เทพเจ้าเตาไฟ หรือ จ้าวฮุ่น(ตามสำเนียงฮกเกี้ยน - จีน: 灶君; แปลตรงตัว: "เจ้าเตาไฟ - Kitchen God") หรือลัทธิเต๋าออกนามว่า ซีเบ่งจ้าวกุน (ตามสำเนียงฮกเกี้ยน - จีน: 司命真君; แปลตรงตัว: "เทพเจ้าเตาไฟ - Stove God")[1][2]เป็นเทวดารักษาเตาไฟในในศาสนาชาวบ้านจีนและลัทธิเต๋าอันเป็นหนึ่งในเทพเจ้าหรือเซียนผู้ประทานพรและคุ้มครองการครัวและเรื่องอาหาร และนอกจากทำหน้าที่เฝ้าติดตามการประพฤติตนความดีความชั่วของบุคคลมนุษย์ปุถุชนทั้งหลายและป้องกันอัคคีภัยตามเทพปกรณัมจีน เทพเจ้าเตาไฟมีมากมายหลายองค์และมีทั้งบุรุษและสตรี[3]

ข้อมูลเบื้องต้น ภาษาจีน, ความหมายตามตัวอักษร ...
เทพเจ้าเตาไฟ
เจ้าพ่อเจ้าแม่เตาไฟ จิตรกรรมแบบจีนประเพณี
ภาษาจีน
ความหมายตามตัวอักษรเจ้าเตา
ชื่อภาษาจีนอื่น ๆ
ภาษาจีน灶神
ความหมายตามตัวอักษรเทพเจ้าเตาไฟ, วิญญาณรักษาเตาไฟ
ชื่อภาษาจีนอื่น ๆ (2)
ภาษาจีน/
ความหมายตามตัวอักษรเจ้าพ่อเตาไฟ/เจ้าแม่เตาไฟ
ปิด

เทพปกรณัมเจ้าพ่อเตาไฟ

แต่ก่อนมีชายตัดฟืนคนหนึ่งแซ่จาง ชื่อติ้งฟุ (จางตัน) กำพร้าบิดาตั้งแต่เด็ก เขาเป็นคนซื่อตรงและกตัญญูต่อมารดามาก เมื่อมีเงินก็จะให้มารดาเป็นคนเก็บ ต่อมาวันหนึ่งจางติ้งฟุได้ช่วยสาวน้อยคนหนึ่งไว้ได้ ขณะกำลังถูกสองสมุนโจรฉุดไปให้หัวหน้า สองโจรสู้ไม่ได้หนีไปรายงานหัวหน้า หัวหน้าโจรจึงให้พวกสมุน 20-30 คนมาล้อมจับจางติ้งฟุไปลงโทษที่ชุมโจร จางติ้งฟุตัวคนเดียว น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ จึงถูกจับไปเผาทั้งเป็นในเตาไฟยักษ์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 ฟุต ตอนนั้นเผอิญเทพตรวจการณ์ผ่านมาพบ จึงนำวิญญาณจางติ้งฟุ ขึ้นสวรรค์รายงานองค์เง็กเซียน

เมื่อตรวจบันทึกจากเทวทูตพบว่าจางติ้งฟุเป็นคนซื่อตรงกตัญญูมีคุณธรรมน่าชมเชย เหตุที่ถูกเผาทั้งเป็นนั้นเกิดจากผลกรรมเนื่องจากสมัยเป็นเด็ก ขณะเติมฟืนใส่เตาไม่ระวังมีลูกแมวซึ่งกำลังหลับสนิทติดอยู่ในฟืนด้วย องค์เง็กเซียนเห็นว่า จางติ้งฟุเป็นลูกกตัญญู มีคุณธรรม จึงมีราชโองการแต่งตั้งจางติ้งฟุเป็นเทพเตาไฟ มีหน้าที่คอยรายงานความประพฤติที่ดีและชั่วของชายหญิงทุกครัวเรือน โดยวันที่ 24 เดือน 12 ของทุกปีจะต้องไปรายงานที่สวรรค์ จากนั้นก็มีพระบัญชาให้เทพอัคคีลงไปเผาผลาญชุมโจรจนวอดเป็นจุณ ประชาชนในแถบนั้นจึงได้อยู่อย่างสงบสุขเรื่อยมา[4][5][6]

เทพปกรณัมเจ้าแม่เตาไฟ

เทพปกรณัมมีหลากหลายตามแต่ละท้องถิ่น แต่ที่มีชื่อเสียงอันเป็นที่รู้จักคือ ตำนานเทพปกรณัมและที่มาของเทวรูปเทพีเตาไฟของอันสถิตย์ ณ ศาลเทพารักษ์นครผิงเหยา เมืองผิงเหยา มณฑลชานซี โดยกล่าวว่า เดิมทรงเป็นพระเทพีสถิตในสวรรค์อันศักดิ์ดั่งเป็นพระราชบุตรีของจักรพรรดิหยก และได้มีโอกาสติดตามพระเทพีสวรรค์ตะวันตกมาเยี่ยมมนุษย์โลก เมื่อเสด็จดำเนินมาถึงโลกมนุษย์ได้เสด็จประพาส แลได้ทัศนาพิศดูเห็นสามีภริยาคู่หนึ่งอันรักกันมากและทรงปารถนาจักใช้วิถีดังดังเสมือนปถุชนมนุษย์โลกทั่วไป ครั้นในราตรีหนึ่งพระนางเธอได้แลเห็นบ้านหลังนึงอันมีแสงตะเกียงสว่างไสว จึงแอบเสด็จดำเนินไปในบ้านนั้น แลเห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังจุดไฟประกอบอาหารในห้องครัว เมื่อนางได้สบพักตร์บุรุษผู้นี้ก็บังเกิดความเสน่หาจึงเนรมิตองค์เป็นสตรีชาวมนุษย์เสด็จดำเนินสู่ในห้องครัว แลกล่าวกับบุรุษผู้นี้ว่า นางนั้นมิมีบิดรมารดร ที่พักอาศัย และทรงหิวอาหาร บุรุษผู้นี้ได้รับสดับฟังแล้วสงสารจึงให้นางทานอาหารแล้วให้นางอยู่ที่นี่จนได้เป็นสามีภรรยากัน โดยสามีที่ไม่ทราบฐานันดรศักดิ์ที่แท้จริงของภรรยาตนเอง ต่อมาความทราบถึงพระเทพีสวรรค์ตะวันตก จึงไปตามนางกลับมา แต่นางไม่ยอมกลับ เนื่องด้วยจักรพรรดิหยกไม่เห็นบุตรีตนเองมาเฝ้าแหน จึงตรัสถามหา พระเทพีสวรรค์ตะวันตกจึงกราบทูลเหตุตามความจริง จักรพรรดิหยกจึงทรงมีราชโองเนรเทศแลการสถาปนาให้นางและสามีเป็นผู้รักษาเตาไฟและสถิตย์ในโลกมนุษย์นับแต่นั้น ประกอบกับในปีนั้นเกิดเหตุทุพภิกขภัยหนัก พระเทพีบุตรีแห่งจักรพรรดิสวรรค์ทรงเห็นความทุกข์ยากของมนุษย์จึงขึ้นสวรรค์ไปนำพัสตราภรณ์พร้อมด้วยภูษิตาภรณ์และอาหารลงมาแจกมนุษย์ ความทราบถึงจักรพรรดิหยกจึงมีราชโองการรับสั่งให้บุตรีและพระชามาดาเสด็จกลับมายังเทวโลกเพื่อรายงานเหตุการณ์ต่าง ๆ บนโลกมนุษย์ให้ทรงทราบในช่วงก่อนตรุษจีนและเสด็จลงมายังที่ประทับเดิมในมนุษย์โลกหลังเทศกาลตามปฏิทินจีนนับแต่นั้นสืบไป[7][8] [9]

อ้างอิง

ดูเพิ่ม

บรรณานุกรม

Wikiwand in your browser!

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.

Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.