เอชเอ็มเอชเอส บริแทนนิก
เรือเดินสมุทรชั้นโอลิมปิก / From Wikipedia, the free encyclopedia
เอชเอ็มเอชเอส บริแทนนิก (อังกฤษ: HMHS Britannic) มีชื่อเต็มว่า เรือพยาบาลหลวงบริแทนนิก (His Majesty's Hospital Ship Britannic) เป็นเรือพยาบาลสัญชาติอังกฤษ เป็นเรือลำสุดท้ายและมีขนาดใหญ่ที่สุดในเรือเดินสมุทรชั้นโอลิมปิกของสายการเดินเรือไวต์สตาร์ไลน์ และเป็นเรือลำที่สองของไวต์สตาร์ที่ใช้ชื่อ 'บริแทนนิก' เรือลำนี้เป็นเรือฝาแฝดของอาร์เอ็มเอส โอลิมปิก และอาร์เอ็มเอส ไททานิก โดยถูกสร้างขึ้นเพื่อให้บริการเรือโดยสารข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก แต่ถูกเกณฑ์เข้ามาเป็นเรือพยาบาลก่อนในปี 1915 ต่อจากเรืออาร์เอ็มเอส มอริเทเนีย และอาร์เอ็มเอส แอควิเทเนีย ที่ถูกเกณฑ์มาเป็นเรือพยาบาลก่อนหน้า จนกระทั่งอับปางลงในทะเลอีเจียนในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1916
ประวัติ | |
---|---|
สหราชอาณาจักร | |
เจ้าของ | ไวต์สตาร์ไลน์ |
ผู้ให้บริการ | ราชนาวี |
ท่าเรือจดทะเบียน | ลิเวอร์พูล, อังกฤษ |
Ordered | 1911 |
อู่เรือ | ฮาร์แลนด์แอนด์วูลฟฟ์, เบลฟาสต์, ไอร์แลนด์เหนือ |
Yard number | 433[1] |
ปล่อยเรือ | 30 พฤศจิกายน 1911 |
เดินเรือแรก | 26 กุมภาพันธ์ 1914 |
สร้างเสร็จ | 12 ธันวาคม 1915 |
บริการ | 23 ธันวาคม 1915 (เรือพยาบาล) |
หยุดให้บริการ | 21 พฤศจิกายน 1916 |
รหัสระบุ |
|
ความเป็นไป | ชนกับทุ่นระเบิดของ SM U-73 และอับปางในวันที่ 21 พฤศจิกายน 1916 ใกล้กับเกาะเคีย ในทะเลอีเจียน |
ลักษณะเฉพาะ | |
ชั้น: | ชั้นโอลิมปิก |
ขนาด (ตัน): | 48,158 ตันกรอส |
ขนาด (ระวางขับน้ำ): | 53,200 ตัน |
ความยาว: | 882.9 ฟุต (269.1 เมตร) |
ความกว้าง: | 94 ฟุต (28.7 เมตร) |
ความสูง: | 175 ฟุต (53 เมตร) (วัดจากกระดูกงูถึงปลายปล่องไฟ) |
กินน้ำลึก: | 34 ฟุต 7 นิ้ว (10.5 เมตร) |
ความลึก: | 64 ฟุต 6 นิ้ว (19.7 เมตร) |
ดาดฟ้า: | 10 ชั้น; 7 ชั้นสำหรับผู้โดยสาร, 3 ชั้นสำหรับลูกเรือ โดยมี Sun deck, Boat (ชั้น A), Promenade (ชั้น B), C-G, ชั้นท้องเรืออีก 2 ชั้น (เป็นพื้นที่สำหรับหม้อน้ำ, เชื้อเพลิง, เครื่องยนต์, ห้องผนึกน้ำ, ประตูกั้นน้ำ หรือพื้นทีสำหรับเพลาใบจักร เป็นต้น) |
ระบบพลังงาน: |
|
ระบบขับเคลื่อน: | ใบจักร 3 ตัว ทำจากสัมฤทธิ์ โดยใบจักรกลางมีขนาด 16 ฟุต 6 นิ้ว ดุมใบจักรเป็นกรวยครอบ พวงใบจักรมี 4 ใบ ส่วนใบจักรซ้ายและขวามีขนาด 23 ฟุต 6 นิ้ว ไม่มีกรวยครอบที่ดุม พวงใบจักรมี 3 ใบ |
ความเร็ว: |
|
ความจุ: | ผู้โดยสาร 3,309 คน |
เรือบริแทนนิกถูกสร้างก่อนที่สงครามโลกครั้งที่ 1 จะเริ่ม และได้รับการออกแบบให้เป็นเรือที่ปลอดภัยที่สุดในบรรดาเรือทั้งสามลำ โดยมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างระหว่างการก่อสร้างจากบทเรียนที่ได้จากการอับปางของไททานิก เรือถูกเก็บไว้ที่อู่ต่อเรือฮาร์แลนด์แอนด์วูล์ฟในเบลฟาสต์ เป็นเวลาหลายเดือนก่อนที่จะถูกเกณฑ์ไปเป็นเรือพยาบาล และทำหน้าที่ระหว่างสหราชอาณาจักรและดาร์ดะแนลส์ระหว่างปี ค.ศ. 1915–1916
ในเช้าวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 1916 เรือชนกับทุ่นระเบิดของกองทัพเรือเยอรมันใกล้กับเกาะเคียของกรีซ และอับปางลงในเวลา 55 นาทีต่อมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 30 คนจากทั้งหมด 1,066 คน ผู้รอดชีวิตได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งนับเป็นเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดที่อับปางในสงครามโลกครั้งที่ 1[3]
หลังสงคราม ไวต์สตาร์ไลน์ได้รับค่าชดเชยจากการสูญเสียบริแทนนิกด้วยการรับมอบเรือเอสเอส บิสมาร์ก (SS Bismarck) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของค่าปฏิกรรมสงคราม และถูกเปลี่ยนชื่อเป็นอาร์เอ็มเอส มาเจสติก (RMS Majestic)
ในปี 1975 ได้มีการค้นพบซากเรือโดยจาคส์ กูสโต (Jacques Cousteau) ซึ่งนับเป็นซากเรือโดยสารที่ยังคงสภาพสมบูรณ์อยู่ใต้ทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก[4] ซากเรือถูกซื้อไปในปี ค.ศ. 1996 และปัจจุบันเป็นเจ้าของโดยไซมอน มิลส์ (Simon Mills) นักประวัติศาสตร์ทางทะเล