Loading AI tools
ชายแดนระหว่างประเทศ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ชายแดนไทย–กัมพูชา เป็นพรมแดนระหว่างประเทศ ซึ่งมีทั้งทั้งบนบก เริ่มต้นจากสามเหลี่ยมมรกตผ่านสันปันน้ำของเทือกเขาพนมดงรัก ร่องน้ำลึกต่าง ๆ[1] เทือกเขาบรรทัด และบรรจบทางน้ำบริเวณอ่าวไทย ต่อเนื่องไปจนถึงบนผืนน้ำ มีความยาวประมาณ 798[lower-alpha 1] - 817[lower-alpha 2] กิโลเมตร[2][3] โดยประเทศไทยอยู่บริเวณทิศตะวันตกและทิศเหนือของเส้นเขตแดน ส่วนประเทศกัมพูชาอยู่บริเวณทิศตะวันออกและทิศใต้ของเส้นเขตแดน จังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อกับพรมแดนกัมพูชาประกอบไปด้วย จังหวัดตราด จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี[1]
ชายแดนไทย–กัมพูชา | |
---|---|
พรมแดนตามธรรมชาติระหว่างกัมพูชา (ซ้าย) และไทย (ขวา) ในอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร | |
ข้อมูลจำเพาะ | |
พรมแดนระหว่าง | ไทย กัมพูชา |
ความยาว | 798 - 817 กิโลเมตร |
ประวัติ | |
มีผลตั้งแต่ | 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2477 การเข้าปกครองกัมพูชาของฝรั่งเศส |
พรมแดนปัจจุบัน | พ.ศ. 2450 |
สนธิสัญญา | • อนุสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส พ.ศ. 2447 • สนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส พ.ศ. 2450 • อนุสัญญาโตเกียว พ.ศ. 2484 • ความตกลงระงับกรณีระหว่างไทยกับฝรั่งเศส พ.ศ. 2489 มีผลยกเลิกอนุสัญญาโตเกียว |
ในยุคก่อนหน้าที่รัฐชาติจะใช้เส้นเขตแดนเป็นการกำหนดเขตแดน ประเทศไทยและประเทศกัมพูชาไม่ได้มีอาณาเขตระหว่างกันที่ชัดเจนมากนัก ซึ่งแนวคิดของเส้นเขตแดนได้เข้ามาพร้อมกับประเทศอาณานิคมจากตะวันตก[4] โดยมีการเสียดินแดนเขมรส่วนนอกซึ่งขณะนั้นเป็นประเทศราชของไทยในปี พ.ศ. 2410 ให้ขึ้นเป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศส ต่อมาในปี พ.ศ. 2449 ได้ทำสัญญายกพื้นที่มณฑลบูรพา ประกอบด้วยเมืองพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณให้กับฝรั่งเศส เพื่อแลกกับจังหวัดตราด และพื้นที่ทางทะเลที่อยู่ใต้แหลมสิงห์ไปจนถึงเกาะกูดที่ฝรั่งเศสได้เข้ามายึดครอง[5][4]
สำหรับพรมแดนไทย–กัมพูชานั้น เป็นผลมาจากการปักปันเขตแดนร่วมกันระหว่างประเทศสยาม (ประเทศไทยในขณะนั้น) และประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคมของกัมพูชาในขณะนั้น ออกมาเป็นอนุสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ฉบับลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2447 สนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ฉบับลงวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2450 และพิธีสารแนบท้าย โดยได้จัดทำแผนที่เพื่อแสดงเส้นเขตแดนไว้จำนวน 2 ชุด[1] ประกอบไปด้วย
นอกจากนี้ได้มีการดำเนินการปักหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาไว้จำนวน 73 หลัก ระหว่างปี พ.ศ. 2452 - 2453 และปี พ.ศ. 2462 - 2463 ในแต่ละหลักมีการบันทึกวาจาปักหลักหมายเขตประกอบ (Procès-verbal d'abornement)[1]
ต่อมาในปี พ.ศ. 2483 ประเทศไทยในการนำของจอมพล ป. พิบูลสงคราม[4] ที่ดำเนินนโยบายชาตินิยมเป็นหลักซึ่งขณะนั้นประเทศฝรั่งเศสที่เป็นเจ้าอาณานิคมขณะนั้นเริ่มอ่อนแอลง จึงได้ขอปรับปรุงเขตแดนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในอดีต หลังจากลงสัตยาบันในสนธิสัญญาไม่รุกรานกันและกันเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2482 ที่ทำร่วมกันกับฝรั่งเศสและญี่ปุ่น ทำให้เกิดกรณีพิพาทอินโดจีนที่มีการรบกันระหว่างประเทศไทยและประเทศฝรั่งเศส กระทั่งปลายปี พ.ศ. 2483 ญี่ปุ่นได้เข้ามาไกล่เกลี่ยและทำอนุสัญญากรุงโตเกียว พ.ศ. 2484 ทำให้ประเทศไทยได้ดินแดน ไชยบุรี จำปาศักดิ์ เสียมราฐ และพระตะบอง กลับมาในการดูแล[4] กระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ไทยต้องมอบดินแดนดังกล่าวให้กับฝรั่งเศสอีกครั้ง ตามความตกลงระงับกรณีระหว่างไทยกับฝรั่งเศส (Accord de rėglement Franco-Siamois) พ.ศ. 2489[6] หรือรู้จักในชื่ออนุสัญญากรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เนื่องจาประเทศญี่ปุ่นตกเป็นผู้แพ้สงคราม และไทยที่มีสถานะเป็นกลางจากการปฏิบัติงานของเสรีไทย หากจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติจะต้องทำตามข้อตกลงดังกล่าว[7] ทำให้พรมแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชากลับสู่สภาพเดิมตามที่เคยทำอนุสัญญาไว้กับประเทศฝรั่งเศสอีกครั้ง[4]
จากสนธิสัญญาดังกล่าว ปัจจุบันรัฐบาลไทยและกัมพูชาได้มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย - กัมพูชา (Joint Boundary Commission) เพื่อเป็นกลไกในการหารือการปักปันเขตแดนซึ่งขณะนี้ยังคงดำเนินการอยู่เนื่องจากแนวเขตแดนยังไม่ได้รับการปักปันอย่างชัดเจนในหลายพื้นที่[8]
หลังจากกัมพูชาได้รับเอกราชในปี พ.ศ. 2496 ได้มีปัญหาระหว่างพรมแดนไทยกับกัมพูชาหลายครั้ง อาทิ
คดีปราสาทพระวิหาร ที่กัมพูชากล่าวหาว่าประเทศไทยครอบครองสิทธิเหนือบริเวณปราสาทพระวิหารโดยมิชอบ จึงได้ยื่นฟ้องต่อศาลโลก และมีผลการตัดสินในปี พ.ศ. 2505 ว่า
"...ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ในอาณาเขตกัมพูชา ไทยมีพันธกรณีต้องถอนทหารหรือตำรวจที่ประจำอยู่ที่นั่น และให้คืนวัตถุที่นำออกจากปราสาทตั้งแต่ปี 2497 แก่กัมพูชา..."
โดยฝ่ายไทยได้ประท้วงและสงวนสิทธิที่จะเรียกร้องปราสาทพระวิหารกลับคืนในอนาคต ทำให้เกิดการประทะกันตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ด้วยกำลังทหารในช่วงปี พ.ศ. 2551 ส่งผลมาถึงการตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารอีกครั้งในปี พ.ศ. 2554 โดยศาลโลกได้ตัดสินยืนตามคำสั่งเดิมเฉพาะตัวปราสาท ไม่รับการตีความพื้นที่พรมแดนโดยรอบปราสาท รวมถึงได้สั่งให้ถอนทหารออกจากเขตปลอดทหารชั่วคราวโดยรอบปราสาท
พื้นที่เกาะกูด เป็นพื้นที่ที่ถูกกล่าวอ้างถึงการทับซ้อนระหว่างพรมแดนทางทะเลระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา ซึ่งมีพื้นที่ทับซ้อนกันทางทะเลมากกว่า 2.6 หมื่นตารางกิโลเมตร[9] โดยส่งผลถึงการจัดการสัมปทานแหล่งพลังงานในพื้นที่ทางทะเลดังกล่าว
ฝั่งไทยยืนยันว่าเกาะกูดไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ทับซ้อน แต่เป็นพื้นที่ของประเทศไทย ตามสนธิสัญญาในปี พ.ศ. 2450[10] ในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ประเทศฝรั่งเศส เจ้าอาณานิคมที่ปกครองประเทศกัมพูชาในขณะนั้นมีการระบุถึงการยกเกาะกูดให้กับประเทศไทย เพื่อป้องกันปัญหาการอ้างสิทธิในอนาคต[9] มีข้อความว่า
"...รัฐบาลฝรั่งเศสยอมยกดินแดนเมืองด่านซ้ายแลเมืองตราดกับเกาะทั้งหลายซึ่ง อยู่ภายใต้แหลมสิงห์ลงไปจนถึงเกาะกูดนั้นให้แก่กรุงสยาม..."[10]
แนวพรมแดนไทย–กัมพูชาตามที่ได้มีการทำอนุสัญญากับฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ. 2447 และปี 2450[1] ประกอบไปด้วย
ปัจจุบันแนวพรมแดนไทย–กัมพูชายังคงอยู่ในระหว่างกระบวนการปักปันเขตแดนในหลายพื้นที่ ผ่านคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย - กัมพูชา (Joint Boundary Commission)[12]
ประเทศไทยและประเทศกัมพูชามีจุดผ่านแดนถาวรจำนวน 7 แห่ง[13] ในพื้นที่ 5 จังหวัด ประกอบไปด้วย
ลำดับ | ประเทศไทย | ประเทศกัมพูชา | หมายเหตุ | |||
---|---|---|---|---|---|---|
ถนน | จุดผ่านแดน | ถนน | จุดผ่านแดน | เวลาทำการ[13] | ||
1 | ทล.2201 | จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ, จังหวัดศรีสะเกษ | 66 | ช่องจวม อำเภออัลลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย | 07.00 - 20.00 | |
2 | ทล.214 | จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม, จังหวัดสุรินทร์ | 68 | บ้านโอร์เสม็ด อำเภอสำโรง จังหวัดอุดรมีชัย | 06.00 - 22.00 | |
3 | ถนนสุวรรณศร | จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จังหวัดสระแก้ว | 5 | เมืองปอยเปต อำเภอโอโจรว จังหวัดบันทายมีชัย | 06.00 - 22.00 | |
4 | ทางหลวงชนบท สก.4058 | จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จังหวัดสระแก้ว | 57B | บ้านพนมได อำเภอสำเภาลูน จังหวัดพระตะบอง | 06.00 - 22.00 | |
5 | ทางหลวงชนบท จบ.4033 | จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม, จังหวัดจันทบุรี | 4033 | บ้านตวง อำเภอกร็อมเรียง จังหวัดพระตะบอง | 06.00 - 22.00 | |
6 | จบ. ถนนคลองใหญ่ - เมืองปรม | จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด, จังหวัดจันทบุรี | 57 | บ้านปรม อำเภอศารากราว จังหวัดไพลิน | 06.00 - 22.00 | |
7 | ถนนสุขุมวิท (ทล.3) | จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก, จังหวัดตราด | 48 | บ้านจามเยี่ยม อำเภอมณฑลสีมา จังหวัดเกาะกง | 06.00 - 22.00 |
ประเทศไทยและประเทศกัมพูชามีจุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะทางต่าง ๆ อาทิ การนำเข้าและส่งออกสัมปทานไม้ในอดีต[14] โดยปัจจุบันมีไว้สำหรับการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างที่จะใช้เป็นจุดผ่านแดนถาวรในอนาคต[13]
จุดผ่านแดนชั่วคราวล่าสุดที่เปิดทำการคือ จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการก่อสร้างสะพานหนองเอี่ยน - สตึงบท[15]
จุดผ่อนปรนการค้า เป็นจุดผ่อนปรนที่ได้มีการประกาศโดยกระทรวงมหาดไทยเพื่ออนุญาตให้ทำการค้าขายระหว่างประเทศได้ ปัจจุบันมีอยู่ 9 แห่ง[13] ในพื้นที่ 5 จังหวัด ประกอบไปด้วย
ลำดับ | ประเทศไทย | ประเทศกัมพูชา | หมายเหตุ | |||
---|---|---|---|---|---|---|
จังหวัด | จุดผ่านแดน | จังหวัด | จุดผ่านแดน | เวลาทำการ[13] | ||
1 | อุบลราชธานี | จุดผ่อนปรนช่องอานม้า | พระวิหาร | บ้านสะเตียลกวาง อำเภอจอมกระสาน | 09.00 - 15.00 | |
2 | บุรีรัมย์ | จุดผ่อนปรนช่องสายตะกู | อุดรมีชัย | บ้านจุ๊บโกกี, อำเภอบันเตียอำปึล | 08.00 - 15.00 | |
3 | สระแก้ว | จุดผ่อนปรนบ้านตาพระยา | บันเตียเมียนเจย | บ้านบึงตะกวน | 09.00 - 17.00 | |
4 | จุดผ่อนปรนบ้านหนองปรือ | มาลัย | ||||
5 | จันทบุรี | จุดผ่อนปรนบ้านซับตารี | พระตะบอง | บ้านโอลำดวน อำเภอพนมปรึก | 06.00 - 18.00 | |
6 | จุดผ่อนปรนบ้านสวนสม | บ้านโอลั๊วะ อำเภอพนมปรึก | ||||
7 | จุดผ่อนปรนบ้านบึงชนังล่าง | บ้านสวายเลง อำเภอกร็อมเรียง | ||||
8 | ตราด | จุดผ่อนปรนบ้านหมื่นด่าน | บ้านศาลเจ้า อำเภอสัมลูด | 08.30 - 17.00 | ||
9 | จุดผ่อนปรนบ้านมะม่วง | บ้านฉอระกา, อำเภอสำรูด | 06.00 - 18.00 |
จุดผ่อนปรนพิเศษเพื่อการท่องเที่ยว มีอยู่เพียงแห่งเดียวสำหรับพรมแดนระหว่างไทยและกัมพูชา[13]
ลำดับ | ประเทศไทย | ประเทศกัมพูชา | หมายเหตุ | |
---|---|---|---|---|
พื้นที่จุดผ่านแดน | พื้นที่จุดผ่านแดน | เวลาทำการ | ||
1 | ช่องทางขึ้นเขาพระวิหาร, อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ | ปราสาทเขาพระวิหาร, อำเภอจอมกระสาน จังหวัดพระวิหาร | - | ปิดตั้งแต่ มิ.ย. 2551 จากความไม่สงบของเขตแดน กำลังดำเนินการขอเปิดทำการอีกครั้ง[13] |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.