ประเทศอิสราเอล
ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง / From Wikipedia, the free encyclopedia
ประเทศอิสราเอล (อังกฤษ: Israel; ฮีบรู: יִשְׂרָאֵל; อาหรับ: إِسْرَائِيل) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า รัฐอิสราเอล (อังกฤษ: State of Israel; ฮีบรู: מְדִינַת יִשְׂרָאֵל; อาหรับ: دَوْلَة إِسْرَائِيل) เป็นประเทศในตะวันออกกลางและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและชายฝั่งเหนือของทะเลแดง มีเขตแดนทางบกติดต่อกับประเทศเลบานอนทางทิศเหนือ ประเทศซีเรียทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศจอร์แดนทางทิศตะวันออก ดินแดนเวสต์แบงก์และฉนวนกาซาของปาเลสไตน์ทางทิศตะวันออกและตะวันตกตามลำดับ และประเทศอียิปต์ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ประเทศอิสราเอลมีภูมิลักษณ์หลากหลายแม้มีพื้นที่ค่อนข้างเล็ก[24][25] เทลอาวีฟเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของประเทศ[26] ส่วนที่ตั้งรัฐบาลและเมืองหลวงตามประกาศคือ เยรูซาเลม แม้อำนาจอธิปไตยของรัฐเหนือเยรูซาเลมยังไม่มีการรับรองในระดับนานาประเทศ[27][28][29][30][fn 5]
รัฐอิสราเอล | |
---|---|
ชายแดนตามข้อตกลงสงบศึก ค.ศ. 1949 (เส้นสีเขียว) | |
เมืองหลวง และเมืองใหญ่สุด | เยรูซาเลม (ได้รับการยอมรับบางส่วน)[fn 1][fn 2] 31°47′N 35°13′E |
ภาษาราชการ | ฮีบรู |
ภาษาที่ได้รับการยอมรับ | อาหรับ[fn 3] |
กลุ่มชาติพันธุ์ (ค.ศ. 2019) |
|
ศาสนา (ค.ศ. 2019) | |
เดมะนิม | ชาวอิสราเอล |
การปกครอง | รัฐเดี่ยว ระบบรัฐสภา สาธารณรัฐตามรัฐธรรมนูญ |
• ประธานาธิบดี | อิซัค เฮอร์ซ็อค |
• นายกรัฐมนตรี | เบนจามิน เนทันยาฮู |
• ประธานคเนสเซต | มิกกี เลวี |
• ประธานศาลสูงสุด | เอสเธอร์ ฮายุต |
สภานิติบัญญัติ | คเนสเซต |
เป็นเอกราชจากจักรวรรดิบริติช | |
• ประกาศ | 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1948 |
11 พฤษภาคม ค.ศ. 1949 | |
• กฎหมายพื้นฐาน | ค.ศ. 1958–2018 |
พื้นที่ | |
• รวม | 20,770–22,072 ตารางกิโลเมตร (8,019–8,522 ตารางไมล์)[a] (อันดับที่ 150) |
2.71 (ใน ค.ศ. 2015)[16] | |
ประชากร | |
• 2024 ประมาณ | 9,838,420[17][fn 4] (อันดับที่ 99) |
• สำมะโนประชากร 2008 | 7,412,200[18][fn 4] |
446 ต่อตารางกิโลเมตร (1,155.1 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 35) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | ค.ศ. 2022[19] (ประมาณ) |
• รวม | 478.01 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[fn 4] (อันดับที่ 49) |
• ต่อหัว | 50,200 ดอลลาร์สหรัฐ[fn 4] (อันดับที่ 34) |
จีดีพี (ราคาตลาด) | ค.ศ. 2022[19] (ประมาณ) |
• รวม | 520.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[fn 4] (อันดับที่ 29) |
• ต่อหัว | 54,690 ดอลลาร์สหรัฐ[fn 4] (อันดับที่ 15) |
จีนี (ค.ศ. 2018) | 34.8[fn 4][22] ปานกลาง · อันดับที่ 48 |
เอชดีไอ (ค.ศ. 2019) | 0.919[fn 4][23] สูงมาก · อันดับที่ 19 |
สกุลเงิน | นิวเชเกล (₪) (ILS) |
เขตเวลา | UTC+2 (เวลามาตรฐานอิสราเอล) |
UTC+3 (เวลาออมแสงอิสราเอล) | |
รูปแบบวันที่ |
|
ขับรถด้าน | ขวา |
รหัสโทรศัพท์ | +972 |
รหัส ISO 3166 | IL |
โดเมนบนสุด | .il |
|
ราชอาณาจักรอิสราเอลและยูดาห์ถือกำเนิดขึ้นระหว่างยุคเหล็ก[31][32] จักรวรรดิอัสซีเรียใหม่ทำลายอิสราเอลเมื่อราว 720 ปีก่อน ค.ศ.[33] ต่อมายูดาห์ถูกจักรวรรดิบาบิโลเนีย เปอร์เซียและเฮลเลนนิสติกพิชิต และมีอยู่เป็นจังหวัดปกครองตนเองของยิว[34][35] กบฏแมคาบี (Maccabean Revolt) ที่สำเร็จทำให้เกิดราชอาณาจักรแฮซมาเนียน (Hasmonean) ซึ่งมีเอกราชเมื่อ 110 ปีก่อน ค.ศ.[36] ทว่า ใน 63 ปีก่อน ค.ศ. ตกเป็นรัฐบริวารของสาธารณรัฐโรมันซึ่งต่อมาตั้งราชวงศ์เฮโรเดียนใน 37 ปีก่อน ค.ศ. และ 6 ปีก่อน ค.ศ. สถาปนามณฑลยูเดียของโรมัน[37] ยูเดียเป็นมณฑลหนึ่งของโรมันจนกบฏยิวที่ไม่สำเร็จทำให้เกิดการทำลายเป็นวงกว้าง[36] การขับไล่ประชากรยิว[36][38] และการเปลี่ยนชื่อภูมิภาคจากจูเดียเป็นซีเรียปาเลสตีนา (Syria Palaestina)[39] มียิวอยู่ในภูมิภาคนี้บ้างเป็นเวลาหลายศตวรรษ ในคริสต์ศตวรรษที่ 7 อาหรับยึดลิแวนต์จากจักรวรรดิไบแซนไทน์ แล้วอยู่ในการควบคุมของมุสลิมจนสงครามครูเสดครั้งที่หนึ่งในปี 1099 ตามด้วยการพิชิตของอัยยูบิดในปี 1187 รัฐสุลต่านมัมลุกอียิปต์ขยายการควบคุมเหนือลิแวนต์ในคริสต์ศตวรรษที่ 13 จนถูกจักรวรรดิออตโตมันพิชิตในปี 1517 ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19 ความตื่นตัวเรื่องชาติในหมู่ยิวนำไปสู่การสถาปนาขบวนการไซออนิสต์ในประเทศต่าง ๆ ตามด้วยการเข้าเมืองออตโตมันและบริติชปาเลสไตน์หลายระลอก
ในปี 1947 สหประชาชาติลงมติรับแผนแบ่งส่วนสำหรับปาเลสไตน์ที่แนะนำการสถาปนารัฐอาหรับและยิวและให้เยรูซาเลมอยู่ในการควบคุมของหลายชาติ[40] หน่วยงานยิวยอมรับและผู้นำอาหรับปฏิเสธแผนดังกล่าว[41][42][43] ปีต่อมา หน่วยงานยิวประกาศอิสรภาพของรัฐอิสราเอล และสงครามอาหรับ–อิสราเอล ค.ศ. 1948 ในเวลาต่อมาทำให้อิสราเอลครอบครองดินแดนส่วนใหญ่ของอดีตอาณัติ ส่วนรัฐอาหรับเพื่อนบ้านถือครองเวสต์แบงก์และกาซา[44] นับแต่นั้นอิสราเอลสู้รบในสงครามหลายครั้งกับประเทศอาหรับ[45] และตั้งแต่ปี 1967 ยึดครองดินแดนรวมทั้งเวสต์แบงก์ ที่ราบสูงโกลันและฉนวนกาซา[46][47][48] อิสราเอลขยายกฎหมายไปยังที่ราบสูงโกลันและเยรูซาเลมตะวันออก แต่ไม่รวมเวสต์แบงก์[49][50][51][52] การยึดครองดินแดนปาเลสไตน์เป็นการยึดครองทางทหารยาวนานที่สุดในโลกในสมัยใหม่ ความพยายามระงับข้อพิพาทอิสราเอล–ปาเลสไตน์ยังไม่มีความตกลงสั้นติภาพขั้นสุดท้าย แต่มีการลงนามสนธิสัญญาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับอียิปต์และจอร์แดนแล้ว
ในกฎหมายหลักพื้นฐาน อิสราเอลนิยามตนเองว่าเป็นรัฐยิวและประชาธิปไตย[53] ปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบมีผู้แทน โดยมีระบบรัฐสภา ประชาชนมีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั่วไป โดยใช้การลงคะแนนระบบสัดส่วนแบบบัญชีรายชื่อและ[54] นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล และเนสเซทเป็นองค์การบริหารอำนาจนิติบัญญัติสภาเดี่ยวของอิสราเอล อิสราเอลเป็นประเทศพัฒนาแล้ว สมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา[55] และเศรษฐกิจของอิสราเอลใหญ่เป็นอันดับที่ 29 ของโลก อันดับที่ 13 ของโลกในด้าน GDP ต่อหัว ตามผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศราคาตลาดใน พ.ศ. 2566[56] อิสราเอลมีมาตรฐานการครองชีพสูงสุดในตะวันออกกลางและสูงสุดเป็นอันดับสามในทวีปเอเชีย[57] อิสราเอลมีความคาดหมายการคงชีพสูงสุดประเทศหนึ่งในโลก[58]