มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล (อังกฤษ: University of Liverpool) เป็นมหาวิทยาลัยรัฐ ในสหราชอาณาจักรที่มีเปิดสอนในระบบที่อิงฐานการเรียนการสอนในห้องเรียนและบนพื้นฐานของการทำวิจัย ตั้งอยู่ในเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1881 ในรูปแบบของมหาวิทยาลัยวิทยาลัย (University College) โดยเปิดสอน 3 คณะ (Faculty) ที่ประกอบด้วยภาควิชา (Department) และสำนักวิชา (School) ต่างๆรวมแล้ว 35 สาขาวิชา มหาวิทยาลิเวอร์พูลเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความก้าวหน้าอย่างโดดเด่นในด้านนวัตกรรมงานวิจัย [7] โดยเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มรัสเซล (Russell Group) [8]ซึ่งเป็นกลุ่มของมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรที่ประกอบด้วยมหาวิทยาลัยวิจัยขนาดใหญ่ใน 18 มหาวิทยาลัยจากสมาชิก 19 แห่ง ติด 20 อันดับแรกของประเทศในด้านงบวิจัย และเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มความร่วมมือด้านงานวิจัยของมหาวิทยาลัยในเขตภาคเหนือของสหราชอาณาจักรอีกด้วย มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในสหราชอาณาจักรที่สามารถสร้างมหาวิทยาลัยอิสระในประเทศจีนและเป็นมหาวิทยาลัยจีน-บริติชแห่งแรกของโลก เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลกที่เปิดสอนสาขาวิชาสมุทรศาสตร์ (Oceanography) การออกแบบเมือง (Civic Design) สถาปัตยกรรมศาสตร์ (Architecture) และชีวเคมี (Biochemistry)[9] ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลมีเงินสนับสนุนรายปีกว่า 410 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง ซึ่งในจำนวนนี้ประกอบด้วบงบประมาณที่สนับสนุนด้านงานวิจัยถึง 150 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง [10]
ชื่อย่อ | UOL |
---|---|
คติพจน์ | วันแห่งสันติภาพทั้งหลายเหล่านี้ได้อุปถัมภ์การเรียนรู้ These days of peace foster learning |
ประเภท | มหาวิทยาลัยรัฐ |
สถาปนา | 1903 – มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล (University of Liverpool)[1] 1884 – เป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยวิกตอเรีย (Victoria University)[2] 1882 – มหาวิทยาลัยวิทยาลัยลิเวอร์พูล (University College Liverpool)[3] |
ทุนทรัพย์ | £121 ล้าน [4] |
อธิการบดี | Professor Sir David King |
รองอธิการบดี | Sir Howard Newby |
Visitor | Lord President of the Council |
ปริญญาตรี | 16,805 คน [5] |
บัณฑิตศึกษา | 3,860 คน [6] |
ที่ตั้ง | , 53.406°N 2.967°W |
วิทยาเขต | เมือง |
เครือข่าย | กลุ่มรัสเซล, สมาคมมหาวิทยาลัยแห่งยุโรป (European University Association; EUA), กลุ่มความร่วมมือ N8 (N8 Group), สมาคมมหาวิทยาลัยภาคตะวันตกเฉียงเหนือ (North West Universities Association; NWUA) |
เว็บไซต์ | www.liv.ac.uk |
ตราสัญลักษณ์อย่างเป็นทางการของมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล |
มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1881 โดยเป็น มหาวิทยาลัยวิทยาลัยลิเวอร์พูล (University College Liverpool) ที่เปิดรับนักศึกษาครั้งแรกในปี ค.ศ. 1882 [11] ต่อมา ในปี ค.ศ. 1884 ก็ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยวิกตอเรีย ซึ่งในปี ค.ศ. 1894 ศาสตราจารย์โอลิเวอร์ ลอร์ดจได้ทำการส่งวิทยุสาธารณะเป็นครั้งแรกของโลกและอีก 2 ปีถัดมา ก็มีการผ่าตัดด้วยรังสีเอ็กซ์ ครั้งแรกของสหราชอาณาจักรที่นี่ สำนักพิมพ์แห่งมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล (Liverpool University Press)ก็ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1899 ทำให้เป็นสำนักพิมพ์ที่เก่าแก่เป็นอันดับสามของอังกฤษ ในช่วงต้นนี้ นักศึกษาในมหาวิทยาลัยจะได้รับประสาธน์ปริญญาบัตรจากมหาวิทยาลัยภายนอกได้แก่มหาวิทยาลัยลอนดอน (University of London) [12] หลังจากนั้น ได้มีพระราชบัญญัติออกโดยรัฐสภาอังกฤษให้มหาวิทยาลัยสามารถให้ปริญญาแก่นักศึกษาได้โดยมีชื่อว่า มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล (University of Liverpool)ไม่กี่ปีต่อมาก็ได้เห็นการพัฒนาที่สำคัญในมหาวิทยาลัย อาทิ เซอร์ ชาร์ลส์ เชอร์ริงตัน (Sir Charles Sherrington) ได้ค้นพบ จุดประสานประสาท (Synapse) รวมถึงงานของศาสตราจารย์วิลเลียม แบลร์-เบลล์ (Professor William Blair-Bell)เกี่ยวกับเคมีบำบัด (chemotherapy) ในการรักษาโรคมะเร็ง
ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1930 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 1940 ศาสตราจารย์เซอร์ เจมส์ แชดวิก (Professors Sir James Chadwick) และเซอร์ โจเซฟ รอตเบลต (Sir Joseph Rotblat) ได้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาระเบิดปรมาณู โดยเป็นผู้ที่ค้นพบอนุภาคนิวตรอน และในระหว่างปี ค.ศ.1943–1966 อัลลัน ดาวนี ศาสตราจารย์ด้านวิทยาแบคทีเรีย(Bacteriology) ได้ส่วนในการกำจัดโรคไข้ทรพิษ
มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในการจัดตั้งกลุ่มรัสเซลในปี ค.ศ.1994 ซึ่งเป็นความร่วมมือของมหาวิทยาลัยต่างๆที่มีการสนับสนุนด้านการวิจัยอย่างสูง และกลุ่ม N8 ในปี ค.ศ.2004 ในคริสต์ศตวรรษที่ 21 นักฟิสิกส์ วิศวกร และช่างเทคนิคหลายคนจากมหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลได้มาส่วนร่วมในการก่อสร้างเครื่องชนอนุภาคขนาดใหญ่ (Large Hadron Collider; LHC) ขององค์กรวิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรป (European Organization for Nuclear Research) หรือ เซิร์น (Conseil Européen pour la Recherche Nucléaire) [13] อีกด้วย
มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลเป็นมหาวิทยาลัยที่มีเงินทุนสนับสนุนมากเป็นอันดับหกในบรรดามหาวิทยาลัยต่างๆในสหราชอาณาจักร [14] และมหาวิทยาลัยจัดอยู่ในระดับ 1% บนของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยต่างๆทั่วโลกตาม Academic ranking of world universities [15] และยังเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มรัสเซล
มหาวิทยาลัยเปิดสอนโดยอิงฐานงานวิจัยแก่นักเรียนมากกว่า 27,000 คน ครอบคลุมมากกว่า 400 โปรแกรมใน 54 สาขาวิชา โดยมีการเรียนการสอนและงานวิจัยทั้งทางศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลที่ก่อตั้งในปี ค.ศ.1835 ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสำนักวิชาการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร
มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลมีสหภาพนักศึกษา (Students' union) หรือรู้จักกันในนาม "University of Liverpool Guild of Students" สำหรับประสานงานกิจกรรมของนักศึกษาในมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลได้ผลิตผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลหลายท่านในหลากหลายสาขาทั้งทางวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ ทางการแพทย์ และสาขาสันติภาพ ได้แก่
ที่ | ปี | ชื่อ | สาขา | หัวข้อ |
---|---|---|---|---|
1. | ค.ศ. 1902 | เซอร์ โรนัลด์ รอสส์ (Sir Ronald Ross) | สรีรวิทยาหรือการแพทย์ | สำหรับงานเกี่ยวกับมาลาเรีย |
2. | ค.ศ. 1917 | ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ บาร์กลา (Professor Charles Barkla) | ฟิสิกส์ | สำหรับการค้นพบสมบัติทางแม่เหล็กไฟฟ้าของรังสีเอ็กซ์ |
3. | ค.ศ. 1932 | เซอร์ ชาร์ลส์ เชอร์ริงตัน (Sir Charles Sherrington) | สรีรวิทยาหรือการแพทย์ | สำหรับงานด้านระบบประสาท |
4. | ค.ศ. 1935 | ศาสตราจารย์เซอร์ เจมส์ แชดวิก (Professors Sir James Chadwick) | ฟิสิกส์ | สำหรับการค้นพบอนุภาคนิวตรอน |
5. | ค.ศ. 1947 | เซอร์ โรเบิร์ต โรบินสัน (Sir Robert Robinson) | เคมี | สำหรับงานเกี่ยวกับแอนโทไซยานินและอัลคาลอยด์ |
6. | ค.ศ. 1968 | ศาสตราจารย์ฮาร์ กอบินด์ โครานา (Professor Har Gobind Khorana ) | สรีรวิทยาหรือการแพทย์ | สำหรับงานเกี่ยวกับการแปลผลของรหัสทางพันธุกรรมและหน้าที่เกี่ยวกับการสังเคราะห์โปรตีน |
7. | ค.ศ. 1972 | ศาสตราจารย์รอดนีย์ พอร์เตอร์ (Professor Rodney Porter) | สรีรวิทยาหรือการแพทย์ | สำหรับการค้นพบโครงสร้างของแอนติบอดี |
8. | ค.ศ. 1995 | ศาสตราจารย์โจเซฟ รอตบลาต (Professor Joseph Rotblat) | สันติภาพ | สำหรับการต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์ |
2011 | 2010 | 2009 | 2008 | 2007 | 2006 | 2005 | 2004 | 2003 | 2002 | 2001 | 2000 | 1999 | 1998 | 1997 | 1996 | 1995 | 1994 | 1993 | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Times Good University Guide | 28th[16] | 28th[17] | 28th[18] | 39th[19] | 41st | 41st[20] | 42nd[21] | 38th | 37th | 40th | 40th | 38th[22] | 32nd | 38th | 24th | 22nd | 28th | 19th | |
Guardian University Guide | 39th[23] | 47th[23] | 44th[24] | 36th[25] | 47th | 47th[26] | 45th[27] | 43rd[28] | 37th[29] | ||||||||||
Sunday Times University Guide | 30th[30] | 27th[31] | 31st[32] | 29th[32] | 36th[33] | 31st[33] | 33rd[33] | 31st[33] | 34th[33] | 32nd[33] | 29th[33] | ||||||||
Daily Telegraph | 41st[34] | 33rd | |||||||||||||||||
The Independent / Complete | 32nd[35] | 34th[35] | 42nd[36] | 41st[36] | |||||||||||||||
The Financial Times | 35th[37] | 32nd[38] | 36th[39] | 36th[40] | |||||||||||||||
QS World University Rankings [41] | 123rd[42] | 121st[43] | 137th | 133rd | 101st | 139th | 139th |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.