Loading AI tools
สายการบินแห่งชาติของประเทศอิสราเอล จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เอ็ลอัลอิสราเอลแอร์ไลน์ (ฮีบรู: אל על נתיבי אויר לישראל בע״מ) รู้จักกันในชื่อ เอ็ลอัล (ฮีบรู: אל על, แปลตรงตัว ''สู่ท้องฟ้า'') เป็นสายการบินประจำชาติและสายการบินที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอิสราเอล ที่มีสำนักงานใหญ่ที่ท่าอากาศยานเบ็น-กูรีย็อนในเทลอาวีฟ เอ็ลอัลให้บริการเที่ยวบินในประเทศ ระหว่างประเทศ และเที่ยวบินขนส่งสินค้าสู่จุดหมายปลายทางในยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ แอฟริกา เอเชีย และออสเตรเลีย[1]
| |||||||
ก่อตั้ง | ค.ศ. 1948 (76 ปี) | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ฐานการบิน | เทลอาวีฟ | ||||||
สะสมไมล์ | มัตมิด เกสท์ | ||||||
บริษัทลูก |
| ||||||
ขนาดฝูงบิน | 47 | ||||||
จุดหมาย | 49 | ||||||
การซื้อขาย | TASE:ELAL | ||||||
สำนักงานใหญ่ | ท่าอากาศยานเบ็น-กูรีย็อน เทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล | ||||||
บุคลากรหลัก | ดาวิด บรอดท์, ประธาน ดินา เบน ทัล, ซีอีโอ | ||||||
พนักงาน | 2,529 คน | ||||||
เว็บไซต์ | www |
นับตั้งแต่เที่ยวบินทางการครั้งแรกจากเจนีวาสู่เทลอาวีฟ ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1948 เอ็ลอัลขยายจุดหมายปลายทางไปสู่ 48 จุดหมาย ใน 5 ทวีป เอ็ลอัลมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมในหลากหลายเหตุการณ์ เช่น การอพยพชาวยิวออกจากเอธิโอเปีย และเยเมน และประเทศอื่นที่ชาวยิวตกอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย เอ็ลอัลยังเคยสร้างสถิติเที่ยวบินที่มีผู้โดยสารมากที่สุด ซึ่งเคยทำไว้ในปฏิบัติการโซโลมอน
เอ็ลอัลเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสายการบินที่มีสถิติความปลอดภัยมากที่สุดในโลก จากมาตรการความปลอดภัยในการป้องกันการจี้เครื่องบินของสลัดอากาศหลายครั้ง แต่มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่สลัดอากาศกระทำสำเร็จ[2][3]
เนื่องจาก สายการบินเอ็ลอัล ตกเป็นเป้าหมายในการก่อการร้ายมานานหลายทศวรรษ ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ เอ็ลอัล จำต้องปฏิบัติหน้าที่ด้านการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดทั้งบนพื้นดินและบนอากาศยาน จึงเกิดกระแสวิจารณ์ความไม่สะดวกในการใช้บริการ และเป็นประเด็นถกเถียงในเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด[4] แต่อย่างไรนั้นความมีชื่อเสียงด้านมาตรการรักษาความปลอดภัย ทำให้ เอ็ลอัล ได้รับรางวัลสายการบินที่มีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยสูงที่สุดในโลก ในปี ค.ศ. 2008 จากนิตยสาร "โกลบอล แทรเวลเลอร์"[5]
สายการบินกำหนดให้ผู้โดยสารต้องรายงานตัวสามชั่วโมงก่อนออกเดินทาง อาคารผู้โดยสารของเอ็ลอัล ทั่วโลกมีการเฝ้าระวังความปลอดภัยอย่างเข้มงวด มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบและกำลังทหาร ตำรวจ ติดอาวุธครบมือออกตรวจตราวัตถุระเบิด บุคคลผู้มีพฤติกรรมที่น่าสงสัย และภัยคุกคามอื่นๆ กระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารจะต้องผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด ผู้โดยสารทุกคนจะต้องผ่านการสอบถามคำถามด้านการรักษาความปลอดภัย จากเจ้าหน้าที่ถึงสาเหตุในการเดินทางเพื่อประเมินความเสี่ยง โดยเจ้าหน้าที่มักจะถามว่า ผู้โดยสารมาจากไหน มีเหตุผลอะไรในการเดินทาง ตลอดจนถามถึงอาชีพการงาน และสอบถามถึงสัมภาระของผู้โดยสารว่าเป็นผู้บรรจุเองหรือไม่
ที่เคาเตอร์เช็กอินผู้โดยสารทุกคนจะต้องผ่านการตรวจสอบบัตรโดยสารและหนังสือเดินทางอย่างละเอียดโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสายการบิน ผู้ที่ยังมิได้ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยอาจถูกปฏิเสธไม่ให้เช็กอิน ที่ด่านตรวจหนังสือเดินทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบชื่อและนามสกุลของผู้โดยสารโดยใช้ฐานข้อมูลของ สำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา, สำนักข่าวกรองความปลอดภัยแคนาดา, สก็อตแลนด์ยาร์ด, สำนักความปลอดภัยอิสราเอล และองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ สัมภาระผู้โดยสารจะต้องผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดและบางครั้งอาจต้องตรวจสอบด้วยมือ นอกจากนี้สัมภาระความเสี่ยงสูงต้องผ่านการเข้าห้องปรับความดันเพื่อทดสอบหาระเบิดแสวงเครื่องที่ทำงานโดยอาศัยหลักความกดอากาศหรือความดันขณะบิน[6] แม้จะเป็นสนามบินในต่างประเทศเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยของสายการบินก็ยังทำการตรวจสอบสัมภาระเองทั้งหมด[7]
ในทุกเที่ยวบินระหว่างประเทศจะมีแอร์ มาร์แชลหรือเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบซุกซ่อนอาวุธแฝงตัวไปกับผู้โดยสาร[8] นักบินส่วนใหญ่ของเอ็ลอัล จะเป็นอดีตนักบินของกองทัพอากาศอิสราเอล[9] ห้องนักบินได้ติดตั้งประตูนิรภัยแน่นหนาสองชั้น เพื่อป้องกันบุคคลไม่ได้รับอนุญาตเข้าห้องนักบินและมีระบบรหัสลับสำหรับการผ่านเข้าออก ประตูห้องนักบินที่สองจะเปิดได้ก็ต่อเมื่อประตูที่หนึ่งปิดแล้วเท่านั้น บุคคลที่จะเข้าห้องนักบินทุกคนจะต้องรับการตรวจค้นจากกัปตันเครื่องหรือผู้ช่วยนักบินที่หนึ่ง พื้นห้องโดยสารได้รับการเสริมเหล็กกล้าเพื่อป้องกันระหว่างห้องโดยสารกับห้องสัมภาระ[10]
จากเหตุการณ์ลอบโจมตีอากาศยานของอิสราเอลในปี 2002[11] ทำให้อากาศยานบางลำ(ขึ้นกับระดับภัยคุกคามของเส้นทางการบิน)ของเอ็ลอัล ได้รับการติดตั้งระบบต่อต้านจรวดนำวิถีด้วยอินฟราเรด (IRCM) เรียกว่า"ไฟลท์การ์ด"[12][13][14][15] ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทอุตสาหกรรมการบินอิสราเอล เพื่อป้องกันตัวจากขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ
ณ เดือนตุลาคม ค.ศ. 2023 เอ็ลอัลให้บริการเที่ยวบินจุดหมายปลายทาง 48 แห่งในสี่ทวีปใน 31 ประเทศ
เอ็ลอัลได้ทำข้อตกลงการบินร่วมกับสายการบินต่างๆ ดังต่อไปนี้:[16]
ณ เดือนกันยายน ค.ศ. 2024 เอ็ลอัลมีเครื่องบินประจำการในฝูงบิน ดังนี้:[34][35]
ฝูงบินของเอ็ลอัล | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เครื่องบิน | ประจำการ | คำสั่งซื้อ | ผู้โดยสาร[34] | หมายเหตุ | |||||
F | C | P | Y | รวม | |||||
โบอิง 737-800 | 14 | — | — | 16 | — | 150 | 166 | ||
2 | — | — | 189 | 189 | ให้บริการโดยซุนดอร์ | ||||
โบอิง 737-900อีอาร์ | 8 | — | — | 16 | — | 159 | 175 | ||
โบอิง 737 แมกซ์ | — | 20 | รอประกาศ | สั่งซื้อพร้อม 11 ตัวเลือก[36][37] ส่งมอบตั้งแต่ปี ค.ศ. 2028 | |||||
โบอิง 777-200อีอาร์ | 6 | — | 6 | 35 | — | 238 | 279 | จะเปลี่ยนการจัดเรียงที่นั่งเป็นแบบ 313 ที่นั่ง โดยนำที่นั่งชั้นหนึ่งออก[38][39] | |
— | 28 | 32 | 253 | 313 | [38] | ||||
โบอิง 787-8 | 4 | — | — | 20 | 35 | 183 | 238 | ||
โบอิง 787-9 | 12 | 6 | — | 32 | 35 | 204 | 271 | สั่งซื้อพร้อม 6 ตัวเลือก[40][41] | |
— | 30 | — | 263 | 293 | โอนย้ายมาจากแอร์ไชนา และใช้ผังที่นั่งเดิม[42][43] | ||||
ฝูงบินองเอ็ลอัล คาร์โก | |||||||||
โบอิง 737-800บีซีเอฟ | 1 | — | สินค้า | [44] | |||||
รวม | 47 | 26 |
เอ็ลอัลมีอายุฝูงบินเฉลี่ย 13.6 ปี
เอ็ลอัลเคยให้บริการเครื่องบินดังต่อไปนี้:
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.