย |
คู่สมรส | ศิรินัดดา หักพาล |
บุพการี |
|
การศึกษา | มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย[1] |
ศิษย์เก่า | โรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนนายร้อยตำรวจ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | ไทย |
สังกัด | สำนักงานตำรวจแห่งชาติ |
ประจำการ | พ.ศ. 2537 – 2562 พ.ศ. 2564 – 2567 |
ยศ | พลตํารวจเอก |
พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ เกิดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2513 ที่ตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เป็นบุตรของนายดาบตำรวจ ไสว และนางสุมิตรา หักพาล สำเร็จการศึกษาในชั้นอนุบาล โรงเรียนกลับเพชรศึกษาซึ่งมารดาเป็นครูสอนอยู่โรงเรียนนี้ สำเร็จการศึกษาในชั้นประถม โรงเรียนวิเชียรชม สำเร็จการศึกษาในชั้น มัธยมศึกษาจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ และโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 31 ระดับชั้นปริญญาตรี รัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 47 เป็นหัวหน้านักเรียนของนรต.รุ่น47 ระดับปริญญาโท สังคมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม จากมหาวิทยาลัยมหิดล โดยสามารถสอบคัดเลือกเข้าเรียนได้เป็นอันดับ 1 และระดับปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย และระดับ ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล [1][4] จบการศึกษา คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาคค่ำ (นอกเวลาราชการ) หลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการบริหารงานภาครัฐและกฎหมายมหาชน นอกจากนี้
พล.ต.อ สุรเชชษฐ์ หักพาล ยังจบหลักสูตร และ รับมอบประกาศเกียรติบัตร ผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตร การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สำหรับนักบริหารระดับสูง รุ่นที่ 21 (ปปร.21) จาก พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี จบหลักสูตร พตส พัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งรุ่นที่14
ในวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2565 เขาได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นสถาบันพระปกเกล้า จากชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาไทยในขณะนั้น ปัจจุบันสำเร็จการศึกษา วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร หลักสูตร ว.ป.อ.ปีการศึกษา 2565
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เว็บไซต์ศาลปกครอง เผยแพร่ประกาศมูลนิธิวิจัยและพัฒนากระบวนการยุติธรรมทางปกครอง เรื่อง รายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการอบรม กำหนดการลงทะเบียนและกำหนดการอบรม หลักสูตรกฎหมายปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง (ที่ได้รับการรับรองจาก ก.ศป.แล้ว) รุ่นที่ 15 จำนวน 149 คน ปรากฎมีรายชื่อ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หรือ สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการอบรมดังกล่าวด้วย
ร.ต.ต. สุรเชษฐ์ ในขณะนั้น เริ่มรับราชการตำรวจในตำแหน่งรองสารวัตร เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537 จนได้รับการแต่งตั้งเลื่อนขั้นเป็นสารวัตรในกองวินัย ต่อมาเป็นสารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 4 กองกำกับการ 5 จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 และสารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 3 จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 จนได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นนายตำรวจราชสำนักประจำ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2546[5] และเป็นผู้ช่วยนายเวรตำรวจราชสำนักประจำให้กับ พล.ต.อ. วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547[6][7]
หลังจากได้รับการเลื่อนขั้นเป็นพันตำรวจเอก พันตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ในขณะนั้น ได้รับตำแหน่งผู้กำกับการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำหน้าที่อำนวยการประจำผู้ช่วยผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ[7] จนกระทั่งวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552 จึงได้เป็นผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์[6] ต่อมาเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ได้เป็นผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ 10 กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555 ถูกส่งไปเป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ จนได้เลื่อนขึ้นเป็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา[7] และทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการณ์ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาส่วนหน้า รับผิดชอบพื้นที่ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลาที่เป็น 'พื้นที่สีแดง' เสี่ยงต่อภัยความไม่สงบบริเวณชายแดนภาคใต้[8]
ในวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 พันตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ในขณะนั้นได้รับการเลื่อนขั้นเป็นพลตำรวจตรี ในตำแหน่งผู้บังคับการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ[9][10]ทำหน้าที่ประสานงานกับนายกรัฐมนตรี รายงานต่อ พล.อ. ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ผู้รับผิดชอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น หลังจากนั้นทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งนี้มาตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2557[7][8] จนในวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ได้เป็นผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว[11]จนกระทั่งวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559 ได้เป็นผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ[12]จนกระทั่งวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560 เข้ามาทำหน้าที่รักษาการรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จนได้เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2560[13]จนวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2561 พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ ในขณะนั้นได้รับการเลื่อนขั้นเป็นพลตำรวจโท และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง[14][15]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2562 ได้มีคำสั่งจาก พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมาย จนวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2562 ได้มีคำสั่งจาก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญให้ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ขาดจากตำแหน่งหน้าที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อโอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทนักบริหารระดับสูง ในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สังกัดสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี[6][7] และให้ถูกเพิ่มรายชื่อในบัญชีรายชื่อเพิ่มเติมตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 16/2558 เพื่อได้รับการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เนื่องด้วยมีมูลกรณี เมื่อถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ ทำให้เสียหายแก่ทางราชการหรือทำให้ประชาชนเดือดร้อน[16]
ในวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2563 รถยนต์ส่วนตัวของ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ถูกยิง ณ บริเวณถนนสุรวงศ์ เขตบางรัก กทม. โดยในขณะนั้น พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ไม่ได้อยู่ภายในรถ[17] โดย พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ รวมถึงสื่อหลายแห่งได้ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์นี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับกรณีที่ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับความผิดปกติในโครงการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องตรวจสอบและพิสูจน์อัตลักษณ์และโครงการจัดซื้อจัดจ้างรถตรวจการณ์ไฟฟ้าของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยกล่าวหาว่าบริษัทผู้รับจ้างไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนด แต่ สตช. ตรวจรับงานไว้ก่อน ทำให้ผู้รับจ้างไม่ต้องเสียค่าปรับ[18][19][20] ในขณะอีกส่วนหนึ่งก็ตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นการจัดฉากโดย พล.ต.ท. สุรเชษฐ์เอง[21]
ในวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2563 ได้มีคำสั่งจากนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ ในฐานะที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาจรรยาและวินัยข้าราชการ โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่าคำสั่งนี้ออกมาเนื่องจากมีการร้องเรียน จึงต้องเตือนไว้ก่อน[22]
ในวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2563 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยื่นหนังสือลากิจเพื่อขอบวชที่วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย เป็นเวลา 9 วัน[23] และกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ 2563[24]
ในวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2563 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อศาลปกครองกลาง เรื่องคำสั่งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม กรณีถูกย้ายจาก ผบช.สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มาดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อมาศาลปกครองกลางมีคำสั่งในวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ไม่รับคำฟ้องและจำหน่ายคดีออก เนื่องจาก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีในวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2563 ขอให้พิจารณามีคำสั่งกลับไปปฏิบัติหน้าที่ราชการดังเดิม แต่ยังไม่พ้นกำหนด 90 วันนับตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับหนังสือ จึงถือว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยังไม่ได้เป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนตามที่ได้ยื่นฟ้องศาลไว้ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของนายกรัฐมนตรี[25][26]
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2564 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ซึ่งคณะกรรมการข้าราชการตำรวจมีมติเห็นชอบให้รับโอนมาบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ พ้นจากตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษา (สบ.9) เทียบเท่าผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2564[27][28] เมื่อวันที่ 10 ก.ย.พ.ศ. 2564 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการตำรวจ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ จำนวน 273 ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป ยกเว้นลำดับที่ 169 ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป โดย พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล เลื่อนจาก ที่ปรึกษา (สบ 9) สตช. ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ขณะดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติใน วันที่ 6 ตุลาคม 2565 เขาลงพื้นที่พร้อมกับ พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ พลตำรวจโท สำราญ นวลมา เพื่อตรวจสอบเหตุกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู พ.ศ. 2565
ช่วงปี พ.ศ. 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้ทำการสอบสวนคดี "กำนันนก" หรือ นายประวีณ จันทร์คล้าย ซึ่งเกิดเหตุเมื่อวันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ 2566 ที่ตำบลตาก้อง อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม หลังจากที่ นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา อายุ 45 ปี ผู้ก่อเหตุที่ทำการยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว จำนวน 7 นัด ในขณะร่วมงานเลี้ยงที่บ้านของกำนันนก โดยช่วงแรก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวน ก่อนที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ในขณะนั้น) ได้สั่งการให้โอนคดีความไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนการ [29]
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ได้เกิดความขัดแย้งกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สืบเนื่องจากเหตุที่ถูกเปิดโปงในกรณีที่ตำรวจชั้นผู้น้อยซึ่งเป็นกำลังพลของตน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเว็บพนันทางออนไลน์ ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน พ.ศ. 2566 และยังมีการโยงมาถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเว็บพนันออนไลน์ในเวลาต่อมา จึงทำให้กองกำลังตำรวจของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) เข้าบุกค้นที่พักอาศัยของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2566 และเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ออกมาพูดถึงกรณีคดีเว็บพนันนออนไลน์อีกครั้งและเป็นการออกมาพูดเพื่อยืนยันถึงเส้นทางการเงินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีเว็บพนันออนไลน์จริง โดยเป็นฐานความผิดร่วมกันฟอกเงิน จนทำให้เกิดความขัดแย้งกันระหว่าง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ในเวลาต่อมา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ได้เข้ามาขอยุติความขัดแย้งของทั้ง 2 ฝ่าย แต่เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2567 ทีมทนายความประจำตัวของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวออกมาเปิดโปงเกี่ยวกับการดำเนินคดีเว็บพนันออนไลน์ และได้มีการโยงไปถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วย จนเกิดเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันระหว่าง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กับ ทีมทนายความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงเป็นเหตุให้เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อพูดคุยปัญหาปมขัดแย้ง และรายงานข้อมูลคดีเว็บพนันทางออนไลน์ที่ทั้งคู่กำลังเป็นประเด็น โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที[30] แต่ในเมื่อพูดคุยสอบถามแล้วยังไม่เป็นผล นายกรัฐมนตรีจึงลงนามในคำสั่งด่วนที่สุด ให้ทั้งคู่มาปฏิบัติงานช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีเป็นเวลา 60 วัน (2 เดือน) เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเพื่อเป็นการสอบสวนหาข้อเท็จจริงในคราวเดียวกัน จากนั้น นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งแต่งตั้ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 2 ขึ้นมาดำรงตำแหน่งรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแทน แต่ก็ยังคงให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล มีตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต่อไปได้ เพียงแต่ไม่มีสิทธิ์ในการบริหารงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่นเดียวกับกรณีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ยังมีตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามเดิม โดยที่นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า "ถ้ามีการสอบสวนแล้วไม่มีมูลความผิด ก็จะให้ทั้งคู่กลับมาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติตามปกติ" [31] และในช่วงเที่ยงของวันเดียวกันนี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวขอยุติความขัดแย้งกับคดีนี้ และจะทำหน้าที่ในการปฏิบัติงานช่วยราชการ ฯ ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีต่อไป [32]
เมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2567 พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมายื่นคำร้องขอต่อศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่ออนุมัติออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ในความผิดฐาน "สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุผลที่ได้มีการสมคบกัน และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5, 9, 10 สืบเนื่องจากคดีเว็บพนันออนไลน์ BNK Master"[33] จากนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้มีการเดินทางไปมอบตัวตามกำหนด เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ที่สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน เขตบางซื่อ และได้รับการประกันตัว โดยให้เหตุผลในการขอประกันตัวว่า ขอต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม [34] ต่อมาในวันที่ 18 เมษายน 2567 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน[35][36][37] พร้อมกับนายตำรวจอีก 4 คน[38]โดยมี พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ทำหน้าที่เซ็นคำสั่ง ในฐานะ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจ[39] โดยสาเหตุเนื่องจากถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดทางวินัยเกี่ยวกับพนันออนไลน์ จนถูกออกหมายจับ จึงอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ ที่ให้ออกราชการไว้ก่อนเพื่อรอผลสอบสวน[40] โดยพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยังสามารถอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้ โดยอุทธรณ์ต่อ คณะกรรมการคัดเลือกกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ [41]
กระทั่งวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2567 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์พ้นจากตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติโดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567[42]
พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ สมรสกับ ดร.ศิรินัดดา หักพาล (ชื่อเล่น: กุ๊บกิ๊บ, สกุลเดิม: พานิชพงศ์) กรรมการบริษัท ระโนดเดินรถ จำกัด ซึ่งเป็นกิจการรถโดยสาร และไม่มีบุตรด้วยกัน [43]
พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ รู้จักกับภรรยาตั้งแต่สมัยกำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษา โดยบิ๊กโจ๊กศึกษาอยู่ ณ โรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา และ ดร.ศิรินัดดา หักพาล ศึกษาอยู่ ณ โรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลาเช่นเดียวกัน[44]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.