คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค
ราชวงศ์ของจักรพรรดิออสเตรีย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค (เยอรมัน: Haus de Habsburg; อังกฤษ: House of Habsburg บางครั้งเขียนว่า Hapsburg) เป็นราชวงศ์ที่สำคัญที่สุดราชวงศ์หนึ่งในทวีปยุโรป ราชวงศ์นี้ได้ปกครองประเทศสเปนและประเทศออสเตรีย รวมเวลาทั้งหมดถึง 6 ศตวรรษ แต่ที่รู้จักกันดีมากที่สุดคือ การปกครองในตำแหน่งของ จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ หลังจากได้มีการสถาปนาจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา พระราชวงศ์นี้ได้ปกครองรัฐและประเทศต่าง ๆ ถึง 1,800 รัฐ
![]() | ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
Remove ads
Remove ads
ประวัติโดยย่อของพระราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค
สรุป
มุมมอง
จากเคานต์แห่งฮาพส์บวร์คจนถึงจักรพรรดิแห่งชาวโรมัน


ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค เป็นชื่อที่ตั้งมาจากปราสาทฮาพส์บวร์ค (Habsburg Castle หรือที่ชาวสวิตรู้จักกันในนาม Hawk Castle) เมื่อประมาณศตวรรษที่ 12 โดยช่วงแรก พระราชวงศ์จะทรงประทับที่แคว้นสวาเบีย (ปัจจุบันคือเมืองอาร์กอว์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งขณะนั้น เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์) จากนั้น พระราชวงศ์ก็ได้ขยายอำนาจออกไปตั้งแต่เมืองอัลเซส ไบรส์กอว์ อาร์กอว์ และธูร์กอว์ (ปัจจุบัน เมืองทั้งหมดตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี) และในที่สุดก็สามารถมีอำนาจปกครองจักรวรรดิได้ทั้งหมด โดยตั้งเมืองหลวงคือ กรุงเวียนนา (ปัจจุบันคือเมืองหลวงของประเทศออสเตรีย)
จากนั้น พระบรมวงศานุวงศ์ได้ทรงขยายอำนาจ ทรงนำประเทศต่าง ๆ มาผนวกรวมกับจักรวรรดิโดยการอภิเษกสมรส เช่น จักรพรรดิมักซีมีเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ทรงอภิเษกสมรสกับมารี ซึ่งเป็นธิดาในดยุกแห่งบูร์กอญ หลังจากการอภิเษกสมรสแล้ว จักรพรรดิมักซีมีเลียนก็ได้ทรงผนวกเบอร์กันดีเข้ารวมกับจักรวรรดิ นอกจากนี้ ยังทรงนำดินแดนใกล้เคียงเบอร์กันดีมารวมกับจักรวรรดิอีกด้วย ต่อมาพระราชโอรสของทั้งสองพระองค์ พระเจ้าเฟลิเปที่ 1 แห่งกัสติยา หรือสมญาพระนามว่า เฟลีเปผู้หล่อเหลา (Philip the Handsome) ได้ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงฆัวนาแห่งสเปน องค์รัชทายาทหญิงแห่งสเปน จากนั้นพระราชโอรสของทั้งสองพระองค์ จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ทรงนำสเปน พื้นที่ทางตอนใต้ของอิตาลี มาผนวกกับจักรวรรดิ ต่อมาในพ.ศ. 2123 พระราชโอรสของพระองค์ พระเจ้าเฟลีเปที่ 2 แห่งสเปน ได้ทรงผนวกโปรตุเกสรวมเข้าเป็นอาณานิคม
ในรัชสมัยของจักรพรรดิมักซีมีเลียนที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ในตอนแรกทรงตั้งดินแดนศูนย์กลางของกรุงเวียนนาเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิ โดยต่อมามีพระราชโองการให้สร้างพระราชวังเชินบรุนน์ขึ้น (Schönbrunn Palace) โดยให้เป็นพระราชฐานแปรฤดูร้อน ซึ่งต่อมาในรัชสมัยของจักรพรรดินีมาเรีย เทเรซามีพระราชเสาวณีย์ให้ก่อสร้างพระตำหนักเพิ่มเติมภายในพระราชวัง พระราชวังเชินบรุนน์จึงมีความยิ่งใหญ่ สวยงามจวบจนทุกวันนี้
สายสกุลของราชวงศ์: ฮาพส์บวร์ค ออสเตรีย และสเปน

เมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2064 จักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ทรงมอบโอนแผ่นดินออสเตรียให้กับพระอนุชาของพระองค์ จักรพรรดิแฟร์ดีนันด์ที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ จากนั้น ก็มีการแยกสายสกุลฮาพส์บวร์ค-ออสเตรีย และฮาพส์บวร์ค-สเปน ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยสายสกุลทางออสเตรียได้ดำรงพระยศ จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2099 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังได้ดินแดนของราชอาณาจักรฮังการีและโบฮีเมียตั้งแต่ พ.ศ. 2069 แต่มีช่วงหนึ่งที่ถูกจักรวรรดิออตโตมันยึดครอง ฮังการีและโบฮีเมีย อยู่ภายใต้จักรวรรดิออตโตมันเป็นเวลาถึง 150 ปี โดยต่อมา ได้สามารถพิชิตเอาชนะ และได้ดินแดนฮังการีคืนมาระหว่างพ.ศ. 2226 – พ.ศ. 2242
สายสกุลฮาพส์บวร์ค-สเปนได้ล่มสลายลงเมื่อพ.ศ. 2243 หลังจากสงครามสืบราชบัลลังก์สเปน เช่นเดียวกับสายสกุลฮาพส์บวร์ค-ออสเตรีย ซึ่งถูกยุบลงหลังจากสงครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรีย อย่างไรก็ตาม องค์รัชทายาทองค์สุดท้ายแห่งสายสกุลฮาพส์บวร์ค-ออสเตรีย อาร์ชดัชเชสมาเรีย เทเรซา ซึ่งเป็นองค์รัชทายาทหญิงทางพฤตินัย (Heiress Presumptive) ได้ทรงอภิเษกสมรสกับ ดยุกฟรานซิสที่ 3 สตีเฟนแห่งลอแรน องค์พระประมุขแห่งลอแรน (ทั้ง 2 พระองค์เป็นพระราชปนัดดาในจักรพรรดิแฟร์ดีนันด์ที่ 3 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้น ทั้ง 2 พระองค์เป็นพระญาติกัน) โดยหลังจากการอภิเษกสมรสแล้ว สายสกุลฮาพส์บวร์ค-ออสเตรีย ได้ถูกยุบลง โดยการเปลี่ยนราชสกุลฮาพส์บวร์ค เป็นราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน และให้พระบรมวงศานุวงศ์รุ่นต่อ ๆ มาดำรงอยู่ในราชสกุลนี้จวบจนถึงปัจจุบัน
วงศ์ออสเตรีย-ฮังการี
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1806 จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ถูกล้มล้างจากการรุกล้ำและรุกรานระบอบการเมืองการปกครองของนโปเลียน โบนาปาร์ต อย่างไรก็ตาม องค์พระประมุของค์สุดท้ายของจักรวรรดิจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 2 ทรงสูญเสียตำแหน่งจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ไป พระองค์จึงทรงตั้งจักรวรรดิใหม่ คือ จักรวรรดิออสเตรีย และทรงแต่งตั้ง ^ พระราชอิสริยยศใหม่ทั้งหมด โดยพระองค์ทรงใช้พระยศในฐานะองค์พระประมุขแห่งจักรวรรดิใหม่ว่า จักรพรรดิแห่งออสเตรีย ในวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 1804 ซึ่งเป็นเวลา 2 ปี ก่อนที่จักรวรรดิเก่าจะถูกล้มล้าง โดย 3 เดือนต่อมา นโปเลียนก็ได้สถาปนาตนเองเป็น จักรพรรดิแห่งฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ในปีเดียวกัน
จักรพรรดิฟรันซ์ จึงทรงฉลองพระราชอิสริยยศใหม่ คือ
His Imperial and Royal Apostolic Majesty "We, Francis the First, by the grace of God Emperor of Austria; Apostolic King of Hungary, Bohemia, Dalmatia, Croatia, Slavonia, and Jerusalem. King of Galicia and Lodomeria; Archduke of Austria; Duke of Lorriane, Salzburg, Würzburg, Franconia, Styriaia, Carinthia, and Carniola; Grand Duke of Cracow; Grand Prince of Transylvania; Margrave of Moravia; Duke of Sandomir, Masovia, Lublin, Upper and Lower Silesia, Auschwitz and Zator, Teschen, and Friule; Prince of Berchtesgaden and Mergentheim; Princely Count of Habsburg, Gorizia, and Gradisca and Tyrol; and Margrave of Upper and Lower Lusatia and Istria".
ในช่วงของการเจรจาต่อรองระหว่างออสเตรีย-ฮังการี ค.ศ. 1867 ซึ่งเกิดจากการที่ประชาชนชาวฮังการีก่อการปฏิวัติเพื่อเรียกร้องเอกราชจากจักรวรรดิออสเตรีย จักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 แห่งออสเตรีย ต้องทรงไปไกล่เกลี่ยการจลาจลด้วยพระองค์เอง โดยทรงเจรจากับผู้นำปฏิวัติของฮังการี ในที่สุด ฮังการียอมจำนน และสลายการจลาจล จากนั้น จักรพรรดิจึงทรงรวมดินแดนออสเตรีย และฮังการีไว้ด้วยกัน ในชื่อจักรวรรดิใหม่ จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ซึ่งเจริญรุ่งเรืองจนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
ราชวงศ์ฮาพส์บวร์คเริ่มระส่ำระส่าย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเกิดจากการที่นักชาตินิยมชาวบอสเนียเชื้อสายเซอร์เบีย ลอบปลงพระชนม์อาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันด์แห่งออสเตรีย และพระชายา เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1914 ออสเตรียเรียกร้องให้เซอร์เบียรับผิดชอบ แต่ทางการเซอร์เบียเมินเฉย เป็นเหตุให้ออสเตรีย ประกาศสงครามกับราชอาณาจักรเซอร์เบียทันที จนเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 ออสเตรีย ซึ่งมีเยอรมนี เข้าช่วย ได้แพ้สงครามในที่สุด องค์พระประมุของค์สุดท้ายของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี จักรพรรดิคาร์ลที่ 1 แห่งออสเตรีย ได้ทรงประกาศแยกออสเตรียและฮังการีออกจากกัน ทำให้มีการล้มล้างจักรวรรดิ เป็นเหตุให้จักรวรรดิล่มสลายลงในที่สุด อย่างไรก็ตาม พระองค์ยังไม่ได้ทรงสละราชสมบัติ พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งจักรพรรดิแห่งออสเตรีย จวบจนเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1922
การเรียกร้องการหวนคืนบัลลังก์
พระราชวงศ์ออสเตรีย-ฮังการีไร้อำนาจ และ แทบจะไร้ความหวังต่อการหวนคืนบัลลังก์โดยประชาชนที่ยังจงรักภักดีต่อพระราชวงศ์ จนกระทั่งเมื่ออาร์ชดัชเชสอาเดลเลดแห่งออสเตรีย พระราชธิดาองค์โตในจักรพรรดิคาร์ล ได้ทรงเรียกร้องหวนคืนบัลลังก์ให้กับพระเชษฐาของพระองค์ อ็อทโท ฟ็อน ฮาพส์บวร์ค ซึ่งเป็นพระราชโอรสองค์โตโดยทรงสืบราชสมบัติต่อจากพระราชบิดาหลังจากที่พระราชบิดาเสด็จสวรรคต ได้ทรงเรียกร้องหวนคืนบัลลังก์ออกทางสื่อต่าง ๆ ทำให้รัฐบาลออสเตรียและรัฐบาลฮังการีได้ร่วมมือกันประชุมหารือเรื่องการกลับมาของพระราชวงศ์ แต่การประชุมครั้งนี้ ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัด เป็นเหตุให้ยุติการประชุมชั่วคราว
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 มีบุคคลบางกลุ่มได้จัดให้มีการชุมนุมเรียกร้องการฟื้นฟูสถาปนา พระราชวงศ์ออสเตรีย-ฮังการีขึ้น ณ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เมื่อเวลา 9 นาฬิกา ต่อมาเวลา 18 นาฬิกาที่กรุงเวียนนา ก็มีการชุมนุมเรียกร้องให้มีการฟื้นฟูสถาปนาพระราชวงศ์ให้กลับมาครองบัลลังก์ และยังเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในออสเตรีย และฮังการีอีกด้วย การชุมนุมนี้มีขึ้น ณ ใจกลางกรุงเวียนนา โดยมีหัวข้อชุมนุมเรียกร้องเป็นภาษาเยอรมันว่า 89 Jahre Republik Sind Genug! แปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า "89 Years are enough for the Republic" (แปล: "89 ปี...มากพอแล้วสำหรับการเป็นสาธารณรัฐ") การชุมนุมของบุคคลบางกลุ่มในทั้ง 2 ประเทศนี้ ทำให้มีการประชุมอย่างเร่งด่วนในรัฐสภาทั้งในออสเตรียและฮังการี และประธานาธิบดีของทั้ง 2 ประเทศต่างได้หารือกันอีกด้วย อย่างไรก็ดี ไม่ปรากฏว่าการชุมนุมดังกล่าวส่งผลกระทบหรือก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสถานะเดิมที่เป็นรูปธรรมใด ๆ ทั้งสิ้น หลังจากเวลาผ่านไปกว่า 3 ปีเศษภายหลังการชุมนุมดังกล่าว ทั้งสาธารณรัฐออสเตรียและฮังการีต่างยังคงยึดมั่นในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยและสาธารณรัฐไว้ได้อย่างมั่นคง และไม่มีทีท่าว่าประเทศทั้งสองซึ่งต่างก็เป็นรัฐอธิปไตยโดยสมบูรณ์แล้ว จะหวนกลับมารวมกันเป็นประเทศเดียวกันอีกได้แต่ประการใด แม้จนกระทั่งเมื่ออ็อทโท ฟ็อน ฮับสบวร์ค สิ้นพระชนม์ไปแล้วในปี พ.ศ. 2554 ก็ยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่า ทั้งออสเตรียและฮังการีจะสามารถหวนกลับไปสู่การปกครองระบอบราชาธิปไตยได้อีกเลย
แผนผังราชสกุล

Remove ads
รายพระนาม
สรุป
มุมมอง
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค: จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
บทความหลัก: จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน: จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และ อาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย
จักรพรรดิคาร์ลที่ 6 มีแต่พระราชธิดา ก่อนหน้านี้ มีพระราชโอรส แต่ทรงสิ้นพระชนม์กะทันหัน พระองค์จึงทรงแต่งตั้ง สถาปนาพระราชธิดาองค์โตของพระองค์ อาร์ชดัชเชสมาเรีย เทเรซา ให้เป็นองค์รัชทายาททางพฤตินัย (Heiress Presumptive) โดยทรงออกพระราชกฤษฎีกาพิเศษ เพื่อรับรองให้พระบรมวงศานุวงศ์เพศหญิงสามารถขึ้นครองราชย์สมบัติได้ เมื่อจักรพรรดิคาร์ลเสด็จสวรรคต อาร์ชดัชเชสมาเรีย เทเรซาก็ได้ทรงสืบราชสมบัติต่อจากพระราชบิดา เป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งฮังการี และโบฮีเมีย ส่วนตำแหน่งองค์พระประมุขแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์นั้น พระองค์ทรงอภิเษกสมรสกับดยุกฟรานซิสที่ 3 สตีเฟนแห่งลอแรน (Duke Francis III Stephen of Lorraine) หลังจากอภิเษกสมรส ก็ทรงสถาปนา แต่งตั้งพระราชสวามีเป็น จักรพรรดิฟรันซ์ที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ให้พระราชสวามีเป็นองค์พระประมุขแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ แต่พระราชอำนาจ และการบริหารบ้านเมืองจะเป็นของจักรพรรดินีนาถแต่เพียงผู้เดียว หลังจากนั้น ทั้ง 2 พระองค์ได้ทรงร่วมกันก่อตั้งราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรนขึ้น (Habsburg-Lorraine) และมีพระบรมวงศานุวงศ์ได้ทรงดำรงอยู่ในราชสกุลนี้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
![]() |
ฟรันซ์ที่ 1 พร้อมด้วย พระนางมาเรีย เทเรซา | พ.ศ. 2288 – พ.ศ. 2308 (ค.ศ. 1745 – ค.ศ. 1765) |
![]() |
โยเซฟที่ 2 | พ.ศ. 2308 – พ.ศ. 2333 (ค.ศ. 1765 – ค.ศ. 1790) |
![]() |
เลโอโปลด์ที่ 2 | พ.ศ. 2333 – พ.ศ. 2335 (ค.ศ. 1790 – ค.ศ. 1792) |
![]() |
ฟรันซ์ที่ 2 | พ.ศ. 2335 – พ.ศ. 2349 (ค.ศ. 1792 – ค.ศ. 1806) |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค: อาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
![]() |
มักซีมีเลียนที่ 1 | พ.ศ. 2051 – พ.ศ. 2062 (ค.ศ. 1508 – ค.ศ. 1519) |
![]() |
คาร์ลที่ 5 | พ.ศ. 2062 – พ.ศ. 2099 (ค.ศ. 1519 – ค.ศ. 1556) |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน: จักรพรรดิแห่งออสเตรีย
บทความหลัก: จักรพรรดิแห่งออสเตรีย
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2349 จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ได้ถูกล้มล้างจากการรุกล้ำและรุกรานระบอบการเมืองการปกครองของนโปเลียน โบนาปาร์ต อย่างไรก็ตาม องค์พระประมุของค์สุดท้ายของจักรวรรดิจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 2 ทรงสูญเสียตำแหน่งจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ไป พระองค์จึงทรงตั้งจักรวรรดิใหม่ คือ จักรวรรดิออสเตรีย และทรงแต่งตั้งพระราชอิสริยยศใหม่ทั้งหมด โดยพระองค์ทรงใช้พระยศในฐานะองค์พระประมุขแห่งจักรวรรดิใหม่ว่า จักรพรรดิแห่งออสเตรีย ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2347
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
![]() |
ฟรันซ์ที่ 1 | พ.ศ. 2347 – พ.ศ. 2378 (ค.ศ. 1804 – ค.ศ. 1835) |
![]() |
แฟร์ดีนันด์ที่ 1 | พ.ศ. 2378 – พ.ศ. 2391 (ค.ศ. 1835 – ค.ศ. 1848) |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน และราชสกุลฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน : จักรพรรดิแห่งออสเตรีย
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน และราชสกุลฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน (Habsburg-Lorraine & Habsburg-Lothringen) อันที่จริงแล้วคือราชสกุลเดียวกัน จักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟทรงแก้ไขกฎมณเฑียรบาลในเรื่องของการใช้ราชสกุล เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนทางด้านภาษา โดยให้มีการใช้ 2 ราชสกุลนี้สลับกันเป็นรุ่น ๆ ตัวอย่างเช่น จักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟทรงดำรงอยู่ในราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน ดังนั้น พระราชโอรสและพระราชธิดาของพระองค์ จะทรงดำรงอยู่ในราชสกุลฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน (เช่น อาร์ชดยุกรูดอล์ฟ มกุฎราชกุมารแห่งออสเตรีย-ฮังการี ซึ่งทรงอยู่ในราชสกุลฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน ดังนั้น พระธิดาของพระองค์ อาร์ชดัชเชสเอลิซาเบธ มารีจะทรงอยู่ในราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน สลับกันไปเป็นรุ่น ๆ)
ภาพ | พระนาม | รัชกาล | ราชสกุล |
![]() |
ฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 | พ.ศ. 2391 – พ.ศ. 2459 (ค.ศ. 1848 – ค.ศ. 1916) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน |
![]() |
คาร์ลที่ 1 | พ.ศ. 2459 – พ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1916 – ค.ศ. 1918) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน |
จักรพรรดิคาร์ล ทรงถูกขับออกจากราชสมบัติจากหลังจากพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 ในพ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1918) แต่พระองค์ยังดำรงตำแหน่งจักรพรรดิแต่เพียงในนามจนกระทั่งสวรรคต หลังจากสิ้นรัชกาลของพระองค์ พระราชโอรสองค์โตของพระองค์ อาร์ชดยุกอ็อทโท เป็นผู้สืบราชสมบัติเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไป ซึ่งขณะนั้นมีพระชนมายุเพียง 10 พรรษาเท่านั้น จักรพรรดินีซีต้า พระบรมราชชนนี จึงทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตั้งแต่พ.ศ. 2465 – พ.ศ. 2473[ต้องการอ้างอิง] ในปัจจุบันออสเตรียเป็นสาธารณรัฐ ดังนั้นจึงไม่มีการสืบราชสมบัติอีก แต่ อ็อทโท ฟ็อน ฮาพส์บวร์ค ประมุขแห่งราชวงศ์ ยังคงอ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์ออสเตรียต่อไป
ผู้อ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์ออสเตรีย
ภาพ | พระนาม | รัชกาล | ราชสกุล |
![]() |
อ็อทโท ฟ็อน ฮาพส์บวร์ค | พ.ศ. 2465 – สิ้นพระชนม์ พ.ศ. 2554 (ค.ศ. 1922) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน |
ประมุขแห่งอดีตราชวงศ์
ภาพ | พระนาม | สถานะ | ราชสกุล |
![]() |
อาร์ชดยุกคาร์ล ฟ็อน ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน พ.ศ. 2524 – ปัจจุบัน |
ผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ | ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค: กษัตริย์แห่งฮังการี
บทความหลัก: รายพระนามพระมหากษัตริย์แห่งฮังการี
ตั้งแต่รัชสมัยของจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ราชอาณาจักรฮังการี ก็ได้ถูกผนวกรวมเข้ากับจักรวรรดิออสเตรียตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ฮาพส์บวร์คสายอัลเบอร์ไทน์: กษัตริย์แห่งฮังการี
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
![]() |
อัลเบรชท์ที่ 2 | พ.ศ. 1980 – พ.ศ. 1982 (ค.ศ. 1437 – ค.ศ. 1439) |
![]() |
ลาดิสเลาส์ที่ 5 โพสธูมัส | พ.ศ. 1987 – พ.ศ. 1990 (ค.ศ. 1444 – ค.ศ. 1457) |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค: กษัตริย์แห่งฮังการี
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน: กษัตริย์แห่งฮังการี
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
![]() |
มาเรีย เทเรซา | พ.ศ. 2284 – พ.ศ. 2323 (ค.ศ. 1741 – ค.ศ. 1780) |
![]() |
โยเซฟที่ 2 | พ.ศ. 2323 – พ.ศ. 2333 (ค.ศ. 1780 – ค.ศ. 1790) |
![]() |
เลโอโปลด์ที่ 2 | พ.ศ. 2333 – พ.ศ. 2335 (ค.ศ. 1790 – ค.ศ. 1792) |
![]() |
ฟรันซ์ที่ 1 | พ.ศ. 2335 – พ.ศ. 2378 (ค.ศ. 1792 – ค.ศ. 1835) |
![]() |
แฟร์ดีนันด์ที่ 5 | พ.ศ. 2378 – พ.ศ. 2391 (ค.ศ. 1835 – ค.ศ. 1848) |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน และราชสกุลฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน : กษัตริย์แห่งฮังการี
ภาพ | พระนาม | รัชกาล | ราชสกุล |
ฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 | พ.ศ. 2391 – พ.ศ. 2459 (ค.ศ. 1848 – ค.ศ. 1916) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน | |
![]() |
คาร์ลที่ 4 | พ.ศ. 2459 – พ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1916 – ค.ศ. 1918) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน |
ผู้อ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์ฮังการี
![]() |
อ็อทโทที่ 2 | พ.ศ. 2465 – ปัจจุบัน (ค.ศ. 1922) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน |
กษัตริย์แห่งโบฮีเมีย
บทความหลัก: รายพระนามพระมหากษัตริย์แห่งโบฮีเมีย
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
![]() |
รูดอล์ฟที่ 1 | พ.ศ. 1849 – พ.ศ. 1850 (ค.ศ. 1306 – ค.ศ. 1307) |
ฮาพส์บวร์คสายอัลเบอร์ไทน์: กษัตริย์แห่งโบฮีเมีย
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
![]() |
อัลเบรชท์ที่ 1 | พ.ศ. 1980 – พ.ศ. 1982 (ค.ศ. 1437 – ค.ศ. 1439) |
![]() |
ลาดิสเลาส์ โพสธูมัส | พ.ศ. 1996 – พ.ศ. 2000 (ค.ศ. 1453 – ค.ศ. 1457) |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค: กษัตริย์แห่งโบฮีเมีย
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน: กษัตริย์แห่งโบฮีเมีย
ก่อนหน้านี้ โบฮีเมีย เป็นประเทศที่ไม่ได้รวมกับจักรวรรดิ ตั้งแต่รัชสมัยของจักรพรรดินีนาถมาเรีย เทเรซา โบฮีเมียถูกผนวกรวมเข้ากับจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
![]() |
มาเรีย เทเรซา | พ.ศ. 2286 – พ.ศ. 2323 (ค.ศ. 1743 – ค.ศ. 1780) |
![]() |
โยเซฟที่ 2 | พ.ศ. 2323 – พ.ศ. 2333 (ค.ศ. 1780 – ค.ศ. 1790) |
![]() |
เลโอโปลด์ที่ 2 | พ.ศ. 2333 – พ.ศ. 2335 (ค.ศ. 1790 – ค.ศ. 1792) |
![]() |
ฟรันซ์ที่ 1 | พ.ศ. 2335 – พ.ศ. 2378 (ค.ศ. 1792 – ค.ศ. 1835) |
![]() |
แฟร์ดีนันด์ที่ 5 | พ.ศ. 2378 – พ.ศ. 2391 (ค.ศ. 1835 – ค.ศ. 1848) |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน และราชสกุลฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน : กษัตริย์แห่งโบฮีเมีย
ภาพ | พระนาม | รัชกาล | ราชสกุล |
ฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 | พ.ศ. 2391 – พ.ศ. 2459 (ค.ศ. 1848 – ค.ศ. 1916) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน | |
![]() |
คาร์ลที่ 3 | พ.ศ. 2459 – พ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1916 – ค.ศ. 1918) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน |
ผู้อ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์โบฮีเมีย
![]() |
อ็อทโท ฟ็อน ฮาพส์บวร์ค | พ.ศ. 2465 – ปัจจุบัน (ค.ศ. 1922) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน |
ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค: กษัตริย์แห่งเยอรมัน
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
![]() |
รูดอล์ฟที่ 1 | พ.ศ. 1816 – พ.ศ. 1834 (ค.ศ. 1273 – ค.ศ. 1291) |
ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค: เคานต์แห่งฮาพส์บวร์ค
ก่อนที่พระเจ้ารูดอล์ฟที่ 1 แห่งเยอรมนี จะทรงดำรงตำแหน่งเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ประมุขแห่งราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค ได้ทรงดำรงตำแหน่งเป็น เคานต์แห่งฮาพส์บวร์ค (Count of Habsburg) ปกครองดินแดนฮาพส์บวร์คทางตอนเหนือ (ปัจจุบันคือทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี และประเทศสวิตเซอร์แลนด์)
- เคานต์กันแทร็มแห่งฮาพส์บวร์ค สมญาพระนามว่า กันแทร็มผู้ร่ำรวย (Guntram the Rich) (ประมาณพ.ศ. 1473 – พ.ศ. 1528; (ca. 930–985))
- แลนเซอลินแห่งอัลเท็นบวร์ก ทรงปกครองพร้อมด้วยพระอนุชา, เคานต์แร็ดบอท
- เคานต์รูดอล์ฟที่ 1 แห่งฮาพส์บวร์ค โดยมีเวอร์เนอร์ที่ 1 บิชอปแห่งสแตรสเบิร์ก, และ แลนดอล์ฟ เป็นอุปราช
- แร็ดบอทแห่งเคล็ทกอว์ ซึ่งเป็นผู้สร้างปราสาทฮาพส์บวร์ค ประมาณพ.ศ. 1528 – พ.ศ. 1578; (ca. 985–1035) นอกจากนี้ทรงสถาปนาให้พระราชโอรส 2 พระองค์ เคานต์อ็อทโทที่ 1 แห่งฮาพส์บวร์ค ไปเป็นเคานต์แห่งซันโกว์ (Sundgau) และ เคานต์อัลเบรชท์ที่ 1 ไปเป็นเคานต์แห่งอัลเซส (Alsace)
- เคานต์เวอร์เนอร์ที่ 1 แห่งฮาพส์บวร์ค (ประมาณพ.ศ. 1573 – พ.ศ. 1639; (1030–1096). โดยทรงปกครองควบคู่กับ เคานต์อ็อทโทที่ 2 แห่งฮาพส์บวร์ค และทรงแต่งตั้งสถาปนาพระราชโอรส เคานต์อัลเบรชท์ที่ 2 ให้ไปปกครองดินแดนมูรี (Muri) ตั้งแต่พ.ศ. 1654 – พ.ศ. 1684; (1111–1141) หลังจากที่เคานต์อ็อทโทสวรรคต
- เคานต์อ็อทโทที่ 2 แห่งฮาพส์บวร์ค ทรงปกครองพร้อมด้วย เคานต์เวอร์เนอร์ที่ 1 จนสิ้นพระชนม์เมื่อปีพ.ศ. 1654 (d. 1111)
- เคานต์เวอร์เนอร์ที่ 2 แห่งฮาพส์บวร์ค ตั้งแต่ประมาณพ.ศ. 1678 – พ.ศ. 1710; (around 1135 – d. 1167)
- เคานต์อัลเบรชท์ที่ 3 แห่งฮาพส์บวร์ค รู้จักกันในพระนาม อัลเบรชท์ผู้ร่ำรวย (Albrecht the Rich) ตั้งแต่พ.ศ. 1710 – พ.ศ. 1742; (1167 – 1199). ในรัชสมัยของพระองค์ พระองค์ทรงทำให้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาของอาณาจักรได้ ทั่วทั้งแผ่นดินพูดภาษาเยอรมันกันทั้งหมด รวมทั้งพื้นที่ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในปัจจุบัน
- เคานต์รูดอล์ฟที่ 2 แห่งฮาพส์บวร์ค ตั้งแต่พ.ศ. 1742 – พ.ศ. 1775; (1199 – 1232)
- เคานต์อัลเบรชท์ที่ 4 แห่งฮาพส์บวร์ค ตั้งแต่พ.ศ. 1775 – พ.ศ. 1782; (1232 – 1239) พระราชบิดาในเคานต์รูดอล์ฟที่ 5 แห่งฮาพส์บวร์ค ซึ่งภายหลังได้เป็นกษัตริย์แห่งเยอรมนีพระนามว่า รูดอล์ฟที่ 1 พระองค์ทรงปกครองพร้อมกับเคานต์รูดอล์ฟที่ 3 แห่งฮาพส์บวร์ค ทำให้มีการแยกแผ่นดินฮาพส์บวร์คออกเป็น 2 ส่วน โดยเคานต์อัลเบรชท์ได้ปกครองแผ่นดินทางตะวันตกส่วนเคานต์รูดอล์ฟได้ปกครองแผ่นดินทางตะวันออก นอกจากนี้ เคานต์อัลเบรชท์ทรงเป็นต้นราชตระกูลของอาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันด์แห่งออสเตรีย-เอสต์ และพระชายาโซฟี ดัชเชสแห่งโฮเอ็นแบร์ก ดังนั้น จึงพบว่า ทั้ง 2 พระองค์เป็นพระญาติกัน
ดยุกแห่งออสเตรีย
เมื่อแผ่นดินฮาพส์บวร์คถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน แผ่นดินฮาพส์บวร์คฝั่งตะวันออกได้เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองใหม่ จากเคานต์เป็นดยุก โดยเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น ดัชชีออสเตรีย (Duchy of Austria) ซึ่งในปัจจุบันคือรัฐโลเวอร์ ออสเตรีย และ ตางตะวันออกของรัฐอัปเปอร์ ออสเตรีย ประเทศออสเตรีย นอกจากนี้ แคว้นออสเตรีย ยังได้ผนวกดัชชีสติเรีย และ คารินเธีย รวมทั้ง คานิโอล่า และทีโรล รวมเข้ากับออสเตรียในพ.ศ. 1906
ต่อมา องค์พระประมุขของแผ่นดินฮาพส์บวร์คฝั่งตะวันตกสวรรคต และไม่มีองค์รัชทายาท ดยุกแห่งออสเตรียจึงเข้าไปปกครองแผ่นดินทางตะวันตกแทน ซึ่งได้แก่ อัลเซส ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมนี รวมทั้งโวราร์ลเบิร์ก แต่สูญเสียดินแดนลุ่มแม่น้ำไรน์ และทะเลสาบคอนสแตนส์ เพื่อที่จะขยายแผ่นดินไปถึงสมาพันธรัฐสวิสเก่า (Old Swiss Confederacy) แต่ในที่สุด ก็สามารถปกครองแผ่นดินดังกล่าวจนถึงพ.ศ. 1922 หลังจากนั้น ก็ถูกปกครองในตำแหน่งใหม่คือ เคานต์แห่งทีโรล (Princely Count of Tyrol) ดังพระนามที่จะกล่าวด้านล่างนี้
- ดยุกรูดอล์ฟที่ 2 แห่งออสเตรีย พระราชโอรสในรูดอล์ฟที่ 1 ดยุกแห่งสติเรีย; พ.ศ. 1825 – พ.ศ. 1826 (1282–1283) ทรงถูกลอบปลงพระชนม์โดยพระอนุชาของพระองค์เอง
- ดยุกอัลเบรชท์ที่ 1 แห่งออสเตรีย พระอนุชาในดยุกรูดอล์ฟ ผู้ซึ่งเชื่อว่า ทรงลอบปลงพระชนม์พระเชษฐาของพระองค์เอง; พ.ศ. 1826 – พ.ศ. 1851 (1282–1308) ได้ทรงดำรงตำแหน่งเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ในพ.ศ. 1841
- ดยุกรูดอล์ฟที่ 3 แห่งออสเตรีย; เป็นประมุขชั่วคราวตั้งแต่พ.ศ. 1841 – พ.ศ. 1850 (1298–1307)
- ดยุกฟรีดริชที่ 1 แห่งออสเตรีย หรือรู้จักกันในนาม ฟรีดริชผู้หล่อเหลา (Friedrich the Handsome; (Friedrich der Schöne) ; พ.ศ. 1851 – พ.ศ. 1873 (1308–1330) ทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จักรพรรดิลุดวิกที่ 4 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่พ.ศ. 1868
- ดยุกเลโอโปลด์ที่ 1 แห่งออสเตรีย; พ.ศ. 1851 – พ.ศ. 1869 (1308–1326)
- ดยุกอัลเบรชท์ที่ 2 แห่งออสเตรีย; ดยุกแห่งวอร์เดอร์เอิสเตอร์ไรค์ (Vorderösterreich) ตั้งแต่พ.ศ. 1869 – พ.ศ. 1901 (1326–1358) , และดยุกแห่งออสเตรีย ตั้งแต่พ.ศ. 1873 – พ.ศ. 1901 (1330–1358) , และดยุกแห่งคารินเธีย ตั้งแต่พ.ศ. 1878 – พ.ศ. 1901 (1335-1358)
- อ็อทโทผู้ร่าเริง
Otto the Jolly (der Fröhliche) ปกครองพร้อมกับดยุกอัลเบรชท์; ดยุกแห่งออสเตรีย ตั้งแต่พ.ศ. 1873 – พ.ศ. 1882 (1330–1339) และดยุกแห่งคารินเธียตั้งแต่พ.ศ. 1906 - ดยุกรูดอล์ฟที่ 4 แห่งออสเตรีย รู้จักกันในนาม รูดอล์ฟผู้ก่อตั้ง (Rudolf the Founder (der Stifter)) ; ดยุกแห่งออสเตรียและสติเรียตั้งแต่พ.ศ. 1901 – พ.ศ. 1908 (1358–1365) , และดยุกแห่งทีโรล ตั้งแต่พ.ศ. 1906
หลังจากที่ดยุกรูดอล์ฟที่ 4 เสด็จสวรรคต พระอนุชาของพระองค์ ดยุกรูดอล์ฟที่ 3 และ ดยุกเลโอโปลด์ที่ 3 แห่งออสเตรีย ได้ทรงปกครองแผ่นดินฮาพส์บวร์คด้วยกันตั้งแต่พ.ศ. 1908 – พ.ศ. 1922 (1365 – 1379) , ขณะที่ทรงราชย์ ได้มีการแยกแผ่นดินออกเป็น 2 อาณาจักรตามสนธิสัญญานอยเบิร์ก (Treaty of Neuberg) โดยดยุกอัลเบรชท์ทรงปกครองแคว้นออสเตรีย (ทำให้มีการก่อตั้งฮาพส์บวร์คสายอัลเบอร์ไทน์ (Albertine Line) ส่วนดยุกเลโอโปลด์ได้ทรงปกครองแคว้นสติเรีย, คานิโอล่า, คารินเธีย, วินดิช มาร์ช, ทีโรล, และเฟอร์เธอร์ ออสเตรีย (ต่อมามีการก่อตั้งฮาพส์บวร์คสายเลโอโปลด์ (Leopoldine Line))
ฮาพส์บวร์คสายอัลเบอร์ไทน์: ดยุกแห่งออสเตรีย
- ดยุกอัลเบรชท์ที่ 3 แห่งออสเตรีย; ตั้งแต่พ.ศ. 1929 – พ.ศ. 1938 (1386-1395)
- ดยุกอัลเบรชท์ที่ 4 แห่งออสเตรีย; พ.ศ. 1938 – พ.ศ. 1947 (1395–1404)
- ดยุกอัลเบรชท์ที่ 5 แห่งออสเตรีย; พ.ศ. 1947 – พ.ศ. 1982 (1404–1439) ภายหลังทรงได้เป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ตั้งแต่พ.ศ. 1981 โดยทรงฉลองปรมาภิไธยว่า จักรพรรดิอัลเบรชท์ที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
- ลาดิสเลาส์ โพสธูมัส พ.ศ. 1987 – พ.ศ. 1990 (1444 – 1457)
ฮาพส์บวร์คสายเลโอโปลด์: ดยุกแห่งสติเรีย, คารินเธีย และทีโรล
- ดยุกเลโอโปลด์ที่ 3 แห่งออสเตรีย, ดยุกแห่งสติเรีย, คารินเธีย, ทีโรล, และเฟอร์เธอร์ ออสเตรีย ตั้งแต่พ.ศ. 1908 – พ.ศ. 1929 (1365-1386) ทรงสิ้นพระชนม์ในสมรภูมิเซ็มแพ็ช
- ดยุกวิลเฮล์มแห่งออสเตรีย; ดยุกแห่งอินเนอร์ ออสเตรีย, คารินเธีย และสติเรีย ตั้งแต่พ.ศ. 1929 – พ.ศ. 1949 (1386–1406)
- ดยุกเลโอโปลด์ที่ 4 แห่งออสเตรีย, ดยุกแห่งออสเตรีย และอินเนอร์ ออสเตรียตั้งแต่พ.ศ. 1949 – พ.ศ. 1954 (1406-1411) , ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แห่งเฟอร์เธอร์ ออสเตรียในพ.ศ. 1934, ดยุกแห่งทีโรลตั้งแต่พ.ศ. 1938 – พ.ศ. 1945
สายเลโอโปลด์-อินเนอร์ ออสเตรีย
- เอิร์นส์ผู้แข็งแกร่ง
Ernst the Iron (der Eiserne) ตั้งแต่พ.ศ. 1949 – พ.ศ. 1967 (1406–1424) ทรงเป็นดยุกแห่งอินเนอร์ ออสเตรียจนถึงพ.ศ. 1954 - ดยุกฟรีดริชที่ 5 แห่งออสเตรีย; พ.ศ. 1983 – พ.ศ. 2036 (ค.ศ. 1440 – ค.ศ. 1493) ต่อมาทรงเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ พระนามฟรีดริชที่ 3 ในพ.ศ. 1983 ดยุกแห่งอินเนอร์ ออสเตรียตั้งแต่พ.ศ. 1967 และทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พระเจ้าลาดิสเลาส์ โพสธูมัสแห่งโบฮีเมีย (ระหว่างพ.ศ. 1982 – พ.ศ. 1995 (1439–1446))
- ดยุกอัลเบรชท์ที่ 6 แห่งออสเตรีย ตั้งแต่พ.ศ. 1989 – พ.ศ. 2006 (1446–1463)
สายเลโอโปลด์-ทีโรล
การรวมแผ่นดินคืนของฮาพส์บวร์ค
เนื่องจากดยุกซีจิสมันด์ทรงไม่มีพระราชบุตรเลย และทรงรับจักรพรรดิมักซีมีเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นพระราชโอรสในจักรพรรดิฟรีดริชที่ 3 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์เป็นพระราชบุตรบุญธรรม เมื่อสิ้นรัชกาลของดยุกซีจิสมันด์แล้ว พระราชโอรสบุญธรรมก็ทรงสืบราชสมบัติต่อจากพระราชบิดาบุญธรรมเป็นดยุก และเมื่อสิ้นรัชกาลจักรพรรดิ พระราชบิดาแล้ว พระองค์ก็ทรงสืบราชสมบัติเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ต่อ และในการที่พระองค์ทรงครองราชย์เป็นองค์พระประมุข 2 ประเทศนี่เอง จึงทรงรวมแผ่นดินฮาพส์บวร์ค 2 ส่วนเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้งหนึ่ง โดยพระองค์ทรงแต่งตั้งพระองค์เองเป็นดยุกแห่งออสเตรียตั้งแต่พ.ศ. 2028 – พ.ศ. 2033
กษัตริย์แห่งเยอรมัน และจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อตอนรวมแผ่นดินใหญ่ฮาพส์บวร์ค
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
![]() |
รูดอล์ฟที่ 1 | พ.ศ. 1816 – พ.ศ. 1834 (ค.ศ. 1273 – ค.ศ. 1291) |
![]() |
อัลเบรชท์ที่ 1 | พ.ศ. 1841 – พ.ศ. 1851 (ค.ศ. 1298 – ค.ศ. 1308) |
![]() |
อัลเบรชท์ที่ 2 | พ.ศ. 1981 – พ.ศ. 1982 (ค.ศ. 1438 – ค.ศ. 1439) |
![]() |
ฟรีดริชที่ 3 | พ.ศ. 1983 – พ.ศ. 2036 (ค.ศ. 1440 – ค.ศ. 1493) |
ฮาพส์บวร์คสเปน และฮาพส์บวร์คโปรตุเกส: กษัตริย์แห่งสเปน และกษัตริย์แห่งโปรตุเกส
- พระเจ้าฟิลลิปที่ 1 แห่งคาสตีล, พระราชโอรสองค์ที่ 2 ในจักรพรรดิมักซีมีเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ทรงเป็นผู้ก่อตั้งสายสกุลฮาพส์บวร์คสเปน ในพ.ศ. 2039 โดยทรงอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชินีนาถฮวนนาแห่งคาสตีล เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อพ.ศ. 2049 ก็ทรงมอบบัลลังก์คาสตีลในการรวมชาติสเปนโดยพระราชโอรสของพระองค์
- พระเจ้าคาร์ลอสที่ 1 แห่งสเปน พ.ศ. 2059 – พ.ศ. 2099 (1516–1556) , ผู้ทรงรวมสายสกุลฮาพส์บวร์คสเปน และสายสกุลฮาพส์บวร์คออสเตรียไว้ด้วยกัน
- พระเจ้าฟิลลิปที่ 2 แห่งสเปน พ.ศ. 2099 – พ.ศ. 2141 (1556–1598) , เป็นพระมหากษัตริย์แห่งโปรตุเกสในพระนาม พระเจ้าฟิลลิปที่ 1 แห่งโปรตุเกส ตั้งแต่พ.ศ. 2123 และเป็นพระมหากษัติรย์ พระราชสวามีแห่งอังกฤษ (King Consort of England) ในนาม ฟิลลิปที่ 1 ที่ทรงอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระราชินีนาถแมรี่ที่ 1 แห่งอังกฤษ ตั้งแต่พ.ศ. 2097
- พระเจ้าฟิลลิปที่ 3 แห่งสเปน และเป็นพระมหากษัตริย์แห่งโปรตุเกสในพระนาม พระเจ้าฟิลลิปที่ 2 แห่งโปรตุเกส ตั้งแต่พ.ศ. 2141 – พ.ศ. 2164 (1598–1621)
- พระเจ้าฟิลลิปที่ 4 แห่งสเปน พ.ศ. 2164 – พ.ศ. 2208 (1621–1665) และเป็นพระมหากษัตริย์แห่งโปรตุเกสในพระนาม พระเจ้าฟิลลิปที่ 3 แห่งโปรตุเกส ตั้งแต่พ.ศ. 2164 – พ.ศ. 2183 (1621–1640) โดยทรงเป็นกษัตริย์แห่งโปรตุเกสองค์สุดท้ายของสายสกุลฮาพส์บวร์คสเปน-โปรตุเกส
- พระเจ้าคาร์ลอสที่ 2 แห่งสเปน พ.ศ. 2208 – พ.ศ. 2243 (1665–1700)
สายสกุลฮาพส์บวร์คสเปนได้สิ้นสุดลงหลังจากสงครามสืบราชบัลลังก์สเปน
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน: แกรนด์ดยุกแห่งทัสกานี
จักรพรรดิฟรันซ์ ซึ่งทรงเป็นแกรนด์ดยุกแห่งทัสกานี ได้ทรงมอบราชบัลลังก์ทัสกานีให้กับพระราชโอรสองค์โต อาร์ชดยุกเลโอโปลด์ ตั้งแต่บัดนั้น ราชรัฐทัสกานีได้อยู่ภายใต้การปกครองของราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค จนถึงการรวมชาติอิตาลี
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
![]() |
ฟรันซ์ที่ 1 | พ.ศ. 2288 – พ.ศ. 2308 (ค.ศ. 1745 – ค.ศ. 1765) |
![]() |
โยเซฟที่ 2 | พ.ศ. 2308 – พ.ศ. 2333 (ค.ศ. 1765 – ค.ศ. 1790) |
![]() |
แฟร์ดีนันด์ที่ 3 | ครั้งที่ 1: พ.ศ. 2333 – พ.ศ. 2343 (ค.ศ. 1790 – ค.ศ. 1800) ครั้งที่ 2: พ.ศ. 2357 – พ.ศ. 2367 (ค.ศ. 1814 – ค.ศ. 1824) |
![]() |
เลโอโปลด์ที่ 2 | พ.ศ. 2367 – พ.ศ. 2402 (ค.ศ. 1824 – ค.ศ. 1859) |
![]() |
แฟร์ดีนันด์ที่ 4 | พ.ศ. 2402 – พ.ศ. 2451 (ค.ศ. 1859 – ค.ศ. 1908) |
![]() |
แฟร์ดีนันด์ที่ 5 | พ.ศ. 2451 – พ.ศ. 2485 (ค.ศ. 1908 – ค.ศ. 1942) |
![]() |
แฟร์ดีนันด์ที่ 6 | พ.ศ. 2485 – พ.ศ. 2491 (ค.ศ. 1942 – ค.ศ. 1948) |
![]() |
ก๊อทเฟรด | พ.ศ. 2491 – พ.ศ. 2527 (ค.ศ. 1948 – ค.ศ. 1984) |
เลโอโปลด์ ฟรันซ์ | พ.ศ. 2527 – พ.ศ. 2536 (ค.ศ. 1984 – ค.ศ. 1993) | |
![]() |
ซีจิสมันด์ | พ.ศ. 2536 – ปัจจุบัน (ค.ศ. 1993) |
ดูเพิ่มที่ ลำดับการสืบสันตติวงศ์ราชบัลลังก์ทัสกานี
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน และราชสกุลฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน : อาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย-เอสต์
พระราชอิสริยยศแห่งออสเตรีย-เอสต์ (Austria-Este) เป็นพระราชอิสริยยศที่เกิดจากการอภิเษกสมรสของอาร์ชดยุกแฟร์ดีนันด์ คาร์ล พระราชโอรสในจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และจักรพรรดินีมาเรีย เทเรซา ที่ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงมาเรีย เบียทริซ ริคคิอาร์ด้าแห่งเอสต์ องค์รัชทายาทหญิงแห่งแคว้นโมเดน่าและเรจจิโอ้ โดยหลังจากการอภิเษกสมรส มีการรวมพระราชอิสริยยศออสเตรีย และเอสต์ รวมเข้าไว้ด้วยกัน จึงได้มีการก่อตั้งราชสกุล หรือพระราชอิสริยยศออสเตรีย-เอสต์ขึ้น และได้มีพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ทรงดำรงพระราชอิสริยยศนี้ตั้งแต่บัดนั้น เป็นต้นมา
ภาพ | พระนาม | รัชกาล | ราชสกุล |
![]() |
อาร์ชดยุกแฟร์ดีนันด์ คาร์ลแห่งออสเตรีย-เอสต์ | พ.ศ. 2314 – พ.ศ. 2357 (ค.ศ. 1771 – ค.ศ. 1814) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน |
![]() |
ฟรานเซสโก้ที่ 4 | พ.ศ. 2357 – พ.ศ. 2389 (ค.ศ. 1814 – ค.ศ. 1846) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน |
![]() |
ฟรานเซสโก้ที่ 5 | พ.ศ. 2389 – พ.ศ. 2418 (ค.ศ. 1846 – ค.ศ. 1875) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน |
![]() |
อาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันด์แห่งออสเตรีย-เอสต์ | พ.ศ. 2418 – พ.ศ. 2457 (ค.ศ. 1875 – ค.ศ. 1914) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน |
![]() |
อาร์ชดยุกคาร์ลแห่งออสเตรีย-เอสต์ | พ.ศ. 2457 – พ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1914 – ค.ศ. 1922) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน |
![]() |
อาร์ชดยุกโรเบิร์ตแห่งออสเตรีย-เอสต์ | พ.ศ. 2461 – พ.ศ. 2539 (ค.ศ. 1922 – ค.ศ. 1996) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน |
![]() |
อาร์ชดยุกลอเรนซ์แห่งออสเตรีย-เอสต์ เจ้าฟ้าชายแห่งเบลเยียม | พ.ศ. 2539 – ปัจจุบัน (ค.ศ. 1996) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน และราชสกุลฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน : ดยุกแห่งโมเดน่า
แคว้นโมเดน่า ได้ปกครองโดยราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค หลังจากการประชุมใหญ่แห่งเวียนนา มีมติให้ยกดินแดนโมเดน่าให้กับราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค โดยได้ปกครองจนถึงการรวมชาติอิตาลี
ภาพ | พระนาม | รัชกาล | ราชสกุล |
ฟรานเซสโก้ที่ 4 | พ.ศ. 2357 – พ.ศ. 2389 (ค.ศ. 1814 – ค.ศ. 1846) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน | |
![]() |
ฟรานเซสโก้ที่ 5 | พ.ศ. 2389 – พ.ศ. 2418 (ค.ศ. 1846 – ค.ศ. 1875) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน |
![]() |
อาร์ชดยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันด์แห่งออสเตรีย-เอสต์ | พ.ศ. 2418 – พ.ศ. 2457 (ค.ศ. 1875 – ค.ศ. 1914) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน |
![]() |
อาร์ชดยุกคาร์ลแห่งออสเตรีย-เอสต์ | พ.ศ. 2457 – พ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1914 – ค.ศ. 1922) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน |
![]() |
อาร์ชดยุกโรเบิร์ตแห่งออสเตรีย-เอสต์ | พ.ศ. 2461 – พ.ศ. 2539 (ค.ศ. 1922 – ค.ศ. 1996) |
ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน |
ไฟล์:Lorenz austria-este.jpg | อาร์ชดยุกลอเรนซ์แห่งออสเตรีย-เอสต์ เจ้าฟ้าชายแห่งเบลเยียม | พ.ศ. 2539 – ปัจจุบัน (ค.ศ. 1996) |
ฮาพส์บวร์ค-โลทริงเงิน |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน: จักรพรรดิแห่งเม็กซิโก
จักรพรรดินโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส ได้ทรงเชื้อเชิญ อาร์ชดยุกแฟร์ดีนันด์ มักซีมีเลียน พระโอรสองค์รองในอาร์ชดยุกฟรันซ์ คาร์ลแห่งออสเตรีย และเป็นพระราชอนุชาในจักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 แห่งออสเตรีย ให้ไปครองราชย์บัลลังก์อิมพีเรียลแห่งเม็กซิโก โดยการครองบัลลังก์นี้ นำไปสู่การก่อตั้งจักรวรรดิเม็กซิโกที่ 2 พระองค์และพระชายา เจ้าหญิงชาร์ลอตแห่งเบลเยียม ได้รับการสถาปนาเป็น จักรพรรดิ และ จักรพรรดินีแห่งเม็กซิโก แต่ในขณะที่ทรงราชย์นั้น ไม่ค่อยราบรื่นดีนัก เพราะเนื่องจากมีผู้ที่ต่อต้านพระองค์อยู่มากมาย จนในที่สุด ก็ทรงถูกโค่นราชบัลลังก์ โดยคณะปฏิวัติสาธารณรัฐนิยม พระองค์ทรงถูกประหารชีวิตเมื่อพ.ศ. 2410 โดยผู้นำปฏิวัติเบนิโต ยัวเรซ (ภายหลังได้เป็นประธานาธิบดีแห่งเม็กซิโก) ส่วนจักรพรรดินีมเหสี ก็เสด็จอพยพกลับมาตุภูมิ
ภาพ | พระนาม | รัชกาล |
![]() |
มักซีมีเลียนที่ 1 | พ.ศ. 2407 – พ.ศ. 2410 (ค.ศ. 1864 – ค.ศ. 1867) |
ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค: สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส
ตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ถึงศตวรรษที่ 18 ออสเตรียได้ส่งอาร์ชดัชเชสหลายพระองค์ไปอภิเษกสมรสกับพระบรมวงศานุวงศ์ฝรั่งเศส เพื่อผลประโยชน์ทางการทูต และพันธมิตรระหว่าง 2 ประเทศ โดยเฉพาะในรัชสมัยของจักรพรรดิฟรันซ์ที่ 2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งได้มีพระบรมราชโองการให้พระราชธิดาองค์โตของพระองค์ อาร์ชดัชเชสมารี หลุยส์ ให้ไปอภิเษกสมรสกับจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส เพื่อรักษาสมดุลในจักรวรรดิ หลังจากที่นโปเลียนได้รุกรานออสเตรีย และได้ยุบจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ลง
สายฮาพส์บวร์ค
ภาพ | พระนาม | รัชกาล | พระสวามี |
![]() |
เจ้าหญิงเอลีนอร์แห่งฮาพส์บวร์ค, เจ้าหญิงแห่งคาสตีล | พ.ศ. 2041 – พ.ศ. 2101 (ค.ศ. 1498 – ค.ศ. 1558) |
พระเจ้ามานูเอลที่ 1 แห่งโปรตุเกส เมื่อพระเจ้ามานูเอลเสด็จสวรรคต พระองค์ก็ทรงไปอภิเษกสมรสอีกครั้งกับสมเด็จพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศส |
ฮาพส์บวร์ค วงศ์ออสเตรีย
ภาพ | พระนาม | รัชกาล | พระสวามี |
![]() |
อาร์ชดัชเชสเอลิซาเบธแห่งออสเตรีย | พ.ศ. 2097 – พ.ศ. 2135 (ค.ศ. 1554 – ค.ศ. 1592) |
สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 10 แห่งฝรั่งเศส |
ฮาพส์บวร์ค วงศ์สเปน
ภาพ | พระนาม | รัชกาล | พระสวามี |
![]() |
เจ้าหญิงแอนน์แห่งสเปน | พ.ศ. 2144 – พ.ศ. 2209 (ค.ศ. 1601 – ค.ศ. 1666) |
พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส |
![]() |
เจ้าหญิงมาเรีย เทเรซาแห่งสเปน | พ.ศ. 2181 – พ.ศ. 2226 (ค.ศ. 1638 – ค.ศ. 1683) |
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน
ภาพ | พระนาม | รัชกาล | พระสวามี |
![]() |
อาร์ชดัชเชสมาเรีย แอนโตเนียแห่งออสเตรีย | พ.ศ. 2298 – พ.ศ. 2336 (ค.ศ. 1755 – ค.ศ. 1793) |
สมเด็จพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส |
ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค-ลอแรน: จักรพรรดินีแห่งฝรั่งเศส
ภาพ | พระนาม | รัชกาล | พระสวามี |
![]() |
อาร์ชดัชเชสมารี หลุยส์ แห่งออสเตรีย | พ.ศ. 2334 – พ.ศ. 2390 (ค.ศ. 1791 – ค.ศ. 1847) |
จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส |
หลังจากนโปเลียนถูกขับออกจากราชบัลลังก์ พระองค์ก็เสด็จกลับกรุงเวียนนา และนอกจากพระองค์ทรงเป็นจักรพรรดินีมเหสีแห่งฝรั่งเศสแล้ว พระองค์ยังทรงเป็นดัชเชสแห่งปาร์มาด้วย (Duchess of Parma) โดยแคว้นปาร์มาได้ถูกโอนให้เป็นแผ่นดินของราชวงศ์ฮาพส์บวร์คหลังจากการประชุมใหญ่แห่งเวียนนา แต่อยู่ได้ไม่นานก็ถูกผนวกเข้ากับราชอาณาจักรอิตาลี
ราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค: สมเด็จพระราชินีแห่งโปรตุเกส
สายฮาพส์บวร์ค
ภาพ | พระนาม | รัชกาล | พระสวามี |
![]() |
เจ้าหญิงเอลีนอร์แห่งฮาพส์บวร์ค, เจ้าหญิงแห่งคาสตีล | พ.ศ. 2041 – พ.ศ. 2101 (ค.ศ. 1498 – ค.ศ. 1558) |
พระเจ้ามานูเอลที่ 1 แห่งโปรตุเกส เมื่อพระเจ้ามานูเอลเสด็จสวรรคต พระองค์ก็ทรงไปอภิเษกสมรสอีกครั้งกับสมเด็จพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1 แห่งฝรั่งเศส |
![]() |
เจ้าหญิงแคเธอรีนแห่งฮาพส์บวร์ค, เจ้าหญิงแห่งสเปน | พ.ศ. 2050 – พ.ศ. 2121 (ค.ศ. 1507 – ค.ศ. 1578) |
พระเจ้ายูฮาวที่ 3 แห่งโปรตุเกส |
ฮาพส์บวร์ค วงศ์ออสเตรีย
ภาพ | พระนาม | รัชกาล | พระสวามี |
![]() |
อาร์ชดัชเชสมารี แอนน์แห่งออสเตรีย | พ.ศ. 2226 – พ.ศ. 2297 (ค.ศ. 1683 – ค.ศ. 1754) |
พระเจ้ายูฮาวที่ 5 แห่งโปรตุเกส |
ราชสกุลฮาพส์บวร์ค-ลอแรน
ภาพ | พระนาม | รัชกาล | พระสวามี |
![]() |
อาร์ชดัชเชสมาเรีย ลีโอโพลดิน่าแห่งออสเตรีย | พ.ศ. 2340 – พ.ศ. 2369 (ค.ศ. 1797 – ค.ศ. 1826) |
พระเจ้าเปโตรที่ 4 แห่งโปรตุเกส (จักรพรรดิเปโตรที่ 1 แห่งบราซิล) |
Remove ads
ตราแผ่นดินแห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี
ค.ศ. 1867 - 1915


ค.ศ. 1915 เป็นต้นไป
ตราแผ่นดินร่วมของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี แสดงถึงดินแดนซิสไลทาเนีย (โล่อันซ้าย) และดินแดนทรานส์ไลทาเนีย (โล่อันขวา) โดยมีโล่ประจำราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค-ลอแรนอยู่ตรงกลางเยื้องบนระหว่างโล่แผ่นดินทั้งสอง ด้านล่างเขียนคำขวัญว่า อินดิวิซซิบิทเทอร์ แอก อินเซเพราบิทเทอร์ (indivisibiliter ac inseparabiliter; แปล. หนึ่งเดียว แยกมิได้) โดยที่บรรดารัฐสมาชิกอื่น ๆ รับทราบกันถือเอาโล่ราชวงศ์นี้แทนตัวประมุขแห่งราชวงศ์ฮาพส์บวร์คในฐานะผู้ปกครองบรรดารัฐสมาชิก
Remove ads
ดูเพิ่ม
- จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
- จักรวรรดิออสเตรีย
- จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี
- ราชอาณาจักรฮังการี
- แผนผังราชวงศ์ฮาพส์บวร์ค
- แผนผังราชวงศ์ลอแรน
- ฮาพส์บวร์คสายเลโอโปลด์เดียน
- ฮาพส์บวร์คสายอัลเบอร์ไทน์
- ฮาพส์บวร์คสเปน
- ฮาพส์บวร์ค-โปรตุเกส
- ราชาธิปไตยฮาพส์บวร์ค
- พระราชวังฮอฟบวร์ค, กรุงเวียนนา
- พระราชวังเชินบรุนน์, กรุงเวียนนา
- ปราสาทบูดอ
หมายเหตุ
- อ้างสิทธื์ในพระราชอิสริยยศ แต่มิเคยปกครองในทางพฤตินัย
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads