การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 30 ประจำปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) (อังกฤษ: 2012 Summer Olympics) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 30 (อังกฤษ: Games of the XXX Olympiad) จัดขึ้นที่กรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม ถึง 12 สิงหาคม การแข่งขันฟุตบอลหญิงรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งเป็นรายการแรก เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม สองวันก่อนพิธีเปิด[3][4] จะมีนักกีฬากว่า 10,000 คน จาก 204 คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติ เข้าร่วม[5]
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
เมืองเจ้าภาพ | ลอนดอน สหราชอาณาจักร |
---|---|
คำขวัญ | แรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ (อังกฤษ: Inspire a Generation) |
ประเทศเข้าร่วม | 204 (including IOA team) |
นักกีฬาเข้าร่วม | 10,768 (ชาย 5,992, หญิง 4,776) |
ชนิด | 302 รายการใน 26 ชนิดกีฬา |
พิธีเปิด | 27 กรกฎาคม 2012 |
พิธีปิด | 12 สิงหาคม 2012 |
ประธานพิธีเปิด | |
ผู้จุดคบเพลิง |
|
สนามกีฬา | สนามกีฬาโอลิมปิก (ลอนดอน) |
ฤดูร้อน ฤดูหนาว
พาราลิมปิกฤดูร้อน 2012 |
หลังการประมูลเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ ซึ่งนำโดย ลอร์ด เซบาสเตียน โคอ์ (Lord Sebastian Coe) และเคนเนธ ลิฟวิงสโตน (Kenneth Livingstone) นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนในขณะนั้น[6] ลอนดอนได้รับเลือกเป็นเมืองเจ้าภาพจัดการแข่งขันเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ระหว่างสมัยประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกสากลที่ 117 ในสิงคโปร์ เอาชนะคู่แข่งจากกรุงมอสโก นครนิวยอร์ก มาดริด และกรุงปารีส[6] กรุงลอนดอนกลายเป็นนครแรกของโลก ที่เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันโอลิมปิกสมัยใหม่ถึงสามครั้ง[7][8] ครั้งที่ผ่านมา ได้แก่ ครั้งที่ 4 (พ.ศ. 2451) และครั้งที่ 14 (พ.ศ. 2491)[9][10]
มีการพัฒนาหลายพื้นที่ของกรุงลอนดอน เพื่อรองรับกิจกรรมที่จะจัดขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน[11] จุดสนใจหลักอยู่ที่อุทยานโอลิมปิกแห่งใหม่ ขนาด 200 เฮกตาร์ ซึ่งสร้างขึ้นภายในนิคมอุตสาหกรรมเก่า ของสแตรตเฟิร์ด (Stratford) ลอนดอนตะวันออก[12] การแข่งขันคราวนี้ยังช่วยส่งเสริมให้มีการใช้สนามแข่งขันที่มีอยู่แล้วจำนวนมากก่อนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพด้วย[13]
โอลิมปิกครั้งนี้ได้รับการชมเชยอย่างกว้างขวางในด้านการจัดการแข่งขัน โดยอาสาสมัคร กองทัพอังกฤษและความสนใจของสาธารณะได้รับการยกย่องเป็นพิเศษ[14][15][16] พิธีเปิด ซึ่งกำกับโดย แดนนี บอยล์ ได้รับความชื่นชมทั่วไป[17][18] ระหว่างการแข่งขัน ไมเคิล เฟลส์กลายเป็นนักกีฬาโอลิมปิกที่ได้รับเหรียญรางวัลมากที่สุดตลอดกาล โดยได้เหรียญที่ 22 ในการแข่งขันครั้งนี้[19] สหราชอาณาจักรได้รับเหรียญทองมากที่สุดนับแต่ พ.ศ. 2451 โดยอยู่ในอันดับที่สามของตารางสรุปเหรียญ และยูเซน โบลต์เป็นนักวิ่งระยะสั้นคนแรกที่ได้เหรียญทองการวิ่งระยะสั้นในโอลิมปิกสามครั้งติดต่อกัน ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์และบรูไนส่งนักกีฬาหญิงเข้าแข่งขันเป็นครั้งแรก และมีการจัดการแข่งขันมวยหญิงในโอลิมปิกครั้งนี้ด้วย ทำให้โอลิมปิกครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทุกประเทศและทุกชนิดกีฬามีนักกีฬาหญิงเข้าแข่งขัน[20]
การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ
เมืองที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพ
ท้ายชื่อของแต่ละเมือง กำกับด้วยคะแนนซึ่งได้รับจากการคัดเลือกเป็น 5 เมืองสุดท้าย ซึ่งแสดงด้วยตัวหนา
- ปารีส, ฝรั่งเศส - 8.5 คะแนน
- มาดริด, สเปน - 8.3 คะแนน
- ลอนดอน, สหราชอาณาจักร - 7.6 คะแนน
- นครนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา - 7.5 คะแนน
- มอสโก, รัสเซีย - 6.5 คะแนน
- ไลพ์ซิจ, เยอรมนี - 6.0 คะแนน
- รีโอเดจาเนโร, บราซิล - 5.1 คะแนน
- อิสตันบูล, ตุรกี - 4.8 คะแนน
- อาบานา, คิวบา - 3.7 คะแนน
ผลการลงคะแนนรอบสุดท้าย
การตัดสินลงคะแนนในรอบสุดท้าย มีขึ้นระหว่างการประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ครั้งที่ 117 ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ปรากฏผลตามตารางต่อไปนี้
ผลการตัดสินประเทศเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 | |||||
---|---|---|---|---|---|
เมือง | ชื่อคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติ | รอบที่ 1 | รอบที่ 2 | รอบที่ 3 | รอบที่ 4 |
ลอนดอน | สหราชอาณาจักร | 22 | 27 | 39 | 54 |
ปารีส | ฝรั่งเศส | 21 | 25 | 33 | 50 |
มาดริด | สเปน | 20 | 32 | 31 | - |
นครนิวยอร์ก | สหรัฐ | 19 | 16 | - | - |
มอสโก | รัสเซีย | 15 | - | - | - |
การเตรียมความพร้อมและพัฒนาการ
สถานที่และโครงสร้างพื้นฐาน
กีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกในครั้งนี้ จะผสมผสานกันระหว่าง สถานที่จัดงานซึ่งสร้างขึ้นใหม่ โบราณสถานที่มีอยู่แล้ว และสถานที่ชั่วคราว สำหรับบางส่วนของสถานที่เหล่านี้ ที่รู้จักโดยทั่วไปได้แก่ สวนสาธารณะไฮด์ปาร์ก และการสวนสนามของทหารม้ารักษาพระองค์ สถานที่บางส่วนจะมีการนำกลับมาใช้ใหม่ ขณะที่อย่างอื่นจะปรับขนาดหรือโยกย้าย[21]
สถานที่จัดงานส่วนมาก แบ่งออกเป็นสามเขต ภายในเกรเทอร์ลอนดอน ประกอบด้วย เขตโอลิมปิก เขตแม่น้ำ และเขตกลาง นอกจากนั้นยังมีสถานที่จัดแข่งขัน ที่จำเป็นต้องอยู่รอบนอกเขตเกรเทอร์ลอนดอน อาทิสถาบันเรือใบแห่งชาติเวย์มัธและพอร์ตแลนด์ (Weymouth and Portland National Sailing Academy) บนเกาะแห่งพอร์ตแลนด์ (Isle of Portland) ในเมืองดอร์เซต (Dorset) ซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขันเรือใบ อยู่ห่างจากลอนดอนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 125 ไมล์ (200 กิโลเมตร) สำหรับการแข่งขันฟุตบอลจะใช้สนามหลายแห่งทั่วสหราชอาณาจักร[22]
โครงการอุทยานโอลิมปิกลอนดอน (London Olympic Park) ขนาด 500 เอเคอร์ เปิดเผยขึ้นในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004)[23] มีการอนุมัติให้ออกแบบทำเล เมื่อเดือนกันยายนปีเดียวกัน โดย ทาวเวอร์ ฮัมเล็ทส์, นิวแฮม แฮ็กนีย์ และ วอล์ทแฮม ฟอเรสท์[24] และการก่อสร้างเริ่มขึ้น ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2549 (ค.ศ. 2006)[25] สำหรับหมู่บ้านนักกีฬาในนครพอร์ตแลนด์ เสร็จสมบูรณ์ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2554 (ค.ศ. 2011)[26]
โดยการพัฒนาของอุทยานโอลิมปิกนั้นอาจจะต้องใช้การเวนคืนพื้นที่ด้วย โดยสำนักงานการพัฒนาแห่งกรุงลอนดอนและการรถไฟลอนดอน มีข้อพิพาทกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ใน เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2005 ซึ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งที่มีถึง 180 เอเคอร์ เป็นที่ดินของการทางรถไฟสแตรทฟอร์ด รวมไปถึงการสร้างบ้านใหม่ถึง 4,500 หลัง, สำนักงาน, โรงแรม และ ร้านค้า[27] โดยล่าสุดในปีค.ศ. 2011 ศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ได้ถูกสร้างเสร็จโดย เวสต์ฟิลด์[28] โดยที่ดิน 86% มาจากการเวนคืนพื้นที่ โดยการกระทำนี้นำไปสู่การคำถามต่างๆนานา และในครั้งนั้น มี 206 บริษัทที่ต้องย้ายออกไปใน เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2007[29] นอกจากนี้ผู้ที่อาศัยอยู่ในฝ่ายต่อต้านการเวนคืนที่ดินกับการขับไล่และความพยายามที่จะหาวิธีที่จะหยุดการกระทำนี้ แต่พวกเขาที่ต้องย้ายออกด้วยการเวนคืนทั้งหมด 94% และที่ดินอื่นๆอีก 6% ซึ่งการเวนคืนใช้เงินทั้งหมด 9 พันล้านปอนด์
การขนส่งสาธารณะ
ระบบการเดินทางสาธารณะในลอนดอน ได้คะแนนที่ไม่ค่อยดี ในการประเมินของ IOC อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานการบริหารเมืองของกรุงลอนดอน ก็ได้ปรับปรุงเพื่อต้อนรับการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้[30]องค์การคมนาคมสำหรับลอนดอน หรือ TfL ได้ดำเนินการปรับปรุงระบบการเดินทางสาธารณะใหม่ทั้งหมดภายในปี พ.ศ. 2555 (ค.ศ. 2012) รวมไปถึงการขยายเส้นทาง รถไฟเหนือดินลอนดอน ในเส้นทางลอนดอนตะวันออก และเพิ่มเส้นทาง รถไฟเบาสายดอคแลนดส์ และ การเดินรถไฟทางลอนดอนเหนือ[31]และการนำเข้ารถไฟหัวกระสุนความเร็วสูงที่มีชื่อว่า "จาเวลีน"[32]จากบริษัทฮิตาชิ[33]โดยชานชาลาที่ สถานีรถไฟนานาชาติสแตรทฟอร์ด (ออกแบบมาเพื่อรถไฟยูโรสตาร์) จะถูกนำมาใช้ในเส้นทางของการเดินรถไฟจาเวลีน[34]โดยในเครือข่ายรถไฟทั้งหมด จะเพิ่มการเดินรถ 4,000 ขบวนในช่วงที่มีการแข่งขัน พร้อมทั้งเพิ่มตู้โดยสารในทุกๆวัน[35]
องค์การคมนาคมสำหรับลอนดอน ได้ทำการสร้าง เคเบิลคาร์ ด้วยเงิน 25 ล้านปอนด์ โดยเส้นทางของเคเบิลคาร์จะข้าม แม่น้ำเทมส์ ซึ่งเคเบิลคาร์นี้จะเชื่อมทุกๆสถานที่ในการแข่งขัน[36] โดยจะเปิดใช้ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2555 (ค.ศ. 2012) โดยจะข้าม แม่น้ำเทมส์ ที่ กรีนวิช เพนินซูลา กับ รอยัล ด็อคส์ ซึ่งแต่ละชั่วโมงจะนำผู้โดยสาร 2,500 คน ด้วยความสูงประมาณ 50 เมตรกลางอากาศ มันถูกออกแบบมาเพื่อลดการเดินทางระหว่าง โอทู อารีนา กับ ศูนย์จัดแสดงสินค้าเอ็กซ์เซล ซึ่งเคเบิลคาร์จะให้ข้ามทุกๆ 30 วินาที[37]
โดยการจัดการแผนนี้จะทำให้เหล่านักกีฬา 80% สามารถเดินทางไปแข่งขันได้ในเวลาที่น้อยกว่า 20 นาที[38]และนักกีฬา 93% ที่ใช้เวลาน้อยกว่า 30 นาที[39]โดยบริเวณ อุทยานโอลิมปิกลอนดอน จะเป็นศูนย์รวมของชุมทางรถไฟขนาดใหญ่ถึง 10 สายเข้าด้วยกัน ซึ่งจะมีผู้โดยสารประมาณ 240,000 คนต่อชั่วโมง[40]นอกจากนี้ อีกแผนหนึ่งที่ดำเนินการไปแล้วถึง 90% ซึ่งจะมีทั้งสถานีขนส่งสาธารณะและอื่นๆ[39]ส่วนสองสวนสาธารณะที่จะถูกปิดเพื่อเป็นที่จุรถ 12,000 คันต่อ 25 นาทีจาก อุทยานโอลิมปิกลอนดอน และสามารถที่จะจุผู้คนถึง 9,000 คนเพื่อที่จะขึ้นรถบัสในทุกๆ 10 นาที[39] และการวางแผนสวนสาธารณะนี้จะอยู่ใกล้กับ แม่น้ำเทมส์ และสามารถเชื่อมต่อไปยังสนามแข่งเรือพายได้[41] และในถนนบางแห่งจะปิดบางช่องทางการจราจรเพื่อที่จะเป็นช่องทางการเดินรถสำหรับแขกวีไอพีและนักกีฬา[42][43]
การกระจายเสียงและแพร่ภาพ
โอลิมปิกที่จัดขึ้นในปีนี้ ใช้เทคโนโลยีดิจิตอล “ดีวีซีโปร-เอชดี” ของพานาโซนิก เป็นระบบการบันทึกวีดิทัศน์การแข่งขันอย่างเป็นทางการ ซึ่งเข้ารับภารกิจดังกล่าวเป็นครั้งที่ 10 ติดต่อกัน (นับรวมทั้งโอลิมปิกฤดูร้อนและโอลิมปิกฤดูหนาว) เริ่มตั้งแต่การแข่งขันที่บาร์เซโลนาของสเปน เมื่อปี พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992) โดยศูนย์กระจายเสียงแพร่ภาพนานาชาติ (International Broadcast Centre; IBC) ภายในสวนโอลิมปิกลอนดอน เป็นหน่วยงานหลักในการผลิตและเผยแพร่ วีดิทัศน์ระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการ ด้วยระบบภาพละเอียดสูง 1080/50ไอ
สำหรับหน่วยบริการกระจายเสียงแพร่ภาพโอลิมปิกในลอนดอน (Olympic Broadcasting Services London; OBSL) ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการกระจายเสียงและแพร่ภาพ จะใช้อุปกรณ์ชุด “เอชดี-พี2” เพื่อสนับสนุนการกระจายเสียงและแพร่ภาพการแข่งขัน และใช้กล้องวีดิทัศน์พกพารุ่น “เอจี-เอชพีเอ็กซ์ 250” ซึ่งบันทึกภาพด้วยระบบ “เอวีซี-อินทรา” และผลิตโดยบริษัทเดียวกับ “เอชดี-พี2” เป็นตัวแรก กับกล้องวีดิทัศน์พกพาระบบ “เอวีซีแคม เอชดี” สองรุ่นใหม่คือ “เอจี-เอซี160” และ “เอจี-เอซี130” ด้วยมุมมองภาพละเอียดสูง และเลนส์ซูมรุ่นใหม่ ความละเอียดสูง 21 เท่าซึ่งกว้างกว่าเดิม[44]
การแข่งขันคราวนี้กำหนดการกระจายเสียงแพร่ภาพ ไปยังบรรดาผู้รับสิทธิถ่ายทอดแต่ละภูมิภาคตามสิทธิซึ่งไอโอซีกำหนด ให้สามารถถ่ายทอดโทรทัศน์ภาคพื้นดินเป็นวงกว้างไปทั่วโลก โดยมีบรรษัทการกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งบริเตน (British Broadcasting Corporation; BBC) เป็นแม่ข่ายสำหรับโอลิมปิก ซึ่งวางเป้าหมายในการถ่ายทอด การแข่งขันครั้งนี้ผ่านช่องทางต่างๆ เป็นเวลารวม 5,000 ชั่วโมง[45] ส่วนโทรทัศน์ช่อง 4 แห่งบริเตนใหญ่ เป็นแม่ข่ายสำหรับพาราลิมปิก และสำหรับในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ไอโอซีทำข้อตกลงกับยูทูบ เพื่อเป็นผู้ถ่ายทอดสดการแข่งขันไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ผ่านช่องโทรทัศน์ของไอโอซี ซึ่งอยู่ในเว็บไซต์ของตน รวมถึงแอปพลิเคชันยูทูบในสมาร์ตโฟน และของเอ็กซ์บ็อกซ์ไลฟว์ด้วย[46]
ทั้งนี้ การถ่ายทอดโทรทัศน์ในกีฬาโอลิมปิกที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ริเริ่มขึ้นโดยหน่วยบริการกระจายเสียงแพร่ภาพโอลิมปิก (Olympic Broadcasting Services; OBS) ซึ่งปัจจุบัน บริษัทการกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Broadcasting Corporation; NBC) ถือสิทธิเป็นเจ้าของโดยการถือหุ้นใหญ่ จึงมีส่วนแบ่งรายได้กับไอโอซีเกินกึ่งหนึ่ง[47] ทุกวันนี้ ผู้ได้รับสิทธิถ่ายทอดการแข่งขัน มักส่งเจ้าหน้าที่ของตนเข้าปฏิบัติงาน ในพื้นที่แบ่งส่วนของศูนย์กระจายเสียงแพร่ภาพนานาชาติ (ไอบีซี) ของการแข่งขันแต่ละครั้ง โดยเริ่มปรากฏในโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งที่ 15 ที่เมืองคัลการีของแคนาดาในปี พ.ศ. 2531 (ค.ศ. 1988)
อาสาสมัคร
ผู้สร้างสรรค์การแข่งขัน (Game Maker)[48] เป็นชื่อที่รู้จักทั่วไป ของอาสาสมัครที่ไม่มีการจ้าง ซึ่งจะปฏิบัติงานอย่างหลากหลาย ทั้งช่วงก่อนและระหว่างการแข่งขัน โดยในช่วงต้นปี พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 2004) ตั้งเป้าว่าจะมีอาสาสมัคร 70,000 คน[49] แต่เมื่อเปิดรับสมัครในปี พ.ศ. 2553 (ค.ศ. 2010) กลับมีผู้ได้รับคัดเลือกถึง 240,000 คน[50] ซึ่งผู้สร้างสรรค์การแข่งขันเหล่านี้ จะปฏิบัติงานอาสาสมัคร เป็นเวลารวมประมาณ 8 ล้านชั่วโมงระหว่างการแข่งขัน ซึ่งไม่อาจเกิดขึ้นโดยสะดวก หากปราศจากบุคคลกลุ่มนี้[51]
สัญลักษณ์การแข่งขัน
ตราสัญลักษณ์
กีฬาโอลิมปิกคราวนี้ มีตราสัญลักษณ์สองแบบคือ ตราสัญลักษณ์สำหรับเสนอชื่อประมูล เป็นภาพริบบินคาดเส้นสีฟ้า สีเหลือง สีดำ สีเขียว และสีแดง ที่คดเคี้ยวคล้ายรูปร่างของแม่น้ำเทมส์ ทางตะวันออกของกรุงลอนดอน ลอดผ่านตัวอักษรข้อความ “LONDON 2012” ซึ่งออกแบบโดย คิโน ดีไซน์ (Kino Design) และตราสัญลักษณ์สำหรับการแข่งขันเอง เป็นภาพสื่อแสดงถึงตัวเลข 2012 ที่มีวงแหวนโอลิมปิกอยู่ภายในเลขศูนย์[52] ซึ่งออกแบบโดย โวลฟฟ์ โอลินส์ (Wolff Olins) ซึ่งมีการเปิดตัวและส่งมอบ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) ทั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ส่วนสำคัญของตราสัญลักษณ์โอลิมปิก และพาราลิมปิกเกมส์จะมีรูปแบบเดียวกัน[53] โดยสีมาตรฐานคือ ม่วงแดง, เขียว, ส้มและฟ้า อย่างไรก็ตาม ตราสัญลักษณ์นี้สามารถรวบรวมสีสันที่หลากหลาย รวมทั้งสีในธงสหภาพ (Union Flag) ด้วยเช่นกัน[54]
ตุ๊กตาสัญลักษณ์
เว็นล็อก (Wenlock) กับ แมนด์วิลล์ (Mandeville) เป็นตุ๊กตาสัญลักษณ์ (Mascot) อย่างเป็นทางการของโอลิมปิก และพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ โดยมีการเปิดตัวเมื่อ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 (ค.ศ. 2010)[55] ซึ่งนับเป็นครั้งที่สอง ต่อจากที่แวนคูเวอร์ของแคนาดา ซึ่งมีการเปิดตัวตุ๊กตาสัญลักษณ์ของโอลิมปิก และพาราลิมปิกเกมส์พร้อมกัน ทั้งสองตัวนี้เป็นแอนิเมชัน ที่สื่อแสดงถึงหยดเหล็กสองหยาด จากโรงถลุงเหล็กในเมืองโบลตัน[55]
สำหรับชื่อของทั้งสองตัว คือเว็นล็อก มาจากนามสกุลของ มัช เว็นล็อก (Much Wenlock) แห่งเมืองซรอปเชียร์ (Shropshire) ผู้บุกเบิกการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปัจจุบัน กับแมนด์วิลล์ มาจากนามสกุลของ สโตก แมนด์วิลล์ (Stoke Mandeville) แห่งเมืองบักกิงแฮมเชียร์ (Buckinghamshire) ผู้บุกเบิกการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์เป็นครั้งแรก[55]
โดยนักเขียน ไมเคิล มอร์ปูร์โก (Michael Morpurgo) เป็นผู้เขียนแนวคิดของตุ๊กตาสัญลักษณ์คู่นี้ จากนั้นแอนิเมชันก็ประดิษฐ์ขึ้น[56] โดยตั้งใจจะให้เป็นส่วนหนึ่งของชุดเรื่องราวต่อเนื่อง เกี่ยวกับตุ๊กตาสัญลักษณ์ที่ใช้ในการแข่งขันคราวนี้[55] ซึ่งมีสองเรื่องคือ “Out Of A Rainbow” ที่จะบอกเล่าความเป็นมา ของเว็นล็อกกับแมนด์วิลล์ และเรื่อง “Adventures On A Rainbow” ซึ่งมีสาระสำคัญอยู่ที่เด็กๆ จากเรื่องแรก มาพบกับตุ๊กตาสัญลักษณ์ทั้งสอง แล้วพากันทดลองเล่นกีฬาต่างๆ ในโอลิมปิกและพาราลิมปิกที่มีมากมาย[57]
เหรียญรางวัล
จำนวนเหรียญรางวัล สำหรับโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ มีประมาณ 4,700 เหรียญ[58] ผลิตขึ้นโดยโรงกษาปณ์หลวง (The Royal Mint)[59] และออกแบบโดย เดวิด วัตกินส์ (David Watkins)[60] มีน้ำหนัก 375-400 กรัม ความหนา 7 มิลลิเมตร ซึ่งสลักชื่อกีฬาและประเภทรุ่นที่ขอบเหรียญ[61] ตามธรรมเนียมที่สืบทอดมา หน้าเหรียญเป็นภาพไนกี เทพธิดาแห่งชัยชนะของกรีก ก้าวย่างจากมหาวิหารพาร์เธนอน (Parthenon) ส่วนลักษณะของหลังเหรียญ มีตราสัญลักษณ์การแข่งขัน ลายเส้นโค้งสื่อถึงแม่น้ำเทมส์ และชุดของเส้นตรง อันมีนัยสื่อถึงพลังของนักกีฬา[62]
เพลงอย่างเป็นทางการ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์การแข่งขัน คัดเลือกให้ซิงเกิล “Survival” ที่ออกโดย Muse วงดนตรีสัญชาติอังกฤษ เป็นเพลงอย่างเป็นทางการ ของโอลิมปิกคราวนี้[63] ซึ่งจะเล่นออกทางเครื่องขยายเสียง เมื่อนักกีฬาเข้าสู่สนาม และช่วงเวลาก่อนพิธีมอบเหรียญรางวัล รวมทั้งนานาประเทศผู้รับสิทธิถ่ายทอดจะเล่น ระหว่างที่รายงานการแข่งขันด้วย[64]
พิธีการ
พิธีเปิดการแข่งขัน จัดขึ้นในวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 โดยใช้แนวคิด "เกาะมหัศจรรย์" (The Isles of Wonder)[65] ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากวรรณกรรม "เดอะ เทมเปสต์" ของวิลเลียม เชกสเปียร์ โดยในการแสดงในพิธีเปิดจะปรับสภาพสนามให้เป็นชนบทอังกฤษ มีชาวบ้านปิกนิกและนั่งชมกีฬา และมีการจำลองเนินเขาแกลสตันบูรี ซึ่งเป็นสถานที่จัดเทศกาลดนตรีและศิลปะที่มีชื่อเสียง ใช้นักแสดงประมาณ 10,000 คน โดยแดนนี บอยล์ ผู้กำกับภาพยนตร์รางวัลออสการ์ จากภาพยนตร์เรื่อง สลัมด็อก มิลเลียนแนร์ คำตอบสุดท้าย...อยู่ที่หัวใจ เป็นผู้กำกับฝ่ายศิลป์[66] ส่วนริค สมิธ (Rick Smith) กับ ฆาร์ล ไฮด์ (Karl Hyde) ดูโอของวงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ "อันเดอร์เวิลด์" (Underworld) เป็นผู้กำกับดนตรี[67]
สำหรับพิธีปิดการแข่งขัน จะจัดขึ้นในวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555 ซึ่งประกอบด้วยพิธีส่งมอบธงโอลิมปิก จากนายกเทศมนตรีของกรุงลอนดอน ไปยังนายกเทศมนตรีกรุงรีโอเดจาเนโรของบราซิล ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกครั้งต่อไปในปี พ.ศ. 2559 (ค.ศ. 2016)[68]
พิธีเชิญคบเพลิง
การวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก มีขึ้นระหว่างวันที่ 19 พฤษภาคม ถึง 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 (ค.ศ. 2012) การคัดเลือกผู้เชิญคบเพลิงมีขึ้นใช่วงปี พ.ศ. 2553 - 2554 ด้วย ซึ่งประกาศผลเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 (ค.ศ. 2011)[69] โดยไฟฤกษ์โอลิมปิกเดินทางมาจากกรีซ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555[70] การวิ่งคบเพลิงใช้เวลา 70 วัน โดยมีงานฉลอง 66 ครั้ง และการเยือนเกาะ 6 แห่ง ซึ่งมีผู้เชิญคบเพลิง 8,000 คน เป็นระยะทางประมาณ 8,000 ไมล์ (12,800 กิโลเมตร) เริ่มต้นที่แลนดส์เอ็นด์ในคอร์นวอลล์[71] ทั้งนี้จะมีหนึ่งวันที่คบเพลิงจะออกนอกสหราชอาณาจักร เมื่อไปเยือนกรุงดับลิน ของสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ในวันที่ 6 มิถุนายน[72]
การแข่งขัน
ประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขัน
นักกีฬาเข้าแข่งขันทั้งหมด 10,568 คน จาก 204 คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติ เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้[5] ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่านักกีฬาที่เข้าแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 1948 ซึ่งจัดที่กรุงลอนดอน และกีฬาเครือจักรภพ 2002 ซึ่งจัดที่แมนเชสเตอร์ โอลิมปิกครั้งนี้จึงเป็นการแข่งขันมหกรรมกีฬาที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดในสหราชอาณาจักร[73]
นักกีฬาสามคนจากคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งเนเธอร์แลนด์แอนทิลลิส ซึ่งสมาชิกภาพถูกคณะกรรมการโอลิมปิกสากลถอนไปในสมัยประชุมไอโอซีเมื่อเดือนมถุนายน พ.ศ. 2554 และนักกีฬาอีกหนึ่งคนจากซูดานใต้ ซึ่งไม่มีคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งชาติที่ได้รับการรับรอง เข้าแข่งขันโดยอิสระภายใต้ธงโอลิมปิก[74]
รายชื่อประเทศที่เข้าร่วมในกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 มีดังต่อไปนี้ (ตัวเลขในวงเล็บหมายถึงจำนวนนักกีฬา)
ชนิดกีฬาที่แข่งขัน
ในกีฬาโอลิมปิกคราวนี้ กำหนดการแข่งขันใน 26 ชนิดกีฬา รวมทั้งหมด 39 ประเภทรุ่น และในวงเล็บคือจำนวนเหรียญทองของแต่ละรายการ
|
|
เป็นครั้งแรกที่มีการบรรจุกีฬามวยสากลสมัครเล่นหญิงเข้าสู่โปรแกรม ซึ่งมีนักกีฬาร่วมแข่งขัน 36 คนใน 3 รุ่นพิกัดน้ำหนัก ยังมีกฎยกเว้นกรณีพิเศษ เพื่อยอมให้แข่งขันยิงปืนทุกประเภทดำเนินไปได้ มิฉะนั้นจะเป็นความผิดตามกฎหมายอาวุธปืนของสหราชอาณาจักร[78][79] ในกีฬาเทนนิส คู่ผสมกลับมาบรรจุในโปรแกรมโอลิมปิกเป็นครั้งแรกนับแต่ พ.ศ. 2467[80]
กรุงลอนดอนเสนอจัดการแข่งขัน 28 ชนิดกีฬา ตามโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งล่าสุด แต่ไอโอซีลงมติให้ระงับการแข่งขันเบสบอลและซอฟต์บอล หลังคัดเลือกให้กรุงลอนดอนเป็นเมืองเจ้าภาพได้สองวัน ไอโอซียืนยันการตัดสินใจระงับนี้ ระหว่างโอลิมปิกฤดูหนาว 2006 หลังกรุงลอนดอนแพ้เสียงลงมติให้พิจารณาใหม่ และกำหนดการแข่งขันครั้งสุดท้ายสำหรับโอลิมปิกฤดูร้อน 2008[81] สืบเนื่องจากข้อตกลงในการระงับกีฬาสองประเภทดังกล่าว ไอโอซีเปิดการลงคะแนนว่าจะเลือกกีฬาอื่นมาแทนที่หรือไม่ โดยกีฬาที่นำมาพิจารณาได้แก่ คาราเต้ สควอช กอล์ฟ กีฬาล้อเลื่อน และ รักบี้เจ็ดคน สองประเภทสุดท้ายที่เสนอขึ้นมาคือคาราเต้และสควอช แต่คะแนนเสียงไม่ถึงสองในสามตามข้อบังคับ[81]
แม้จะธรรมเนียมการจัดกีฬาสาธิตจะถูกยกเลิกไปตั้งแต่โอลิมปิกฤดูร้อน 1992[82] แต่การแข่งขันรายการพิเศษสำหรับกีฬาที่ไม่อยู่ในโอลิมปิก สามารถดำเนินไปได้ระหว่างการแข่งขันได้ ดังเช่นการแข่งขันรายการวูซู ที่โอลิมปิกฤดูร้อน 2008[83] มีความพยายามจะดำเนินการแข่งขันรายการทเวนตีคริกเก็ต[83] และเน็ตบอล[84] ควบคู่ไปกับการแข่งขันในคราวนี้เช่นกัน แต่โครงการดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จ
ปฏิทินกำหนดการแข่งขัน
ตารางกำหนดการแข่งขันอย่างเป็นทางการฉบับสมบูรณ์ เผยแพร่เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554[85]
(คลิกที่ชื่อกีฬาเพื่อดูรายละเอียดการแข่งขัน)
เปิด | พิธีเปิดการแข่งขัน | ● | การแข่งขัน | 1 | รอบชิงชนะเลิศ | ปิด | พิธีปิดการแข่งขัน |
กรกฎาคม / สิงหาคม | 25 พ. |
26 พฤ. |
27 ศ. |
28 ส. |
29 อา. |
30 จ. |
31 อ. |
1 พ. |
2 พฤ. |
3 ศ. |
4 ส. |
5 อา. |
6 จ. |
7 อ. |
8 พ. |
9 พฤ. |
10 ศ. |
11 ส. |
12 อา. |
การแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
พิธีการ | เปิด | ปิด | ||||||||||||||||||
ยิงธนู | ● | 1 | 1 | ● | ● | ● | 1 | 1 | 4 | |||||||||||
กรีฑา | 2 | 5 | 7 | 5 | 4 | 4 | 5 | 6 | 8 | 1 | 47 | |||||||||
แบดมินตัน | ● | ● | ● | ● | ● | ● | 1 | 2 | 2 | 5 | ||||||||||
บาสเกตบอล | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | 1 | 1 | 2 | |||
มวยสากลสมัครเล่น | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | 3 | ● | 5 | 5 | 13 | |||
เรือแคนู | ● | ● | 1 | 1 | 2 | ● | ● | 4 | 4 | ● | 4 | 16 | ||||||||
จักรยาน | 1 | 1 | 2 | 2 | 2 | 1 | 1 | 1 | 3 | ● | ● | 2 | 1 | 1 | 18 | |||||
กระโดดน้ำ | 1 | 1 | 1 | 1 | ● | ● | 1 | ● | 1 | ● | 1 | ● | 1 | 8 | ||||||
ขี่ม้า | ● | ● | ● | 2 | ● | ● | ● | ● | 1 | 1 | 2 | 6 | ||||||||
ฟันดาบ | 1 | 1 | 1 | 1 | 2 | 1 | 1 | 1 | 1 | 10 | ||||||||||
ฮอกกี้ | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | 1 | 1 | 2 | |||||
ฟุตบอล | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | 1 | ● | 1 | 2 | ||||||
ยิมนาสติก | ● | ● | 1 | 1 | 1 | 1 | 1 | 1 | 3 | 3 | 4 | ● | ● | 1 | 1 | 18 | ||||
แฮนด์บอล | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | 1 | 1 | 2 | |||
ยูโด | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 14 | ||||||||||||
ปัญจกีฬาสมัยใหม่ | 1 | 1 | 2 | |||||||||||||||||
เรือพาย | ● | ● | ● | ● | 3 | 3 | 4 | 4 | 14 | |||||||||||
เรือใบ | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | 2 | 2 | 2 | 1 | 1 | 1 | 1 | 10 | |||||
ยิงปืน | 2 | 2 | 1 | 1 | 1 | 1 | 2 | 2 | 1 | 2 | 15 | |||||||||
ว่ายน้ำ | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 4 | 1 | 1 | 34 | |||||||||
ระบำใต้น้ำ | ● | ● | 1 | ● | 1 | 2 | ||||||||||||||
เทเบิลเทนนิส | ● | ● | ● | ● | 1 | 1 | ● | ● | ● | ● | 1 | 1 | 4 | |||||||
เทควันโด | 2 | 2 | 2 | 2 | 8 | |||||||||||||||
เทนนิส | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | 2 | 3 | 5 | ||||||||||
ไตรกีฬา | 1 | 1 | 2 | |||||||||||||||||
วอลเลย์บอล | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | 1 | 1 | ● | 1 | 1 | 4 | |||
โปโลน้ำ | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | ● | 1 | ● | 1 | 2 | |||||
ยกน้ำหนัก | 1 | 2 | 2 | 2 | 2 | 2 | 1 | 1 | 1 | 1 | 15 | |||||||||
มวยปล้ำ | 2 | 3 | 2 | 2 | 2 | 2 | 3 | 2 | 18 | |||||||||||
การแข่งขันทั้งหมด | 12 | 14 | 12 | 15 | 20 | 18 | 22 | 25 | 23 | 18 | 21 | 17 | 22 | 16 | 32 | 15 | 302 | |||
รวมการสะสมจากวันก่อน | 12 | 26 | 38 | 53 | 73 | 91 | 113 | 138 | 161 | 179 | 200 | 217 | 239 | 255 | 287 | 302 | ||||
กรกฎาคม / สิงหาคม | 25 พ. |
26 พฤ. |
27 ศ. |
28 ส. |
29 อา. |
30 จ. |
31 อ. |
1 พ. |
2 พฤ. |
3 ศ. |
4 ส. |
5 อา. |
6 จ. |
7 อ. |
8 พ. |
9 พฤ. |
10 ศ. |
11 ส. |
12 อา. |
การแข่งขัน |
สถิติโลก
วันที่ | การแข่งขัน | นักกีฬา | ชาติ | รายละเอียดสถิติ | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|
27 กรกฎาคม 2012 | กีฬายิงธนู – ชายเดี่ยว | อิม ดง ฮยุน | เกาหลีใต้ | ทำคะแนนสถิติโลก 699 คะแนน ในรอบจัดอันดับ | [86] |
27 กรกฎาคม 2012 | กีฬายิงธนู – ทีมชาย | อิม ดง ฮยุน คิม บับ มิน โอ จินฮยอก | เกาหลีใต้ | ทำคะแนนสถิติโลก 2087 คะแนน ในรอบจัดอันดับ | [86] |
28 กรกฎาคม 2012 | กีฬาเรือพาย – ชายคู่ | อีริก มูร์เรย์ ฮามิส บอนด์ | นิวซีแลนด์ | ทำเวลาสถิติโลก 6:08.50 นาที ในรอบคัดเลือก | [87] |
28 กรกฎาคม 2012 | กีฬาว่ายน้ำ – 400 เมตรหญิง ท่าผสม | เย ชือเวิน | จีน | ทำเวลาสถิติโลก 4:28.43 นาที ในรอบสุดท้าย | [88] |
29 กรกฎาคม 2012 | กีฬายกน้ำหนัก – 53 กิโลกรัมหญิง | ซัลฟียา ชินชานโล | คาซัคสถาน | ทำน้ำหนักสถิติโลกในท่า คลีนแอนด์เจิร์ก ที่ 131 กิโลกรัม | [89] |
29 กรกฎาคม 2012 | กีฬาว่ายน้ำ 100 เมตรหญิง ท่าผีเสื้อ | ดานา วอลเมอร์ | สหรัฐ | ทำเวลาสถิติโลก 55.98 วินาที | [90] |
29 กรกฎาคม 2012 | กีฬาว่ายน้ำ 100 เมตรชาย ท่ากบ | คาเมรอน วาน เดอ บรัช | แอฟริกาใต้ | ทำเวลาสถิติโลก 58.46 วินาที | [91] |
30 กรกฎาคม 2012 | กีฬายกน้ำหนัก – 62 กิโลกรัมชาย | คิม อุน กุก | เกาหลีเหนือ | ทำน้ำหนักสถิติโลกรวม ที่ 327 กิโลกรัม | [92] |
1 สิงหาคม 2012 | กีฬาว่ายน้ำ – 200 เมตรชาย ท่ากบ | เดเนียล กรูทา | ฮังการี | ทำเวลาสถิติโลก 2:07.28 นาที | [93] |
1 สิงหาคม 2012 | กีฬายกน้ำหนัก – 77 กิโลกรัมชาย | หลู่ เซียวจุน | จีน | ทำน้ำหนักสถิติโลกในท่า คลีน ที่ 175 กิโลกรัม ทำน้ำหนักสถิติโลกรวม ที่ 379 กิโลกรัม | [94] |
1 สิงหาคม 2012 | กีฬาว่ายน้ำ – 200 เมตรหญิง ท่ากบ | เรเบคกา โซนิ | สหรัฐ | ทำเวลาสถิติโลก 2:20.00 ในรอบรองชนะเลิศ | [93] |
2 สิงหาคม 2012 | กีฬาจักรยาน – ทีมสปรินท์หญิง | วิคทอเรีย เพนเดลตัน เจสสิกา วาร์นิช | สหราชอาณาจักร | ทำเวลาสถิติโลก 32.526 ในรอบคัดเลือก | |
2 สิงหาคม 2012 | กีฬาจักรยาน – ทีมสปรินท์หญิง | กง จิเจีย กว่อ ชาง | จีน | ทำเวลาสถิติโลก 32.447 ในรอบคัดเลือก ทำเวลาสถิติโลก 32.422 ในรอบแรก | [95] |
2 สิงหาคม 2012 | กีฬาจักรยาน – ทีมชาย | เอ็ด คลันซี เจเรนท์ ทอร์มัส สตีเวน บรูเกอ ปีเตอร์ เคนนุง | สหราชอาณาจักร | ทำเวลาสถิติโลก 3:52.499 ในรอบคัดเลือก ทำเวลาสถิติโลก 3:51.659 ในรอบสุดท้าย | [96] |
2 สิงหาคม 2012 | กีฬาจักรยาน – ทีมชายสปรินท์ | ฟิลลิปิบ ฮินเดส คริส ฮอย เจสัน เคนนี | สหราชอาณาจักร | ทำเวลาสถิติโลก 42.747 ในรอบแรก ทำเวลาสถิติโลก 42.600 ในรอบสุดท้าย | [97] |
2 สิงหาคม 2012 | กีฬาว่ายน้ำ – 200 เมตรหญิง ท่ากบ | เรเบคกา โซนิ | สหรัฐ | ทำเวลาสถิติโลก 2:19.59 ในรอบสุดท้าย | [98] |
3 สิงหาคม 2012 | กีฬาจักรยาน – ทีมหญิง | เดเนียลเอล คิง ลอรา ทรอท โจอันนา โรวเซล | สหราชอาณาจักร | ทำเวลาสถิติโลก 3:15.669 ในรอบคัดเลือก | |
3 สิงหาคม 2012 | กีฬายิงปืน – ปืนยาวท่านอนระยะ 50 เมตรชาย | เซอร์จี มาร์ทีนอว | เบลารุส | ทำคะแนนสถิติโลก 705.5 คะแนน ในรอบชิงชนะเลิศ | |
3 สิงหาคม 2012 | กีฬาว่ายน้ำ – 200 เมตรหญิง ท่ากรรเชียง | มิสซี่ แฟรงกลิน | สหรัฐ | ทำเวลาสถิติโลก 2:04.06 ในรอบชิงชนะเลิศ | |
4 สิงหาคม 2012 | กีฬายิงปืน – ปืนเป้าหญิง | Jessica Rossi | อิตาลี | ทำคะแนนสถิติโลกที่ 75 คะแนนในรอบคัดเลือก ทำคะแนนสถิติโลกที่ 99 คะแนนในรอบชิงชนะเลิศ | |
4 สิงหาคม 2012 | กีฬาจักรยาน – ทีมหญิงเปอร์ซูท | เดเนียลเอล คิง ลอรา ทรอท โจอันนา โรวเซล | สหราชอาณาจักร | ทำเวลาสถิติโลกที่ 3:14.682 ในรอบแรก ทำเวลาสถิติโลกที่ 3:14.051 ในรอบชิงชนะเลิศ | |
4 สิงหาคม 2012 | กีฬาว่ายน้ำ – ชาย ฟรีสไตล์ 1,500 เมตร | ซุน หยาง | จีน | ทำเวลาสถิติโลกที่ 14:31.02 ในรอบชิงชนะเลิศ | [99] |
4 สิงหาคม 2012 | กีฬาว่ายน้ำ – หญิง ผลัดผสม 4 × 100 เมตร | มิสซี แฟรนกลิน เรเบคกา โซนิ ดานา วอลเมอร์ อลิซัน สมิท | สหรัฐ | ทำเวลาสถิติโลกที่ 3:52.05 ในรอบชิงชนะเลิศ | |
4 สิงหาคม 2012 | กีฬายกน้ำหนัก – 94 กิโลกรัม ชาย | อิลยา อิลิน | คาซัคสถาน | ทำน้ำหนักสถิติโลกในท่า คลีนแอนด์เจิร์ก ที่ 233 กิโลกรัม ทำน้ำหนักสถิติโลกรวม 418 กิโลกรัม | [100] |
5 สิงหาคม 2012 | กีฬายกน้ำหนัก – +75 กิโลกรัม หญิง | เทเทียนา คาชิรินา | รัสเซีย | ทำน้ำหนักสถิติโลกในท่า สแนกส์ ที่ 151 กิโลกรัม | |
5 สิงหาคม 2012 | กีฬายกน้ำหนัก – +75 กิโลกรัม หญิง | โจว ลูลู | จีน | ทำน้ำหนักสถิติโลกรวม 333 กิโลกรัม | |
9 สิงหาคม 2012 | กีฬากรีฑา – 800 เมตร ชาย | เดวิด รูดดิชา | เคนยา | ทำเวลาสถิติโลกที่ 1:40.91 ในรอบชิงชนะเลิศ | |
10 สิงหาคม 2012 | กีฬากรีฑา – หญิงผลัด 4 × 100 เมตร | เทียนนา มาดิสัน อัลลีซัน เฟลิค เบียนคา ไนท์ คารเมลิตา เจเทอร์ | สหรัฐ | ทำเวลาสถิติโลกที่ 40.82 ในรอบชิงชนะเลิศ |
สรุปเหรียญการแข่งขัน
- สหราชอาณาจักร (เจ้าภาพ)
- ไทย
อันดับที่ | ประเทศ | ทอง | เงิน | ทองแดง | รวม |
---|---|---|---|---|---|
1 | สหรัฐ (USA) | 46 | 28 | 30 | 104 |
2 | จีน (CHN) | 38 | 31 | 22 | 91 |
3 | สหราชอาณาจักร (GBR) | 29 | 17 | 19 | 65 |
4 | รัสเซีย (RUS) | 20 | 20 | 28 | 68 |
5 | เกาหลีใต้ (KOR) | 13 | 9 | 8 | 30 |
6 | เยอรมนี (GER) | 11 | 20 | 13 | 44 |
7 | ฝรั่งเศส (FRA) | 11 | 11 | 13 | 35 |
8 | ออสเตรเลีย (AUS) | 8 | 15 | 12 | 35 |
9 | อิตาลี (ITA) | 8 | 9 | 11 | 28 |
10 | ฮังการี (HUN) | 8 | 4 | 6 | 18 |
... | |||||
59 | ไทย | 0 | 2 | 2 | 4 |
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand in your browser!
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.