อำเภอบางมูลนาก

อำเภอในจังหวัดพิจิตร ประเทศไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

อำเภอบางมูลนาก

อำเภอบางมูลนาก เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดพิจิตร เดิมมีพื้นที่กว่า 2,441.60 ตารางกิโลเมตร ต่อมามีการแบ่งพื้นที่การปกครองออกในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ ครอบคลุมท้องที่ทั้งหมดของอำเภอทับคล้อ[1] อำเภอดงเจริญ[2][3] พื้นที่ส่วนใหญ่ของอำเภอตะพานหิน[4] ในจังหวัดพิจิตร พื้นที่ของอำเภอชนแดนทั้งหมด[5][6] จังหวัดเพชรบูรณ์ บางส่วนของอำเภอชุมแสง[7] บางส่วนของอำเภอหนองบัว[7] จังหวัดนครสวรรค์ และเป็นพื้นที่ 1 ใน 5 สุขาภิบาลท้องที่ในอดีต (โพธาราม, บ้านโป่ง, ชุมแสง, บางมูลนาก และบ้านหมี่) ซึ่งมีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต

Thumb
สถานีรถไฟบางมูลนาก
Thumb
ภายในพิพิธภัณฑ์ชาวบางมูลนาก
ข้อมูลเบื้องต้น อำเภอบางมูลนาก, การถอดเสียงอักษรโรมัน ...
อำเภอบางมูลนาก
การถอดเสียงอักษรโรมัน
  อักษรโรมันAmphoe Bang Mun Nak
Thumb
พิพิธภัณฑ์ชาวบางมูลนาก
คำขวัญ: 
ปลายอขึ้นชื่อ เลื่องลือมะม่วงแผ่น
ดินแดนหลวงพ่อหิน ถิ่นข้าวขาวกอเดียว
Thumb
แผนที่จังหวัดพิจิตร เน้นอำเภอบางมูลนาก
พิกัด: 16°1′42″N 100°22′42″E
ประเทศ ไทย
จังหวัดพิจิตร
พื้นที่
  ทั้งหมด354.94 ตร.กม. (137.04 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (2564)
  ทั้งหมด44,189 คน
  ความหนาแน่น124.49 คน/ตร.กม. (322.4 คน/ตร.ไมล์)
รหัสไปรษณีย์ 66120 (ไปรษณีย์บางมูลนาก - เฉพาะตำบลเนินมะกอก ตำบลบางไผ่ ตำบลบางมูลนาก (เทศบาล) ตำบลภูมิ ตำบลลำประดา ตำบลวังกรด ตำบลวังสำโรง ตำบลห้วยเขน และตำบลหอไกร),
66210 (ไปรษณีย์วังตะกู - เฉพาะตำบลวังตะกู รวมไปถึงตำบลวังงิ้ว ตำบลวังงิ้วใต้ ตำบลสำนักขุนเณร ตำบลห้วยพุก และตำบลห้วยร่วม ในเขตอำเภอดงเจริญ)
รหัสภูมิศาสตร์6605
ที่ตั้งที่ว่าการที่ว่าการอำเภอบางมูลนาก ถนนประเทืองถิ่น ตำบลบางมูลนาก อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร 66120
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย
ปิด

ที่ตั้งและอาณาเขต

อำเภอบางมูลนากมีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอข้างเคียง ดังนี้

Thumb
สถานีรถไฟวังกร่าง

ประวัติ

สรุป
มุมมอง

อำเภอบางมูลนากในอดีตเคยเป็นเมืองภูมิมาก่อน โดยมีที่ตั้งอยู่ที่บ้านหนองเต่า ตำบลภูมิ จากคำบอกเล่าได้ความว่า เมืองภูมินี้มีพระธรรมยาเป็นเจ้าเมืองแต่ไม่ปรากฏว่าเป็นเจ้าเมืองมาตั้งแต่สมัยใด ปัจจุบันมีผู้สร้างศาลพระธรรมยาขึ้นที่วัดหนองเต่า ตำบลภูมิ ชาวบ้านนับถือกันมาก หลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเมืองภูมิก็คือ ใบบอกเมืองพิจิตร พ.ศ. 2432 ในสมัยรัชกาลที่ 5 และราชกิจจานุเบกษา เล่ม 10 แผ่นที่ 12 วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2436 ได้ความต้องตรงกันว่าเมืองภูมิเป็นเมืองขึ้นของเมืองพิจิตรและผู้ว่าราชการเมืองชื่อพระณรงค์เรืองนาช

ใน พ.ศ. 2446 เมืองพิจิตรแบ่งเป็น 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง (ท่าหลวง) อำเภอบางคลาน และอำเภอเมืองภูมิ สันนิษฐานว่าที่ว่าการอำเภอเมืองภูมินี้ตั้งอยู่ที่บ้านหนองเต่า ตำบลภูมิ ต่อมา พ.ศ. 2450 ได้ย้ายที่ว่าการอำเภอไปตั้งใหม่ที่ริมแม่น้ำน่านด้านตะวันตกเหนือวัดบางมูลนาก แต่ยังคงใช้ชื่ออำเภอภูมิอย่างเดิม จนกระทั่งวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2460 กระทรวงมหาดไทยจึงได้มีประกาศใช้ชื่ออำเภอที่เปลี่ยนใหม่ให้ตรงกับชื่อตำบลที่ตั้งว่าการอำเภอ ซึ่งที่ว่าอำเภอเมืองภูมิตั้งอยู่ที่ตำบลบางมูลนาก จึงเปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอบางมูลนาก และมาตั้งถิ่นฐานใหม่ ณ ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่านกระทั่งปัจจุบัน โดย"บางมูลนาก" เดิมเรียกว่า "บางขี้นาก" เพราะเดิมที่คลองบุษบง (เหนือตลาดบางมูลนาก) มีนากชุกชุมและได้ถ่ายมูลไว้เกลื่อนกลาดทั่งบริเวณนั้น จึงเรียกว่า "บางขี้นาก" ต่อมาจึงเปลี่ยนมาเป็น "บางมูลนาก"

  • วันที่ 17 มกราคม 2460 จัดตั้งสุขาภิบาลท้องที่บางมูลนาก ในท้องที่บางส่วนของตำบลบางมูลนาก[8]
  • วันที่ 29 เมษายน 2460 เปลี่ยนแปลงชื่ออำเภอภูมิ จังหวัดพิจิตร มณฑลพิษณุโลก เป็น อำเภอบางมูลนาก[9]
  • วันที่ 6 กันยายน 2468 ขยายเขตสุขาภิบาลท้องที่บางมูลนาก[10][11] เพื่อความเหมาะสมในการบริหารกิจการและการทะนุบำรุงท้องถิ่น
  • วันที่ 22 มีนาคม 2478 ตั้งตำบลทับคล้อ แยกออกจากตำบลท้ายทุ่ง[1]
  • วันที่ 10 ธันวาคม 2478 ยกฐานะท้องถิ่นสุขาภิบาลท้องที่บางมูลนาก ให้เป็น เทศบาลเมืองบางมูลนาก[12]
  • วันที่ 24 มกราคม 2479 แยกพื้นที่ตำบลห้วยเกตุ ของอำเภอเมืองพิจิตร ตำบลทับคล้อ ตำบลคลองคูณ ของอำเภอบางมูลนาก และตำบลวังสำโรง ของอำเภอโพทะเล มาตั้งเป็น กิ่งอำเภอตะพานหิน[4] ขึ้นกับอำเภอเมืองพิจิตร
  • วันที่ 17 เมษายน 2482 เปลี่ยนแปลงชื่อตำบลหนองเต่า อำเภอบางมูลนาก เป็น ตำบลภูมิ[13]
  • วันที่ 25 มีนาคม 2482 เปลี่ยนแปลงเขตอำเภอบางมูลนาก กับกิ่งอำเภอตะพานหิน อำเภอเมืองพิจิตร โดยโอนพื้นที่ตำบลทุ่งโพธิ์ และตำบลท้ายทุ่ง ของอำเภอบางมูลนาก ไปขึ้นกับกิ่งอำเภอตะพานหิน อำเภอเมืองพิจิตร[14]
  • วันที่ 8 เมษายน 2483 ยกฐานะกิ่งอำเภอตะพานหิน อำเภอบางมูลนาก เป็น อำเภอตะพานหิน
  • วันที่ 7 ตุลาคม 2484 ตั้งตำบลวังงิ้ว แยกออกจากตำบลวังตะกู และตำบลหนองกลับ[15]
  • วันที่ 10 มิถุนายน 2490 ตั้งตำบลห้วยเขน แยกออกจากตำบลวังกรด[16]
  • วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2493 เปลี่ยนแปลงเขตจังหวัดพิจิตร และจังหวัดนครสวรรค์ โดยโอนพื้นที่ตำบลหนองกลับ ของอำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร มาขึ้นกับกิ่งอำเภอหนองบัว อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ และโอนพื้นที่หมู่ 1,2 และ 3 (ในขณะนั้น) ของตำบลเนินมะกอก อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ไปขึ้นกับตำบลพิกุล อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์[7]
  • วันที่ 1 มีนาคม 2501 จัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลภูมิ ในท้องที่ตำบลภูมิ[17]
  • วันที่ 23 ธันวาคม 2501 ตั้งตำบลห้วยพุก แยกออกจากตำบลห้วยร่วม[18]
  • วันที่ 15 พฤศจิกายน 2509 จัดตั้งสุขาภิบาลวังตะกู ในท้องที่บางส่วนของตำบลวังตะกู[19] และจัดตั้งสุขาภิบาลบางไผ่ ในท้องที่บางส่วนของตำบลบางไผ่[20]
  • วันที่ 21 มีนาคม 2510 ตั้งตำบลสำนักขุนเณร แยกออกจากตำบลวังงิ้ว[21]
  • วันที่ 4 ธันวาคม 2522 ตั้งตำบลลำประดา แยกออกจากตำบลภูมิ[22]
  • วันที่ 4 พฤษภาคม 2525 โอนพื้นที่หมู่ 9 บ้านสามแยก และหมู่ 13 บ้านห้วยหลัว (ในขณะนั้น) ของตำบลบางไผ่ ไปขึ้นกับตำบลลำประดา และจัดตั้งเป็นหมู่ 6 บ้านสามแยก และหมู่ 7 บ้านห้วยหลัว ของตำบลลำประดา[23]
  • วันที่ 18 ตุลาคม 2526 โอนพื้นที่หมู่ 5–6 (ในขณะนั้น) ของตำบลห้วยเขน ไปตั้งเป็นหมู่ 8–9 ของตำบลลำประดา[24]
  • วันที่ 3 มิถุนายน 2529 จัดตั้งสุขาภิบาลสำนักขุนเณร ในท้องที่หมู่ 1 บ้านสำนักขุนเณร,บ้านห้วยแห้ง หมู่ 2 บ้านไทรย้อย และหมู่ 4 บ้านกุดระกำ ตำบลสำนักขุนเณร[25]
  • วันที่ 9 มกราคม 2539 ตั้งตำบลวังงิ้วใต้ แยกออกจากตำบลวังงิ้ว[26]
  • วันที่ 26 มิถุนายน 2539 แยกพื้นที่ตำบลวังงิ้วใต้ ตำบลวังงิ้ว ตำบลห้วยร่วม ตำบลห้วยพุก และตำบลสำนักขุนเณร อำเภอบางมูลนาก มาตั้งเป็น กิ่งอำเภอดงเจริญ[2] ขึ้นกับอำเภอบางมูลนาก
  • วันที่ 25 พฤษภาคม 2542 ยกฐานะสุขาภิบาลวังตะกู สุขาภิบาลบางไผ่ และสุขาภิบาลสำนักขุนเณร เป็นเทศบาลตำบลวังตะกู เทศบาลตำบลบางไผ่ และเทศบาลตำบลสำนักขุนเณร ตามลำดับ[27]
  • วันที่ 8 กันยายน 2550 ยกฐานะกิ่งอำเภอดงเจริญ อำเภอบางมูลนาก เป็น อำเภอดงเจริญ[3]
  • วันที่ 25 พฤษภาคม 2566 แยกหมู่บ้านไดปลาดุก หมู่ 2 ตำบลวังสำโรง จัดตั้งเป็นหมู่บ้านใหม่อีก 1 หมู่บ้าน ชื่อหมู่บ้านสายห้วย โดยตั้งเป็นหมู่ 8 ตำบลวังสำโรง[28]

การแบ่งเขตการปกครอง

สรุป
มุมมอง

การปกครองส่วนภูมิภาค

อำเภอบางมูลนากแบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 10 ตำบล 79 หมู่บ้าน ได้แก่

1.บางมูลนาก(Bang Mun Nak)-6.ภูมิ(Phum)5 หมู่บ้าน
2.บางไผ่(Bang Phai)12 หมู่บ้าน7.วังกรด(Wang Krot)6 หมู่บ้าน
3.หอไกร(Ho Krai)9 หมู่บ้าน8.ห้วยเขน(Huai Khen)5 หมู่บ้าน
4.เนินมะกอก(Noen Makok)12 หมู่บ้าน9.วังตะกู(Wang Taku)12 หมู่บ้าน
5.วังสำโรง(Wang Samrong)8 หมู่บ้าน10.ลำประดา(Lam Prada)10 หมู่บ้าน

การปกครองส่วนท้องถิ่น

ท้องที่อำเภอบางมูลนากประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 11 แห่ง ได้แก่

  • เทศบาลเมืองบางมูลนาก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบางมูลนากทั้งตำบล
  • เทศบาลตำบลบางไผ่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบางไผ่ เฉพาะหมู่ที่ 2, 4 และบางส่วนของหมู่ที่ 5
  • เทศบาลตำบลวังตะกู ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวังตะกู เฉพาะบางส่วนของหมู่ที่ 1, 3, 11
  • เทศบาลตำบลหอไกร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลหอไกรทั้งตำบล
  • เทศบาลตำบลเนินมะกอก ครอบคลุมพื้นที่ตำบลเนินมะกอกทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลบางไผ่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลบางไผ่ เฉพาะหมู่ที่ 1, 3, 6–12 และบางส่วนของหมู่ที่ 5
  • องค์การบริหารส่วนตำบลวังสำโรง ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวังสำโรงทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลภูมิ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลภูมิและตำบลห้วยเขนทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลวังกรด ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวังกรดทั้งตำบล
  • องค์การบริหารส่วนตำบลวังตะกู ครอบคลุมพื้นที่ตำบลวังตะกู เฉพาะหมู่ที่ 2, 4–10, 12 และบางส่วนของหมู่ที่ 1, 3, 11
  • องค์การบริหารส่วนตำบลลำประดา ครอบคลุมพื้นที่ตำบลลำประดาทั้งตำบล

การคมนาคม

สรุป
มุมมอง

มีทางรถไฟสายเหนือตัดผ่านพื้นที่ โดยอำเภอบางมูลนากมีสถานีรถไฟทั้งหมด 4 สถานี ได้แก่

  • สถานีรถไฟวังกร่าง ตั้งอยู่ที่หมู่ 4,9 บ้านวังกร่าง และหมู่ 12 บ้านวังกร่างใต้ ตำบลเนินมะกอก เป็นสถานีรถไฟชั้น 3 ตั้งอยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 290.24 (จากสถานีรถไฟกรุงเทพ) ใช้ระบบอาณัติสัญญาณรถไฟแบบไฟสีสามท่า (Three Aspect) ใช้ระบบบังคับประแจแบบประแจกลไฟฟ้าชนิดบังคับสัมพันธ์ด้วยรีเลย์ (All Relay Interlocking) ตัวย่อสถานี คือ กา. มีขบวนรถให้บริการทั้งหมด 8 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถธรรมดา 201/202 (กท.–พล.–กท.), ขบวนรถธรรมดา 211/212 (กท.–ตห.–กท.), ขบวนรถท้องถิ่น 401/402 (ลบ.–พล.–ลบ.) และขบวนรถท้องถิ่น 407/408 (นว.–ชม.–นว.)
  • สถานีรถไฟบางมูลนาก ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองบางมูลนาก ตำบลบางมูลนาก เป็นสถานีรถไฟชั้น 1 ตั้งอยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 297.03 (จากสถานีรถไฟกรุงเทพ) ใช้ระบบอาณัติสัญญาณรถไฟแบบไฟสีสามท่า (Three Aspect) ใช้ระบบบังคับประแจแบบประแจกลไฟฟ้าชนิดบังคับสัมพันธ์ด้วยรีเลย์ (All Relay Interlocking) ตัวย่อสถานี คือ นา. มีขบวนรถให้บริการทั้งหมด 14 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถเร็ว 102 (ชม.-กภ.), ขบวนรถเร็ว 107/108 (กภ.–ดช.–กภ.), ขบวนรถเร็ว 109 (กภ.-ชม.), ขบวนรถเร็ว 111/112 (กภ.–ดช.–กภ.), ขบวนรถธรรมดา 201/202 (กท.–พล.–กท.), ขบวนรถธรรมดา 211/212 (กท.–ตห.–กท.), ขบวนรถท้องถิ่น 401/402 (ลบ.–พล.–ลบ.),ขบวนรถท้องถิ่น 407/408 (นว.–ชม.–นว.)
  • สถานีรถไฟหอไกร ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 บ้านหอไกร ตำบลหอไกร เป็นสถานีรถไฟชั้น 3 ตั้งอยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 303.50 (จากสถานีรถไฟกรุงเทพ) ใช้ระบบอาณัติสัญญาณรถไฟแบบไฟสีสามท่า (Three Aspect) ใช้ระบบบังคับประแจแบบประแจกลไฟฟ้าชนิดบังคับสัมพันธ์ด้วยรีเลย์ (All Relay Interlocking) ตัวย่อสถานี คือ ไก. มีขบวนรถให้บริการทั้งหมด 9 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถเร็ว 102 (ชม.-กภ.), ขบวนรถธรรมดา 201/202 (กท.–พล.–กท.), ขบวนรถธรรมดา 211/212 (กท.–ตห.–กท.), ขบวนรถท้องถิ่น 401/402 (ลบ.–พล.–ลบ.),ขบวนรถท้องถิ่น 407/408 (นว.–ชม.–นว.)
  • สถานีรถไฟดงตะขบ ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 บ้านสถานีดงตะขบ ตำบลบางไผ่ เป็นสถานีรถไฟชั้น 3 ตั้งอยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 309.87 (จากสถานีรถไฟกรุงเทพ) ใช้ระบบอาณัติสัญญาณรถไฟแบบไฟสีสามท่า (Three Aspect) ใช้ระบบบังคับประแจแบบประแจกลไฟฟ้าชนิดบังคับสัมพันธ์ด้วยรีเลย์ (All Relay Interlocking) ตัวย่อสถานี คือ กา. มีขบวนรถให้บริการทั้งหมด 8 ขบวน ได้แก่ ขบวนรถธรรมดา 201/202 (กท.–พล.–กท.), ขบวนรถธรรมดา 211/212 (กท.–ตห.–กท.), ขบวนรถท้องถิ่น 401/402 (ลบ.–พล.–ลบ.) และขบวนรถท้องถิ่น 407/408 (นว.–ชม.–นว.)

อ้างอิง

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.