เกาะยอ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เกาะยอ เป็นเกาะหนึ่งที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบสงขลาตอนล่าง มีฐานะเป็นตำบลหนึ่งในอำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ตัวเกาะมีพื้นที่ทั้งหมด 15 ตารางกิโลเมตร หรือ 9,275 ไร่[1][2] ประชากรเป็นชาวไทยเชื้อสายจีน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง
ตำบลเกาะยอ | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Tambon Ko Yo |
คำขวัญ: สมเด็จเจ้าเป็นศรี ผ้าทอดีล้ำค่า นานาผลไม้หวาน ถิ่นอาหารทะเล เสน่ห์สะพานติณฯ สถาบันทักษิณลือนาม งดงามบ้านเรือนไทย | |
พิกัด: 7°9′39″N 100°32′41″E | |
ประเทศ | ไทย |
จังหวัด | สงขลา |
อำเภอ | เมืองสงขลา |
พื้นที่[ต้องการอ้างอิง] | |
• ทั้งหมด | 17.95 ตร.กม. (6.93 ตร.ไมล์) |
ประชากร | |
• ทั้งหมด | 4,920 คน |
• ความหนาแน่น | 274.09 คน/ตร.กม. (709.9 คน/ตร.ไมล์) |
รหัสไปรษณีย์ | 90100 |
รหัสภูมิศาสตร์ | 900106 |
เว็บไซต์ | www |
เกาะยอ มีผลิตภัณฑ์จากหัตถกรรมที่มีชื่อเสียงคือ ผ้าทอเกาะยอ ที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะลาย "ราชวัตถ์" ที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานชื่อลายผ้าดังกล่าว[2]
เกาะยอ ปรากฏหลักฐานการมีอยู่ครั้งแรกจากแผนภาพการกัลปนาวัดพะโคะ ที่เขียนขึ้นช่วงปี พ.ศ. 2223 ถึง พ.ศ. 2242 ระบุชื่อว่า "เข้าก้อะญอ" ปรากฏอยู่ปลายสุดของแผนที่ เป็นภาพเขาเกาะยอที่มีพรรณไม้บนภูเขาแต่ไม่ปรากฏรูปสัตว์ป่า[3][4] และปรากฏอีกครั้งในแผนที่เมืองสงขลาที่เขียนขึ้นในปี พ.ศ. 2230 โดยมองเดียร์ เดอลามาร์ วิศวกรชาวฝรั่งเศส ในแผนที่นี้ปรากฏชุมชนบนเกาะ 9 แห่งบริเวณที่ราบเชิงเขารอบเกาะ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของบ้านนาถิน, บ้านท้ายเสาะ, บ้านท่าไทร, บ้านสวนทุเรียน และบ้านนอก[3]
ในพระนิพนธ์เรื่อง ชีวิวัฒน์เที่ยวที่ต่าง ๆ ภาคที่ 7 โดยสมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช พ.ศ. 2427 เขียนเกี่ยวกับเกาะยอว่า "เกาะยอ มี เขาเป็นสามเหลี่ยม เรียกว่าแหลมภอ ช่องเขาเขียว และแหลมหัวการัง มีตำบลบ้าน 3 หลังได้แก่ บ้านท่าไทร บ้านอ่าวทราย และ บ้านสวนใหม่ ในเกาะยอมีสวนเรียงรายอยู่ในเกาะ รอบเกาะเป็นสวนผลไม้ หมาก มะพร้าว จำปาดะ ขนุน สะตอ พุมเรียง ละมุด ทุเรียน และมีสวนผัก ผัก และพลุต่าง ๆ มีบ้านราษฏรเรียงรายอยู่รอบเกาะ มีบ่อน้ำจืดสนิทหลายหลัง บ่อหินเป็นบ่อเก่า มีคราบโสโครก มีศาลาเล็กที่นั้นหลังหนึ่ง ในเกาะนั้นมีวัด 2 วัด ชื่อวัดแหลมภอวัดหนึ่ง วัดทายเสาะวัดหนึ่ง"[5]
ชนกลุ่มแรกที่อพยพเข้ามาอยู่ ว่ากันว่าเป็นชาวจีนจากบ้านน้ำกระจาย, บ้านน้ำน้อย และบ้านทุ่งหวัง ซึ่งตั้งถิ่นฐานกันมาอย่างน้อยก็ร่วมสมัยกรุงศรีอยุธยาแล้ว[3] ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ[6] มีวัดในพุทธศาสนา 4 แห่ง มีสำนักสงฆ์, ศาลเจ้าจีน และสถานปฏิบัติธรรมอย่างละหนึ่งแห่ง[7] ทั้งนี้เกาะยอมีประเพณีโบราณสืบทอดกันมาคือ ประเพณีแห่เดือนสิบ และประเพณีขึ้นเขากุฎ[1]
ด้านการศึกษา มีโรงเรียนตั้งอยู่บนเกาะยอสองแห่ง คือ โรงเรียนวัดแหลมพ้อ และโรงเรียนวัดท้ายยอ ส่วนด้านสาธารณสุข มีสถานีอนามัยสองแห่งที่บ้านสวนทุเรียนและบ้านท่าไทร[3]
เกาะยอตั้งอยู่กลางทะเลสาบสงขลาตอนล่าง มีเนื้อที่รวมทั้งพื้นน้ำ 17.95 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 11,220 ไร่ และมีเนื้อที่เฉพาะพื้นดินเพียง 15 ตารางกิโลเมตร หรือ 9,375 ไร่[3] พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาและเนินเขา สูง 10 ถึง 151 เมตร มีที่ราบขนาดน้อยโดยเป็นที่ราบเนินเขาริมชายฝั่ง[7] บนเกาะมีแหล่งน้ำธรรมชาติน้อยต้องขุดบ่อน้ำโดยใช้น้ำจากใต้ดิน[3]
จากที่นี่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเมืองสงขลา 20 กิโลเมตรทางบก และ 6 กิโลเมตรหากเป็นทางเรือ[3] การเดินทางทางบกใช้สะพานติณสูลานนท์ ข้ามมาจากฝั่งอำเภอเมืองและอำเภอสิงหนครได้[1]
ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง และเกษตรกรรม อาทิประมงและทำสวนผลไม้[1] มีอาชีพเสริมคือการค้าขายและอุตสาหกรรมในครัวเรือน[7] อาชีพประมงมีทั้งออกเรือไปจับปลาและการเลี้ยงปลาในกระชัง[3] ส่วนผลไม้บนเกาะยอที่มีชื่อเสียงเช่น จำปาดะและละมุด โดยเฉพาะจำปาดะที่สามารถนำมาแปรรูปเป็นของทอดเช่นเดียวกับกล้วยแขก[1] ส่วนงานหัตถกรรมที่มีชื่อเสียงคือ ผ้าทอเกาะยอ ที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะลาย "ราชวัตถ์" ที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานชื่อลายผ้าดังกล่าว[2]
ตำบลเกาะยอ แบ่งเขตการปกครองเป็น 9 หมู่บ้าน มีประชากรทั้งหมด 4,459 คน (สำรวจเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2550) ได้แก่[8]
หมู่ที่ | ชื่อหมู่บ้าน | จำนวนครัวเรือน | ประชากร |
---|---|---|---|
1 | บ้านอ่าวทราย | 215 | 734 |
2 | บ้านตีน | 83 | 305 |
3 | บ้านนอก | 247 | 740 |
4 | บ้านสวนทุเรียน | 189 | 546 |
5 | บ้านท่าไทร | 137 | 502 |
6 | บ้านในบ้าน | 177 | 559 |
7 | บ้านป่าโหนด | 116 | 406 |
8 | บ้านท้ายเสาะ | 65 | 249 |
9 | บ้านสวนใหม่ | 103 | 418 |
รวม | 1,332 | 4,459 |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.