พระเจ้าชาลส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ
From Wikipedia, the free encyclopedia
พระเจ้าชาลส์ที่ 1[1] (อังกฤษ: Charles I; 19 พฤศจิกายน ค.ศ. 1600 — 30 มกราคม ค.ศ. 1649) เป็นพระเจ้าแผ่นดินแห่งราชอาณาจักรอังกฤษสมัยราชวงศ์สจวต รวมทั้งพระมหากษัตริย์แห่งสกอตแลนด์ และไอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1625 กระทั่งทรงถูกสำเร็จโทษใน ค.ศ. 1649[2] เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่สองในพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ พระองค์ทรงขัดแย้งทางอำนาจการเมืองกับรัฐสภาอังกฤษ ด้วยทรงดำริว่าการเป็นพระมหากษัตริย์เป็นอำนาจที่รับมอบหมายจากพระเจ้าโดยตรงตามปรัชญาเทวสิทธิ์ของพระมหากษัตริย์ ในขณะที่ฝ่ายรัฐสภาต้องการลดพระราชอำนาจของพระองค์ พระองค์ทรงถูกต่อต้านจากประชาชน เนื่องจากการเข้าแทรกแซงในคริสตจักรแห่งอังกฤษและสกอตแลนด์ รวมทั้งการจัดเก็บภาษีโดยปราศจากการอนุมัติจากรัฐสภา ซึ่งทำให้พระองค์ทรงถูกมองว่าเป็นทรราชในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์[3]
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
พระเจ้าชาลส์ที่ 1 | |
---|---|
พระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษและไอร์แลนด์ | |
ครองราชย์ | 27 มีนาคม 1625 – 30 มกราคม 1649 |
ราชาภิเษก | 2 กุมภาพันธ์ 1626 |
ก่อนหน้า | เจมส์ที่ 1 |
ถัดไป | ชาลส์ที่ 2 (โดยนิตินัย) สภาแห่งรัฐ (โดยพฤตินัย) |
พระมหากษัตริย์แห่งชาวสกอต | |
ครองราชย์ | 27 มีนาคม 1625 – 30 มกราคม 1649 |
ราชาภิเษก | 18 มิถุนายน 1633 |
ก่อนหน้า | เจมส์ที่ 6 |
ถัดไป | ชาลส์ที่ 2 |
พระราชสมภพ | 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 1600(1600-11-16) สก็อตแลนด์ |
สวรรคต | 30 มกราคม ค.ศ. 1649(1649-01-30) (48 ปี) พระราชวังไวต์ฮอล, ลอนดอน |
ฝังพระบรมศพ | 9 กุมภาพันธ์ 1649 โบถส์เซนจอร์จ, อังกฤษ |
คู่อภิเษก | อ็องเรียต มารีแห่งฝรั่งเศส |
พระราชบุตร รายละเอียด |
|
ราชวงศ์ | ราชวงศ์สจวต |
พระราชบิดา | เจมส์ที่ 6 และ 1 |
พระราชมารดา | แอนน์แห่งเดนมาร์ก |
ศาสนา | อังคลิกัน |
นอกจากความขัดแย้งทางอำนาจแล้วก็ยังมีความขัดแย้งทางศาสนาด้วย รวมทั้งความล้มเหลวในการสนับสนุนกองกำลังโปรเตสแตนต์ระหว่างสงครามสามสิบปี ประกอบกับการอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงเฮนเรียตตา มาเรียแห่งฝรั่งเศสซึ่งนับถือนิกายโรมันคาทอลิก[4][5] ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจร้าวลึกเกี่ยวกับสิทธันต์ของพระมหากษัตริย์ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเป็นพันธมิตรกับผู้นำทางศาสนาที่มีความขัดแย้ง รวมทั้งริชาร์ด มอนทากีว (Richard Montagu) และวิลเลียม ลอด ผู้ที่พระองค์ทรงแต่งตั้งให้เป็นอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี ซึ่งทำให้ข้าราชสำนักมีเกรงว่าพระองค์ได้ทรงนำคริสตจักรแห่งอังกฤษเข้าใกล้นิกายโรมันคาทอลิกมากเกินไป ในภายหลังพระเจ้าชาลส์ยังทรงพยายามทรงบังคับให้เกิดการปฏิรูปทางศาสนาในสกอตแลนด์จนกระทั่งนำไปสู่สงครามของบิชอป ซึ่งทำให้รัฐสภาอังกฤษมีอำนาจเพิ่มมากขึ้น และเป็นปัจจัยที่ทำให้พระองค์สูญเสียพระราชอำนาจในที่สุด
ช่วงบั้นปลายชีวิต พระองค์ทรงเผชิญกับสงครามกลางเมืองอังกฤษ ซึ่งเป็นการต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามอันประกอบด้วยรัฐสภาอังกฤษและสกอตแลนด์ ผู้ซึ่งท้าทายความพยายามมีอำนาจเหนือและปฏิเสธอำนาจของรัฐสภา ในเวลาเดียวกับที่ได้ชักจูงกลุ่มปรปักษ์ต่อนโยบายทางการศาสนาของพระองค์ที่เอนเอียงไปทางโรมันคาทอลิก เช่น กลุ่มพิวริตัน พระเจ้าชาลส์ทรงพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมืองครั้งแรก (ค.ศ. 1642–1645) โดยฝ่ายรัฐสภาหวังว่าจะพระองค์ทรงยอมรับข้อเรียกร้องให้ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่ไม่ทรงยอมรับและยังทรงไปสร้างพันธมิตรกับสกอตแลนด์และหนีไปเกาะไวท์ อันนำไปสู่สงครามกลางเมืองขึ้นอีกครั้งหนึ่ง (ค.ศ. 1648–1649) พระองค์ทรงพ่ายแพ้อีกครั้งหนึ่ง ทรงถูกจับกุมและถูกตัดสินสำเร็จโทษในข้อหากบฏต่อแผ่นดิน ระบอบราชาธิปไตยของอังกฤษจึงถูกยุบเลิก และเปลี่ยนแปลงการปกครองไปสู่ระบอบสาธารณรัฐ โดยมีการประกาศก่อตั้งเครือจักรภพอังกฤษแทนที่ บ้างก็เรียกว่าสมัยอังกฤษไร้พระมหากษัตริย์ เมื่อสมัยการปกครองของริชาร์ด ครอมเวลล์สิ้นสุดลง พระราชโอรสของพระเจ้าชาร์ลส์ พระเจ้าชาลส์ที่ 2 ทรงขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์อีก ภายหลังการฟื้นฟูราชาธิปไตย ใน ค.ศ. 1660[3] ในปีเดียวกัน พระเจ้าชาลส์ที่ 1 ทรงถูกยกย่องให้เป็น "นักบุญชาลส์ สจวต" โดยคริสตจักรแห่งอังกฤษ[6]