Loading AI tools
ในที่นี้หมายความถึงอาหารเสริม จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สไปรูไลนา เป็นอาหารของมนุษย์และสัตว์หรือเป็นอาหารเสริมซึ่งผลิตจากสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินสองชนิด คือ Arthrospira platensis และ Arthrospira maxima
Arthrospira พบปลูกทั่วโลก และใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในมนุษย์ เช่นเดียวกับเป็นอาหาร และพบได้ทั้งในรูปเม็ด แผ่นและผง มันยังใช้เป็นสารเสริมอาหารสัตว์ในการเลี้ยงสัตว์น้ำ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและอุตสาหกรรมสัตว์ปีก[1]
สปีชีส์ maxima และ platensis เคยถูกจัดอยู่ในจีนัส สไปรูไลนา ปัจจุบันตกลงกันว่าพวกมันแท้จริงแล้วอยู่ในจีนัส Arthrospira แต่ถึงแม้กระนั้น ยังค่อนข้างน่าสงสัยอยู่ว่า คำ "สไปรูไลนา" เดิม ยังใช้กันอยู่ด้วยเหตุผลทางประวัติศาสตร์[1][2]
สไปรูไลนาเป็นแหล่งอาหารของชาวแอซเท็กและอารยธรรมเมโสอเมริกาอื่นกระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 16 สไปรูไลนาพบได้ดาษดื่นที่ทะเลสาบเตซโกโก (Lake Texcoco) โดยนักวิจัยชาวฝรั่งเศสในคริสต์ทศวรรษ 1960 แต่ไม่มีการอ้างอิงถึงประเด็นที่ว่ามันเป็นแหล่งอาหารประจำวันหลังคริสต์ศตวรรษที่ 16[2] แหล่งผลิตสไปรูไลนาขนาดใหญ่แห่งแรก ดำเนินการโดยโซซา เทซโกโก (Sosa Texcoco) ก่อตั้งขึ้นที่ทะเลสาบต้นคริสต์ทศวรรษ 1970[1]
สไปรูไลนายังอาจมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่านี้ในชาด โดยสืบย้อนไปได้ไกลถึงคริสต์ศตวรรษที่ 9 มันยังคงใช้ในชีวิตประจำวันในปัจจุบัน โดยถูกทำให้แห้งเป็นก้อนเรียกว่า dihé ซึ่งถูกใช้ทำซุปสำหรับมื้ออาหาร และขายในตลาด สไปรูไลนายังถูกเก็บเกี่ยวจากทะเลสาบและสระน้ำขนาดเล็กรอบทะเลสาบชาด[3]
สไปรูไลนาที่ถูกเพาะส่วนใหญ่กระทำในระบบน้ำวนทางเปิด (open-channel raceway pond) โดยมีใบจักรคอยกวนน้ำ ผู้ผลิตสไปรูไลนาเชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดอยู่ในสหรัฐอเมริกา ไทย อินเดีย ไต้หวัน จีน ปากีสถาน พม่า และชิลี[1]
สไปรูไลนามีโปรตีนอยู่ราว 60% (51-71%)[4] ในสไปรูไลนามีโปรตีนที่มีกรดอะมิโนจำเป็นทุกชนิด แม้ว่าจะมีปริมาณเมไทโอนีน ซีสเตอีนและไลซีนเมื่อเทียบกับโปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์ ไข่และนม อย่างไรก็ตาม สไปรูไลนาเหนือกว่าโปรตีนพืชตัวอย่าง อย่างเช่นที่ได้จากพืชตระกูลถั่ว (legume)[2][5] ในภาพรวม ขณะที่สไปรูไลนามักถูกโฆษณาว่าเป็นแหล่งโปรตีนที่ยอดเยี่ยม แต่มันก็ไม่ได้ดีไปกว่านมหรือเนื้อสัตว์ (เว้นเสียแต่มันมีโปรตีนที่มีกรดอะมิโนจำเป็นครบ) และเป็นโปรตีนที่ราคาต่อกรัมแพงกว่าโปรตีนแหล่งอื่นอย่างน้อย 30 เท่า[6]
สไปรูไลนาไม่ถูกมองว่าเป็นแหล่งวิตามินบี12 ที่ดีนัก การวิเคราะห์ทางเคมีบี12 มาตรฐาน โดยใช้ Lactobacillus leichmannii แสดงให้เห็นว่าสไปรูไลนาเป็นแหล่งที่ให้วิตามินบี12 ที่มีชีวประสิทธิผลน้อยมาก[7] อาหารเสริมสไปรูไลนามีวิตามินเทียม บี12 ซึ่งใช้การไม่ได้ทางชีววิทยาในมนุษย์[8] บริษัทซึ่งปลูกและจัดจำหน่ายสไปรูไลนาอ้างว่า เป็นแหล่งสำคัญของบี12 ตามการวิเคราะห์ทางเคมีอีกชุดหนึ่งและไม่ได้ตีพิมพ์ แม้ว่าการอ้างดังกล่าวจะไม่ได้รับการยอมรับจากองค์การวิทยาศาสตร์เลยก็ตาม สมาคมนักกำหนดอาหารแห่งสหรัฐอเมริกา และนักโภชนาการแคนาดา ระบุในเอกสารแสดงจุดยืนว่าด้วยเรื่องอาหารมังสวิรัติ ว่า สไปรูไลนาไม่สามารถถูกนับได้ว่าเป็นแหล่งวิตามินบี12 ที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้[9] งานตีพิมพ์ทางการแพทย์ก็แนะนำคล้ายกันว่าสไปรูไลนาไม่เหมาะสมจะใช้เป็นแหล่งบี12[8][10]
สารอาหารลิพิดของสไปรูไลนามีอยู่ราว 7% โดยน้ำหนัก[11] และอุดมไปด้วยกรดแกมมาไลโนเลนิก และยังพบกรดอัลฟาไลโนเลนิก, กรดไลโนเลอิก, กรดสเตียริโดนิก, กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก, กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิกและกรดอะราคิโดนิก[5][12] สไปรูไลนามีวิตามินบี1 (ไทอามีน), บี2 (ไรโบฟลาวิน), บี3 (ไนโคไทนาไมด์), บี6 (ไพริโดซีน), บี9 (กรดโฟลิก), วิตามินซี, วิตามินดี, วิตามินเอ และวิตามินอี[5][12] นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งโพแทสเซียม, แคลเซียม, โครเมียม, ทองแดง, เหล็ก, แมกนีเซียม, แมงกานีส, ฟอสฟอรัส, เซเลเนียม, โซเดียม และสังกะสี[5][12] สไปรูไลนามีรงควัตถุหลากหลายซึ่งอาจมีทั้งประโยชน์และชีวประสิทธิผล รวมทั้งบีตา-แคโรทีน, ซีแซนทีน, คลอโรฟิลล์-เอ, แซนโทฟิลล์, เอคินีโนน, ไมโซแซนโทฟิลล์, แคนทาแซนทิน, ไดอาโทแซนทิน, 3'-ไฮดรอกซีเอคินีโนน, บีตา-คริปโตแซนทิน และออสซิลาแซนทิน บวกกับไฟโคบิลิโปรตีน ซี-ไซโคไซยานินและอัลโลไซโคไซยานิน[1]
สไปรูไลนามีฟีนิลอะลานีน ซึ่งควรหลีกเลี่ยงในผู้ที่มีอาการผิดปกติของเมตาโบลิซึม ที่ชื่อ ฟีนิลคีโตนูเรีย โดยร่างกายไม่สามารถเผาผลาญกรดอะมิโนชนิดดังกล่าวได้ ทำให้กรดอะมิโนไปสะสมอยู่ในสมอง ซึ่งทำให้เกิดความเสียหาย[13] เนื่องจากสไปรูไลนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาจึงไม่ได้วางระเบียบคุ้มครองและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ สไปรูไลนาเป็นสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินแบบหนึ่ง ซึ่งทราบกันว่ามีบางชนิดที่ผลิตพิษ อาทิ ไมโครซิสติน, BMAA และอื่น ๆ ปัจจุบันยังไม่มีมาตรฐานใดมาวางระเบียบความปลอดภัยของสไปรูไลนา[14]
สไปรูไลนาสกัดการถ่ายแบบเอชไอวี ในทีเซลล์ของมนุษย์, เม็ดเลือดขาวชนิดเซลล์เดียว (PBMC) และเซลล์แลงเกอร์ฮานส์[15]
ในการศึกษาสภาพแวดล้อมเทียมใน พ.ศ. 2551 สรุปว่าสไปรูไลนาอาจมีคุณสมบัติคีเลชั่นอย่างเหล็ก เซลล์นิวโรบลาสโตมาของมนุษย์ถูกรักษาโดยเหล็กในปริมาณที่เป็นพิษ จากนั้นจึงค่อยรักษาด้วยสไปรูไลนา เมื่อรักษาแล้ว ภาวะอนุมูลอิสระเกิน (oxidative stress) ที่เกิดจากเหล็กนั้นก็ลดลง[16]
สไปรูไลนาช่วยป้องกันกล้ามเนื้อหัวใจถูกทำลาย (heart damamge) จากเคมีบำบัดโดยใช้ดอกโซรูบิซิน โดยไม่เข้าไปแทรกแซงกิจกรรมออกฤทธิ์ต้านเนื้องอกของยาเลย[17] สไปรูไลนายังลดความรุนแรงของโรคหลอดเลือดสมองและช่วยฟื้นฟูการควบคุมการเคลื่อนไหวหลังเกิดโรค[18] ลดความเสื่อมถอยของความจำและการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับอายุ[19] ตลอดจนป้องกันและรักษาไข้ละอองฟาง[20]
การศึกษาเมตาบอลิซึมในหนูชี้ว่า สไปรูไลนามีผลกระทบน้อยมากต่อเมตาบอลิซึมของพวกมัน และดังนั้นจึงอาจมีผลอย่างเดียวกันในมนุษย์ด้วย[21]
การศึกษากับหนูที่ป่วยเบาหวาน สรุปว่า Spirulina maxima มีประสิทธิภาพในการแก้ไขเมตาบอลิซึมคาร์บอไฮเดรตและลิพิดที่ผิดปกติ ซึ่งเกิดจากฟรักโทสเกินในร่างกาย[22]
การศึกษา พ.ศ. 2553 สรุปว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสไปรูไลนาแสดงให้เห็นว่า ชะลออาการของระบบกล้ามเนื้อระยะเริ่มต้นและพัฒนาการของโรค ลดตัวชี้วัดสภาวะการอักเสบและเซลล์ประสาทสั่งการตายในหนูต้นแบบโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง[23]
ในเด็กโรคขาดสารอาหาร ไม่ว่าจะติดเชื้อเอชไอวีหรือไม่ก็ตาม พบว่าสไปรูไลนาเพิ่มน้ำหนักและแก้ไขภาวะโลหิตจางได้[24] ยังมีรายงานด้วยว่าสไปรูไลนาเป็นการบำบัดเมลาโนซิสและเคราโทซิสเนื่องจากการได้รับพิษสารหนูเรื้อรัง[25]
การศึกษาใน พ.ศ. 2548 พบว่า สไปรูไลนาสามารถป้องกันไข้ละอองฟางได้[26] การศึกษาใหม่กว่าที่เป็นแบบปิดสองทางและมียาหลอกเป็นตัวควบคุม (double blind, placebo controlled) ใน พ.ศ. 2551 ในผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จมูก 150 คน พบว่า Spirulina platensis สามารถลดการหลั่งอินเตอร์ลิวคิน-4 ที่เป็นเหตุให้เกิดการอักเสบ ได้ 32% และผู้ป่วยมีอาการบรรเทาลง[27] ยิ่งไปกว่านั้น สไปรูไลนาถูกพบว่าลดการอักเสบที่เกี่ยวกับภาวะข้ออักเสบในผู้ป่วยสูงอายุ โดยกระตุ้นการหลั่งอินเตอร์ลิวติน-2 ซึ่งช่วยควบคุมการตอบสนองการอักเสบ[28]
การศึกษา พ.ศ. 2550 พบว่า อาสาสมัคร 36 คนที่ได้รับสไปรูไลนา 4.5 กรัมต่อวัน เป็นเวลานานกว่าหกสัปดาห์ มีความเปลี่ยนแปลงในคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตอย่างสำคัญ คือ (1) ลดคอเลสตอรอลรวม (2) เพิ่ม HDL คอเลสเตอรอล (3) ลดไตรกลีเซอไรด์ และ (4) ลดความดันโลหิตทั้งขณะบีบและคลาย[29] อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้ไม่มีกลุ่มควบคุม นักวิจัยจึงไม่อาจมั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้นี่เป็นผลทั้งหมด หรือแม้กระทั่งบางส่วน ของการได้รับ Spirulina maxima ซึ่งตรงกันข้ามกับตัวแปรรบกวน (นั่นคือ ความตรงภายในและคุณลักษณะอุปสงค์) การศึกษาแบบสุ่ม อำพรางสองฝ่าย และมีการแทรกแซงด้วยยาหลอก (randomized, double-blind, placebo-controlled intervention) ในผู้ป่วยสูงอายุพบว่า สไปรูไลนาช่วยลดอัตราส่วน LDL ต่อ HDL ลงอย่างมากหลังได้รับเป็นเวลาสี่เดือน[28]
การศึกษาอีกชิ้นหนึ่งใน พ.ศ. 2550 สรุปว่าสไปรูไลนาพัฒนาศักยะต้านอนุมูลอิสระในผู้ป่วยสูงอายุหลายคนซึ่งได้รับการให้สไปรูไลนาเป็นเวลา 16 สัปดาห์ พลาสมาของผู้ป่วยเหล่านี้แสดงให้เห็นระดับที่เพิ่มขึ้นของสถานะต้านอนุมูลอิสระ[28] การศึกษาแบบปิดสองทางและมียาหลอกเป็นตัวควบคุมใน พ.ศ. 2549 พบว่า การให้สไปรูไลนาเป็นกสารเสริมลดปริมาณของเอตินไคเนส (ตัวชี้วัดภาวะการสูญเสียกล้ามเนื้อ) ในบุคคลหลังออกกำลังกาย ยิ่งไปกว่านั้น เวลาของกลุ่มทดลองที่จะเหนื่อยระหว่างการวิ่งบนสายพานเพิ่มขึ้น 52 วินาที ซึ่งผลกระทบเหล่านี้คาดกันว่าเป็นศักยะต้านอนุมูลอิสระของสไปรูไลนา[30]
ตามการวิเคราะห์ผลการวิจัยของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ การได้รับสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงินดูเหมือนจะไม่ช่วยในการลดน้ำหนักแต่อย่างใด[31]
ในที่ประชุมอาหารโลกสหประชาชาติใน พ.ศ. 2517 ได้สนับสนุนสไปรูไลนาว่าเป็น "อาหารที่ดีที่สุดสำหรับอนาคต" โดยตระหนักถึงศักยะภายในของสไปรูไลนาในวาระพัฒนาอย่างยั่งยืน สมาชิกสหประชาชาติหลายประเทศร่วมมือกันก่อตั้งองค์การระหว่างรัฐขึ้น ชื่อว่า สถาบันระหว่างรัฐเพื่อการใช้สาหร่ายจุลสาหร่ายสไปรูไลนากับทุพโภชนาการ (IIMSAM)[32] IIMSAM ต้องการสร้างมติกับรัฐสมาชิกสหประชาชาติ ประชาคมระหว่างประเทศและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นเพื่อทำให้สไปรูไลนาเป็นกุญแจสำคัญขับเคลื่อนสู่การกำจัดทุพโภชนาการ บรรลุความมั่นคงด้านอาหารและเชื่อมช่องว่างด้านสุขภาพทั่วโลก
ทั้งนาซาและองค์การอวกาศยุโรป เสนอให้สไปรูไลนาเป็นหนึ่งในอาหารหลักที่จะเพาะระหว่างภารกิจอวกาศระยะยาว[33][34]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.