ทมิฬอีฬัม
From Wikipedia, the free encyclopedia
ทมิฬอีฬัม (ทมิฬ: தமிழீழம் หรือ தமிழ் ஈழம், tamiḻ īḻam หรือ Tamil Eelam) หรือเอกสารไทยนิยมทับศัพท์ว่า ทมิฬอีแลม เป็นรัฐเอกราชที่มีการเสนอโดยชาวทมิฬศรีลังกาและชาวทมิฬศรีลังกาโพ้นทะเล กินอาณาเขตทางเหนือและตะวันออกของประเทศศรีลังกา[5][6][7][8][9] ชื่อทมิฬอีฬัมมาจากชื่อภาษาทมิฬที่เรียกศรีลังกาในอดีตว่า อีฬัม[10] แนวคิดทมิฬอีฬัมมีพื้นฐานจากการสร้างแผ่นดินแม่ของชาวทมิฬศรีลังกา[11] และในปัจจุบันยังคงไม่ได้รับการรับรองโดยรัฐเอกราชอื่นใด พื้นที่ส่วนใหญ่ของศรีลังกาตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ภายใต้การปกครองโดยพฤตินัยของพยัคฆ์ปลดปล่อยทมิฬอีฬัม (LTTE) ในสมัยปี 1990s–2000s ระหว่างสงครามกลางเมืองศรีลังกา
ทมิฬอีฬัม தமிழீழம் | |
---|---|
รัฐแบ่งแยกดินแดน | |
เพลง: ஏறுதுபார் கொடி เอรุธุภาร ฆฒิ "มองไปยังธงที่กำลังชักขึ้นเสา" | |
พิกัด: 08°45′N 80°30′E | |
เมืองหลวง | มุฬไฬฏิวุ |
เมืองใหญ่สุด | ตริโกมาฬี |
อำเภอ | รายการ
|
พื้นที่[1] | |
• ทั้งหมด | 21,952 ตร.กม. (8,476 ตร.ไมล์) |
• พื้นดิน | 20,533 ตร.กม. (7,928 ตร.ไมล์) |
• พื้นน้ำ | 1,419 ตร.กม. (548 ตร.ไมล์) 6.46% |
ประชากร (2012)[2] | |
• ทั้งหมด | 3,369,919 คน |
• ความหนาแน่น | 150 คน/ตร.กม. (400 คน/ตร.ไมล์) |
Statistics include Puttalam District, the inclusion of this district in Tamil Eelam is controversial. | |
ชาติพันธุ์(2012)[3] | |
• ทมิฬศรีลังกา | 1,644,799 (48.80%) |
• สิงหล | 950,498 (28.20%) |
• แขกมัวร์ | 748,366 (22.20%) |
• ทิมฬอินเดีย | 16,263 (0.48%) |
• อื่น ๆ | 9,993 (0.29%) |
ศาสนา(2012)[4] | |
• ฮินดู | 1,357,744 (40.29%) |
• พุทธ | 713,609 (21.18%) |
• มุสลิม | 762,256 (22.62%) |
• คาทอลิก | 446,333 (13.24%) |
• คริสต์อื่น ๆ | 87,479 (2.59%) |
• อื่น ๆ | 2,498 (0.07%) |
เขตเวลา | UTC+5:30 |
ภาษาราชการ | ภาษาทมิฬ |
ในปี 1956 Illankai Tamil Arasu Kachchi (ITAK) พรรคการเมืองทมิฬที่มีบทบาทมากที่สุดในศรีลังกา (ในเวลานั้นคือซีลอน) ได้ทำการล็อบบีให้รัฐใหม่ที่จะเกิดขึ้นให้สิทธิทั้งชาวทมิฬส่วนน้อย และชาวสิงหลซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ ได้รับสิทธิเท่าเทียมกัน ซึ่งรวมถึงการมีภาษาราชการสองภาษา คือทมิฬปละสิงหล รวมถึงการให้อำนาจปกครองตนเองแก่ภูมิภาคของชาวทิมฬในประเทศ อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุด ในรัฐบัญญัติว่าด้วยภาษาทางการ มาตรา 33 ปี 1856 (Official Language Act No. 33 of 1956) หรือที่รู้จักในชื่อกฎหมายภาษาสิงหลเท่านั้น ได้รับการผ่านร่างโดยรัฐสภา ซึ่งเปลี่ยนภาษาราชการจากอังกฤษเป็นสิงหล โดยไม่มีการรับรองภาษาทมิฬ ชาวทมิฬมองว่าการกระทำนี้เป็นความพยายามในการจัดตั้งรัฐชาติพุทธสิงหล ถึงแม้จะมีการลงนามในทั้ง Bandaranaike–Chelvanayakam Pact และ Senanayake-Chelvanayakam Pact แต่รัฐสภาซึ่งมีชาวสิงหลเป็นหลักก็ไม่ได้ให้การรับรอง การไม่รับรองภาษาและสิทธิของชาวทมิฬในรัฐสภาสิงหลนี้ทำให้เกิดความไม่พอใจในชาวทิมฬศรีลังกามาก ในการเลือกตั้งผู้แทนรัฐสภาปี 1970 พรรค United Front นำโดย Sirimavo Bandaranaike ชนะและขึ้นมาครองเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภา รัฐบาลนี้ได้นำเอานโยบายสองประการมาใช้ซึ่งถูกมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติต่อชาวทมิฬ คือ นโยบายสร้างมาตรฐานควบคุมการเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยซึ่งถูกมองว่าเป็นการพยายามจำกัดจำนวนชาวทมิฬและชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ไม่ให้เข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา และอีกนโยบายคล้ายกันสำหรับใช้ในการจ้างงานของหน่วยงานรัฐ ซึ่งทำให้งานข้าราชการน้อยกว่า 10% เปิดรับสำหรับผู้พูดภาษาทมิฬ