Loading AI tools
การยึดอำนาจบริหารจากรัฐบาลพลเรือนโดยกองทัพในประเทศไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
รัฐประหารในประเทศไทย เป็นการถอดถอนรัฐบาลด้วยวิถีทางนอกกฎหมาย ซึ่งมักเป็นการใช้กำลังทหารเพื่อโค่นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หรือแต่งตั้ง หรือแม้แต่รัฐบาลชุดที่หัวหน้าคณะรัฐประหารเองเป็นผู้นำก็มี
ประเทศไทยขาดเสถียรภาพทางการเมืองสูงและมีรัฐประหารหลายครั้ง ประเทศไทยมีรัฐประหารมากที่สุดในโลกในประวัติศาสตร์ร่วมสมัย[1] ในปี 2559 "ประเทศไทยมีทหารหรืออดีตทหารเป็นนายกรัฐมนตรีในประเทศไทยเป็นเวลา 57 จาก 85 ปีนับแต่ล้มสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในปี 2475"[2] ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ประเทศไทยมีทหารหรืออดีตทหารเป็นนายกรัฐมนตรีในประเทศไทยเป็นเวลา 63 ปี 3 เดือน จาก 91 ปี ผู้บัญชาการทหารบกที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือรักษาการนายกรัฐมนตรีมีทั้งหมด 11 ราย รายล่าสุดได้แก่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ
รัฐประหารครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2557 โดย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
ผู้ก่อการรัฐประหารในประเทศไทยเป็นผลสำเร็จ ส่วนใหญ่เกิดจากกองทัพบก[3] ส่วนทหารเรือเคยพยายามก่อรัฐประหารมาแล้วครั้งหนึ่งในกบฏวังหลวง เมื่อปี พ.ศ. 2492 และกบฏแมนฮัตตัน เมื่อปี พ.ศ. 2494 แต่กระทำการไม่สำเร็จ ทำให้ทหารเรือเสียอำนาจในการเมืองไทยไป[4][5]
สาเหตุที่ผู้ก่อการอ้างมักเป็นเรื่องการฉ้อราษฎร์บังหลวง การดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ และความแตกแยกในหมู่ประชาชน[6] อย่างไรก็ตาม นิธิ เอียวศรีวงศ์ มองว่า รัฐประหารในประเทศไทยไม่เคยเกิดขึ้นจากการตัดสินใจโดยลำพังของกองทัพ แต่ต้องอาศัยความเห็นชอบจากชนชั้นนำกลุ่มอื่น และมองว่ารัฐประหารในประเทศไทยจะยังมีอยู่ตราบเท่าที่การเมืองไทยยังเป็นเพียงเรื่องการจัดสรรอำนาจในหมู่ชนชั้นนำ[7]
ในกรณีประเทศไทย เมื่อคณะรัฐประหารได้ทำการยึดอำนาจได้สำเร็จคณะรัฐประหารในไทยมักจะใช้วิธีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวและเสนอให้พระมหากษัตริย์ลงนามประกาศใช้ โดยมีหัวหน้าคณะรัฐประหารเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ (Countersign the Royal Command) มีการออกบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวรับรองสถานะของประกาศและคำสั่งของคณะรัฐประหารให้ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ อาจมีการรับรองความสมบูรณ์สถานะทางกฎหมายของคำสั่งหรือประกาศ และรวมทั้งการกระทำที่เกี่ยวเนื่องของคณะรัฐประหารให้ชอบด้วยกฎหมายและชอบด้วยรัฐธรรมนูญในรัฐธรรมนูญฉบับถาวรอีกด้วย[8]
ในปี พ.ศ. 2567 ประเทศไทยมีประชาชนเรียกร้องการรัฐประหารอย่างเปิดเผย[9]ซึ่งเป็นเรื่องแปลกเนื่องจากประชาชนในประเทศอื่นไม่เคยออกมาเรียกร้องรัฐประหาร
ทั้งนี้ บางตำราระบุว่า การปิดสภาผู้แทนราษฎร และงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2476 เป็นรัฐประหารครั้งแรกของไทย และมิได้แยกเหตุการณ์วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2491 เป็นรัฐประหารอีกครั้ง[10]
การปฏิวัติ หมายถึง การเปลี่ยนรูปแบบหรือระบอบการปกครองประเทศไทย จากรูปแบบหนึ่งไปสู่อีกรูปแบบหนึ่งอย่างสิ้นเชิง หรือมีการเปลี่ยนแปลงประมุขของรัฐเพื่อเปลี่ยน รูปแบบประมุขของรัฐ ดังนั้น การปฏิวัติต้องเป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจหรือการเมืองใหม่ทั้งหมด ซึ่งในประวัติศาสตร์สยามและไทยยังเคยเกิดขึ้นครั้งเดียว คือ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2475 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ[11]
รัฐประหาร หมายถึง การใช้กำลังเปลี่ยนแปลงอำนาจการบริหารประเทศโดยฉับพลันเพื่อเปลี่ยนแปลงผู้นำรัฐบาล โดยการยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลเดิมแต่ไม่เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองหรือประมุขของประเทศ
ในปี 2563 รองศาสตราจารย์ หริรักษ์ สูตะบุตร รองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อ้างว่า พระมหากษัตริย์จะปฏิเสธไม่รับรองคณะรัฐประหารและบรรดาคำสั่งต่าง ๆ ไม่ได้ เพราะจะเป็นการถือฝ่ายทางการเมือง[12] และ อัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการประวัติศาสตร์ อ้างว่า เมื่อคณะรัฐประหารยึดอำนาจได้แล้ว คณะรัฐประหารจะถือเป็นรัฏฐาธิปัตย์ซึ่งมีอำนาจเหนือกว่าพระมหากษัตริย์เสียด้วยซ้ำ ซึ่งทำให้พระมหากษัตริย์อยู่ในฐานะที่ไม่อาจปฏิเสธการรับรองคณะรัฐประหารหรือคำสั่งต่าง ๆ ได้[13]
อย่างไรก็ตาม ธงชัย วินิจจะกูล ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ กล่าวว่าพระมหากษัตริย์เคยปฏิเสธการรับรองรัฐประหารมาแล้ว ได้แก่ กบฏยังเติร์กปี 2524 แม้ว่าจะมีประชาชนส่วนหนึ่งสนับสนุนด้วยซ้ำ ทำให้การก่อการครั้งนั้นล้มเหลว[14] ด้านพันเอก อภิวันท์ วิริยะชัย กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่ทุกครั้งที่มีรัฐประหาร หัวหน้าคณะจะได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นหัวหน้าคณะ (ในส่วนนี้มีข้อสังเกตว่า ยังไม่มีการอ้างอิงทางวิชาการ) จะเห็นว่าเป็นการเกื้อกูลกันระหว่างกองทัพกับสถาบันพระมหากษัตริย์มาตั้งแต่ปี 2490 คณะใดที่ไม่ได้รับการโปรดเกล้า คณะนั้นก็จะเป็นกบฏ[15]
ปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์และนักการเมือง เสนอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพื่อศึกษาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดรัฐประหารขึ้นอีกในอนาคต โดยมีแนวทาง เช่น การปฏิรูปกองทัพ การเปิดกลไกเพื่อเอาผิดกับคณะรัฐประหารในอนาคต ตลอดจนการห้ามองค์การตุลาการรับรองอำนาจคณะรัฐประหาร[16] ส่วนเมื่อปี 2563 ในการชุมนุม "#ธรรมศาสตร์จะไม่ทน" มีการเสนอปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์โดยมีข้อเรียกร้องหนึ่งว่าห้ามพระมหากษัตริย์ลงพระปรมาภิไธยรับรองรัฐประหารอีก[17]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.