สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์ พระนามเดิม ทองอิน (28 มีนาคม พ.ศ. 2289 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2349) เป็นกรมพระราชวังบวรสถานพิมุขพระองค์สุดท้าย ดำรงพระยศในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1
สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์ | |||||
---|---|---|---|---|---|
กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข | |||||
ดำรงพระยศ | ประมาณ พ.ศ. 2329 - 20 ธันวาคม พ.ศ. 2349 | ||||
รัชสมัย | พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช | ||||
ก่อนหน้า | เจ้าฟ้าพร พระบัณฑูรน้อย (อาณาจักรอยุธยา) | ||||
ถัดไป | สิ้นสุดตำแหน่ง | ||||
ผู้สำเร็จราชการเมืองนครราชสีมา | |||||
ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2323 – 2325 | |||||
กษัตริย์ | สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี | ||||
ก่อนหน้า | เจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น ณ ราชสีมา) | ||||
ถัดไป | พระยานครราชสีมา (เที่ยง ณ ราชสีมา) | ||||
ประสูติ | 28 มีนาคม พ.ศ. 2289 อาณาจักรอยุธยา ทองอิน | ||||
ทิวงคต | 20 ธันวาคม พ.ศ. 2349 (60 ปี)[1] อาณาจักรรัตนโกสินทร์ | ||||
บรรจุพระอัฐิ | หอพระนาก | ||||
พระชายา | พระชายาทองอยู่ | ||||
หม่อม | หม่อมบุนนาค | ||||
พระราชบุตร | 35 พระองค์ | ||||
| |||||
ราชวงศ์ | จักรี | ||||
พระราชบิดา | พระอินทรรักษา (เสม) | ||||
พระราชมารดา | สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระเทพสุดาวดี | ||||
ศาสนา | เถรวาท |
พระราชประวัติ
กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข มีพระนามเดิมว่าทองอิน เป็นพระโอรสในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระเทพสุดาวดี และพระอินทรรักษา (เสม) ประสูติเมื่อวันจันทร์ ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 5 ตรงกับวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2289[2] มีพระอนุชาและพระขนิษฐา คือ
- สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงธิเบศรบดินทร์
- สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนรินทร์รณเรศ
- สมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้าทองคำ
นอกจากนี้ พระองค์ยังมีพระอนุชาต่างมารดาชื่อ พระองค์เจ้าขุนเณร ผู้เป็นนักรบคู่พระทัยของพระองค์ในการทำศึกตลอดมา พระองค์ผนวช 2 ครั้ง ครั้งแรกในสมัยกรุงศรีอยุธยา และผนวชอีกครั้งเมื่อ พ.ศ. 2335 ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
พระองค์ทรงเริ่มรับราชการในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เป็นที่หลวงฤทธิ์นายเวร จนกระทั่ง พ.ศ. 2323 ได้เลื่อนเป็นพระยาสุริยอภัย ผู้สำเร็จราชการเมืองนครราชสีมา เป็นกำลังสำคัญในการปราบปรามจลาจลในช่วงปลายรัชกาล เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงสถาปนาราชวงศ์จักรีในปี พ.ศ. 2325 โปรดให้สถาปนาพระองค์เป็นสมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ พระราชทานเครื่องสูง 3 ชั้น คันประดับมุก และเรือดั้งแห่คู่ 1 เป็นเครื่องประดับพระเกียรติยศโดยความชอบยิ่งกว่าพระราชภาคิไนยพระองค์อื่น ตั้งวังอยู่ที่สวนลิ้นจี่ ในเมืองเดิมฟากตะวันตกริมคลองบางกอกน้อย[3]
หลังเสร็จสงครามเก้าทัพแล้ว ทรงได้รับเลื่อนขึ้นเป็นกรมพระอนุรักษ์เทเวศร์ ดำรงพระเกียรติยศในที่กรมพระราชวังบวรสถานภิมุข รับพระบัญชาตามแบบกรมพระราชวังหลังแต่ก่อนมา[4]
ทิวงคต
กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข ทรงพระประชวรมาตั้งแต่เดือน 10 และเสด็จทิวงคตเมื่อวันเสาร์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือนอ้าย เวลาบ่าย 4 โมง[5] ตรงกับวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2349 สิริพระชนมายุ 61 พรรษา[2]
ถึงวันเสาร์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 6 ตรงกับวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2350 จึงเชิญพระศพเข้าสู่พระเมรุท้องสนามหลวง มีการมหรสพสมโภช 3 วัน แล้วจึงพระราชทานเพลิงพระศพในวันจันทร์ ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 6 ตรงกับวันที่ 18 พฤษภาคม ในการนี้จักรพรรดิซา ล็อง ได้จัดของเข้ามาสดับปกรณ์ด้วย[6] พระอัฐิของพระองค์ถูกนำไปประดิษฐานที่หอพระนาก วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ส่วนพระสรีรางคารถูกอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ ผ้าทิพย์ฐานพระประธานภายในอุโบสถ วัดบพิตรพิมุขวรวิหาร[7]
พระโอรสและพระธิดา
ธรรมเนียมพระยศของ สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์ | |
---|---|
การทูล | ใต้ฝ่าละอองพระบาท |
การแทนตน | ข้าพระพุทธเจ้า |
การขานรับ | พระพุทธเจ้าข้า/เพคะ |
สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระราชวังบวรสถานพิมุข เษกสมรสกับพระชายาทองอยู่ (อาจเป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ[7]) มีพระโอรสและพระธิดารวม 6 พระองค์ ได้รับการยกฐานันดรศักดิ์เป็นพระองค์เจ้า ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงบัญญัติให้ใช้คำนำหน้าพระนามว่า "พระสัมพันธวงศ์เธอ " คือ
- พระสัมพันธวงศ์เธอ กรมหมื่นนราเทเวศร์ (พ.ศ. 2313 - พ.ศ. 2368) ต้นราชสกุลปาลกะวงศ์
- พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากระจับ (ประสูติ พ.ศ. 2315 - พ.ศ. 2395)
- พระสัมพันธวงศ์เธอ กรมหมื่นนเรศร์โยธี (พ.ศ. 2318 - 1 เมษายน พ.ศ. 2374)
- พระสัมพันธวงศ์เธอ กรมหลวงเสนีบริรักษ์ (พ.ศ. 2320 - 7 มิถุนายน พ.ศ. 2377) ต้นราชสกุลเสนีวงศ์
- พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปฐมวงศ์ (พ.ศ. 2325 - รัชกาลที่ 3) เป็นพระองค์เจ้าพระองค์แรกที่ประสูติหลังการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ จึงได้พระนามว่า พระองค์เจ้าปฐมวงศ์
- พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจงกล (สิ้นพระชนม์ พ.ศ. 2385)
นอกจากนี้ พระองค์ยังมีพระโอรสและพระธิดาที่ประสูติแต่หม่อมห้าม เป็นหม่อมเจ้าชาย 13 พระองค์ หม่อมเจ้าหญิง 16 พระองค์ คือ
- หม่อมเจ้าชายจัน (หม่อมเจ้าจันทร์นุเรศร์) (ประสูติ พ.ศ. 2332)
- หม่อมเจ้าหญิงรัศมี (พ.ศ. 2334 - 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2417)
- หม่อมเจ้าหญิงใหญ่ (พ.ศ. 2341 - 21 สิงหาคม พ.ศ. 2420)
- หม่อมเจ้าหญิงพิกุล (พ.ศ. 2342 - 15 ธันวาคม พ.ศ. 2417)
- หม่อมเจ้าหญิงธิดา
- หม่อมเจ้าหญิงเรไร
- หม่อมเจ้าชายหมี
- หม่อมเจ้าหญิงปิ่น
- หม่อมเจ้าชายสุวรรณ
- หม่อมเจ้าหญิงยี่สุ่น
- หม่อมเจ้าหญิงอำพา
- หม่อมเจ้าหญิงนุช (หม่อมเจ้าวรนุช)
- หม่อมเจ้าชายกำพร้า
- หม่อมเจ้าชายสุดชาติ (หม่อมเจ้าสุด)
- หม่อมเจ้าชายกุหลาบ
- หม่อมเจ้าชายใย
- หม่อมเจ้าชายน้อย (สิ้นชีพิตักษัย พ.ศ. 2434)
- หม่อมเจ้าชายเณร
- หม่อมเจ้าชายละมั่ง
- หม่อมเจ้าหญิงอะงุ่น
- หม่อมเจ้าชายสุทัศน์
- หม่อมเจ้าชายนิล
- หม่อมเจ้าหญิงพลับจีน
- หม่อมเจ้าหญิงป้อม
- หม่อมเจ้าหญิงเล็ก
- หม่อมเจ้าหญิงกลาง
- หม่อมเจ้าหญิงนกเขา
- หม่อมเจ้าหญิงเรศร์
- หม่อมเจ้าชายฟัก
ในบรรดาหม่อมห้ามของพระองค์ ปรากฏนามอยู่ท่านหนึ่งคือ หม่อมบุนนาค[8]
ราชสกุลในกรมพระราชวังบวรสถานพิมุขมี 2 ราชสกุลคือ ปาลกะวงศ์ และ เสนีวงศ์ หม่อมเจ้าพระองค์อื่นที่มิใช่สายพระสัมพันธวงศ์เธอ กรมหลวงเสนีบริรักษ์ จะใช้ราชสกุลปาลกะวงศ์[9]
ในวัฒนธรรมสมัยนิยม
มีนักแสดงผู้รับบท สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์ ได้แก่
- เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ จากละครเรื่อง สงครามเก้าทัพ (2531)
พงศาวลี
พงศาวลีของสมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand in your browser!
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.