เจฟฟ์ ฮาร์ดี

นักมวยชาวอเมริกัน จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เจฟฟ์ ฮาร์ดี

เจฟฟรี นีโร ฮารดี (Jeffrey Nero Hardy)[1] เป็นนักมวยปล้ำอาชีพชาวอเมริกันในนาม เจฟฟ์ ฮาร์ดี (Jeff Hardy) เกิด 31 สิงหาคม ค.ศ. 1977[4] ที่คาเมรอน, นอร์ทแคโรไลนา, สหรัฐอเมริกา จากครอบครัว Gilbert และ Ruby Moore Hardy โดยมีพี่ชายคนเดียวคือแมต ฮาร์ดี เป็นคู่แท็กทีมในนามฮาร์ดี บอยซ์[8]

ข้อมูลเบื้องต้น เจฟฟ์ ฮาร์ดี, เกิด ...
เจฟฟ์ ฮาร์ดี
Thumb
เกิดJeffrey Nero Hardy
(1977-08-31) 31 สิงหาคม ค.ศ. 1977 (47 ปี)[1]
แคเมรอน รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐ[2]
คู่สมรสBeth Britt (สมรส 2011)
บุตร2
ครอบครัวMatt Hardy (brother)
Reby Sky (sister-in-law)
ชื่อบนสังเวียนBrother Nero [3]
Ingus Jynx[4]
Itchweeed
Jeff Hardy[4]
Willow[4]
Wolverine[4]
Keith Davis[5]
ส่วนสูง1.88 m (6 ft 2 in)[2][6]
น้ำหนัก102 kg (225 lb)[6]
มาจากCameron, North Carolina[7]
ฝึกหัดโดยDory Funk Jr.[7]
Michael Hayes[7]
เปิดตัวOctober 15, 1993
อาชีพทางดนตรี
แนวเพลงAlternative rock, alternative metal, acoustic
เครื่องดนตรีVocals, guitar, piano
ช่วงปี2003–present
ค่ายเพลงTNA Knockout Music
ลายมือชื่อ
Thumb
ปิด

ประวัติ

สรุป
มุมมอง

เจฟฟ์ได้ใฝ่ฝันที่จะเป็นนักมวยปล้ำปล้ำมาตั้งแต่เด็กๆ โดยเขามี สติง, ดิ อัลติเมท วอร์ริเออร์ และชอว์น ไมเคิลส์ เป็นแรงบันดาลใจ[9] เจฟฟ์ได้มีโอกาสขึ้นปล้ำบนสังเวียนครั้งแรกด้วยอายุเพียง 16 ปี เท่านั้น โดยคู่ต่อสู้คนแรกของเขาคือ เดอะ วัน-ทู-ทรี คิด[10] หลังจากนั้นเจฟฟ์ก็มีโอกาสขึ้นปล้ำเป็นบางครั้งบางคราวในช่วง 3-4 ปี จนกระทั่งในปี 1998 เขาก็ได้รับโอกาสปล้ำในแมตช์ใหญ่เป็นครั้งแรก และได้เซ็นสัญญาเป็นนักมวยปล้ำของWWF (WWE ปัจจุบัน) กวาดแชมป์ต่างๆ มามากมาย[11][12][13][14][15] และยังคว้าแชมป์โลกของ WWE ได้ถึง 3 สมัย[7][16][17][18]

เจฟฟ์และแมต ฮาร์ดีได้เป็นคู่แค้นกับทีม MNM จนในดีเซมเบอร์ทูดิสเมมเบอร์ (2006) แมตและเจฟฟ์ได้มาจับคู่แท็กทีมกันอีกครั้งในชื่อทีม The Hardys เอาชนะทีม MNM ได้สำเร็จ ก่อนที่จะเน้นการปล้ำเดี่ยวในอาชีพของพวกเขาอีกครั้ง ในรอยัลรัมเบิล (2008)ได้ปล้ำชิงแชมป์ WWEกับแรนดี ออร์ตัน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้[19] ในโนเวย์เอาท์ (2008)ได้ปล้ำแมตช์อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์เจอกับ ทริปเปิลเอช, คริส เจริโค, ชอว์น ไมเคิลส์, อูมากา และเจบีแอล เพื่อหาผู้ท้าชิงแชมป์ WWE ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 24 แต่สุดท้ายกลายเป็นทริปเปิลเอชที่เป็นฝ่ายชนะ[20] ต่อมาได้เข้าร่วมแมตช์ แชมเปียนชิป สแกมเปิล ในการชิงแชมป์ WWE ในอันฟอร์กิฟเว่น (2008) แต่สุดท้ายเจฟฟ์ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้[21] ต่อมาเจฟฟ์สามารถคว้าแชมป์ WWE มาได้เป็นครั้งแรกจากการชนะเอดจ์และทริปเปิลเอชในอาร์มาเกดดอน (2008)[22][23]

ในรอยัลรัมเบิล (2009)เจฟฟ์ต้องป้องกันแชมป์ WWE กับเอดจ์ แต่วิกกี เกร์เรโร ผู้จัดการทั่วไปของสแมคดาวน์ ออกมาประกาศให้มีการเปลี่ยนแมตช์กระทันหัน เป็นแบบไม่มีกฎกติกา ผลปรากฏว่าถูกแมตพี่ชายเอาเก้าอี้เหล็กตีใส่เจฟฟ์จนเสียแชมป์ให้เอดจ์[24] ในโนเวย์เอาท์ (2009) เจฟฟ์ได้ปล้ำแมตช์อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ชิงแชมป์ WWE เจอกับ ทริปเปิลเอช, ดิอันเดอร์เทเกอร์, วลาดิเมียร์ คอซลอฟ, เอดจ์ และบิ๊กโชว์ แต่สุดท้ายเป็นทริปเปิลเอชที่ชนะ ต่อมาเจฟฟ์ได้กลายมาเป็นศัตรูกับพี่ชายแมตที่ยิงพลุใส่เจฟฟ์ ขับรถชนใส่รถอีกคันหนึ่งของเจฟฟ์ และยังเผาบ้านเจฟฟ์ จนทำให้หมาของเจฟฟ์ตาย ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25ทั้งคู่ได้เจอกันในแมตช์ Extreme Rules หรือแบบไม่มีกฎกติกา ซึ่งแมตเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้[25][26] ในแบคแลช (2009) เจฟฟ์ก็เอาชนะแมตไปได้ในรูปแบบ I Quit Match[27] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2009)เจฟฟ์สามารถคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวทจากเอดจ์ได้ แต่ครองแชมป์ไม่ถึง 5 นาที ซีเอ็ม พังก์ได้ใช้สิทธิ์มันนีอินเดอะแบงก์กระชากเข็มขัดจากเจฟฟ์ไป[28] ในสแมคดาวน์ 28 สิงหาคม 2009 เจฟฟ์ได้แพ้ต่อพังก์ และเจฟฟ์ต้องออกจาก WWE[29][30]

ในอิมแพ็ค! 4 มกราคม 2010 เจฟฟ์ได้กลับมาปล้ำใน TNA[2][31] และต่อมาในBound for Glory (2010) เจฟฟ์สามารถคว้าแชมป์โลก TNAเป็นสมัยแรกจากการเอาชนะมิสเตอร์แอนเดอร์สัน[32] และเคิร์ต แองเกิล ในGenesis (2011) เจฟฟ์ก็เสียแชมป์ให้กับแอนเดอร์สัน[33] ต่อมาในAgainst All Odds (2011) เจฟฟ์สามารถคว้าแชมป์โลก TNA กลับมาจากแอนเดอร์สันได้สำเร็จ[34] แต่ก็ไปเสียแชมป์ให้กับสติงในอิมแพ็ค! 24 กุมภาพันธ์ 2011[35][36][37] เจฟฟ์ได้เอาชนะบูลลี เรย์ทำให้ได้สิทธิ์ชิงแชมป์โลก[38] ในบาวด์ฟอร์กลอรี 2012 เจฟฟ์คว้าแชมป์โลกได้โดยเอาชนะออสติน แอรีส์[39] ในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 เจฟฟ์ได้กลับมาในกิมมิคใหม่ชื่อวิลโลว์[40] ในSacrifice (2014) วิลโลว์ได้จับคู่กับเคิร์ต แองเกิลชนะอีซีทรี และร็อกสตาร์ สปัท[41] ต่อมาในอิมแพ็ค! 8 พฤษภาคม 2014 วิลโลว์ชนะฟาว์ล แม็กนัส หลังจากที่แบรมมาทำร้าย ปี 2016 เจฟฟ์และแมทท์ได้มาในบทบาทใหม่นามทีมโบรกเคนฮาร์ดีส์[42][43][44][45][46][47] ในเดือนกุมภาพันธ์ 2017 เจฟฟ์และแมตได้หมดสัญญากับ TNA และเซ็นสัญญาสั้นๆกับ ROH คว้าแชมป์แท็กทีมได้ร่วมกัน 1สมัย[48]

ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 33 เจฟฟ์และแมตได้กลับมา WWE และคว้าแชมป์รอว์แท็กทีม WWEแบบไต่บันได ก่อนเสียให้ซีซาโรและเชมัส[49] ในเดือนกันยายน 2017 เจฟฟ์ได้รับบาดเจ็บที่ไหล่และต้องพักเป็นเวลาหลายเดือน[50][51] ก่อนจะกลับมาปล้ำในรอว์ 9 เมษายน 2018[52] สัปดาห์ต่อมาเจฟฟ์ได้คว้าแชมป์ยูเอสสมัยแรกจากจินเดอร์ มาฮาลทำให้เจฟฟ์ได้เป็นแชมป์แกรนด์สแลมในรูปแบบยุคใหม่ก่อนเสียให้ชินซูเกะ นากามูระ ในปีต่อมาได้คว้าแชมป์สแมคดาวน์แท็กทีม WWEร่วมกับแมตแต่ครองได้ไม่นานเจฟฟ์ก็ได้รับบาดเจ็บทำให้ทั้งคู่ต้องสละแชมป์[53][54] ในปี 2020 ได้คว้าแชมป์อินเตอร์จากเอเจ สไตส์เป็นสมัยที่5[55][56] ก่อนเสียให้แซมี เซย์นในแบบไต่บันไดที่ Clash of Champions[57] ธันวาคม 2021 เจฟฟ์ได้ออกจาก WWE อีกครั้ง[58][59]

แชมป์และรางวัล

Thumb
Thumb
Thumb
เป็นแชมป์แท็กทีมของ WWE, TNA และ OMEGA ร่วมกับแมต ฮาร์ดี

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.