ออสการ์ เกอติเอเรส์ รูบีโอ (Oscar Gutierrez Rubio)[1] เกิด 11 ธันวาคม ค.ศ. 1974 ที่ แซนดีเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นนักมวยปล้ำอาชีพชาวอเมริกันที่รู้จักกันดีในชื่อ เรย์ มิสเตริโอ (Rey Mysterio)[11][12][13][14] เป็นแชมป์โลก WWE 3 สมัยและได้รับการเสนอชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศ WWE Hall of Fame ประจำปี 2023[15]

ข้อมูลเบื้องต้น เรย์ มิสเตริโอ, ชื่อเกิด ...
เรย์ มิสเตริโอ
Thumb
ชื่อเกิดÓscar Gutiérrez[1][2]
เกิด (1974-12-11) ธันวาคม 11, 1974 (49 ปี)[3]
Chula Vista, California, United States[4]
คู่สมรสAngie Gutierrez (สมรส 1996)
บุตร2
ญาติพี่น้องRey Misterio (uncle)
El Hijo de Rey Misterio (cousin)
ประวัติมวยปล้ำอาชีพ
ชื่อบนสังเวียนColibrí[5][5]
El Nino[6]
La Lagartija Verde
Rey Misterio II[6]
Rey Misterio Jr.[7]
Rey Mysterio Jr.[8][5]
Rey Mysterio
ส่วนสูง5 ฟุต 6 นิ้ว (168 เซนติเมตร)[9]
น้ำหนัก175 ปอนด์ (79 กิโลกรัม)[9]
มาจากSan Diego, California[9]
ฝึกหัดโดยRey Misterio[5]
เปิดตัวApril 30, 1989[10]
ปิด

ประวัติ

เรย์เป็นนักมวยปล้ำอาชีพชาวอเมริกันเชื้อสายเม็กซิกัน เขาเป็นนักมวยปล้ำตัวเล็กที่สามารถเอาชนะนักมวยปล้ำที่ตัวใหญ่กว่าได้ด้วยท่าลีลาการปล้ำสไตล์เม็กซิกัน มีท่าทางผาดโผนได้หลายรูปแบบ ทำเอาคนดูลุ้นไปตามๆกัน

เขาพูดภาษาอังกฤษ และภาษาสเปน ได้ เพลงเปิดตัวจึงเป็น ภาษาสเปน เป็นส่วนใหญ่ (บางเวอร์ชันเป็นภาษาอังกฤษแบบเม็กซิกัน)

  • ท่าไม้ตาย : 619 (ซิก-วัน-ไนน์ ตั้งตามรหัสพื้นที่ของเมือง ซานดีเอโก), West Coast Pop
  • บ้านเกิด : แซนดีเอโก, รัฐแคลิฟอร์เนีย
  • เชื้อสาย : เม็กซิกัน
  • ภาษา : อังกฤษ, ประเทศอยุธยา
  • น้ำหนัก : 155 ปอนด์
  • ส่วนสูง : 168 เซนติเมตร (5 ฟุต 6 นิ้ว)
Thumb
เรย์ตอนถอดหน้ากาก

เรย์ได้ปล้ำใน WWE ครั้งแรก เมื่อปี 2002 กับชาโว เกร์เรโร เขาก็เอาชนะได้สำเร็จ[16] ปี 2003 เรย์ได้มีโอกาสชิงแชมป์ครูย์เซอร์เวทจากแมทท์ ฮาร์ดีอยู่หลายครั้ง โดยผ่านด่านทดสอบของแมทท์คือการที่จะต้องปล้ำแบบ 2 รุม 1 โดยมีแชนอน มัวร์ กับแครช ฮอลลี ลูกน้องคู่ V1 ของแมทท์ แต่เรย์ก็เอาชนะได้ทั้งที่บาดเจ็บเส้นเอ็นพลิกที่ต้นขา[17] ปี 2005 เรย์ได้คว้าแชมป์แท็กทีม WWE ร่วมกับเอ็ดดี เกร์เรโร แต่ไม่นานก็แตกทีมกันและได้กลายเป็นศัตรูกัน ซึ่งได้ปล้ำกันอยู่หลายต่อหลายแมตช์ เรย์ก็เอาชนะไปได้ทุกครั้ง เมื่อเอ็ดดีไม่มีหนทางที่จะชนะจึงออกมาแฉว่าลูกชายของเรย์คือโดมินิกว่าไม่ใช่ลูกของเรย์ แต่เป็นลูกของเอ็ดดี และได้มีเรื่องกับเรย์จนยาวนาน สุดท้ายเรย์ก็เอาชนะเอ็ดดีมาได้ ในแมตช์ชิงการเป็นผู้ปกครองของโดมินิก ในซัมเมอร์สแลม 2005 เรย์ก็เอาชนะมาได้อีกครั้ง ก่อนที่จะแพ้ให้กับเอ็ดดีเป็นครั้งแรกในแมตซ์กรงเหล็กในสแมคดาวน์ เนื่องจากเรย์ไม่สามารถใช้ท่าไม้ตาย 619 ได้ เพราะติดกรงเหล็ก

เรย์ได้เป็นความหวังของตระกูลเกร์เรโรที่จะได้เป็นแชมป์โลกคนต่อไป หลังจากที่เอ็ดดีได้เสียชีวิตลง เนื่องจากเรย์เป็นนักมวยปล้ำชาวอเมริกันเชื้อสายเม็กซิกันที่ยังมีผลงานที่ดีอยู่ เรย์จึงเอาชนะทริปเปิลเอชและแรนดี ออร์ตันในแมตช์รอยัลรัมเบิล (2006) โดยอยู่บนเวทีได้นานถึง 62 นาที[18] ทำให้ได้ไปท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 และเอาชนะเคิร์ต แองเกิลกับแรนดี ออร์ตัน คว้าแชมป์โลกสมัยแรกได้สำเร็จ[19] ในเดอะเกรทอเมริกันแบช 2006 เรย์ก็เสียแชมป์ให้บูเกอร์ ที จากการหักหลังของชาโว และในเดือนตุลาคม ทั้งคู่ได้เจอกันใน I Quit Match ผลปรากฏว่าชาโวได้จับเรย์แขวนไว้กับเสาเหล็กและใช้เก้าอี้ตีเข่าเรย์จนต้องตะโกนยอมแพ้[20] หลังจากนั้นเรย์ก็ต้องพักการปล้ำไปนานเกือบปีจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า[21] สุดท้ายเรย์ก็กลับมาแก้แค้นได้สำเร็จด้วยการเอาชนะชาโวได้อีกครั้งในซัมเมอร์สแลม 2007[22] ต่อมาเรย์ได้เปิดศึกท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทจากเอดจ์ ถึง 2 ครั้ง เนื่องจากวิกกี เกร์เรโรกับเคิร์ต ฮอว์กินส์และแซค ไรเดอร์ พยายามที่จะรบกวนการปล้ำอยู่เสมอ[23] แถมมีอารการปวดกล้ามเนื้อไบเส็บด้วย ทำให้มีอุปสรรคในการปล้ำมากขึ้นซ้ำร้าย บิ๊กโชว์ออกมาทำร้ายอีก จนทำให้เรย์ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาเป็นการด่วน[24][25] ในช่วงเดือนมิถุนายน เรย์ได้กลับมาอีกครั้งหลังจากรักษาแผลกล้ามเนื้อหายดีแล้ว เขาก็ถูกดราฟท์ไปสังกัดรอว์ในทันที[26]

ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25 เรย์สามารถคว้าแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลได้จากเจบีแอล โดยใช้เวลาเพียง 21 วินาทีเท่านั้น[27] ในเดือนพฤษภาคม 2009 เรย์ก็ได้ถูกดราฟท์กลับมาที่สแมคดาวน์[28] และเสียแชมป์อินเตอร์ให้คริส เจริโคในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2009) โดยถูกเจริโคใช้กลโกงดึงหน้ากากของเรย์ออกมา ในเดอะแบช (2009)เรย์ก็เอาแชมป์คืนจากเจริโคได้ ก่อนเสียแชมป์ในสแมคดาวน์เดือนกันยายนต่อมา ในแบรกกิ้ง ไรท์ส (2009) เรย์ได้ปล้ำแมตช์ 4 เส้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทจากดิอันเดอร์เทเกอร์ร่วมด้วยบาทิสตาและซีเอ็ม พังก์ ซึ่งอันเดอร์เทเกอร์เป็นฝ่ายป้องกันแชมป์ไว้ได้ ทำให้บาทิสตาโมโหจึงทำร้ายเรย์ จากนั้นก็ประกาศตัดเพื่อนกับเรย์และกลายเป็นฝ่ายอธรรม[29] ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2009) เรย์ได้เจอกับบาทิสตาและผลปรากฏว่าบาทิสตาเป็นฝ่ายชนะ หลังจากนั้นเรย์ก็จัดการกับบาทิสตา และเอาชนะมาได้ในระยะหลัง และขัดขวางไม่ให้บาทิสตาได้ชิงแชมป์โลกกับคนอื่นอีกด้วย[30] ต่อมาเรย์ได้เปิดศึกกับซีเอ็ม พังก์ และท้าเจอกันในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26 เรย์ก็เอาชนะมาได้ และได้รีแมตช์กันในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2010) โดยถ้าเรย์ชนะ พังก์ต้องโดนตัดผม แต่เรย์ก็แพ้ไป ในโอเวอร์เดอะลิมิต (2010) เรย์ได้เจอกับพังก์อีกครั้ง โดยถ้าเรย์ชนะ พังก์ต้องโดนตัดผม แต่ถ้าเรย์แพ้ต้องเข้ามาอยู่กลุ่มสเตรจต์เอดจ์โซไซตี้ สุดท้ายเรย์เป็นฝ่ายชนะและตัดผมของพังก์จนหัวล้าน[31]

เรย์ได้คว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวทอีกครั้งเป็นสมัยที่2 จากแจ็ก สแวกเกอร์ ในไฟเทิลโฟร์เวย์ (2010) ในการปล้ำ 4 เส้า ร่วมด้วยซีเอ็ม พังก์ และบิ๊กโชว์ แต่ครองแชมป์ได้เพียงแค่เดือนเดียวก็เสียแชมป์ให้เคน เพราะว่าหลังจากเรย์ชนะสแวกเกอร์ไปแล้ว แต่เคนกับใช้สิทธิ์กระเป๋า Money In The Bank ในสภาพที่ไม่พร้อมปล้ำและรวมทั้งขาของเรย์ที่ยังเจ็บอยู่ ทำให้พ่ายแพ้เสียแชมป์ไป ในสแมคดาวน์ เรย์ได้เอาชนะสแวกเกอร์ ได้สิทธิ์ผู้ท้าชิงอันดับ1 ในการชิงแชมป์โลกจากเคนในซัมเมอร์สแลม (2010) แต่ก็ไม่สามารถเอาแชมป์คืนมาได้ ต่อมาได้เปิดศึกกับอัลเบร์โต เดล รีโอ ซึ่งเรย์ถูกเดล รีโอเล่นงานที่แขนซ้ายจนต้องพักการปล้ำ[32][33] แต่ไม่นานเรย์ก็กลับมาเอาคืนเดล รีโอ ด้วยการเอาชนะและทำลายสถิติไร้พ่ายของเดล รีโอตั้งแต่ที่เข้ามาปล้ำใน WWE[34] ในแบรกกิ้ง ไรท์ส (2010) เรย์ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของทีมสแมคดาวน์เอาชนะทีมรอว์ได้ ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2010)ทีมของเรย์เอาชนะทีมของเดล รีโอไปได้ ในทีแอลซี (2010) เรย์ได้ปล้ำ 4 เส้ากับ เคน, เดล รีโอ และเอดจ์ ใน TLC Match ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท สุดท้ายเอดจ์เป็นฝ่ายคว้าแชมป์ไปได้ ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2011) เรย์ได้ปล้ำอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แมทช์ ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท โดยเอดจ์เจ้าของแชมป์ป้องกันไว้ได้

เรย์ได้เปิดศึกกับโคดี โรดส์และท้าเจอกันในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 โดยเรย์เป็นฝ่ายแพ้[35] ต่อมาเรย์ได้ย้ายไปอยู่รอว์ จากผลการดราฟท์ ในรอว์ 25 เมษายน ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2011)เรย์สามารถเอาชนะโคดีในแมตช์จับกดที่ไหนก็ได้และล้างแค้นโคดีได้สำเร็จ[36] ในรอว์ เรย์ได้ปล้ำสามเส้ากับเดอะมิซและอัลเบร์โต เดล รีโอ เพื่อหาผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับจอห์น ซีนา ใน I Quit Match ในโอเวอร์ เดอะ ลิมิต (2011) ซึ่งเดอะมิซเป็นฝ่ายชนะ หลังแมตช์อาร์-ทรูธได้มาลอบทำร้ายเรย์ ต่อมาเรย์ได้ขอท้าเจอกับทรูธ ในโอเวอร์เดอะลิมิต แต่เรย์ก็เป็นฝ่ายแพ้ไป[37] ในแคปิเทล พูนิชเมนท์ เรย์ได้แพ้ให้ซีเอ็ม พังก์[38] ในรอว์ 25 กรกฎาคม เรย์ได้เจอกับเดอะมิซ ผู้ชนะก็จะได้แชมป์ WWE ทันที สุดท้ายเรย์ได้เป็นผู้ชนะและคว้าแชมป์ WWE เป็นสมัยแรกมาได้สำเร็จ คืนเดียวกัน เรย์ต้องป้องกันแชมป์กับจอห์น ซีนา สุดท้ายเรย์ก็เสียแชมป์ให้กับซีนา ในรอว์ 15 สิงหาคม เรย์ได้ชิงแชมป์ WWE กับอัลเบร์โต เดล รีโอ เจ้าของตำแหน่ง สุดท้ายเรย์ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ หลังแมตช์ เดล รีโอได้ลอบทำร้ายเรย์จนได้รับบาดเจ็บ แต่ซีนาออกมาขัดขวางเอาไว้ หลังจากนั้น เรย์ก็ต้องพักการปล้ำยาวนานหลายเดือน[39] ในรอว์ 12 ธันวาคม เรย์ได้ออกมาปรากฏตัวและประกาศมอบรางวัลสแลมมีอวอร์ด ซุปเปอร์สตาร์แห่งปี ถึงแม้อาการบาดเจ็บของเรย์ยังไม่หายดี[40] วันที่ 26 เมษายน 2012 เว็บไซต์ WWE.com ได้ประกาศว่าเรย์ถูกแบนเป็นเวลา 60 วัน หลังจากไม่ผ่านการตรวจสุขภาพตามระเบียบการของสมาคม สำหรับการฝ่าฝืนระเบียบการของสมาคม ซึ่งเป็นการถูกแบนครั้งที่สองแล้ว ถ้าหากมีครั้งที่สามเมื่อไหร่ เรย์จะถูกไล่ออกในทันที[41]

ในรอว์ 16 กรกฎาคม 2012 อัลเบร์โต เดล รีโอกำลังเล่นงานแซค ไรเดอร์ ด้วยท่า Cross ArmBreaker เรย์ได้กลับมาล้างแค้นเดล รีโอด้วย 619 จนหนีไป[42] ในสแมคดาวน์ 20 กรกฎาคม เรย์ได้จับคู่กับเชมัส เจอกับเดล รีโอ และ ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ สุดท้ายเรย์กับเชมัส ชนะฟาล์ว หลังแมตช์ เดล รีโออัดเชมัสแล้วต่อด้วย Cross ArmBreaker แล้วจากไปปล่อยให้ซิกก์เลอร์เอากระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ มาใช้สิทธิ์ แต่เรย์มาใส่ท่า 619 เล่นงานใส่ซิกก์เลอร์ ช่วยเชมัสไว้ได้ เชมัสเลยใส่ท่า โบรก คิก ปิดรายการไป[43] ในรอว์ ตอนที่ 1,000 เรย์ได้จับคู่กับเชมัส และซินคารา เอาชนะเดล รีโอ, ซิกก์เลอร์ และคริส เจริโคไปได้ ในซัมเมอร์สแลม (2012) เรย์ได้ชิงแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลกับเดอะมิซ แต่เรย์ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้[44] ในรอว์ 10 กันยายน เรย์ได้แพ้ให้โคดี โรดส์ หลังแมตช์เดอะมิซขึ้นมาเยาะเย้ยเรย์ แล้วจะจับ Skull-Crushing Finale แต่โคดีเข้ามาจับมิซใส่ CrossRhodes แล้วก็หยิบเข็มขัดแชมป์อินเตอร์ขึ้นมาชู ในสแมคดาวน์ 14 กันยายน ทีโอดอร์ ลองได้จัดแมตช์ 4 เส้า เพื่อชิงแชมป์อินเตอร์ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2012) ระหว่าง เรย์, เดอะมิซ, โคดี โรดส์ และซิน คารา สุดท้ายเรย์ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้[45][46]

1 ตุลาคม เรย์กับซิน คาราชนะปรีโมและเอปีโกผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์แท็กทีม[47] สัปดาห์ต่อมาชนะไพรม์ไทม์เพลเยอส์(ไทตัส โอนีลและดาร์เรน ยัง)ผ่านเข้ารอบชิง[48] 22 ตุลาคม เรย์กับซิน คาราได้ตกรอบแพ้โคดี โรดส์และแดเมียน แซนดาว[49] 4 กุมภาพันธ์ มาร์ก เฮนรีออกมาเล่นงานเรย์กับซิน คาราด้วย World's Strongest Slam[50] 18 พฤศจิกายน เรย์ได้กลับมาช่วยซีเอ็ม พังก์และแดเนียล ไบรอันจากการรุมของเหล่าอธรรม ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2013)เรย์ได้ปล้ำประเพณี 5 ต่อ 5 แบบคัดออก จับคู่กับดิอูโซส์และโคดี โรดส์ และโกลดัสต์แพ้ให้เดอะชีลด์และเดอะเรียลอเมริกันส์ ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 30ได้ร่วมแบทเทิลรอยัลชิงรางวัลอนุสรณ์สถานอ็องเดรเดอะไจแอนต์แต่ไม่ได้ชนะ[51] ในรอว์คืนต่อมาแพ้ให้แบด นิวส์ บาร์เร็ตต์ก่อนจะหายไปอีกครั้ง

ในช่วงที่ห่างหายจากการปล้ำก็มีรายงานว่าเรย์ต้องการที่จะออกจาก WWE แต่สมาคมได้ขยายสัญญาของเรย์ออกไปอีก 1 ปี ตามเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้ในสัญญาว่าถ้าเรย์บาดเจ็บจนไม่สามารถทำงานได้เป็นเวลานาน WWE จะมีสิทธิ์ขยายสัญญาออกไปได้อีก 1 ปี[52] เรย์ได้ส่งวิดีโอไปทางสมาคม AAA TripleMania และเยี่ยมชม Lucha Underground[53][54] วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2015 เรย์ได้สิ้นสุดอายุสัญญาของเขากับ WWE แล้ว หลังจากที่ร่วมงานกันมากว่า 13 ปี[55][56][57]

เรย์ได้ทำเซอร์ไพรส์แฟนๆ WWE ด้วยการขึ้นปล้ำแบบเฉพาะกิจเข้าร่วมแมตช์รอยัลรัมเบิล (2018)เป็นคนที่27 และอยู่ถึง5คนสุดท้ายก่อนถูกฟิน บาเลอร์เหวี่ยงออกจากเวที[58] ในเกรเทสต์ รอยัลรัมเบิลเรย์ได้เข้าร่วมเป็นคนที่28 ก่อนถูกแบรอน คอร์บินเหวี่ยงออกจากเวที[59] วันที่ 19 กันยายน 2018 มีการคอนเฟิร์มว่าเรย์ได้เซ็นสัญญาระยะยาวกับ WWE ใน SmackDown ตอนที่ 1000 วันที่ 16 ตุลาคม เรย์ได้มีแมตช์เอาชนะ Shinsuke Nakamura ไปได้ในการคัดเลือก WWE World Cup[60] แต่ก็ตกรอบ Semi-Final ในศึก WWE Crown Jewel[61] ในเดือนเมษายน 2019 เรย์ได้ย้ายมาสังกัดรอว์ในตอน Superstar Shake-up และได้คว้าแชมป์ยูเอสสมัยแรกจากซามัว โจทำให้เรย์เป็นแชมป์แกรนสแลมของ WWE คนที่ 21[62] ในศึก WrestleMania Backlash ปี 2021 เรย์ได้ร่วมปล้ำแท็กทีมกับดอมินิก มิสเตริโอลูกชายของเขาเพื่อชิงแชมป์สแมคดาวน์แท็กทีม WWEกับดอล์ฟ ซิกก์เลอร์และรอเบิร์ต รู้ดและสามารถคว้าได้เป็นพ่อลูกคู่แรกในประวัติศาสตร์ WWE ที่ได้แชมป์แท็กทีมร่วมกัน[63]

ในปี 2022 เรย์ได้ถูกดอมินิกลูกชายของเขาหักหลังกลายเป็นอธรรมและไปอยู่กลุ่ม The Judgment Day[64] ทำให้เรย์ต้องย้ายไปอยู่สแมคดาวน์เพื่อหนีจากดอมินิก[65] แต่ก็ไม่วายยังถูกดอมินิกและกลุ่มของเขาตามมารังควานตลอด[66][67][68] และถูกดอมินิกท้าเจอกันในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 39 โดยเรย์รับคำท้า[69] โดยเรย์สามารถเอาชนะไปได้จากการช่วยเหลือของแบดบันนี ในสแมคดาวน์ 11 สิงหาคม 2023 ได้คว้าแชมป์ยูเอสจากออสติน เธียรีเป็นสมัยที่ 3 ก่อนเสียให้โลแกน พอล และเขาเป็นหนึ่งในนักมวยปล้ำที่ดีที่สุดตลอดกาล

ผลงานอื่นๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม Television, Year ...
Television
Year Title Role Notes
2021–present Booyaka! Rey Mysterio vs. The Darkness Himself (voice)
ปิด

วิดีโอเกมส์

ข้อมูลเพิ่มเติม WCW Video games, Year ...
WCW Video games
Year Title Notes
1997 WCW vs. nWo: World Tour Video game debut
1998 WCW Nitro
WCW/nWo Revenge
1999 WCW/nWo Thunder
WCW Mayhem
2000 WCW Backstage Assault
ปิด
ข้อมูลเพิ่มเติม WWE Video games, Year ...
WWE Video games
Year Title Notes
2003 WWE WrestleMania XIX Video game debut
WWE Raw 2
WWE SmackDown! Here Comes The Pain Cover athlete
2004 WWE Day of Reckoning
WWE Survivor Series Cover athlete
WWE SmackDown! vs. Raw
2005 WWE WrestleMania 21
WWE Day of Reckoning 2
WWE SmackDown! vs. Raw 2006
2006 WWE SmackDown vs. Raw 2007 Cover athlete
2007 WWE SmackDown vs. Raw 2008
2008 WWE SmackDown vs. Raw 2009
2009 WWE SmackDown vs. Raw 2010 Cover athlete
2010 WWE SmackDown vs. Raw 2011
2011 WWE All Stars Cover athlete
WWE '12
2012 WWE '13
2013 WWE 2K14
2014 WWE 2K15
2018 WWE 2K19 As pre-order bonus[70]
2019 WWE 2K20
2020 WWE 2K Battlegrounds
2022 WWE 2K22 Cover athlete[71]
2023 WWE 2K23
ปิด

แชมป์และรางวัล

สิ่งเดิมพันต่างๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม สิ่งที่เดิมพัน, ผู้ชนะ ...
สิ่งที่เดิมพัน ผู้ชนะ ผู้แพ้ สถานที่ วันที่ หมายเหตุ
Rey Misterio Jr. (mask)Mr. Cóndor (mask)Acapulco, GuerreroLive event14 สิงหาคม 1992[98]
Rey Misterio Jr. (mask)Rocco Valente (hair)Tampico, TamaulipasLive event18 ตุลาคม 1992[98]
Rey Misterio Jr. (mask)Tony Arce (hair)Acapulco, GuerreroLive event6 พฤศจิกายน 1992[98]
Rey Mysterio Jr. (mask)El Bandido (mask)Querétaro City, QuerétaroLive event28 พฤษภาคม 1993[Note 1][98]
Rey Misterio Jr. (mask)Vulcano (hair)Monterrey, Nuevo LeónLive event11 กันยายน 1993[98]
Rey Misterio Jr. (mask)Misterioso (mask)Tijuana, Baja CaliforniaLive event19 ธันวาคม 1996[98][99]
Rey Misterio Jr. (mask)Eddie Guerrero (championship)Las Vegas, NevadaHalloween Havoc26 ตุลาคม 1997[98]
Kevin Nash and Scott Hall (hair[Note 2])Rey Misterio Jr. (mask) and KonnanOakland, CaliforniaSuperBrawl IX21 กุมภาพันธ์ 1999[98]
Rey Mysterio (championship)John "Bradshaw" Layfield (brand contract)Bakersfield, CaliforniaSmackDown!26 พฤษภาคม 2006
Rey Mysterio (mask)Chris Jericho (championship)Sacramento, CaliforniaThe Bash28 มิถุนายน 2009
Rey Mysterio
(stable pledge)
CM Punk (hair)Detroit, MichiganOver the Limit23 พฤษภาคม 2010[100]
ปิด
  1. Three way match that also involved Ángel Mortal.
  2. Manager Elizabeth's hair.

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Wikiwand in your browser!

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.

Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.