ประเทศเวียดนาม
สาธารณรัฐในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ / From Wikipedia, the free encyclopedia
สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม | |
---|---|
ที่ตั้งของ ประเทศเวียดนาม (เขียว) ในอาเซียน (เทาเข้ม) — [คำอธิบายสัญลักษณ์] | |
เมืองหลวง | ฮานอย 21°2′N 105°51′E |
เมืองใหญ่สุด | นครโฮจิมินห์ 10°48′N 106°39′E |
ภาษาประจำชาติ | เวียดนาม[n 1] |
กลุ่มชาติพันธุ์ | |
ศาสนา |
|
เดมะนิม | ชาวเวียดนาม |
การปกครอง | รัฐเดี่ยว มากซ์-เลนิน พรรคเดียว สาธารณรัฐสังคมนิยม |
ว่าง | |
โต เลิม | |
ฝั่ม มิญ จิ๊ญ | |
• รองประธานาธิบดี | หวอ ถิ อั๊ญ ซวน |
• ประธานสมัชชาแห่งชาติ | เวือง ดิ่ญ ฮเหวะ |
สภานิติบัญญัติ | สมัชชาแห่งชาติ |
ก่อตั้ง | |
• ราชวงศ์ห่งบ่าง (ราชวงศ์แรก) | ป. ศตวรรษที่ 7 ก่อนคริสตกาล |
• จีนครอบครองเวียดนาม | พ.ศ. 432 |
• เป็นเอกราชจากจีน | พ.ศ. 1481 |
• ราชวงศ์เหงียน (ราชวงศ์สุดท้าย) | 1 มิถุนายน พ.ศ. 2345 |
• กลายเป็นอาณัติฝรั่งเศส | 6 มิถุนายน พ.ศ. 2427 |
2 กันยายน พ.ศ. 2488 | |
• การประชุมเจนีวา (แบ่งเหนือ-ใต้) | 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2497 |
30 เมษายน พ.ศ. 2518 | |
• รวมประเทศ | 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2519 |
• รัฐธรรมนูญปัจจุบัน | 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556[n 3] |
พื้นที่ | |
• รวม | 331,699 ตารางกิโลเมตร (128,070 ตารางไมล์) (อันดับที่ 66) |
6.38 | |
ประชากร | |
• พ.ศ. 2565 ประมาณ | 99,327,643[6] (อันดับที่ 15) |
• สำมะโนประชากร พ.ศ. 2562 | 96,208,984[3] |
295.0 ต่อตารางกิโลเมตร (764.0 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 29) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | พ.ศ. 2566 (ประมาณ) |
• รวม | 1.278 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ[7] (อันดับที่ 24) |
• ต่อหัว | 12,881 ดอลลาร์สหรัฐ[7] (อันดับที่ 111) |
จีดีพี (ราคาตลาด) | พ.ศ. 2566 (ประมาณ) |
• รวม | 432.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[7] (อันดับที่ 34) |
• ต่อหัว | 4,475 ดอลลาร์สหรัฐ[7] (อันดับที่ 116) |
จีนี (พ.ศ. 2561) | 36.8[8] ปานกลาง · 89 |
เอชดีไอ (พ.ศ. 2564) | 0.703[9] สูง · อันดับที่ 115 |
สกุลเงิน | ด่อง (₫) (VND) |
เขตเวลา | UTC+07:00 (เวลามาตรฐานเวียดนาม) |
รูปแบบวันที่ | วว/ดด/ปปปป |
ไฟบ้าน | 220 โวลต์ – 50 เฮิร์ซ |
ขับรถด้าน | ขวา |
รหัสโทรศัพท์ | +84 |
รหัส ISO 3166 | VN |
โดเมนบนสุด | .vn |
เวียดนาม (เวียดนาม: Việt Nam [viət˨ nam˧] เหฺวียดนาม) มีชื่ออย่างเป็นทางการคือ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (เวียดนาม: Cộng hòa xã hội chủ nghĩa Việt Nam, ก่ง ฮหว่า สา โห่ย จู๋ เหงีย เหวียต นาม) เป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกสุดของคาบสมุทรอินโดจีน มีพื้นที่รวม 311,699 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 96 ล้านคนใน พ.ศ. 2562 จึงถือเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 15 ของโลก และเป็นอันดับ 9 ของเอเชีย มีพรมแดนติดกับประเทศจีนทางทิศเหนือ, ประเทศลาว และประเทศกัมพูชาทางทิศตะวันตก และอ่าวตังเกี๋ย ทะเลจีนใต้ อ่าวไทย ทางทิศตะวันออกและใต้[lower-alpha 1] มีเมืองหลวงคือฮานอย และเมืองที่ใหญ่ที่สุดคือนครโฮจิมินห์ (เดิมชื่อว่า ไซ่ง่อน)
ดินแดนของเวียดนามเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ตั้งแต่ยุคหินเก่า ผู้คนเข้ามาตั้งรกรากและรวมตัวกันเป็นรัฐต่าง ๆ บริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแดงซึ่งเป็นที่ตั้งของภูมิภาคทางเหนือของเวียดนามในปัจจุบัน ดินแดนส่วนใหญ่เคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิจีนกว่าพันปี ตั้งแต่ 111 ปีก่อนคริสต์ศักราชถึง ค.ศ. 939 ราชวงศ์ฮั่นผนวกดินแดนตอนเหนือและตอนกลางเข้าด้วยกัน รัฐแรกเริ่มของเวียดนามก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณปี 939 ภายหลังเวียดนามชนะจีน (มองโกล) ในยุทธนาวีแม่น้ำบักดั่ง เวียดนามและจักรพรรดิเวียดนามก็เจริญรุ่งเรืองและเริ่มแผ่ขยายอิทธิพลเข้าไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ราชวงศ์เหงียนถือเป็นราชวงศ์สุดท้ายที่ปกครองดินแดนนี้ จนกระทั่งตกเป็นอินโดจีนของฝรั่งเศสในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 และภายหลังการปฏิวัติเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2488 กองทัพประชาชนในนาม เหวียตมิญ นำโดยโฮจิมินห์ มีบทบาทในการนำเวียดนามปลดแอกจากฝรั่งเศส[11]
เวียดนามต้องเผชิญกับสงครามที่ยืดเยื้อในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ฝรั่งเศสกลับมาเถลิงอำนาจอีกครั้งในสงครามอินโดจีนครั้งที่หนึ่ง ซึ่งจบลงด้วยชัยของเวียดนามในปี 2497 กระนั้น สงครามเวียดนามได้ปะทุขึ้นไม่นานหลังจากนั้น โดยประเทศเวียดนามถูกแยกเป็นสองส่วนคือ เวียดนามเหนือ (สาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียตและจีน และ เวียดนามใต้ (สาธารณรัฐเวียดนาม) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ การยึดกรุงไซ่ง่อนโดยเวียดนามเหนือนำไปสู่การสิ้นสุดของสงคราม[12] กรุงไซ่ง่อนได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นโฮจิมินห์ ในขณะที่ฮานอยซึ่งเป็นเมืองหลวงของเวียดนามเหนือ ได้กลายเป็นเมืองหลวงของเวียดนามหลังจากการรวมประเทศในปี 2519 ซึ่งดินแดนทั้งหมดได้รวมกันกลายเป็นรัฐสังคมนิยมในชื่อ "สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม" พรรคคอมมิวนิสต์มีบทบาทนำทางการเมือง สิ่งนี้นำไปสู่การวิจารณ์จากนานาชาติรวมถึงการคว่ำบาตรจากโลกตะวันตก สงครามกัมพูชา–เวียดนาม และ สงครามจีน–เวียดนาม ทำให้ประเทศเสื่อมโทรมมากขึ้น ก่อนที่นโยบายโด๋ยเม้ยในปี 2529 โดยพรรคคอมมิวนิสต์จะช่วยให้เศรษฐกิจประเทศเริ่มฟื้นตัว โดยยึดรูปแบบตามการปฏิรูปเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้เวียดนามกลายสภาพเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาค และเริ่มเข้าร่วมกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเมืองในเวทีโลกมากขึ้น
ปัจจุบันเวียดนามเป็นประเทศกำลังพัฒนา โดยได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 21 และหากวัดตามผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ คาดว่าศักยภาพทางเศรษฐกิจของเวียดนามจะทัดเทียมกับประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2593 อย่างไรก็ดี ประชากรจำนวนมากยังประสบกับความยากจน และเวียดนามยังเผชิญความโดดเดี่ยวทางการเมือง ปัญหาสำคัญได้แก่ การทุจริตทางการเมือง รวมถึงการให้เสรีภาพสื่อและสิทธิมนุษยชนในระดับต่ำ ใน พ.ศ. 2543 ได้มีการสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศต่าง ๆ เวียดนามเป็นสมาชิกขององค์การระหว่างประเทศหลายแห่ง เช่น สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก, ข้อตกลงความครอบคลุมและความก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก, ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด, องค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส และ องค์การการค้าโลก และยังเคยมีบทบาทในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ