Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ภาษาคีร์กีซ (คีร์กีซ: Кыргыз тили, อักษรโรมัน: Kyrgyz tili, แม่แบบ:IPA-ky) เป็นภาษากลุ่มเตอร์กิกในสาขาเคียปชักที่มีผู้พูดในเอเชียกลาง ภาษานี้เป็นภาษาทางการของประเทศคีร์กีซสถานและเป็นภาษาชนกลุ่มน้อยในKizilsu Kyrgyz Autonomous Prefecture ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ประเทศจีน และGorno-Badakhshan Autonomous Province ในประเทศทาจิกิสถาน โดยมีระดับความเข้าใจร่วมกันระหว่างภาษาคีร์กีซ คาซัค และอัลไตสูงมาก นอกจากนี้ ภาษาคีร์กีซยังมีผู้พูดโดยผู้มีเชื้อชาติคีร์กีซหลายที่ทั่วอดีตสหภาพโซเวียต, อัฟกานิสถาน, ตุรกี, ปากีสถานตอนเหนือ และรัสเซีย
ภาษาคีร์กีซ | |
---|---|
Кыргыз тили, قیرغیزچا | |
ออกเสียง | แม่แบบ:IPA-ky |
ประเทศที่มีการพูด | คีร์กีซสถาน, อัฟกานิสถาน, ทาจิกิสถาน, ปากีสถาน, เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ (จีน) |
ชาติพันธุ์ | ชาวคีร์กีซ |
จำนวนผู้พูด | 4.5 ล้านคน (2009 census)[1] |
ตระกูลภาษา | เตอร์กิก
|
ระบบการเขียน | อักษรคีร์กีซ (อักษรซีริลลิก, อักษรเปอร์เซีย-อาหรับ, อักษรเบรลล์คีร์กีซ) |
สถานภาพทางการ | |
ภาษาทางการ | คีร์กีซสถาน Kizilsu Kyrgyz Autonomous Prefecture (จีน) องค์กร:
|
รหัสภาษา | |
ISO 639-1 | ky |
ISO 639-2 | kir |
ISO 639-3 | kir |
Linguasphere | 44-AAB-cd |
เดิมทีภาษาคีร์กีซเคยเขียนด้วยอักษรรูนเตอร์กิก[2] แล้วเปลี่ยนไปเป็นอักษรเปอร์เซีย-อาหรับ (จนถึง ค.ศ. 1928 ในสหภาพโซเวียต ยังคงใช้งานในประเทศจีน) ในช่วง ค.ศ. 1928 ถึง 1940 จึงเริ่มมีการใช้อักษรละติน จากนั้น เจ้าหน้าที่โซเวียตได้เปลี่ยนอักษรละตินไปเป็นอักษรซีริลลิกใน ค.ศ. 1940 หลังจากคีร์กีซสถานได้รับเอกราชหลังโซเวียตล่มสลายใน ค.ศ. 1991 แผนการนำอักษรละตินมาใช้กลายเป็นที่นิยม แม้จะยังไม่ได้ดำเนินการตามแผน แต่ก็ยังคงมีการอภิปรายเป็นครั้งคราว[3]
กลุ่มชนกลุ่มแรกที่รู้จักกันในชื่อชาวคีร์กิซได้มีการกล่าวถึงในยุคกลางตอนต้นของเอกสารจีนในฐานะเพื่อนบ้านทางเหนือ และบางครั้งเป็นกลุ่มจักรวรรดิเติร์กในทุ่งหญ้าสเตปที่อยู่ในมองโกเลีย ชาวคีร์กิซเกี่ยวข้องกับเส้นทางการค้านานาชาติในชื่อเส้นทางสายไหม ในยุคจักรวรรดิ์อุยกูร์เมื่อราว 297 ปีก่อนพุทธศักราช ชนกลุ่มนี้พูดภาษากลุ่มเตอร์กิกที่แตกต่างจากภาษาเตอร์กิกโบราณไปเล็กน้อย และเขียนด้วยอักษรรูนแบบเดียวกัน หลังจากมีชัยชนะเหนืออุยกูร์ ชาวคีร์กีซไม่ได้ครอบครองทุ่งหญ้าสเตปในมองโกเลีย และประวัติศาสตร์ของพวกเขาในช่วงนี้เป็นที่รู้จักน้อยมาก แต่เชื่อว่าพวกเขาคงอาศัยในบริเวณไม่ไกลจากบริเวณที่อยู่ในปัจจุบันนี้
บรรพบุรุษของชาวเติร์กทุกวันนี้ อาจจะเป็นเผ่าซาโมเยคใต้หรือเผ่าเยนิเซยันที่เข้ามาติดต่อกับวัฒนธรรมเติร์ก หลังจากมีชัยชนะเหนืออุยกูร์และตั้งหลักแหล่งในบริเวณออร์คอน ซึ่งเป็นบริเวณที่พบหลักฐานภาษาเตอร์กิกที่เก่าที่สุดในพุทธศตวรรษที่ 14 เอกสารของชาวจีนและมุสลิมในพุทธศตวรรษที่ 12 - 17 อธิบายว่าชาวคีร์กิซว่าเป็นพวกผมแดง ตาสีเขียว
ลูกหลานของชาวคีร์กิซที่สืบเชื้อสายมาจากชาวไซบีเรียได้รับการยืนยันจากข้อมูลทางพันธุกรรม[4] 63% ของชายชาวคีร์กิซในปัจจุบันมี DNA บนโครโมโซม Y Ria1 ซึ่งพบในชาวทาจิก 64% ชาวยูเครน 54% ชาวโปแลนด์ 56% และชาวไอซ์แลนด์ 29%
ถ้าชาวคีร์กิซสืบเชื้อสายมาจากเผ่าซาโมเยคในไซบีเรีย ชาวคีร์กิซจะต้องเคยพูดภาษาในตระกูลภาษายูราลิกมาก่อนที่จะเข้าสู่บริเวณออร์คอน ถ้าเป็นลูกหลานของเผ่าเยนิเซยัน พวกเขาจะเป็นลูกหลานของกลุ่มชนชื่อเดียวกันที่เริ่มเข้าสู่ดินแดนที่เป็นประเทศคีร์กีซสถานในปัจจุบันจากบริเวณแม่น้ำเยนิเซยในไซบีเรียตอนกลางเมื่อพุทธศตวรรษที่ 15 อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีที่มาจากเผ่าเยนิเซยันมีข้อโต้แย้งมาก เพราะความใกล้เคียงทางวัฒนธรรมและภาษาของชาวคีร์กิซและชาวคาซัค คำอธิบายในยุคแรกๆ เกี่ยวกับชาวคีร์กิซในเอกสารจีน กล่าวว่าพวกเขามีผมสีแดงและตาสีเขียวซึ่งเป็นลักษณะของกลุ่มชาวคอเคซอยด์ ที่พูดภาษาในตระกูลภาษาอินโด-ยุโรเปียนในยุคนั้น ซึ่งปัจจุบันยังพบอยู่ในยูเรเชียตอนกลาง ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่มีหลักฐานที่เชื่อมต่อภาษาคีร์กิซเข้ากับตระกูลภาษายูราลิกหรือเยนิเซยัน จึงไม่แน่นอนว่าชาวคีร์กิซในปัจจุบันเป็นลูกหลานของชาวคีร์กิซในยุคกลางหรือไม่
ในยุคที่ถูกปกครองโดยตุรกี (พ.ศ. 2419 - 2460) คาซัคและคีร์กิซถูกเรียกรวมกันว่าคีร์กิซ และส่วนที่เป็นคีร์กิซสถานในปัจจุบันเรียกว่าคีร์กิซดำ แม้ว่าภาษาคีร์กิซจะมีที่มาจากสาขาเดียวกับภาษาอัลไตและภาษาอื่นๆที่ใช้พูดทางตะวันออกเฉียงเหนือของคีร์กิซสถาน แต่ภาษาคีร์กิซในปัจจุบันมีความใกล้เคียงกับภาษาคาซัคและบางครั้งจัดอยู่ในภาษากลุ่มโนกายของภาษากลุ่มเคียปชักซึ่งเป็นกลุ่มย่อยของภาษากลุ่มเตอร์กิก ถ้าตัดอิทธิพลจากภาษาคาซัคออกไปแล้ว ภาษาคีร์กิซยังคงมีความคล้ายคลึงกับภาษาอัลไตอยู่ ภาษาคีร์กิซสมัยใหม่ไม่มีระบบการเขียนที่เป็นมาตรฐานจนกระทั่ง พ.ศ. 2466 จึงมีการเขียนที่ปรับปรุงมาจากอักษรอาหรับ จากนั้นเปลี่ยนเป็นอักษรละตินที่พัฒนาโดยคาซืม ตืย์นืย์สตานอฟ และเปลี่ยนเป็นอักษรอาหรับใน พ.ศ. 2483 ในทันทีที่ได้รับเอกราช มีการอภิปรายเกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวอักษรแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป
ความแตกต่างอย่างหนึ่งระหว่างคีร์กิซสถานกับคาซัคสถาน คือชาวคีร์กิซนิยมใช้ภาษาของตนมากกว่า และอยู่กันเป็นกลุ่มก้อนชัดเจนกว่า หลังได้รับเอกราชจากโซเวียต รัฐลาลของอะกาเยฟเสนอให้ใช้ภาษาคีร์กิซเป็นภาษาราชการและบังคับให้ชาวยุโรปหันมาใช้ภาษาคีร์กิซ ซึ่งชาวยุโรปที่ส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซียต่อต้านนโยบายนี้มาก ใน พ.ศ. 2535 มีการออกกฎหมายบังคับให้ธุรกิจทุกอย่างต้องใช้ภาษาคีร์กิซเท่านั้นภายใน พ.ศ. 2540 แต่ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2549 รัฐสภาของคีร์กิซสถานยอมให้ใช้ภาษารัสเซียเป็นภาษาราชการคู่กับภาษาคีร์กิซอีกภาษา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้รับแรงกดดันจากรัสเซียด้วย
หน้า | หลัง | |||
---|---|---|---|---|
ไม่ห่อ | ห่อ | ไม่ห่อ | ห่อ | |
ปิด | i | y | ɯ | u |
กลาง | e | ø | o | |
เปิด | (a) | ɑ |
/a/ ปรากฏเฉพาะคำยืมจากภาษาเปอร์เซียหรือเมื่อมีคำที่ตามหลังด้วยสระหน้า (การกลืนเสียงย้อนกลับ) เช่น /ajdøʃ/ 'ลาดเอียง' แทน */ɑjdøʃ/[6] หมายเหตุ: ในสำเนียงส่วนใหญ่ สถานะสระจาก /ɑ/ ยังคงเป็นที่สงสัย[7]
ภาษาคีร์กีซในประเทศคีร์กีซสถานใช้อักษรซีริลลิก ซึ่งใช้อักษรรัสเซียแล้วเพิ่มอักษร ң, ө และ ү ในขณะที่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของประเทศจีน ยังคงใช้อักษรอาหรับ
ซีริลลิก | เปอร์เซีย-อาหรับ | ละติน | สัทอักษรสากล | ไทย |
Бардык адамдар өз беделинде жана укуктарында эркин жана тең укуктуу болуп жаралат. Алардын аң-сезими менен абийири бар жана бири-бирине бир туугандык мамиле кылууга тийиш. | باردیق ادامدار ۅز بهدهاینده جانا وُقوُقتاریندا هرکین جانا تهڭ ۇقۇقتۇۇ بولۇپ جارالات. الاردین اڭ-سهزیمی مهنهن ابئییری بار جانا بئرى-بئرینه بئر توُوُعاندیق مامئلە قیلوُوُغا تئییش. | Bardıq adamdar öz bedelinde jana uquqtarında erkin jana teŋ uquqtuu bolup jaralat. Alardın aŋ-sezimi menen abiyiri bar jana biri-birine bir tuuğandıq mamile qıluuğa tiyiş. | bɑrdɯq ɑdɑmdɑr øz bedelinde d͡ʒɑnɑ uquqtɑrɯndɑ erkin d͡ʒɑnɑ teŋ uquqtuː boɫup d͡ʒɑrɑɫɑt ‖ ɑɫɑrdɯn ɑɴsezimi menen ɑbijiri bɑr d͡ʒɑnɑ biribirine bir tuːʁɑndɯq mɑmile qɯɫuːʁɑ tijiʃ | มนุษย์ทั้งปวงเกิดมามีอิสระและเสมอภาคกันในศักดิ์ศรี และสิทธิ ต่างในตนมีเหตุผลและมโนธรรม และควรปฏิบัติต่อกันด้วยจิตวิญญาณแห่งภราดรภาพ |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.