Loading AI tools
นักฟุตบอลชายชาวอังกฤษ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แฮร์รี เอ็ดเวิร์ด เคน MBE (อังกฤษ: Harry Edward Kane; เกิด 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1993) เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษ ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองหน้าให้กับไบเอิร์นมิวนิกในบุนเดิสลีกา และเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ เคนได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในกองหน้าที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยมที่สุดในปัจจุบัน[3] เขามีจุดเด่นในเรื่องทักษะการทำประตู และการเคลื่อนที่ เขาครองสถิติเป็นผู้ทำประตูสูงสุดของทอตนัมฮอตสเปอร์และทีมชาติอังกฤษ และเป็นผู้ทำประตูสูงสุดเป็นอันดับสองตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกอีกด้วย
ข้อมูลส่วนตัว | ||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | แฮร์รี เอ็ดเวิร์ด เคน[1] | |||||||||||||||||||||||||
วันเกิด | [1] | 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1993|||||||||||||||||||||||||
สถานที่เกิด | วอลแทมสโตว์ ประเทศอังกฤษ | |||||||||||||||||||||||||
ส่วนสูง | 6 ft 2 in (1.88 m)[2] | |||||||||||||||||||||||||
ตำแหน่ง | กองหน้าตัวเป้า | |||||||||||||||||||||||||
ข้อมูลสโมสร | ||||||||||||||||||||||||||
สโมสรปัจจุบัน | ไบเอิร์นมิวนิก | |||||||||||||||||||||||||
หมายเลข | 9 | |||||||||||||||||||||||||
สโมสรเยาวชน | ||||||||||||||||||||||||||
1999–2001 | ริดจ์เวย์โรเจอส์ | |||||||||||||||||||||||||
2001–2002 | อาร์เซนอล | |||||||||||||||||||||||||
2002–2004 | ริดจ์เวย์โรเจอส์ | |||||||||||||||||||||||||
2004 | วอตฟอร์ด | |||||||||||||||||||||||||
2004–2009 | ทอตนัมฮอตสเปอร์ | |||||||||||||||||||||||||
สโมสรอาชีพ* | ||||||||||||||||||||||||||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) | |||||||||||||||||||||||
2009–2023 | ทอตนัมฮอตสเปอร์ | 317 | (213) | |||||||||||||||||||||||
2011 | → เลย์ตันออเรียนต์ (ยืมตัว) | 18 | (5) | |||||||||||||||||||||||
2012 | → มิลล์วอลล์ (ยืมตัว) | 22 | (7) | |||||||||||||||||||||||
2012–2013 | → นอริชซิตี (ยืมตัว) | 3 | (0) | |||||||||||||||||||||||
2013 | → เลสเตอร์ซิตี (ยืมตัว) | 13 | (2) | |||||||||||||||||||||||
2023– | ไบเอิร์นมิวนิก | 40 | (45) | |||||||||||||||||||||||
ทีมชาติ‡ | ||||||||||||||||||||||||||
2010 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 17 ปี | 3 | (2) | |||||||||||||||||||||||
2010–2012 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 19 ปี | 14 | (6) | |||||||||||||||||||||||
2013 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 20 ปี | 3 | (1) | |||||||||||||||||||||||
2013–2015 | อังกฤษ อายุไม่เกิน 21 ปี | 14 | (8) | |||||||||||||||||||||||
2015– | อังกฤษ | 101 | (68) | |||||||||||||||||||||||
เกียรติประวัติ
| ||||||||||||||||||||||||||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 16:26, 27 ตุลาคม 2024 (UTC) ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 19:10, 13 ตุลาคม 2024 (UTC) |
เคนเกิดและเติบโตในเขตการปกครองของย่านวอลแทมฟอเรสต์ในลอนดอน โดยเริ่มอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรท็อตแนมฮ็อทสเปอร์ ด้วยผลงานอันโดดเด่นตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะเยาวชนรวมทั้งมีพัฒนาการที่ดีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เคนติดทีมเยาวชนของทีมชาติอังกฤษครั้งแรกใน ค.ศ. 2009 ในช่วงเวลาดังกล่าว เคนยังไม่สามารถยึดตำแหน่งในการเล่นระดับสโมสรได้ และถูกปล่อยยืมตัวไปหลายฤดูกาลให้กับสโมสรต่าง ๆ เช่น เลย์ตันโอเรียนท์, มิลล์วอลล์, เลสเตอร์ซิตี และ นอริชซิตี อย่างไรก็ตาม เคนเริ่มได้รับโอกาสในการลงเล่นเป็นตัวจริงให้ทอตนัมฮอตสเปอร์ใน ค.ศ. 2014 จากการคุมทีมของ เมาริซิโอ โปเชติโน โดยในฤดูกาลดังกล่าว เคนทำสถิติเป็นผู้เล่นที่ทำประตูสูงที่สุดให้กับทีมจำนวน 31 ประตูรวมทุกรายการ และได้รับรางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2014–15 (PFA Young Player of the Year) รวมทั้งเป็นผู้ทำประตูสูงสุดอันดับสองในลีกจากผลงาน 21 ประตู
ต่อมาทั้งในฤดูกาล 2015–16 และ 2016–17 เคนจบฤดูกาลด้วยการคว้าตำแหน่งผู้ทำประตูสูงสุดของพรีเมียร์ลีกได้ทั้งสองฤดูกาล โดยในฤดูกาล 2016-17 เขาพาทอตนัมฮอตสเปอร์จบฤดูกาลด้วยการคว้ารองแชมป์พรีเมียร์ลีก และได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลในทรรศนะของแฟน ๆ (PFA Fan's Player of the Year award) จากการโหวตของแฟนบอลทั่วประเทศ ถัดมาในฤดูกาล 2017–18 เคนสามารถแสดงผลงานที่ดีที่สุดนับตั้งแต่เล่นอาชีพมาโดยเขาทำไปถึง 41 ประตู จากการลงเล่นทุกรายการรวม 48 นัด ถัดมาในฤดูกาล 2018-19 เคนพาทีมเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งแรก ก่อนจะพ่ายให้แก่ลิเวอร์พูล และในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021 เคนได้ทำสถิติกลายเป็นผู้เล่นที่ทำประตูได้มากที่สุดเป็นอันดับที่สองตลอดกาลของทอตนัมฮอตสเปอร์[4]
เคนทำประตูให้กับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่รวมทั้งสิ้น 49 ประตูจากการลงสนาม 69 นัด และเขาถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทำประตูในนามทีมชาติได้ในทุกระดับ (รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี, 19 ปี, 21 ปี และ ทีมชาติชุดใหญ่) เขาทำประตูแรกให้กับทีมชาติชุดใหญ่ได้ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2015 และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมชาติใน ค.ศ. 2018 ก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่รัสเซียจะเริ่มขึ้น โดยเคนสามารถพาอังกฤษผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ ซึ่งถือเป็นอันดับที่ดีที่สุดของอังกฤษนับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1990 นอกจากนี้ เคนยังคว้าตำแหน่งผู้ทำประตูสูงสุดประจำการแข่งขัน และได้รับรางวัลรองเท้าทองคำ
เคนได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสรยาภรณ์จักรวรรดิบริติชจากเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2019 ณ พระราชวังพระราชวังบักกิงแฮม[5][6] ในฐานะที่เป็นนักฟุตบอลจากอังกฤษที่มีผลงานยอดเยี่ยมตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมากับสโมสรทอตนัมฮอตสเปอร์และมีผลงานที่โดดเด่นในการเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ[7] โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้รับตำแหน่งผู้เล่นที่ทำประตูได้มากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 จำนวน 6 ประตูและอังกฤษสามารถคว้าอันดับที่ 4 ได้[8] เคนยังอยู่ในชุดที่ทีมชาติอังกฤษคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ซึ่งเป็นการเข้าชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรก[9]
แฮร์รี เคน เกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1993[10] ที่ย่านวอลทัมสโตว์ ในฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงลอนดอน มีชื่อเต็มว่า แฮร์รี เอ็ดเวิร์ด เคน (Harry Edward Kane) โดยครอบครัวของเคนนั้นล้วนแต่เป็นแฟนของสโมสรทอตนัมฮอตสเปอร์ จึงทำให้เคนเติบโตมากับทอตนัมฮอตสเปอร์อย่างเต็มตัว โดยมี เท็ดดี้ เชอริงแฮม อดีตกองหน้าของทอตนัมฮอตสเปอร์และทีมชาติอังกฤษ เป็นนักฟุตบอลในดวงใจ
แฮร์รี เคน เริ่มต้นจากการเป็นนักฟุตบอลเยาวชนชุดอายุไม่เกิน 7 ปี ของทีมอาร์เซนอลแต่ได้ย้ายออกมาหลังจากอยู่ได้เพียง 2 ฤดูกาล เนื่องจากถูกมองว่ามีรูปร่างเล็กเกินไป และย้ายไปอยู่กับริดจ์เวย์รอเจอส์ สโมสรระดับเล็กย่านลอนดอนเหนือละแวกเดียวกับที่ตั้งสนามและสโมสรของอาร์เซนอล จนกระทั่งย้ายมาอยู่กับทอตนัมฮอตสเปอร์ในปี ค.ศ. 2009 ในรุ่นอายุไม่เกิน 11 ปี และได้พัฒนาการเล่นขึ้นมาตามลำดับ โดยทำประตูไปได้ 22 ประตู จากการลงเล่นไปทั้งหมด 32 นัด ในชุดอายุไม่เกิน 18 ปี และจากนั้นก็ทำประตูได้อีก 10 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 16 นัด ในชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ก่อนที่จะมีโอกาสได้เล่นในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกกับรายการยูโรปาลีก กับ ฮาร์ทส์ เมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2011[11]
ก่อนหน้าที่เคนจะได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ของทอตนัมฮอตสเปอร์ เคนได้ถูกปล่อยไปหาประสบการณ์กับ เรย์ตันโอเรียน แบบยืมตัวในช่วงต้นปี ค.ศ. 2011 และต่อมาก็ได้ย้ายไปแบบยืมตัวกับอีกหลายสโมสร[12]
แฮร์รี เคน ได้กลับมาสู่ทีมชุดใหญ่ของทอตนัมฮอตสเปอร์อีกครั้ง ในเดือนเมษายน ในฤดูกาล 2013–14 โดยทำไปได้ 12 ประตูจากทุกรายการที่ลงแข่งขัน
ในฤดูกาล 2014–15 แฮร์รี เคน กลายเป็นนักฟุตบอลดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งในวงการ โดยแฟนของทอตนัมฮอตสเปอร์ได้ตั้งฉายาให้ว่า "เฮอร์ริเคน" [13] ในการแข่งขันนัดที่ 20 ของฤดูกาล ซึ่งตรงกับวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2015 ที่ทอตนัมฮอตสเปอร์พบกับ เชลซี ซึ่งเป็นจ่าฝูง ที่สนามไวต์ฮาร์ตเลน เคนสามารถทำประตูได้ถึง 2 ประตู และ ทำแอสชิสต์ได้อีก 2 ครั้ง ซึ่งผลการแข่งขันทอตนัมฮอตสเปอร์ชนะเชลซีไปถึง 5–3 ส่งผลให้เชลซีพ่ายแพ้เป็นนัดที่ 2 ในฤดูกาล[14] และเคนยังทำเพิ่มได้อีก 2 ประตู ในการแข่งขันนัดที่ 24[15] ที่ทอตนัมฮอตสเปอร์ชนะอาร์เซนอล ไปได้ 2–1 ที่สนามไวต์ฮาร์ตเลน โดยเป็นผู้ทำประตูได้ในนาทีที่ 56 และ 86 ทั้งที่อาร์เซนอลเป็นฝ่ายยิงประตูนำไปก่อน[16] ในนัดที่ 30 ของฤดูกาล เคนสามารถทำแฮตทริกได้ ในนัดที่พบกับ เลสเตอร์ซิตี ที่สนามไวต์ฮาร์ตเลน โดยเป็นการยิงจุดโทษในนาทีที่ 64 เป็นลูกที่ 3 ผลการแข่งขันทอตนัมฮอตสเปอร์ชนะไป 4–3 และทำให้เคนกลายเป็นดาวซัลโวของฤดูกาลไปในขณะนั้นด้วยการทำประตูไปรวมทั้งสิ้น 19 ประตู[17]
กระทั่งจบฤดูกาล แฮร์รี เคน ทำสถิติยิงไปทั้งสิ้น 21 ประตู (นับเฉพาะพรีเมียร์ลีก และ จำนวน 31 ประตูหากนับรวมทุกรายการ) และคว้าตำแหน่งรองดาวซัลโวประจำฤดูกาลดังกล่าว โดยเป็นรองเพียง เซร์คีโอ อะกูเอโร กองหน้าของ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่ยิงไปทั้งสิ้น 26 ประตู[18]
แต่ในฤดูกาล 2015–16 ในการแข่งขัน 4 นัดแรกของฤดูกาล เคนไม่สามารถทำประตูได้เลย อีกทั้งทอตนัมฮอตสเปอร์ก็ยังไม่ชนะสโมสรใดเลย[19] จนเมื่อทอตนัมฮอตสเปอร์ชนะสามารถคว้าชัยชนะในนัดแรกสำเร็จเมื่อเป็นฝ่ายบุกไปเยือน ซันเดอร์แลนด์ ก่อนจะเอาชนะไปได้ 1–0 [20]
แฮร์รี เคน ทำประตูแรกในฤดูกาลดังกล่าวได้ ในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกนัดที่ 7 ที่ทอตนัมฮอตสเปอร์ พบกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ซึ่งมีคะแนนนำเป็นอันดับหนึ่งในตารางคะแนน ที่สนามไวต์ฮาร์ตเลน ด้วยการซ้ำลูกยิงฟรีคิกของคริสเตียน อีริกเซน ในนาทีที่ 61 ช่วยให้ทอตนัมฮอตสเปอร์เอาชนะไปได้ 4–1[21] และ ต่อมาเคนสามารถยิงแฮตทริกได้ในการแข่งขันนัดที่ 10 ที่ทีมพบกับ บอร์นมัท ที่สนามดีนคอร์ท โดยเคนทำประตูได้ในนาทีที่ 9, 56 และ 63 และเมื่อจบฤดูกาลดังกล่าว แฮร์รี เคน ได้รับตำแหน่งดาวซัลโวของลีกจากการยิงไปทั้งสิ้น 25 ประตู และได้รับรางวัลรองเท้าทองคำไปครอง[22]
ในฤดูกาล 2016–17 เคนทำประตูแรกได้ในการแข่งขันนัดที่ 4 ในเกมที่พบกับสโตกซิตี ที่สนามบริแทนเนียสเตเดียม และถือเป็นประตูที่ 50 ของเคนที่ยิงให้กับทอตนัมฮอตสเปอร์ได้หากนับเฉพาะในพรีเมียร์ลีก[23] เคนสามารถทำประตูได้ในนัดถัดมาที่พบกับซันเดอร์แลนด์ ในนาทีที่ 59 ที่สนามไวต์ฮาร์ตเลน ซึ่งเป็นประตูชัยเพียงประตูเดียวในนัดดังกล่าว แต่เขาได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าในช่วงท้ายของการแข่งขัน ขณะแย่งลูกฟุตบอล ทำให้ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามและคาดว่าต้องหยุดพักรักษาตัวประมาณ 10 สัปดาห์[24]
เคนสามารถทำแฮตทริกได้ในนัดที่ 21 ของฤดูกาล ในต้นปี 2017 ในการพบกับทีมเวสต์บรอมมิชอัลเบียน ที่สนามไวต์ฮาร์ตเลน ซึ่งทอตนัมฮอตสเปอร์ชนะไป 4–0 และ ถือเป็นการทำแฮตทริกครั้งที่สามของเคนในฤดูกาลนี้ และ ทำสถิติเป็นผู้เล่นที่ทำแฮตทริกได้มากที่สุดของสโมสรเทียบเท่ากับเจอร์เมน เดโฟ และ ร็อบบี คีน อดีตผู้เล่นคนสำคัญของสโมสรในอดีต[25]
ในฤดูกาลถัดมาแม้ว่าเคนจะไม่สามารถทำประตูได้เลยใน 3 นัดแรกของการแข่งขัน เขากลับมาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยการทำประตูได้ใน 3 จาก 4 นัดถัดไปจากการแข่งขันทุกรายการ ประตูที่เขาทำได้ในนัดที่พบกับเอฟเวอร์ตันในวันที่ 9 กันยายน 2017 ถือเป็นประตูที่ 100 ของเคนในฐานะผู้เล่นของทอตนัมฮอตสเปอร์จากการลงแข่งขันรวมทุกรายการจำนวน 169 นัด ต่อมาในวันที่ 26 กันยายน เคนสามารถทำแฮตทริกในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้เป็นครั้งแรกในเกมที่ทอตนัมฮอตสเปอร์เอาชนะสโมสรอาโปเอลแชมป์ลีกจากประเทศไซปรัส เขายังได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนของพรีเมียร์ลีกเป็นสมัยที่ 5 ในอาชีพการค้าแข้งในเดือนกันยายนนี้อีกด้วย
ในวันที่ 23 ธันวาคม เคนทำสถิติเทียบเท่า อลัน เชียเรอร์ ในการทำได้ถึง 36 ประตูในพรีเมียร์ลีกภายใน 1 ปีปฏิทิน (นับรวมต่อเนื่องจากฤดูกาลที่ผ่านมา) ในนัดที่ทอตนัมฮอตสเปอร์บุกไปเอาชนะเบิร์นลีย์ได้ 3–0 โดยเคนสามารถทำแฮตทริกได้ในนัดดังกล่าวและเขาทำลายสถิติของเชียเรอร์ได้ในเกมต่อมาที่ทอตนัมฮอตสเปอร์เปิดบ้านเอาชนะเซาแธมป์ตันไป 5–2 โดยเคนสามารถทำแฮตทริกได้อีกครั้งซึ่งนับเป็นการทำแฮตทริกได้เป็นครั้งที่ 8 ในปี 2017 รวมทุกรายการ และ จากผลงานดังกล่าวทำให้เคนทำสถิติเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่สามารถทำแฮตทริกได้ถึง 6 ครั้งภายในปีเดียว และ ในปี 2017 เคนยังทำสถิติเป็นผู้เล่นที่ทำประตูรวมทุกรายการสูงที่สุดในการแข่งขันของลีกยุโรปจำนวน 56 ประตู ถือเป็นผู้เล่นคนแรกนอกเหนือจากคริสเตียโน โรนัลโด และ ลิโอเนล เมสซิ ที่ทำสถิตินี้ได้ในรอบ 7 ปี[26]
ในเดือนมกราคม 2018 เคนทำได้อีก 2 ประตูในนัดที่เอาชนะเอฟเวอร์ตัน ส่งผลให้เคนกลายเป็นผู้เล่นที่ทำประตูสูงที่สุดตลอดกาลให้กับสโมสรทอตนัมฮอตสเปอร์ในยุคพรีเมียร์ลีก ทำลายสถิติของ เท็ดดี เชอริงแฮม ที่ทำไว้จำนวน 97 ประตู ต่อมาในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เคนทำได้ 1 ประตูจากลูกจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้ายในนัดที่ทอตนัมฮอตสเปอร์บุกไปเสมอกับลิเวอร์พูลที่สนามแอนฟิลด์ 2–2 ซึ่งถือเป็นประตูที่ 100 ของเคนในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก เขามีชื่อติดทีมผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีกเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันในเดือนเมษายน และในเดือนมิถุนายน 2018 เคนตัดสินใจขยายสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรออกไปจนถึง ค.ศ. 2024
เคนเริ่มต้นฤดูกาลในนัดแรกที่ทีมพบกับนิวคาสเซิลแต่เขาไม่สามารถทำประตูได้ เคนทำประตูแรกของฤดูกาลได้ในนัดต่อมาที่พบกับฟูลัม ซึ่งเป็นการหยุดสถิติอันเลวร้ายของเคนที่ไม่สามารถทำประตูได้เลยในการแข่งขันในเดือนสิงหาคมตลอดอาชีพที่ผ่านมา เคนทำประตูในนัดสำคัญได้ในเกมทีทอตนัมฮอตสเปอร์บุกไปเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ 0-3 ซึ่งถือเป็นการบุกไปเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้เป็นครั้งที่ 3 ของสโมสรเท่านั้น นับตั้งแต่ปี 1992 ต่อมาในเดือนมกราคม 2019 เคนทำได้ 1 ประตูในนัดที่พบกับคาร์ดิฟซึ่งถือเป็นการทำสถิติเป็นผู้เล่นที่ทำประตูสโมสรอื่นได้ทุกสโมสรที่เขาเผชิญหน้าด้วยในพรีเมียร์ลีก เขาได้รับบาดเจ็บข้อเท้าในเกมที่พบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในวันที่ 13 มกราคม 2019 และต้องพักรักษาตัวประมาณ 5 สัปดาห์
เคนกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้งในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ในนัดที่พบกับเบิร์นลีย์ และทำได้ 1 ประตูแต่ทอตนัมได้พ่ายให้กับเบิร์นลีย์ไป 1–2 เขาทำได้ 1 ประตูในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกนัดที่ 2 รอบ 16 ทีมสุดท้ายในเกมที่พบโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ ช่วยให้ทอตนัมผ่านเข้ารอบต่อไปด้วยประตูรวม 4–0 ซึ่งประตูดังกล่าวทำให้เคนทำสถิติเป็นผู้เล่นทอตนัมฮอตสเปอร์ที่ทำประตูได้มากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลยุโรปจำนวน 24 ประตู ในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรกที่พบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี เคนได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าอีกครั้งและสื่อคาดการณ์ว่าเขาต้องปิดฉากการเล่นในฤดูกาลดังกล่าว อย่างไรก็ตามเคนกลับมาช่วยทีมได้ในการแข่งขันนัดสำคัญที่ทอตนัมฮอตสเปอร์พบกับลิเวอร์พูลในรอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกซึ่งทอตนัมพ่ายให้แก่ลิเวอร์พูลไป 0–2
เคนเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ด้วยการทำ 2 ประตูในนัดเปิดสนามที่ทอตนัมฮอตสเปอร์เอาชนะแอสตัน วิลลา ได้ 3–1 ซึ่งเป็นการทำประตูแรกของเจ้าตัว ณ สนามแห่งใหม่ของทอตนัมฮอตสเปอร์อีกด้วย ในเดือนมกราคมปี 2020 ในนัดที่ทอตนัมฮอตสเปอร์ออกไปเยือนเซาแธมป์ตัน เคนได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริงซึ่งทำให้เขาต้องพักรักษาตัวเป็นเวลาหลายเดือนเป็นอย่างน้อย และในช่วงเวลาดังกล่าวการแข่งขันฟุตบอลทุกรายการในประเทศอังกฤษได้ถูกประกาศเลื่อนออกไปจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยเคนได้กลับมาลงสนามอีกครั้งในเดือนมิถุนายน ต่อมาในวันที่ 23 มิถุนายน เคนได้ลงสนามให้กับทอตนัมฮอตสเปอร์เป็นนัดที่ 200 ในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก เขาทำประตูแรกในปี 2020 ในนัดที่ทอตนัมฮอตสเปอร์เอาชนะเวสต์แฮมไป 2–0
เคนทำประตูแรกในฤดูกาลได้ในนัดที่ทีมเอาชนะ โลโคโมทีฟ พล็อฟดิฟ ทีมจากบัลแกเรีย โดยทอตนัมฮอตสเปอร์สามารถเอาชนะไปได้ 2–1 และประตูแรกในพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาลนี้ของเคน ทำได้ในนัดที่ทีมเอาชนะเซาแธมป์ตัน 5–2 ซึ่งในนัดดังกล่าวเคนทำสถิติเป็นผู้เล่นคนแรกของพรีเมียร์ลีกที่ทำแอสซิสต์ให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้ถึง 4 ครั้งในนัดเดียวและเป็นผู้เล่นอังกฤษคนแรกที่ทำสถิติดังกล่าวได้
เคนทำแฮตทริกแรกของฤดูกาลได้ในนัดที่ทอตนัมฮอตสเปอร์เอาชนะ มัคคาบี้ ไฮฟา ทีมจากอิสราเอล ในการแข่งขันรอบคัดเลือกรายการยูโรปาลีก ต่อมาในวันที่ 4 ตุลาคม เคนทำได้ 2 ประตู ในเกมที่ทอตนัมฮอตสเปอร์บุกไปเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนาม โอลด์แทรฟฟอร์ด ถึง 1–6 ซึ่งเป็นการคว้าชัยชนะที่ขาดลอยที่สุดนับตั้งแต่ปี 1932 ที่ทอตนัมฮอตสเปอร์ทำได้ในการพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคนทำประตูที่ 200 ในการแข่งขันทุกรายการให้กับทอตนัมฮอตสเปอร์ได้ในเกมที่พบกับ ลูโดโกเรต์ส รัซกราด ทีมจากบัลแกเรียในรอบแบ่งกลุ่มยูโรปาลีกซึ่งทอตนัมฮอตสเปอร์เอาชนะไปได้ 3–1 เคนยังสามารถทำได้ 1 ประตูในเกมที่ทอตนัมฮอตสเปอร์เอาชนะอาร์เซนอลคู่ปรับตลอดกาลได้ 2–0 ทำให้เคนทำสถิติเป็นผู้เล่นที่ทำประตูได้มากที่สุดในการแข่งขัน ดาร์บีลอนดอนเหนือ จำนวน 11 ประตู[27] และนับเป็นประตูที่ 250 ที่เคนทำได้ทุกรายการในการแข่งขันทั้งในนามสโมสรและทีมชาติ
ในช่วงเปิดฤดูกาล เคนแสดงออกชัดเจนว่าต้องการย้ายออกจากสเปอร์ เขาอ้างว่า ดาเนียล เลวี ประธานสโมสร ได้ให้สัญญาทางวาใจไว้ในฤดูกาลที่แล้วว่าจะอนุญาตให้เขาย้ายทีมได้[28] อย่างไรก็ตาม เลวีได้ปฏิเสธการย้ายทีมของเคน รวมถึงปฏิเสธข้อเสนอในการซื้อตัวเคนจากแมนเชสเตอร์ซิตี[29][30] ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 127 ล้านปอนด์[31] โดยเคนไม่ได้มาร่วมฝึกซ้อมก่อนเปิดฤดูกาล[32] รวมถึงไม่มีส่วนร่วมในการแข่งขันสองนัดแรกของฤดูกาล[33] ก่อนจะกลับมาลงสนามนัดแรกในฐานะตัวสำรองในเกมที่พบกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ ในวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 2021[34] ต่อมาในวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 2021 เคนประกาศผ่าน เดอะเดลีเทลิกราฟ ว่าจะอยู่กับสโมสรต่อไป แม้จะผิดหวังกับการปฏิบัติของเลวี[35] หนึ่งวันถัดมา เขาลงสนามในฐานะผู้เล่นตัวจริงเป็นนัดแรกของฤดูกาล และทำได้สองประตูในนัดที่สเปอร์เอาชนะ ปากอส เดอ เฟอร์ไรรา จากโปรตุเกส 3–0 ผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มในรายการ ยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก ฤดูกาล 2021–22 ต่อมา ในวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 2021 เคนทำแฮตทริกได้หลังจากถูกเปลี่ยนตัวลงมาในนัดที่สเปอร์เอาชนะ สโมสรมูรา จากสโลวีเนียไป 5–1[36] ถือเป็นผู้เล่นคนแรกที่ทำแฮตทริกในรายการนี้ได้ และเป็นผู้เล่นคนแรกที่ทำแฮตทริกได้ในการแข่งขันรายการหลักของฟุตบอลยุโรปครบสามรายการ
เคนทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีกได้ในวันที่ 17 ตุลาคม 2021 ในนัดที่ทีมบุกไปชนะนิวคาสเซิล 3–2[37] และประตูที่สองในลีกเกิดขึ้นในวันที่ 19 ธันวาคม ในนัดที่เสมอลิเวอร์พูล 2–2[38] ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 เคนทำได้สองประตูในนัดสำคัญที่สเปอร์บุกไปเอาชนะแมนเชสเตอร์ซิตี 3–2 ซึ่งรวมถึงการทำประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 95 ถือเป็นการหยุดสถิติไม่แพ้ใคร 15 นัดของแมนเชสเตอร์ซิตี[39] ต่อมา ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เคนทำได้หนึ่งประตูในนัดที่พบลีดส์ยูไนเต็ด และส่งบอลให้ ซน ฮึง-มิน ทำอีกหนึ่งประตู สร้างสถิติใหม่ในการเป็นผู้เล่นสองคนที่มีส่วนกับประตู (ทำประตูและส่งบอลให้เพื่อนทำประตู) มากที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีก[40]
ในวันที่ 16 มีนาคม ค.ศ. 2022 เคนทำประตูได้ในนัดที่สเปอร์บุกไปชนะไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 2–0 สร้างสถิติใหม่ในการเป็นผู้เล่นที่ทำประตูในนัดเยือนของพรีเมียร์ลีกเป็นประตูที่ 95 ทำลายสถิติของ เวย์น รูนีย์
ในระดับทีมชาติ จากผลงานอันโดดเด่นในฤดูกาล 2014–15 ส่งผลให้ แฮร์รี เคน ถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรก ในรายการคัดเลือกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 ในนัดที่อังกฤษพบกับ ลิทัวเนีย และ อิตาลี ในปลายเดือนมีนาคม ค.ศ. 2015[41] และสามารถทำประตูได้ทันทีในนัดแรกที่พบกับลิทัวเนีย โดยเคนเป็นตัวสำรองถูกเปลี่ยนไปแทนเวย์น รูนีย์ และทำประตูได้โดยใช้เวลาเพียงหนึ่งนาที ในนาทีที่ 71 จากการโหม่ง โดยผลการแข่งขันอังกฤษสามารถเอาชนะไปได้ 4-0[42]
แฮร์รี เคน ยิงประตูให้กับทีมชาติได้อีกครั้ง ในรายการคัดเลือกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 เมื่อถูกเปลี่ยนตัวมาในครึ่งหลังในนัดที่อังกฤษพบกับ ซานมาริโน ในนาทีที่ 77 จากการเปิดผ่านของจอนโจ เชลวีย์ นับเป็นลูกที่ 5 ในนัดดังกล่าว ซึ่งผลการแข่งขันอังกฤษเป็นฝ่ายเอาชนะไปถึง 6–0 ซึ่งทำให้อังกฤษกลายเป็นชาติแรกที่ผ่านเข้าไปแข่งขันในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 รอบสุดท้ายเป็นชาติแรก[43]
แต่ผลงานของเคนและทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปครั้งนี้ ไม่สู้ดีนัก โดยเคนไม่สามารถทำประตูได้เลย[44] แม้อังกฤษจะผ่านเข้าสู่รอบสอง หรือรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ แต่อังกฤษก็ไปพ่ายให้กับทีมชาติไอซ์แลนด์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นรองเนื่องจากเป็นทีมที่เพิ่งเข้าร่วมรายการแข่งขันระดับโลกเป็นครั้งแรกไป 1–2
เคนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษอย่างเป็นทางการใน ค.ศ. 2018 ก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซียจะเริ่มขึ้น โดยในรายการดังกล่าวเคนสามารถพาอังกฤษผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้ ซึ่งถือเป็นอันดับที่ดีที่สุดของพวกเขานับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1990 นอกจากนี้เคนยังคว้าตำแหน่งผู้ทำประตูสูงสุดประจำการแข่งขันและได้รับรางวัลรองเท้าทองคำ (Golden Boot) ไปครองจากการทำไปทั้งสิ้น 6 ประตูตลอดการแข่งขัน และถือเป็นผู้เล่นอังกฤษคนแรกที่ได้รับรางวัลดังกล่าวนับตั้งแต่ แกรี่ ลินิเกอร์ ทำได้ในฟุตบอลโลก 1986[45]
เคนได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่เป็นกัปตันทีมในการแข่งขันอย่างเป็นทางการนัดที่ 1,000 ของทีมชาติอังกฤษ ในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบคัดเลือกในนัดที่พบกับทีมชาติ มอนเตรเนโกร ซึ่งเคนสามารถทำแฮตทริกในนัดดังกล่าวได้อีกด้วย ส่งผลให้เคนได้กลายเป็นผู้ทำประตูมากที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ตลอดกาลให้กับทีมชาติอังกฤษ และเป็นผู้ทำประตูมากที่สุดในฐานะกัปตันทีม และจากผลการแข่งขันซึ่งอังกฤษสามารถเอาชนะไปได้ 7–0 ทำให้พวกเขาผ่านเข้าสู่การแข่งขันรอบสุดท้ายอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้เคนยังทำสถิติเป็นผู้เล่นอังกฤษคนแรกที่สามารถทำประตูในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรอบคัดเลือกได้ครบทุกนัดอีกด้วย
ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบสุดท้าย อังกฤษสามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศก่อนจะแพ้อิตาลีจากการดวลจุดโทษ โดยเคนมีผลงานคือการทำ 4 ประตู ในรายการนี้ (1 ประตูในนัดที่พบกับเยอรมนีรอบ 16 ทีมสุดท้าย[46], 2 ประตูในนัดที่พบกับยูเครนรอบ 8 ทีมสุดท้าย[47] และ 1 ประตูในนัดที่พบกับเดนมาร์กในรอบรองชนะเลิศ[48])
ในช่วงแรกของการลงเล่นให้ทีมเยาวชน เคนประสบปัญหาทางด้านสภาพร่างกายบ่อยครั้งเนื่องจากเขามีพัฒนาการทางร่างกายที่ช้ากว่าเด็กคนอื่นๆในวัยเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ด้วยความมุ่งมั่นและความปรารถนาที่จะลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ ทำให้เคนได้รับโอกาสจากผู้จัดการทีม[49]
ใน ค.ศ. 2013 สถานีวิทยุทอล์คสปอร์ตได้ทำการวิเคราะห์ถึงศักยภาพของเคนและกล่าวยกย่องว่าเขาเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าต่ำ (Second Striker) ที่เก่งที่สุด แม้เขาจะมีศักยภาพในการเล่นตำแหน่งกองหน้าตัวเป้ารวมทั้งการถ่างออกไปเล่นด้านข้างหรือเป็นตัวริมเส้น[50] เคนมีความสามารถในการวางบอลที่แม่นยำและสามารถทำประตูได้จากทั้งระยะใกล้และไกล[51] เคนยังได้รับการยกย่องในแง่ของการเป็นผู้เล่นที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยมแต่ไม่โดดเด่นในการเล่นลูกกลางอากาศ (จากการวิเคราะห์ ณ ช่วงเวลาดังกล่าว) ภายหลังจากที่โรเบร์โต โซลดาโด กองหน้าชาวเปนได้ย้ายเข้าสู่ทีมในปี 2013 ด้วยราคาสูงถึง 26 ล้านปอนด์ แต่กลับมีผลงานที่ย่ำแย่ ทำให้เคนได้รับโอกาสลงเล่นในฐานะศูนย์หน้าตัวหลักของทีมภายใต้การคุมทีมของ เมาริซิโอ โปเชติโน่ ในช่วงเวลาดังกล่าวเคนยอมรับว่าเขาสามารถพัฒนาศักยภาพได้อย่างต่อเนื่องด้วยการฝึกซ้อมอย่างหนักและการปรับโภชนาการ
เดวิด พลีท อดีตผู้จัดการทีมของทอตนัมฮอตสเปอร์ได้แสดงทรรศนะว่าเคนถือเป็นกองหน้าที่มีรูปแบบและวิธีการเล่นที่เหมาะกับฟุตบอลสมัยเก่ามากกว่า ในขณะที่ ไคลฟ์ อัลเลน อดีตผู้เล่นทีมชาติอังกฤษยกย่องเคนว่าเป็นผู้เล่นที่เกิดมาเพื่อทำประตูอย่างแท้จริงและมีอารมณ์ร่วมกับการแข่งขันอยู่เสมอ และ เลส เฟอร์ดินานด์ อดีตผู้จัดการทีมของสโมสรทอตนัมฮอตสเปอร์รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ได้กล่าวยกย่องศักยภาพของเคนว่ามีรูปแบบการเคลื่อนที่และทักษะที่คล้าย เท็ดดี้ เชอริงแฮม และมีเทคนิคการทำประตูที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกับ อลัน เชียเรอร์ และ ด้วยรูปร่างอันสูงใหญ่และมีความแข็งแกร่ง เคนมักถูกนำไปเปรียบเทียบกับอดีตศูนย์หน้ารุ่นพี่ในทีมทอตนัมฮอตสเปอร์อย่าง เยือร์เกิน คลีนส์มัน
ในการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2015 เคนยอมรับว่าเขามีแฟนสาวนามว่า เคธี กู้ดแลนด์[52] ซึ่งทั้งคู่รู้จักมาตั้งแต่เด็ก ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2017 เคนได้ประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ว่าได้ทำการหมั้นกับกู้ดแลนด์และทั้งคู่ได้สมรสกันในเดือนมิถุนายน ปี 2019 ทั้งคู่มีบุตรสาวคนแรกในเดือนมกราคม 2017 โดยมีนามว่า "ไอวี เจน เคน" ตามมาด้วยบุตรสาวคนที่สองได้แก่ "วิเวียน เจน เคน" ในเดือนสิงหาคมปี 2018 และบุตรคนที่สามของทั้งคู่ซึ่งเป็นบุตรชายนามว่า "หลุยส์ แฮร์รี เคน" ได้ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 2020
เคนมีสุนัขพันธ์ลาบราดอร์ 2 ตัว[53] ชื่อ "เบรดี" และ "วิลสัน" ตั้งชื่อตาม ทอม เบรดี้ และ รัสเซล วิลสัน สองผู้เล่นในตำแหน่งควอร์เตอร์แบ็ก (quarterback) ในการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล NFL ซึ่งทั้งสองเป็นผู้เล่นที่เคนชื่นชอบเป็นอย่างมาก โดยในปี 2019 เคนให้สัมภาษณ์ว่าตนเองมีความสนในที่จะเล่นอเมริกันฟุตบอล เคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงที่มีการแข่งขันสำคัญและเข้มงวดเรื่องโภชนาการ โดยเคนได้จ้างพ่อครัวส่วนตัวเข้ามาดูแลเรื่องเมนูอาหารตั้งแต่ปี 2017 เคนมีงานอดิเรกที่ชื่นชอบคือการเล่นกอล์ฟ[54][55][56]
ข้อมูล ณ วันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ. 2021
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | เอฟเอคัพ | ลีกคัพ | ระดับยุโรป | การแข่งขันอื่นๆ | รวม | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
ทอตนัมฮอตสเปอร์ | 2009–10[57] | พรีเมียร์ลีก | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | — | — | 0 | 0 | ||
2010–11[58] | พรีเมียร์ลีก | 0 | 0 | — | 0 | 0 | 0 | 0 | — | 0 | 0 | |||
2011–12[59] | พรีเมียร์ลีก | 0 | 0 | — | 0 | 0 | 6[a] | 1 | — | 6 | 1 | |||
2012–13[60] | พรีเมียร์ลีก | 1 | 0 | — | — | 0 | 0 | — | 1 | 0 | ||||
2013–14[61] | พรีเมียร์ลีก | 10 | 3 | 0 | 0 | 2 | 1 | 7[a] | 0 | — | 19 | 4 | ||
2014–15[62] | พรีเมียร์ลีก | 34 | 21 | 2 | 0 | 6 | 3 | 9[a] | 7 | — | 51 | 31 | ||
2015–16[63] | พรีเมียร์ลีก | 38 | 25 | 4 | 1 | 1 | 0 | 7[a] | 2 | — | 50 | 28 | ||
2016–17[64] | พรีเมียร์ลีก | 30 | 29 | 3 | 4 | 0 | 0 | 5[b] | 2 | — | 38 | 35 | ||
2017–18[65] | พรีเมียร์ลีก | 37 | 30 | 4 | 4 | 0 | 0 | 7[c] | 7 | — | 48 | 41 | ||
2018–19[66] | พรีเมียร์ลีก | 28 | 17 | 1 | 1 | 2 | 1 | 9[c] | 5 | — | 40 | 24 | ||
2019–20[67] | พรีเมียร์ลีก | 29 | 18 | 0 | 0 | 0 | 0 | 5[c] | 6 | — | 34 | 24 | ||
2019–20[67] | พรีเมียร์ลีก | 33 | 22 | 2 | 1 | 4 | 1 | 8[c] | 8 | — | 47 | 32 | ||
เลย์ตัน โอเรียนท์ (สัญญายืมตัว) | 2010–11[58] | อีเอฟแอลลีกวัน | 18 | 5 | 0 | 0 | — | — | — | 18 | 5 | |||
มิลล์วอลล์ (สัญญายืมตัว) | 2011–12[59] | อีเอฟแอลแชมเปียนชิป | 22 | 7 | 5 | 2 | — | — | — | 27 | 9 | |||
นอริชซิตี (สัญญายืมตัว) | 2012–13[60] | พรีเมียร์ลีก | 3 | 0 | 1 | 0 | 1 | 0 | — | — | 5 | 0 | ||
เลสเตอร์ซิตี (สัญญายืมตัว) | 2012–13[60] | อีเอฟแอลแชมเปียนชิป | 13 | 2 | — | — | — | 2[d] | 0 | 15 | 2 | |||
รวมทั้งหมด | 286 | 179 | 22 | 13 | 16 | 6 | 63 | 38 | 2 | 0 | 399 | 236 |
ทีมชาติ | ปี | จำนวนนัด | ประตู |
---|---|---|---|
อังกฤษ | 2015 | 8 | 3 |
2016 | 9 | 2 | |
2017 | 6 | 7 | |
2018 | 12 | 8 | |
2019 | 10 | 12 | |
2020 | 6 | 0 | |
2020 | 6 | 0 | |
2021 | 10 | 6 | |
รวม | 61 | 38 |
ประตูที่ | วันที่ | สนาม | ลงเล่น | คู่แข่ง | คะแนน | ผล | รายการ | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | 27 มีนาคม 2015 | สนามกีฬาเวมบลีย์, ลอนดอน อังกฤษ | 1 | ลิทัวเนีย | 4–0 | 4–0 | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 รอบคัดเลือก | [70] |
2 | 5 กันยายน 2015 | สนามกีฬาซานมารีโน, แซร์ราวัลเล ซานมารีโน | 3 | ซานมารีโน | 5–0 | 6–0 | [71] | |
3 | 8 กันยายน 2015 | สนามกีฬาเวมบลีย์, ลอนดอน อังกฤษ | 4 | สวิตเซอร์แลนด์ | 1–0 | 2–0 | [72] | |
4 | 26 มีนาคม 2016 | โอลึมพีอาชตาดีอ็อน, เบอร์ลิน เยอรมนี | 9 | เยอรมนี | 1–2 | 3–2 | กระชับมิตร | [73] |
5 | 22 พฤษภาคม 2016 | สนามกีฬาซิตีออฟแมนเชสเตอร์, แมนเชสเตอร์ อังกฤษ | 11 | ตุรกี | 1–0 | 2–1 | กระชับมิตร | [74] |
6 | 10 มิถุนายน 2017 | แฮมป์เดนพาร์ก, กลาสโกว์ สกอตแลนด์ | 18 | สกอตแลนด์ | 2–2 | 2–2 | ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก | [75] |
7 | 13 มิถุนายน 2017 | สตาดเดอฟร็องส์, แซ็ง-เดอนี ฝรั่งเศส | 19 | ฝรั่งเศส | 1–0 | 2–3 | กระชับมิตร | [76] |
8 | 2–2 | |||||||
9 | 1 กันยายน 2017 | สนามกีฬาแห่งชาติตาอาลี, ตาอาลี มอลตา | 20 | มอลตา | 1–0 | 4–0 | ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก | [77] |
10 | 4–0 | |||||||
11 | 5 ตุลาคม 2017 | สนามกีฬาเวมบลีย์, ลอนดอน อังกฤษ | 22 | สโลวีเนีย | 1–0 | 1–0 | [78] | |
12 | 8 ตุลาคม 2017 | สนามกีฬาแอลเอฟเอฟ, วีลนีอัส ลิทัวเนีย | 23 | ลิทัวเนีย | 1–0 | 1–0 | [79] | |
13 | 2 มิถุนายน 2018 | สนามกีฬาเวมบลีย์, ลอนดอน อังกฤษ | 24 | ไนจีเรีย | 2–0 | 2–1 | กระชับมิตร | [80] |
14 | 18 มิถุนายน 2018 | วอลโกกราดอะเรนา, วอลโกกราด รัสเซีย | 25 | ตูนิเซีย | 1–0 | 2–1 | ฟุตบอลโลก 2018 | [81] |
15 | 2–1 | |||||||
16 | 24 มิถุนายน 2018 | สนามกีฬานิจนีนอฟโกรอด, นิจนีนอฟโกรอด รัสเซีย | 26 | ปานามา | 2–0 | 6–1 | [82] | |
17 | 5–0 | |||||||
18 | 6–0 | |||||||
19 | 3 กรกฎาคม 2018 | ออตครืยตีเย-อะเรนา, มอสโก รัสเซีย | 27 | โคลอมเบีย | 1–0 | 1–1 | [83] | |
20 | 18 พฤศจิกายน 2018 | สนามกีฬาเวมบลีย์, ลอนดอน อังกฤษ | 35 | โครเอเชีย | 2–1 | 2–1 | ยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 ลีกเอ | [84] |
21 | 22 มีนาคม 2019 | สนามกีฬาเวมบลีย์, ลอนดอน อังกฤษ | 36 | เช็กเกีย | 2–0 | 5–0 | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบคัดเลือก | [85] |
22 | 25 มีนาคม 2019 | สนามกีฬานครพอดกอรีตซา, พอดกอรีตซา มอนเตเนโกร | 37 | มอนเตเนโกร | 4–1 | 5–1 | [86] | |
23 | 7 กันยายน 2019 | สนามกีฬาเวมบลีย์, ลอนดอน อังกฤษ | 40 | บัลแกเรีย | 1–0 | 4–0 | [87] | |
24 | 2–0 | |||||||
25 | 4–0 | |||||||
26 | 10 กันยายน 2019 | เซนต์แมรีส์สเตเดียม, เซาแทมป์ตัน อังกฤษ | 41 | คอซอวอ | 2–1 | 5–3 | [88] | |
27 | 11 ตุลาคม 2019 | ฟอร์ทูนาอะเรนา, ปราก สาธารณรัฐเช็ก | 42 | เช็กเกีย | 1–0 | 1–2 | [89] | |
28 | 14 ตุลาคม 2019 | สนามกีฬาแห่งชาติวาซิล เลฟสกี, โซเฟีย บัลแกเรีย | 43 | บัลแกเรีย | 6–0 | 6–0 | [90] | |
29 | 14 พฤศจิกายน 2019 | สนามกีฬาเวมบลีย์, ลอนดอน อังกฤษ | 44 | มอนเตเนโกร | 2–0 | 7–0 | [91] | |
30 | 3–0 | |||||||
31 | 5–0 | |||||||
32 | 17 พฤศจิกายน 2019 | สนามกีฬานครพริสตีนา, พริสตีนา คอซอวอ | 45 | คอซอวอ | 2–0 | 4–0 | [92] |
ทอตนัมฮอตสเปอร์
ทีมชาติอังกฤษ
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.