Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พอล ดอนัลด์ ไวต์ที่ 2 (Paul Donald Wight II) เกิด 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1972 เป็นนักมวยปล้ำอาชีพ, อดีตนักบาสเกตบอลและนักแสดงชาวอเมริกันที่รู้จักดีในWWEนาม บิ๊กโชว์ (Big Show)[12]
Big Show | |
---|---|
ชื่อเกิด | Paul Donald Wight II[1] |
เกิด | [2] Aiken, South Carolina, U.S. | 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1972
ที่พัก | Tampa, Florida, U.S.[2] |
การศึกษา | Wichita State University |
คู่สมรส |
|
บุตร | 3 |
ประวัติมวยปล้ำอาชีพ | |
ชื่อบนสังเวียน | |
ส่วนสูง | 7 ft 0 in[5][6] – 7 ft 2 in (218 cm)[7][8] |
น้ำหนัก | 383 lb (174 kg)[5][9] – 500 lb (230 kg)[6][10] |
มาจาก | Tampa, Florida[5] |
ฝึกหัดโดย | Larry Sharpe[2] Thrasher[2] |
เปิดตัว | December 3, 1994[11] |
ก่อนที่บิ๊กโชว์จะเข้าวงการมวยปล้ำนั้น เค้าได้เคยเป็นนักบาสเกตบอลมาก่อน และด้วยน้ำหนัก 441 ปอนด์ หรือราว ๆ 200 กิโลกรัม ในขณะนั้นได้ก่อปัญหาและกระทบต่อการเป็นนักบาสเกตบอลของเขา ดังนั้นเมื่อบิ๊กโชว์ทบทวนดูว่าเมื่ออาชีพนักบาสเกตบอลของเขาเริ่มมีปัญหานํ้าหนักแล้วเราจะเดินหน้าชีวิตในแนวทางไหน ถึงอย่างไรก็ดีโชคได้เข้าข้างเค้าเป็นอย่างมากเพราะบิ๊กโชว์ ได้เบนเข็มทิศชีวิตแล้วหันหน้าเข้าสู่วงการมวยปล้ำอย่างเต็มตัวด้วยการแนะนำจาก Bonaduce และ Bonaduce ได้แนะนำบิ๊กโชว์ ให้กับเจ้าพ่อแห่งวงการมวยปล้ำในขณะนั้นและถือได้ว่าเป็นผู้มีอิทธิพลสูงมากสูงสุดเลยทีเดียวคนนั้นคือฮัลค์ โฮแกน ซึ่งโฮแกนก็ชื่นชอบบิ๊กโชว์เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีหน่วยก้านที่ดี รูปร่างสูงใหญ่มากที่สุด
ต่อมาโฮแกนก็ได้แนะนำบิ๊กโชว์ให้กับเอริก บิสชอฟฟ์ ภายใต้สังกัด WCW ซึ่งบิสชอฟฟ์ดำรงตำแหน่ง Vice President ในขณะนั้น ถึงอย่างไรก็ตามเส้นทางการเป็นนักมวยปล้ำของบิ๊กโชว์ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบซักทีเดียว อันเนื่องมาจากบิ๊กโชว์ไม่ได้มีประสบการณ์ในด้านมวยปล้ำเลย ถึงอย่างไรเค้าก็ไม่เคยย่อท้อต่อชะตาชีวิตที่พลิกผัน จนแล้วจนรอดเค้าก็ได้เข้าสู่วงการมวยปล้ำอย่างเป็นทางการภายใต้สังกัด WCW ภายใต้ชื่อ เดอะไจแอนต์ ผู้หน้าเกรงขาม โดยมีเควิน ซัลลิแวนข้างกาย และชื่อเสียงของเดอะไจแอนต์ ก็พุ่งติดลมบนจนเป็นที่ติดหู และเกียรติยศต่าง ๆ ก็วิ่งมาชนโดยที่เค้าเองยังไม่ทันตั้งตัว เพราะเขาเป็นคนง่าย ๆสบาย ๆ ไม่เรื่องมากจนเกินขอบเขต ไม่ค่อยเกี่ยงบทที่ได้รับเท่าไหร่ไม่ว่าจะเป็นบทบาทพระเอกจ๋าหรือแม้กระทั่งบทบาทตัวโกง จึงมีแต่ผู้ชื่นชอบเสียเป็นส่วนใหญ่ ต่อมาถึงบททดสอบสุดหินและท้าทายที่สุดในชีวิตของนักมวยปล้ำเนื่องจากเขาได้เซ็นสัญญาปล้ำกับทาง WWE
ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20 บิ๊กโชว์เสียแชมป์ยูเอสให้จอห์น ซีนา[13] และช่วงปลายปี 2004 ในสแมคดาวน์ บิ๊กโชว์ถูกเคิร์ต แองเกิลลอบทำร้ายและจับบิ๊กโชว์โกนหัว แต่บิ๊กโชว์ก็สามารถล้างแค้นได้ด้วยการเอาชนะแองเกิลในโนเมอร์ซี 2005 และกลายมาเป็นฝ่ายธรรมะ ในรอยัลรัมเบิล 2005 ได้ชิงแชมป์ WWEกับเจบีแอล เจ้าของแชมป์ และเคิร์ต แองเกิลแบบ 3 เส้า สุดท้ายเจบีแอลเป็นฝ่ายป้องกันแชมป์ไว้ได้ ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 21 บิ๊กโชว์ได้เจอกับนักมวยปล้ำซูโม่ชื่อดังอย่างอะคีโบโนในการต่อสู้รูปแบบซูโม่ และบิ๊กโชว์แพ้[14] ต่อมาบิ๊กโชว์ก็ถูกดราฟท์จากสแมคดาวน์ไปอยู่รอว์[15] ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ 2005 ได้เข้าร่วมทีมฝั่งรอว์แพ้ทีมฝั่งสแมคดาวน์[16] ต่อมาบิ๊กโชว์และเคนสามารถคว้าแชมป์โลกแท็กทีมร่วมกันได้[17] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 บิ๊กโชว์และเคนสามารถป้องกันแชมป์กับคาร์ลีโตและคริส มาสเตอส์เอาไว้ได้ ก่อนเสียให้กลุ่มสปีริตสควอด หลังจากนั้นเคนก็ได้หักหลังบิ๊กโชว์ ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นศัตรูคู่แค้นกัน[18][19] ปี 2006 บิ๊กโชว์ได้ย้ายมาอยู่ ECW[20][21] และสามารถคว้าแชมป์โลก ECWมาได้โดยเอาชนะร็อบ แวน แดม[22][23] และกลายมาเป็นฝ่ายอธรรมอีกครั้งเปิดศึกกับบ็อบบี แลชลีย์โดยมีเทสต์เป็นคู่ทีม ในดีเซมเบอร์ทูดิสเมมเบอร์ (2006) ต้องป้องกันแชมป์กับ 5 ผู้ท้าชิงได้แก่ ร็อบ แวน แดม, ซีเอ็ม พังก์, เทสต์, ฮาร์ดคอร์ ฮอลลี และแลชลีย์ ในแมตช์เอ็กซ์ตรีม อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ โดยมีอาวุธที่อยู่ในกรง สุดท้ายก็เสียแชมป์ให้แลชลีย์[24][25] จากนั้นบิ๊กโชว์ก็ได้พักการปล้ำเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ[26]
ในโนเวย์เอาท์ (2008) บิ๊กโชว์ได้กลับมาอีกครั้ง และเล่นงานเรย์ มิสเตริโอ หลังจากเรย์แพ้ให้กับเอดจ์ ในแมตช์ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท และเรย์ยังมีอาการปวดกล้ามเนื้อไบเส็บด้วย จนทำให้เรย์ต้องพักการปล้ำในชั่วคราว[27][28] บิ๊กโชว์ได้ท้ากับนักมวยชื่อดัง ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ เจอกันในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 24 ในแมตช์ปลํ้าไม่มีกฎกติกา สุดท้ายบิ๊กโชว์ก็เป็นฝ่ายแพ้ โดยถูกเมย์เวทเธอร์ใช้สนับมือชกไปที่ขากรรไกร และถูกกรรมการนับ 10 แพ้ให้กับบิ๊กโชว์ในที่สุด[29] ในแบคแลช (2008) บิ๊กโชว์ได้เอาชนะ เดอะเกรทคาลี[30] ต่อมาบิ๊กโชว์ได้ไปลอบทำร้ายดิอันเดอร์เทเกอร์ ทำให้อันเดอร์เทเกอร์แค้นมากจึงไปขอท้าเจอกันในเซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2008) ในรูปแบบการปล้ำจับคู่ต่อสู้ยัดใส่โลงศพ สุดท้ายบิ๊กโชว์เป็นฝ่ายแพ้ ในโนเวย์เอาท์ (2009)บิ๊กโชว์ได้เข้าร่วมแมตช์อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ชิงแชมป์ WWE กับ เอดจ์, ทริปเปิลเอช, เจฟฟ์ ฮาร์ดี, อันเดอร์เทเกอร์ และวลาดิเมียร์ คอซลอฟ สุดท้ายทริปเปิลเอชก็เป็นฝ่ายคว้าแชมป์ไปได้[31] บิ๊กโชว์ได้เปิดศึกกับจอห์น ซีนา ซึ่งซีนาได้ขู่วิกกี เกร์เรโรเรื่องที่เธอแอบเป็นกิ๊กกับบิ๊กโชว์ จนเธอต้องยอมให้ซีนาได้ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทกับเอดจ์ แต่ความจริงก็ปรากฏให้เอดจ์รู้ว่าเธอปันใจให้กับบิ๊กโชว์ ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นศัตรูกัน และมีแมตช์สามเส้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25 สุดท้ายซีนาคว้าแชมป์ไปได้[32] บิ๊กโชว์ได้ถูกดราฟท์ตัวไปอยู่รอว์ ในแบคแลช (2009)ซีนาต้องป้องกันแชมป์กับเอดจ์ในรูปแบบลาสแมนสแตนดิ้ง ซึ่งใครล้มลงไปนอนกับพื้นแล้วถูกกรรมการนับ 10 ก็จะเป็นฝ่ายแพ้ และบิ๊กโชว์ก็ได้เล่นงานซีนาด้วยท่าโชคสแลมกับไฟสปอตไลท์ยักษ์ จนทำให้ซีนาสลบและแพ้ไปแบบหมดรูป และเสียแชมป์คืนให้กับเอดจ์[33] ซีนาแค้นมากจึงขอท้าเจอกับบิ๊กโชว์ในจัดจ์เมนท์เดย์ (2009)โดยบิ๊กโชว์แพ้ ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2009) บิ๊กโชว์จึงไปขอท้าเจอกับซีนาในรูปแบบซับมิสชัน ใครตบพื้นก่อนยอมแพ้ สุดท้ายบิ๊กโชว์ต้องตบพื้นยอมแพ้ ด้วยท่า STF ทำให้ซีนาได้ล้างแค้นบิ๊กโชว์อย่างสะใจ[34][35]
ในแบรกกิ้ง ไรท์ส (2009) บิ๊กโชว์ได้ร่วมสมาชิกของทีมรอว์เจอกับทีมสแมคดาวน์ แต่บิ๊กโชว์ได้หักหลังทีมของตนเอง จนทีมรอว์แพ้[36] ในรอว์ (26 ตุลาคม 2009) บิ๊กโชว์ต้องเจอกับทริปเปิลเอชในรูปแบบลัมเบอร์แจ็ก โดยมีนักมวยปล้ำฝั่งรอว์ทั้งหมดอยู่ข้างเวที เพราะต้องการล้างแค้นที่บิ๊กโชว์เป็นต้นเหตุทำให้ทีมรอว์แพ้ และแมตช์นี้ก็มีจอห์น ซีนาเป็นกรรมการพิเศษอีกด้วย และบิ๊กโชว์ถูกนักมวยปล้ำฝั่งรอว์ทั้งหมดเล่นงานด้วยท่าไม้ตายของแต่ละคน รวมทั้งท่าไม้ตาย 3 ท่าหลัก เช่น แอตติจูด แอดจัสต์เมนต์ของกรรมการพิเศษ จอห์น ซีนา, สวีตชินมิวสิกของชอว์น ไมเคิลส์ และเพดดิกรีของทริปเปิลเอช ทำให้แพ้ทริปเปิลเอชไปแบบหมดรูป และทีมรอว์ได้ล้างแค้นอย่างสะใจ ต่อมาบิ๊กโชว์ได้เป็นแชมป์แท็กทีมยูนิฟายด์ร่วมกับคริส เจริโค และตั้งชื่อทีมเจริ-โชว์ ในทีแอลซี (2009) ทีมเจริ-โชว์ก็เสียแชมป์ให้กับดี-เจเนอเรชันเอ็กซ์ (ทริปเปิลเอช กับ ชอว์น ไมเคิลส์) แบบ TLC Match[37] ทำให้ทีมเจริ-โชว์ต้องแตกทีมกัน[38] ต่อมาบิ๊กโชว์ได้จับคู่กับเดอะมิซ เอาชนะทีมดี-เอ็กซ์ และคว้าแชมป์แท็กทีมยูนิฟายด์มาได้ และตั้งชื่อทีมโชมิซ[39] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26 ทีมโชมิซสามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ในเวลาสั้น ๆ[40] ก่อนเสียแชมป์ให้เดอะฮาร์ทไดนาสตี้ (เดวิด ฮาร์ท สมิธและไทสัน คิด) ทำให้บิ๊กโชว์โกรธชกหน้ามิซและแตกทีมกัน บิ๊กโชว์ได้ถูกดราฟ์ไปอยู่สแมคดาวน์ และได้เป็นฝ่ายธรรมะอีกครั้ง และยังได้ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทกับเจ้าของแชมป์แจ็ก สแวกเกอร์ ในโอเวอร์เดอะลิมิต (2010) แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะสแวกเกอร์เอาเข็มขัดแชมป์ตีใส่หัวบิ๊กโชว์ ทำให้บิ๊กโชว์ชนะฟาล์วแต่ไม่เสียแชมป์ หลังแมตช์สแวกเกอร์ก็เล่นงานบิ๊กโชว์อย่างต่อเนื่อง สุดท้ายบิ๊กโชว์ก็เล่นงานกลับ ด้วยท่า โชคสแลม[41] ต่อมาบิ๊กโชว์ได้ถอดหน้ากากของซีเอ็ม พังก์ จนเห็นหัวล้านของพังก์ ทำให้พังก์แค้นมากและท้าเจอกันในซัมเมอร์สแลม (2010) โดยต้องปล้ำในรูปแบบแฮนดิแคป 3 รุม 1 กับเดอะสเตรตเอดจ์ซะไซอะที แต่บิ๊กโชว์ก็สามารถเอาชนะมาได้ ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2010) บิ๊กโชว์เอาชนะพังก์ไปได้แบบตัวต่อตัว ในแบรกกิ้ง ไรท์ส (2010) บิ๊กโชว์ได้เป็นกัปตันทีมฝั่งสแมคดาวน์เอาชนะทีมฝั่งรอว์ไปได้ ในเซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ (2010) บิ๊กโชว์ได้เข้าร่วมทีมของเรย์ เอาชนะทีมของอัลเบร์โต เดล รีโอไปได้
ในสแมคดาวน์ 2011 บิ๊กโชว์ได้ร่วมปล้ำ 4 เส้า เพื่อหาผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทกับเอดจ์ สุดท้ายซิกก์เลอร์เป็นฝ่ายชนะ โดยเวด บาร์เร็ตต์ได้มาก่อกวนบิ๊กโชว์ ทำให้บิ๊กโชว์แค้นมาก จึงไปขอท้าเจอกับบาร์เร็ตต์ ในสแมคดาวน์สัปดาห์ถัดมา ผลปรากฏว่า แมตช์จบลงโดยไม่มีผลตัดสิน เพราะฮีท สเลเตอร์กับจัสติน เกเบรียลออกมาช่วยบาร์เร็ตต์รุมเล่นงานบิ๊กโชว์ แถมมีอีซีคีล แจ็กสันออกมาช่วยรุมอีกคน และบาร์เร็ตต์ได้ก่อตั้งกลุ่มเดอะคอร์ ต่อมาบิ๊กโชว์ได้ร่วมแมตช์อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2011)แทนดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ที่ถูกทีโอดอร์ ลองไล่ออก สุดท้ายเอดจ์ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ ในสแมคดาวน์บิ๊กโชว์ได้เจอกับเคน แต่ในระหว่างการปล้ำกลุ่มเดอะคอร์ ก็ออกมาพร้อมกับเก้าอี้และส่งเก้าอี้ให้เคนตีใส่บิ๊กโชว์ ทำให้บิ๊กโชว์ชนะฟาล์ว[42] ในสแมคดาวน์ บิ๊กโชว์ได้จับคู่กับเคน เจอกับบาร์เร็ตต์และสเลเตอร์ แต่ในระหว่างการปล้ำ อีเซเคียลและเกเบรียลได้มาก่อกวน ทำให้บิ๊กโชว์และเคนชนะฟาล์วไปอีกครั้ง ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 บิ๊กโชว์ได้จับคู่กับ เคน, ซานติโน มาเรลลา และวลาดิเมียร์ คอซลอฟ เจอพวกกลุ่มเดอะคอร์ ในแมตช์แทกทีม 8 คน แต่ว่าคอซลอฟได้รับบาดเจ็บ จึงให้โคฟี คิงส์ตันมาแทน โดยทีมของบิ๊กโชว์เป็นฝ่ายชนะ[43] ในสแมคดาวน์ บิ๊กโชว์และเคนได้คว้าแชมป์แท็กทีม WWE โดยเอาชนะสเลเตอร์และเกเบรียล[44] ในรอว์ 23 พฤษภาคม 2011 บิ๊กโชว์และเคนเสียแชมป์ให้เดวิด โอทังกาและไมเคิล แมคกิลลิคัตตี 2สมาชิกจากกลุ่มเดอะนิวเน็กซัส[45] คืนเดียวกันขณะที่บิ๊กโชว์และเคนกำลังให้สัมภาษณ์อยู่หลังเวที อัลเบร์โต เดล รีโอเดินมาพูดเยาะเย้ย และตบหน้าบิ๊กโชว์ก่อนวิ่งหนี บิ๊กโชว์วิ่งไล่ตามแต่ถูกริคาร์โด โรดรีเกซโฆษกของเดล รีโอขับรถชน ทำให้บิ๊กโชว์ได้รับบาดเจ็บที่เข่าขวา บิ๊กโชว์แค้นมากจึงขอท้าเจอกับเดล รีโอในแคปิเทล พูนิชเมนท์แต่บิ๊กโชว์ก็แพ้ ต่อมาได้รีแมตช์กับเดล รีโอในกรงเหล็ก แต่ก็ไม่สามารถล้างแค้นได้ เพราะมาร์ก เฮนรีได้มาก่อกวนทำให้บิ๊กโชว์แพ้ จึงขอท้าเจอกับเฮนรีในมันนีอินเดอะแบงก์ (2011)แต่บิ๊กโชว์ก็แพ้ หลังแมตช์เฮนรีเอาเก้าอี้มาหนีบขาซ้ายของบิ๊กโชว์ ก่อนจะขึ้นเชือกเส้นสองกระโดดลงมาทับใส่เต็ม ๆ ขาจนต้องพักการปล้ำ
ในสแมคดาวน์ 7 ตุลาคม 2011 บิ๊กโชว์ได้กลับมาอัดเฮนรี เจ้าของแชมป์โลกเฮฟวี่เวทในขณะนั้น ด้วยท่าโชคสแลมกับโต๊ะผู้บรรยาย[46] ในเวนเจินส์ (2011) บิ๊กโชว์ได้ขอท้าชิงแชมป์กับเฮนรี แต่ไม่มีผลการตัดสินเนื่องจากเวทีพัง ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2011) บิ๊กโชว์ได้ขอท้าชิงแชมป์กับเฮนรี ผลปรากฏว่าบิ๊กโชว์ชนะฟาล์วไม่ได้แชมป์[47] ในทีแอลซี (2011) บิ๊กโชว์ได้คว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวทจากเฮนรีมาได้ แต่หลังแมตช์เฮนรีมาลอบทำร้ายบิ๊กโชว์ โดยเอาเก้าอี้มาฟาดบิ๊กโชว์จากด้านหลังและ DDT ใส่เก้าอี้ หลังจากนั้นแดเนียล ไบรอันวิ่งออกมาพร้อมกับกรรมการ ขอใช้สิทธิ์มันนีอินเดอะแบงก์ และกระชากแชมป์จากบิ๊กโชว์ในสภาพที่ไม่พร้อมปล้ำ[48] ในสแมคดาวน์ 6 มกราคม 2012 บิ๊กโชว์ได้ชิงแชมป์กับไบรอัน แต่บิ๊กโชว์ถูกปรับแพ้ฟาล์ว[49] ในสแมคดาวน์ 13 มกราคม 2012 บิ๊กโชว์ได้ขอรีแมตช์ชิงแชมป์กับไบรอันแบบไม่มีกฎกติกาโดยมีเอเจมายืนอยู่ข้างเวที ปรากฏว่าบิ๊กโชว์เผลอวิ่งไปชนเอเจล้มขณะที่วิ่งไล่ตามไบรอัน ทำให้ต้องมาดูอาการของเอเจ และไม่มีผลตัดสิน[50] ในรอยัลรัมเบิล (2012) บิ๊กโชว์ได้ปล้ำ3เส้าในกรงเหล็กชิงแชมป์กับไบรอันและเฮนรี แต่ก็ไม่สำเร็จ[51] บิ๊กโชว์ได้ปล้ำชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทในแมตช์อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2012) แต่ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์กลับมาได้[52] ต่อมาได้เปิดศึกกับแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล โคดี โรดส์ โดยในรอว์ 20 กุมภาพันธ์ 2012 ในแมตช์แบทเทิลรอยัล โคดีได้มาดึงมือบิ๊กโชว์จนตกเวทีแพ้ จากนั้นโคดีก็ได้ทำคลิปล้อเลียนบิ๊กโชว์ โดยเอาภาพที่น่าอับอายของบิ๊กโชว์ และถูกเรียกว่าเป็นตัวตลกของเรสเซิลเมเนียทุก ๆ ปี[53] ทำให้บิ๊กโชว์แค้นมากและได้ขอท้าชิงแชมป์อินเตอร์กับโคดีในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 และบิ๊กโชว์สามารถคว้าแชมป์มาได้[54] แต่ก็เสียแชมป์คืนในแมตช์ใช้โต๊ะในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2012) โดยบิ๊กโชว์เผลอไปเหยียบโต๊ะเอาเองกรรมเลยสั่นระฆังแพ้[55]
บิ๊กโชว์ได้ไปล้อเลียนเสียงแหบของผู้จัดการทั่วไปของรอว์และสแมคดาวน์ จอห์น ลอรีไนติส ในรอว์ 14 พฤษภาคม 2012 ลอรีไนติสสั่งให้บิ๊กโชว์ขอโทษที่ไปล้อเลียนเสียงของเขา โดยบอกว่าถ้าบิ๊กโชว์ไม่ขอโทษก็จะถูกไล่ออก บิ๊กโชว์ก็ยอมขอโทษและยอมคุกเข่าแต่ก็ถูกไล่ออก[56] ในโอเวอร์เดอะลิมิต (2012) บิ๊กโชว์ได้เป็นฝ่ายอธรรมโดยออกมาก่อกวนแมตช์และช่วยลอรีไนติสเอาชนะจอห์น ซีนาด้วยท่า WMD[57][58] ในโนเวย์เอาท์ (2012) บิ๊กโชว์ได้เจอกับซีนา ในกรงเหล็ก โดยถ้าบิ๊กโชว์แพ้ ลอรีไนติสจะถูกไล่ออก และถ้าซีนาแพ้ ซีนาก็จะถูกไล่ออก สุดท้ายบิ๊กโชว์เป็นฝ่ายแพ้ลอรีไนติสจึงถูกไล่ออก[59] ในมันนี่อินเดอะแบงค์ (2012) ได้เข้าร่วมมันนีอินเดอะแบงก์แลดเดอร์แมตช์ เพื่อเอกสารสิทธิ์ในกระเป๋าชิงแชมป์ WWE แต่ไม่สำเร็จ[60] ในรอว์ ตอนที่ 1,000 ในแมตช์ชิงแชมป์ WWE ระหว่าง จอห์น ซีนา กับ ซีเอ็ม พังก์ ผลปรากฏว่าบิ๊กโชว์มาลอบทำร้ายซีนา ทำให้ซีนาชนะฟาล์วแต่ไม่ได้แชมป์[61][62] หลังแมตช์บิ๊กโชว์กระทืบซีนาไม่ยั้ง แต่พังก์ก็ยืนดูเฉย ๆ ไม่ยอมช่วย จนเดอะ ร็อกออกมาช่วยซีนา และจะใช้ People's Elbow ใส่บิ๊กโชว์ แต่พังก์ขึ้นมาโคลทส์ไลน์ใส่ร็อก และจับใส่ GTS ก่อนจะเดินจากไปท่ามกลางเสียงโห่ของคนดูและกลายเป็นฝ่ายอธรรม[63] ในรอว์ 30 กรกฎาคม 2012 บิ๊กโชว์ได้เจอกับซีนา เพื่อหาผู้ท้าชิงแชมป์ WWE กับพังก์ ในซัมเมอร์สแลม (2012) โดยมีพังก์มานั่งเป็นผู้บรรยายอยู่ข้างเวที แต่แมตช์จบลงโดยไม่มีผลตัดสิน หลังแมตช์พังก์เตะก้านคอบิ๊กโชว์ แล้วก็เอาไมค์มาประกาศว่าไม่มีใครชนะแมตช์นี้เลย พวกมันเป็นพวกขี้แพ้ทั้งคู่ พังก์เดินกลับไป แต่เอเจออกมาประกาศให้ทั้งซีนาและบิ๊กโชว์ได้ชิงแชมป์ WWE ในรูปแบบสามเส้า[64] สุดท้ายพังก์ป้องกันได้[65]
ในสแมคดาวน์ 28 กันยายน 2012 บิ๊กโชว์ออกมาเพื่อขอสิทธิ์ในแมตช์ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท บอกว่าตัวเขานั้นไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ในอดีตและต้องการที่จะได้สิทธิ์ชิงแชมป์โลกอีกครั้ง เพราะแชมป์โลกครั้งล่าสุดของเขามันเพียงแค่ 45 วินาทีเท่านั้น พวกนายรู้ไหมว่ามันรู้สึกอย่างไรเมื่อดูรูปร่างของชั้น และพวกนายรู้ไหมว่ามันทำให้ชั้นอายมาก และรู้ไหมสิ่งที่ชั้นรู้สึกและได้เห็นจากไอ้คนที่ขโมยแชมป์ของชั้นไป มันไปปล้ำในเรสเซิลเมเนีย ป้องกันแชมป์กับเชมัส มันแค่ 18 วินาที และนั่นคือสิ่งที่ทำให้ชั้นผิดหวังมากในชีวิตการทำงานของชั้น ชั้นควรจะได้เป็นคู่เอกเรสเซิลเมเนีย ชั้นต้องการแชมป์ของชั้นคืน และทำให้ชั้นไม่ถูกใครก็ตามหัวเราะเยาะ และชั้นก็จะกลายเป็นที่ยกย่องเพราะชั้นคือคนที่โค่นเชมัสได้และชั้นก็จะ... แรนดี ออร์ตัน ออกมาขัดจังหวะ บอกว่าเขาจะจัดการเชมัส และบอกให้บิ๊กโชว์เตรียมตัวปล้ำหาผู้ท้าชิงอันดับ 1 ชิงแชมป์กับเชมัสในเฮลอินเอเซล (2012) อัลเบร์โต เดล รีโอ ออกมาอีกคน บอกว่าพวกนายไม่ควรทำกับเดล รีโอแบบนั้น พวกนายคิดว่าพวกนายเป็นใคร ฉันโดนโกงโดยบูเกอร์ ที สั่งยกเลิกแบนท่าโบรก คิก และออร์ตัน, บิ๊กโชว์ ฉันดีกว่าพวกนายทั้งสอง เดล รีโอขึ้นมาบนเวทีไม่ทันใด ออร์ตันก็ใส่ท่า RKO เป็นการต้อนรับ ก่อนที่บิ๊กโชว์กับออร์ตันยืนจ้องหน้ากัน คืนเดียวกันบิ๊กโชว์ได้ชนะออร์ตันเป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์[66] ในเฮลอินเอเซลบิ๊กโชว์สามารถคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวทมาได้[67] ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2012) ต้องป้องกันแชมป์กับเชมัสโดยบิ๊กโชว์แพ้ฟาล์วแต่ไม่เสียแชมป์[68] ในทีแอลซี (2012) สามารถป้องกันแชมป์กับเชมัสเอาไว้ได้ในแมตช์ใช้เก้าอี้[69] ในสแมคดาวน์ 11 มกราคม 2013 เสียแชมป์ให้กับอัลเบร์โต เดล รีโอแบบลาสแมนสแตนดิ้ง[70] จากนั้นได้ขอท้าชิงแชมป์กับเดล รีโอในรอยัลรัมเบิล (2013)แต่ไม่สำเร็จ[71] ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2013) บิ๊กโชว์ได้รีแมตช์ชิงแชมป์แต่ก็ไม่สำเร็จ[72] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 บิ๊กโชว์ได้จับคู่กับแรนดี ออร์ตัน และเชมัส โดยแพ้ให้กับเดอะชีลด์ หลังแมตช์บิ๊กโชว์ปล่อยหมัดใส่ออร์ตันและเชมัส[73] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2013) บิ๊กโชว์ได้แพ้ให้แรนดี ออร์ตัน ในแมตช์เอกซ์ตรีมรูลส์ ด้วยท่าเตะกะโหลกของออร์ตัน[74] ในรอว์ 12 สิงหาคม 2013 บิ๊กโชว์ได้ออกมาช่วยมาร์ก เฮนรี กับร็อบ แวน แดม จากการรุมทำร้ายของเดอะชีลด์[75][76][77] ในสแมคดาวน์ 16 สิงหาคม 2013 บิ๊กโชว์ได้จับคู่กับเฮนรี และแวน แดม เอาชนะเดอะชีลด์ไปได้[78][79]
ในรอว์ 2 กันยายน 2013 ทริปเปิลเอชได้จัดแมตช์ให้บิ๊กโชว์เจอกับแดเนียล ไบรอัน แต่บิ๊กโชว์ปฏิเสธ สเตฟานี แม็กแมนเรียกบิ๊กโชว์ออกมาที่เวที และบอกว่านายมีสัญญาพิเศษ ถ้าไม่อยากทำอะไรก็ไม่ต้องทำได้ แต่ฉันรู้นะว่านายกำลังถังแตกเพราะธุรกิจเจ๊ง เอาเงินไปให้เพื่อนให้ครอบครัวจนไม่เหลืออะไร จะไปเป็นดาราฮอลลีวู้ดก็ไม่ได้เพราะตัวอย่างกับยักษ์ หรือจะไปเป็นเด็กปั๊มที่ตัวใหญ่ที่สุดในโลกดีล่ะ? มันคุ้มกันแล้วเหรอที่จะทิ้งโอกาสดี ๆ ที่จะทำเงินไป? นายก็รู้นะว่าคนตัวใหญ่มักจะอายุสั้นกว่าคนปกติ นายควรจะรีบทำเงินให้มาก ๆ เพื่อครอบครัวลูกหลานของนายนะ สเตฟานีบอกว่าเขาควรจะเชื่อใจเธอเพราะเราเป็นเพื่อนกันมานาน และสเตฟานีก็กอดบิ๊กโชว์ คืนเดียวกันบิ๊กโชว์ต้องเจอกับไบรอัน สุดท้ายเดอะชีลด์ก็ออกมาเล่นงานไบรอัน หลังแมตช์ บิ๊กโชว์จะขึ้นไปช่วย แต่ทริปเปิลเอช ออกมาห้ามและสั่งให้บิ๊กโชว์กำหมัดแล้วต่อยไบรอัน แต่บิ๊กโชว์ก็ไม่ยอมต่อย และลงเวทีไปและจะเดินกลับ แต่สเตฟานีออกมาเกลี้ยกล่อมจนบิ๊กโชว์ยอมต่อยไบรอันจนได้[80][81][82] ในแบทเทิลกราวด์ (2013)ระหว่างการชิงแชมป์ WWE ที่ว่างอยู่ บิ๊กโชว์ได้มาก่อกวนทำให้แมตช์จบลงแบบไม่มีผลตัดสิน ในรอว์คืนต่อมา 7 ตุลาคม สเตฟานีได้ไล่บิ๊กโชว์ออก ในรอว์ 4 พฤศจิกายน ทริปเปิลเอชกับสเตฟานีได้จ้างบิ๊กโชว์กลับมาและให้สิทธิ์ชิงแชมป์ WWE กับแรนดี ออร์ตันในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2013) แต่บิ๊กโชว์ได้ถูกสั่งให้ปล้ำแฮนดิแคป 4 รุม 1 กับเดอะชีลด์และออร์ตัน แต่ระหว่างแมตช์เคนก็ออกมาโดยใส่สูท แล้วก็ไปหยิบเก้าอี้โยนให้พวกออร์ตันใช้ฟาดบิ๊กโชว์ ทำให้กรรมการสั่งยุติแมตช์ให้บิ๊กโชว์ชนะฟาล์ว หลังแมตช์ออร์ตันกับเดอะชีลด์ยังเล่นงานบิ๊กโชว์ต่อด้วยเก้าอี้และขั้นบันไดเหล็ก ก่อนจะลากไป Triple Powerbomb ลงบนโต๊ะผู้บรรยาย ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ บิ๊กโชว์ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์จากออร์ตันได้[83][84][85]
ในรอว์ 6 มกราคม 2014 บร็อก เลสเนอร์กับพอล เฮย์แมนออกมาโดยเฮย์แมนพูดชื่นชมเลสเนอร์ และพูดถึงการกระทืบมาร์ก เฮนรี เฮนรีออกมาไล่ต่อยเลสเนอร์ แต่โดนเลสเนอร์จับใส่ Kimura Lock จนแขนหัก บิ๊กโชว์ออกมาอัดเลสเนอร์ เฮย์แมนมาห้ามเลสเนอร์ไว้ แล้วก็พากันหนีไป[86][87] ในรอว์ 20 มกราคม บิ๊กโชว์ออกมาและท้าให้เลสเนอร์ กับเฮย์แมนออกมา ทั้งคู่ออกมาแต่ไม่ยอมขึ้นไปเจอกับบิ๊กโชว์บนเวที บิ๊กโชว์เลยท้าทายเลสเนอร์อีกครั้ง ซึ่งเลสเนอร์ก็เดินกลับมาแล้วก็สู้กัน แต่เลสเนอร์ก็โดนบิ๊กโชว์เหวี่ยงตกเวที เลสเนอร์ไปเอาเก้าอี้มา แต่กลายเป็นบิ๊กโชว์เอาเก้าอี้ไปได้ ทำให้เลสเนอร์ต้องหนีไป ในรอยัลรัมเบิล (2014)ได้แพ้ให้กับเลสเนอร์ หลังแมตช์เลสเนอร์เอาเก้าอี้มาตีใส่บิ๊กโชว์หลายที[88] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 30ได้เข้าร่วมชิงถ้วย André the Giant Memorial Battle Royal ครั้งแรก แต่ถูกเหวี่ยงออกเป็นคนสุดท้ายโดยซีซาโร[89] ในเฮลอินเอเซล (2014)ได้แพ้ให้กับรูเซฟ ผู้มีสถิติไม่แพ้ใคร[90] ในรอว์คืนต่อมา บิ๊กโชว์กับมาร์ก เฮนรีได้ชิงแชมป์แท็กทีมกับโกลด์และสตาร์ดัสต์แต่เฮนรีหักหลังบิ๊กโชว์ทำให้แพ้[91][92] ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2014)ได้ร่วมทีมซีนาปะทะทีมออธอริตีในแมตช์ประเพณี 5 ต่อ 5 คัดออก และทีมซีนาชนะ ทำให้ออธอริตีต้องหมดอำนาจลง โดยบิ๊กโชว์ได้หักหลังทีมซีนากลายเป็นฝ่ายอธรรม และร่วมเป็นสมาชิกของออธอริตี[93][94][95] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 31ได้เป็นผู้ชนะแบทเทิลรอยัลคว้าถ้วยอ็องเดรเดอะไจแอนต์[96] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2015)แพ้ให้โรแมน เรนส์แบบลาสแมนสแตนดิ้ง[97][98] ในLive from MGS แพ้ให้บร็อก เลสเนอร์[99] 19 กรกฎาคม 2016 ได้ถูกดราฟท์ไปอยู่รอว์[100] รอว์ 4 กันยายน ได้แพ้ให้บรอน สโตรว์แมนในกรงเหล็ก หลังแมตช์ถูกจับฟาดใส่กรงจนพัง[101][102] มีรายงานว่าเหตุการณ์นี้เป็นบทให้บิ๊กโชว์ห่างหายจากจอเพื่อต้องไปผ่าตัดสะโพก[103]
บิ๊กโชว์ได้กลับมา WWE วันที่ 6 เมษายน 2018 เพื่ออัญเชิญเพื่อนและคู่ปรับของเขาอย่าง มาร์ก เฮนรี เข้าสู่หอเกียรติยศ WWE Hall of Fame[104] ในสแมคดาวน์ตุลาคม 2018 บิ๊กโชว์ได้กลับมาขึ้นปล้ำและเป็นฝ่ายอธรรมอีกครั้งโดยช่วยเหลือเดอะบาร์ (ซีซาโรและเชมัส) จนคว้าแชมป์สแมคดาวน์แท็กทีม WWEจากเดอะนิวเดย์ได้สำเร็จ[105] ก่อนจะแยกกับเดอะบาร์หลังจากที่รวมทีมกันเพียงเวลาสั้น ๆ[106][107] ก่อนจะกลับมาขึ้นปล้ำแบบเซอร์ไพรส์ในรอว์ต้นปี 2020 เป็นฝ่ายธรรมะ[108][109] และเปิดศึกกับแรนดี ออร์ตันเพียงช่วงสั้น ๆ[110] บิ๊กโชว์ปรากฏตัวกับ WWE ครั้งสุดท้ายในรอว์ค่ำคืนของตำนาน (Raw Legends Night) ในเดือนมกราคม 2021 ก่อนจะแยกทางกับ WWE เพราะไม่สามารถตกลงสัญญากันได้[111] ในเดือนต่อมาได้เซ็นสัญญากับ AEW[112]
Year | Title | Role | Notes |
---|---|---|---|
1996 | Reggie's Prayer | Mr. Portola | |
1996 | Jingle All The Way | Huge Santa | |
1998 | McCinsey's Island | Little Snow Flake | |
1998 | The Waterboy | Captain Insano | |
2006 | Little Hercules in 3-D | Marduk | |
2010 | MacGruber | Brick Hughes | |
2010 | Knucklehead | Walter Krunk | |
2015 | Vendetta | Victor Abbott | |
2016 | Countdown | Big Show | Uncredited |
2017 | The Jetsons & WWE: Robo-WrestleMania! | Voice | |
2019 | Fighting with My Family |
Year | Title | Role | Notes |
---|---|---|---|
1994 | Thunder in Paradise | Uncredited | |
1997 | Figure It Out | Himself | |
1999 | Cousin Skeeter | "Skeeter's Suplex" (Season 1, Episode 17) | |
1999 | Shasta McNasty | Himself | "Pilot"/"Brothers Out Land" (Season 1, Episode 1) |
1999 | The Unreal Story of Professional Wrestling | Himself | Documentary |
2000 | The Cindy Margolis Show | Himself | "Big Show" (Season 1, Episode 4) |
2001 | The Weakest Link | Himself | Episode: WWF Edition |
2000 | Saturday Night Live | Himself | Episode: "The Rock / AC/DC" |
2000–05 | Late Night with Conan O'Brien | Himself | 5 episodes |
2002 | TV Total | Himself | April 29 |
2002 | One on One | Miles | Episode: "Is It Safe?" |
2003–04 | Hollywood Squares | Himself | 10 episodes |
2004 | Player$ | Himself | Episode: "Barenaked Players" |
2004 | 10 Things Every Guy Should Experience | Himself | Season 1, Episode 2 |
2004 | MADtv | Himself | March 13 (Season 9, Episode 18) |
2004 | Star Trek: Enterprise | Orion Slave #1 | Episode: "Borderland" |
2005–07 | Hogan Knows Best | Himself | Regular appearances |
2005 | Late Night with Conan O'Brien | Himself | |
2006 | Video on Trial | Himself | December 17 (Season 2, Episode 12) |
2007 | Hannity & Colmes | Big Show | July 2 |
2008 | Rome Is Burning | Himself | February 26 |
2009 | VH1 Top 20 Countdown | Himself | Host (March 7) |
2009 | Are You Smarter than A Fifth Grader? | Himself | Australian version |
2009 | Are You Smarter than a 5th Grader? | Himself | U.S. syndicated version |
2009 | E:60 | Big Show | Episode: "Lord of the Ring" |
2009 | The Tonight Show with Conan O'Brien | ||
2009 | Dinner: Impossible | Himself | Episode: "WWE: A Mission on the Mat" |
2010 | Extreme Makeover: Home Edition | Himself | Episode: "Suggs Family" |
2010 | Late Night with Jimmy Fallon | Participant | June 16 (Season 2, Episode 93) |
2010 | Royal Pains | Donald Green | Episode: "Keeping the Faith" |
2010 | The 7PM Project | Himself | July 30 (Episode 264) |
2011–15 | WWE Tough Enough | Big Show | 2 episodes |
2011–13 | Supah Ninjas | Two Ton Harley | 2 episodes |
2011 | Kids Choice Awards | Himself | Stunt driver |
2011 | Burn Notice' | Griffin Black | Episode: "No Good Deed"[113] |
2011 | The Tonight Show with Jay Leno | Himself | April 6 (Season 19, Episode 124) |
2011 | American Country Awards | Himself | |
2012 | Kids Choice Awards | Himself | wrestler against The Miz |
2012 | Larry King Now | Himself/Guest | "WWE Superstars" (Season 1, Episode 52) |
2013 | Psych | Big Ed Dixon | Episode: "Lassie Jerky" |
2014 | Bonus Content | "Wizard World Atlanta 2014" (Season 2, Episode 2) | |
2014 | 2014 Teen Choice Awards | Himself | |
2016 | Lip Sync Battle | Himself/Guest | Episode "Olivia Munn vs. Kevin Hart" |
2017 | Conan | Himself/Guest | (Season 7, Episode 63) |
2017 | The Tonight Show Starring Jimmy Fallon | Participant | (Season 4, Episode 127) |
2019 | Happy! | Big Pink | Recurring appearance |
TBA | The Big Show Show | TBA | Regular appearance |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.