ออสการ์ เกอติเอเรส์ รูบีโอ (Oscar Gutierrez Rubio)[1] เกิด 11 ธันวาคม ค.ศ. 1974 ที่ แซนดีเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นนักมวยปล้ำอาชีพชาวอเมริกันที่รู้จักกันดีในชื่อ เรย์ มิสเตริโอ (Rey Mysterio)[11][12][13][14] เป็นแชมป์โลก WWE 3 สมัยและได้รับการเสนอชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศ WWE Hall of Fame ประจำปี 2023[15]
เรย์ มิสเตริโอ | |
---|---|
ชื่อเกิด | Óscar Gutiérrez[1][2] |
เกิด | [3] Chula Vista, California, United States[4] | ธันวาคม 11, 1974
คู่สมรส | Angie Gutierrez (สมรส 1996) |
บุตร | 2 |
ญาติพี่น้อง | Rey Misterio (uncle) El Hijo de Rey Misterio (cousin) |
ประวัติมวยปล้ำอาชีพ | |
ชื่อบนสังเวียน | Colibrí[5][5] El Nino[6] La Lagartija Verde Rey Misterio II[6] Rey Misterio Jr.[7] Rey Mysterio Jr.[8][5] Rey Mysterio |
ส่วนสูง | 5 ฟุต 6 นิ้ว (168 เซนติเมตร)[9] |
น้ำหนัก | 175 ปอนด์ (79 กิโลกรัม)[9] |
มาจาก | San Diego, California[9] |
ฝึกหัดโดย | Rey Misterio[5] |
เปิดตัว | April 30, 1989[10] |
ประวัติ
เรย์เป็นนักมวยปล้ำอาชีพชาวอเมริกันเชื้อสายเม็กซิกัน เขาเป็นนักมวยปล้ำตัวเล็กที่สามารถเอาชนะนักมวยปล้ำที่ตัวใหญ่กว่าได้ด้วยท่าลีลาการปล้ำสไตล์เม็กซิกัน มีท่าทางผาดโผนได้หลายรูปแบบ ทำเอาคนดูลุ้นไปตามๆกัน
เขาพูดภาษาอังกฤษ และภาษาสเปน ได้ เพลงเปิดตัวจึงเป็น ภาษาสเปน เป็นส่วนใหญ่ (บางเวอร์ชันเป็นภาษาอังกฤษแบบเม็กซิกัน)
- ท่าไม้ตาย : 619 (ซิก-วัน-ไนน์ ตั้งตามรหัสพื้นที่ของเมือง ซานดีเอโก), West Coast Pop
- บ้านเกิด : แซนดีเอโก, รัฐแคลิฟอร์เนีย
- เชื้อสาย : เม็กซิกัน
- ภาษา : อังกฤษ, ประเทศอยุธยา
- น้ำหนัก : 155 ปอนด์
- ส่วนสูง : 168 เซนติเมตร (5 ฟุต 6 นิ้ว)
เรย์ได้ปล้ำใน WWE ครั้งแรก เมื่อปี 2002 กับชาโว เกร์เรโร เขาก็เอาชนะได้สำเร็จ[16] ปี 2003 เรย์ได้มีโอกาสชิงแชมป์ครูย์เซอร์เวทจากแมทท์ ฮาร์ดีอยู่หลายครั้ง โดยผ่านด่านทดสอบของแมทท์คือการที่จะต้องปล้ำแบบ 2 รุม 1 โดยมีแชนอน มัวร์ กับแครช ฮอลลี ลูกน้องคู่ V1 ของแมทท์ แต่เรย์ก็เอาชนะได้ทั้งที่บาดเจ็บเส้นเอ็นพลิกที่ต้นขา[17] ปี 2005 เรย์ได้คว้าแชมป์แท็กทีม WWE ร่วมกับเอ็ดดี เกร์เรโร แต่ไม่นานก็แตกทีมกันและได้กลายเป็นศัตรูกัน ซึ่งได้ปล้ำกันอยู่หลายต่อหลายแมตช์ เรย์ก็เอาชนะไปได้ทุกครั้ง เมื่อเอ็ดดีไม่มีหนทางที่จะชนะจึงออกมาแฉว่าลูกชายของเรย์คือโดมินิกว่าไม่ใช่ลูกของเรย์ แต่เป็นลูกของเอ็ดดี และได้มีเรื่องกับเรย์จนยาวนาน สุดท้ายเรย์ก็เอาชนะเอ็ดดีมาได้ ในแมตช์ชิงการเป็นผู้ปกครองของโดมินิก ในซัมเมอร์สแลม 2005 เรย์ก็เอาชนะมาได้อีกครั้ง ก่อนที่จะแพ้ให้กับเอ็ดดีเป็นครั้งแรกในแมตซ์กรงเหล็กในสแมคดาวน์ เนื่องจากเรย์ไม่สามารถใช้ท่าไม้ตาย 619 ได้ เพราะติดกรงเหล็ก
เรย์ได้เป็นความหวังของตระกูลเกร์เรโรที่จะได้เป็นแชมป์โลกคนต่อไป หลังจากที่เอ็ดดีได้เสียชีวิตลง เนื่องจากเรย์เป็นนักมวยปล้ำชาวอเมริกันเชื้อสายเม็กซิกันที่ยังมีผลงานที่ดีอยู่ เรย์จึงเอาชนะทริปเปิลเอชและแรนดี ออร์ตันในแมตช์รอยัลรัมเบิล (2006) โดยอยู่บนเวทีได้นานถึง 62 นาที[18] ทำให้ได้ไปท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22 และเอาชนะเคิร์ต แองเกิลกับแรนดี ออร์ตัน คว้าแชมป์โลกสมัยแรกได้สำเร็จ[19] ในเดอะเกรทอเมริกันแบช 2006 เรย์ก็เสียแชมป์ให้บูเกอร์ ที จากการหักหลังของชาโว และในเดือนตุลาคม ทั้งคู่ได้เจอกันใน I Quit Match ผลปรากฏว่าชาโวได้จับเรย์แขวนไว้กับเสาเหล็กและใช้เก้าอี้ตีเข่าเรย์จนต้องตะโกนยอมแพ้[20] หลังจากนั้นเรย์ก็ต้องพักการปล้ำไปนานเกือบปีจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า[21] สุดท้ายเรย์ก็กลับมาแก้แค้นได้สำเร็จด้วยการเอาชนะชาโวได้อีกครั้งในซัมเมอร์สแลม 2007[22] ต่อมาเรย์ได้เปิดศึกท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทจากเอดจ์ ถึง 2 ครั้ง เนื่องจากวิกกี เกร์เรโรกับเคิร์ต ฮอว์กินส์และแซค ไรเดอร์ พยายามที่จะรบกวนการปล้ำอยู่เสมอ[23] แถมมีอารการปวดกล้ามเนื้อไบเส็บด้วย ทำให้มีอุปสรรคในการปล้ำมากขึ้นซ้ำร้าย บิ๊กโชว์ออกมาทำร้ายอีก จนทำให้เรย์ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาเป็นการด่วน[24][25] ในช่วงเดือนมิถุนายน เรย์ได้กลับมาอีกครั้งหลังจากรักษาแผลกล้ามเนื้อหายดีแล้ว เขาก็ถูกดราฟท์ไปสังกัดรอว์ในทันที[26]
ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25 เรย์สามารถคว้าแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลได้จากเจบีแอล โดยใช้เวลาเพียง 21 วินาทีเท่านั้น[27] ในเดือนพฤษภาคม 2009 เรย์ก็ได้ถูกดราฟท์กลับมาที่สแมคดาวน์[28] และเสียแชมป์อินเตอร์ให้คริส เจริโคในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2009) โดยถูกเจริโคใช้กลโกงดึงหน้ากากของเรย์ออกมา ในเดอะแบช (2009)เรย์ก็เอาแชมป์คืนจากเจริโคได้ ก่อนเสียแชมป์ในสแมคดาวน์เดือนกันยายนต่อมา ในแบรกกิ้ง ไรท์ส (2009) เรย์ได้ปล้ำแมตช์ 4 เส้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทจากดิอันเดอร์เทเกอร์ร่วมด้วยบาทิสตาและซีเอ็ม พังก์ ซึ่งอันเดอร์เทเกอร์เป็นฝ่ายป้องกันแชมป์ไว้ได้ ทำให้บาทิสตาโมโหจึงทำร้ายเรย์ จากนั้นก็ประกาศตัดเพื่อนกับเรย์และกลายเป็นฝ่ายอธรรม[29] ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2009) เรย์ได้เจอกับบาทิสตาและผลปรากฏว่าบาทิสตาเป็นฝ่ายชนะ หลังจากนั้นเรย์ก็จัดการกับบาทิสตา และเอาชนะมาได้ในระยะหลัง และขัดขวางไม่ให้บาทิสตาได้ชิงแชมป์โลกกับคนอื่นอีกด้วย[30] ต่อมาเรย์ได้เปิดศึกกับซีเอ็ม พังก์ และท้าเจอกันในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26 เรย์ก็เอาชนะมาได้ และได้รีแมตช์กันในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2010) โดยถ้าเรย์ชนะ พังก์ต้องโดนตัดผม แต่เรย์ก็แพ้ไป ในโอเวอร์เดอะลิมิต (2010) เรย์ได้เจอกับพังก์อีกครั้ง โดยถ้าเรย์ชนะ พังก์ต้องโดนตัดผม แต่ถ้าเรย์แพ้ต้องเข้ามาอยู่กลุ่มสเตรจต์เอดจ์โซไซตี้ สุดท้ายเรย์เป็นฝ่ายชนะและตัดผมของพังก์จนหัวล้าน[31]
เรย์ได้คว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวทอีกครั้งเป็นสมัยที่2 จากแจ็ก สแวกเกอร์ ในไฟเทิลโฟร์เวย์ (2010) ในการปล้ำ 4 เส้า ร่วมด้วยซีเอ็ม พังก์ และบิ๊กโชว์ แต่ครองแชมป์ได้เพียงแค่เดือนเดียวก็เสียแชมป์ให้เคน เพราะว่าหลังจากเรย์ชนะสแวกเกอร์ไปแล้ว แต่เคนกับใช้สิทธิ์กระเป๋า Money In The Bank ในสภาพที่ไม่พร้อมปล้ำและรวมทั้งขาของเรย์ที่ยังเจ็บอยู่ ทำให้พ่ายแพ้เสียแชมป์ไป ในสแมคดาวน์ เรย์ได้เอาชนะสแวกเกอร์ ได้สิทธิ์ผู้ท้าชิงอันดับ1 ในการชิงแชมป์โลกจากเคนในซัมเมอร์สแลม (2010) แต่ก็ไม่สามารถเอาแชมป์คืนมาได้ ต่อมาได้เปิดศึกกับอัลเบร์โต เดล รีโอ ซึ่งเรย์ถูกเดล รีโอเล่นงานที่แขนซ้ายจนต้องพักการปล้ำ[32][33] แต่ไม่นานเรย์ก็กลับมาเอาคืนเดล รีโอ ด้วยการเอาชนะและทำลายสถิติไร้พ่ายของเดล รีโอตั้งแต่ที่เข้ามาปล้ำใน WWE[34] ในแบรกกิ้ง ไรท์ส (2010) เรย์ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของทีมสแมคดาวน์เอาชนะทีมรอว์ได้ ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2010)ทีมของเรย์เอาชนะทีมของเดล รีโอไปได้ ในทีแอลซี (2010) เรย์ได้ปล้ำ 4 เส้ากับ เคน, เดล รีโอ และเอดจ์ ใน TLC Match ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท สุดท้ายเอดจ์เป็นฝ่ายคว้าแชมป์ไปได้ ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2011) เรย์ได้ปล้ำอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แมทช์ ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท โดยเอดจ์เจ้าของแชมป์ป้องกันไว้ได้
เรย์ได้เปิดศึกกับโคดี โรดส์และท้าเจอกันในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27 โดยเรย์เป็นฝ่ายแพ้[35] ต่อมาเรย์ได้ย้ายไปอยู่รอว์ จากผลการดราฟท์ ในรอว์ 25 เมษายน ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2011)เรย์สามารถเอาชนะโคดีในแมตช์จับกดที่ไหนก็ได้และล้างแค้นโคดีได้สำเร็จ[36] ในรอว์ เรย์ได้ปล้ำสามเส้ากับเดอะมิซและอัลเบร์โต เดล รีโอ เพื่อหาผู้ท้าชิงอันดับ 1 ในการชิงแชมป์ WWE กับจอห์น ซีนา ใน I Quit Match ในโอเวอร์ เดอะ ลิมิต (2011) ซึ่งเดอะมิซเป็นฝ่ายชนะ หลังแมตช์อาร์-ทรูธได้มาลอบทำร้ายเรย์ ต่อมาเรย์ได้ขอท้าเจอกับทรูธ ในโอเวอร์เดอะลิมิต แต่เรย์ก็เป็นฝ่ายแพ้ไป[37] ในแคปิเทล พูนิชเมนท์ เรย์ได้แพ้ให้ซีเอ็ม พังก์[38] ในรอว์ 25 กรกฎาคม เรย์ได้เจอกับเดอะมิซ ผู้ชนะก็จะได้แชมป์ WWE ทันที สุดท้ายเรย์ได้เป็นผู้ชนะและคว้าแชมป์ WWE เป็นสมัยแรกมาได้สำเร็จ คืนเดียวกัน เรย์ต้องป้องกันแชมป์กับจอห์น ซีนา สุดท้ายเรย์ก็เสียแชมป์ให้กับซีนา ในรอว์ 15 สิงหาคม เรย์ได้ชิงแชมป์ WWE กับอัลเบร์โต เดล รีโอ เจ้าของตำแหน่ง สุดท้ายเรย์ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้ หลังแมตช์ เดล รีโอได้ลอบทำร้ายเรย์จนได้รับบาดเจ็บ แต่ซีนาออกมาขัดขวางเอาไว้ หลังจากนั้น เรย์ก็ต้องพักการปล้ำยาวนานหลายเดือน[39] ในรอว์ 12 ธันวาคม เรย์ได้ออกมาปรากฏตัวและประกาศมอบรางวัลสแลมมีอวอร์ด ซุปเปอร์สตาร์แห่งปี ถึงแม้อาการบาดเจ็บของเรย์ยังไม่หายดี[40] วันที่ 26 เมษายน 2012 เว็บไซต์ WWE.com ได้ประกาศว่าเรย์ถูกแบนเป็นเวลา 60 วัน หลังจากไม่ผ่านการตรวจสุขภาพตามระเบียบการของสมาคม สำหรับการฝ่าฝืนระเบียบการของสมาคม ซึ่งเป็นการถูกแบนครั้งที่สองแล้ว ถ้าหากมีครั้งที่สามเมื่อไหร่ เรย์จะถูกไล่ออกในทันที[41]
ในรอว์ 16 กรกฎาคม 2012 อัลเบร์โต เดล รีโอกำลังเล่นงานแซค ไรเดอร์ ด้วยท่า Cross ArmBreaker เรย์ได้กลับมาล้างแค้นเดล รีโอด้วย 619 จนหนีไป[42] ในสแมคดาวน์ 20 กรกฎาคม เรย์ได้จับคู่กับเชมัส เจอกับเดล รีโอ และ ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ สุดท้ายเรย์กับเชมัส ชนะฟาล์ว หลังแมตช์ เดล รีโออัดเชมัสแล้วต่อด้วย Cross ArmBreaker แล้วจากไปปล่อยให้ซิกก์เลอร์เอากระเป๋ามันนีอินเดอะแบงก์ มาใช้สิทธิ์ แต่เรย์มาใส่ท่า 619 เล่นงานใส่ซิกก์เลอร์ ช่วยเชมัสไว้ได้ เชมัสเลยใส่ท่า โบรก คิก ปิดรายการไป[43] ในรอว์ ตอนที่ 1,000 เรย์ได้จับคู่กับเชมัส และซินคารา เอาชนะเดล รีโอ, ซิกก์เลอร์ และคริส เจริโคไปได้ ในซัมเมอร์สแลม (2012) เรย์ได้ชิงแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลกับเดอะมิซ แต่เรย์ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้[44] ในรอว์ 10 กันยายน เรย์ได้แพ้ให้โคดี โรดส์ หลังแมตช์เดอะมิซขึ้นมาเยาะเย้ยเรย์ แล้วจะจับ Skull-Crushing Finale แต่โคดีเข้ามาจับมิซใส่ CrossRhodes แล้วก็หยิบเข็มขัดแชมป์อินเตอร์ขึ้นมาชู ในสแมคดาวน์ 14 กันยายน ทีโอดอร์ ลองได้จัดแมตช์ 4 เส้า เพื่อชิงแชมป์อินเตอร์ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2012) ระหว่าง เรย์, เดอะมิซ, โคดี โรดส์ และซิน คารา สุดท้ายเรย์ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้[45][46]
1 ตุลาคม เรย์กับซิน คาราชนะปรีโมและเอปีโกผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์แท็กทีม[47] สัปดาห์ต่อมาชนะไพรม์ไทม์เพลเยอส์(ไทตัส โอนีลและดาร์เรน ยัง)ผ่านเข้ารอบชิง[48] 22 ตุลาคม เรย์กับซิน คาราได้ตกรอบแพ้โคดี โรดส์และแดเมียน แซนดาว[49] 4 กุมภาพันธ์ มาร์ก เฮนรีออกมาเล่นงานเรย์กับซิน คาราด้วย World's Strongest Slam[50] 18 พฤศจิกายน เรย์ได้กลับมาช่วยซีเอ็ม พังก์และแดเนียล ไบรอันจากการรุมของเหล่าอธรรม ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2013)เรย์ได้ปล้ำประเพณี 5 ต่อ 5 แบบคัดออก จับคู่กับดิอูโซส์และโคดี โรดส์ และโกลดัสต์แพ้ให้เดอะชีลด์และเดอะเรียลอเมริกันส์ ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 30ได้ร่วมแบทเทิลรอยัลชิงรางวัลอนุสรณ์สถานอ็องเดรเดอะไจแอนต์แต่ไม่ได้ชนะ[51] ในรอว์คืนต่อมาแพ้ให้แบด นิวส์ บาร์เร็ตต์ก่อนจะหายไปอีกครั้ง
ในช่วงที่ห่างหายจากการปล้ำก็มีรายงานว่าเรย์ต้องการที่จะออกจาก WWE แต่สมาคมได้ขยายสัญญาของเรย์ออกไปอีก 1 ปี ตามเงื่อนไขที่ระบุเอาไว้ในสัญญาว่าถ้าเรย์บาดเจ็บจนไม่สามารถทำงานได้เป็นเวลานาน WWE จะมีสิทธิ์ขยายสัญญาออกไปได้อีก 1 ปี[52] เรย์ได้ส่งวิดีโอไปทางสมาคม AAA TripleMania และเยี่ยมชม Lucha Underground[53][54] วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2015 เรย์ได้สิ้นสุดอายุสัญญาของเขากับ WWE แล้ว หลังจากที่ร่วมงานกันมากว่า 13 ปี[55][56][57]
เรย์ได้ทำเซอร์ไพรส์แฟนๆ WWE ด้วยการขึ้นปล้ำแบบเฉพาะกิจเข้าร่วมแมตช์รอยัลรัมเบิล (2018)เป็นคนที่27 และอยู่ถึง5คนสุดท้ายก่อนถูกฟิน บาเลอร์เหวี่ยงออกจากเวที[58] ในเกรเทสต์ รอยัลรัมเบิลเรย์ได้เข้าร่วมเป็นคนที่28 ก่อนถูกแบรอน คอร์บินเหวี่ยงออกจากเวที[59] วันที่ 19 กันยายน 2018 มีการคอนเฟิร์มว่าเรย์ได้เซ็นสัญญาระยะยาวกับ WWE ใน SmackDown ตอนที่ 1000 วันที่ 16 ตุลาคม เรย์ได้มีแมตช์เอาชนะ Shinsuke Nakamura ไปได้ในการคัดเลือก WWE World Cup[60] แต่ก็ตกรอบ Semi-Final ในศึก WWE Crown Jewel[61] ในเดือนเมษายน 2019 เรย์ได้ย้ายมาสังกัดรอว์ในตอน Superstar Shake-up และได้คว้าแชมป์ยูเอสสมัยแรกจากซามัว โจทำให้เรย์เป็นแชมป์แกรนสแลมของ WWE คนที่ 21[62] ในศึก WrestleMania Backlash ปี 2021 เรย์ได้ร่วมปล้ำแท็กทีมกับดอมินิก มิสเตริโอลูกชายของเขาเพื่อชิงแชมป์สแมคดาวน์แท็กทีม WWEกับดอล์ฟ ซิกก์เลอร์และรอเบิร์ต รู้ดและสามารถคว้าได้เป็นพ่อลูกคู่แรกในประวัติศาสตร์ WWE ที่ได้แชมป์แท็กทีมร่วมกัน[63]
ในปี 2022 เรย์ได้ถูกดอมินิกลูกชายของเขาหักหลังกลายเป็นอธรรมและไปอยู่กลุ่ม The Judgment Day[64] ทำให้เรย์ต้องย้ายไปอยู่สแมคดาวน์เพื่อหนีจากดอมินิก[65] แต่ก็ไม่วายยังถูกดอมินิกและกลุ่มของเขาตามมารังควานตลอด[66][67][68] และถูกดอมินิกท้าเจอกันในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 39 โดยเรย์รับคำท้า[69] โดยเรย์สามารถเอาชนะไปได้จากการช่วยเหลือของแบดบันนี ในสแมคดาวน์ 11 สิงหาคม 2023 ได้คว้าแชมป์ยูเอสจากออสติน เธียรีเป็นสมัยที่ 3 ก่อนเสียให้โลแกน พอล และเขาเป็นหนึ่งในนักมวยปล้ำที่ดีที่สุดตลอดกาล
ผลงานอื่นๆ
Television | |||
---|---|---|---|
Year | Title | Role | Notes |
2021–present | Booyaka! Rey Mysterio vs. The Darkness | Himself (voice) |
วิดีโอเกมส์
WCW Video games | |||
---|---|---|---|
Year | Title | Notes | |
1997 | WCW vs. nWo: World Tour | Video game debut | |
1998 | WCW Nitro | ||
WCW/nWo Revenge | |||
1999 | WCW/nWo Thunder | ||
WCW Mayhem | |||
2000 | WCW Backstage Assault |
WWE Video games | |||
---|---|---|---|
Year | Title | Notes | |
2003 | WWE WrestleMania XIX | Video game debut | |
WWE Raw 2 | |||
WWE SmackDown! Here Comes The Pain | Cover athlete | ||
2004 | WWE Day of Reckoning | ||
WWE Survivor Series | Cover athlete | ||
WWE SmackDown! vs. Raw | |||
2005 | WWE WrestleMania 21 | ||
WWE Day of Reckoning 2 | |||
WWE SmackDown! vs. Raw 2006 | |||
2006 | WWE SmackDown vs. Raw 2007 | Cover athlete | |
2007 | WWE SmackDown vs. Raw 2008 | ||
2008 | WWE SmackDown vs. Raw 2009 | ||
2009 | WWE SmackDown vs. Raw 2010 | Cover athlete | |
2010 | WWE SmackDown vs. Raw 2011 | ||
2011 | WWE All Stars | Cover athlete | |
WWE '12 | |||
2012 | WWE '13 | ||
2013 | WWE 2K14 | ||
2014 | WWE 2K15 | ||
2018 | WWE 2K19 | As pre-order bonus[70] | |
2019 | WWE 2K20 | ||
2020 | WWE 2K Battlegrounds | ||
2022 | WWE 2K22 | Cover athlete[71] | |
2023 | WWE 2K23 |
แชมป์และรางวัล
- Asistencia Asesoría y Administración / Lucha Libre AAA Worldwide
- Catch Wrestling Europe
- CWE World Grand Prix (2017)[76]
- Cauliflower Alley Club
- Lucha Libre Award (2020)[77]
- The Crash
- The Crash Heavyweight Championship (1 time)[78]
- DDT Pro-Wrestling
- Ironman Heavymetalweight Championship (1 time)[79]
- Destiny World Wrestling
- Hollywood Heavyweight Wrestling
- HHW Light Heavyweight Championship (1 time)[82]
- International Wrestling All-Stars
- Lucha Underground
- Lucha Underground Trios Championship (1 time) – with Dragon Azteca Jr. and Prince Puma[84]
- Pro Wrestling Illustrated
- World Championship Wrestling[86]
- WCW Cruiserweight Championship (5 times)[12]
- WCW Cruiserweight Tag Team Championship (1 time) – with Billy Kidman[13]
- WCW World Tag Team Championship (3 times) – with Billy Kidman (1), Konnan (1), and Juventud Guerrera (1)[14]
- World Wrestling Association
- World Wrestling Council
- WWC World Junior Heavyweight Championship (1 time)[89]
- World Wrestling Entertainment/WWE
- WWE Championship (1 time)[90]
- World Heavyweight Championship (2 times)[91]
- WWE Intercontinental Championship (2 times)[92][93]
- WWE United States Championship (3 times)[94]
- WWE Cruiserweight Championship (3 times)[12]
- WWE Tag Team Championship (4 times) – with Edge (1), Rob Van Dam (1), Eddie Guerrero (1), and Batista (1)[95]
- WWE SmackDown Tag Team Championship (1 time) – with Dominik Mysterio[96]
- Royal Rumble (2006)
- WWE Hall of Fame (2023)
- Bragging Rights Trophy (2010) – with Team SmackDown (Big Show, Jack Swagger, Alberto Del Rio, Edge, Tyler Reks and Kofi Kingston)
- 21st Triple Crown Champion
- 21st Grand Slam Champion
- Bumpy Award (1 time)
- Tag Team of the Half-Year (2021) - with Dominik Mysterio[97]
- Wrestling Observer Newsletter
- Best Flying Wrestler (1995–1997, 2002–2004)
- Best Wrestling Maneuver (1995) Flip dive into a frankensteiner on the floor
- Match of the Year (2002) with Edge vs. Chris Benoit and Kurt Angle, for the WWE Tag Team Championship, WWE No Mercy, October 20
- Most Outstanding Wrestler (1996)
- Rookie of the Year (1992)
- Worst Feud of the Year (2008) with Kane
- Wrestling Observer Newsletter Hall of Fame (Class of 2010)
สิ่งเดิมพันต่างๆ
สิ่งที่เดิมพัน | ผู้ชนะ | ผู้แพ้ | สถานที่ | วันที่ | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|
Rey Misterio Jr. (mask) | Mr. Cóndor (mask) | Acapulco, Guerrero | Live event | 14 สิงหาคม 1992 | [98] |
Rey Misterio Jr. (mask) | Rocco Valente (hair) | Tampico, Tamaulipas | Live event | 18 ตุลาคม 1992 | [98] |
Rey Misterio Jr. (mask) | Tony Arce (hair) | Acapulco, Guerrero | Live event | 6 พฤศจิกายน 1992 | [98] |
Rey Mysterio Jr. (mask) | El Bandido (mask) | Querétaro City, Querétaro | Live event | 28 พฤษภาคม 1993 | [Note 1][98] |
Rey Misterio Jr. (mask) | Vulcano (hair) | Monterrey, Nuevo León | Live event | 11 กันยายน 1993 | [98] |
Rey Misterio Jr. (mask) | Misterioso (mask) | Tijuana, Baja California | Live event | 19 ธันวาคม 1996 | [98][99] |
Rey Misterio Jr. (mask) | Eddie Guerrero (championship) | Las Vegas, Nevada | Halloween Havoc | 26 ตุลาคม 1997 | [98] |
Kevin Nash and Scott Hall (hair[Note 2]) | Rey Misterio Jr. (mask) and Konnan | Oakland, California | SuperBrawl IX | 21 กุมภาพันธ์ 1999 | [98] |
Rey Mysterio (championship) | John "Bradshaw" Layfield (brand contract) | Bakersfield, California | SmackDown! | 26 พฤษภาคม 2006 | |
Rey Mysterio (mask) | Chris Jericho (championship) | Sacramento, California | The Bash | 28 มิถุนายน 2009 | |
Rey Mysterio (stable pledge) | CM Punk (hair) | Detroit, Michigan | Over the Limit | 23 พฤษภาคม 2010 | [100] |
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand in your browser!
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.