Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ซูเปอร์เทสเตอร์[1] (อังกฤษ: supertaster แปลอย่างหนึ่งได้ว่า สุดยอดคนชิมอาหาร) เป็นบุคคลผู้ที่สามารถรับรสของสิ่งที่อยู่ที่ลิ้น ในระดับที่เข้มข้นมากกว่าคนอื่นโดยเฉลี่ย ในประชากรทั้งหมด ผู้หญิง 35% และผู้ชาย 15% เป็นซูเปอร์เทสเตอร์[2] และมีโอกาสที่จะสืบเชื้อสายมาจากคนเอเซีย คนอัฟริกา และคนอเมริกาใต้มากกว่าคนเชื้อชาติอื่น ๆ [3]
เหตุของระดับการตอบสนองที่สูงขึ้นเช่นนี้ยังไม่ชัดเจน ถึงแม้จะเชื่อกันว่า มีเหตุเกี่ยวข้องกับการมียีน TAS2R38 ซึ่งทำให้สามารถรับรสของสาร Propylthiouracil[4] และ Phenylthiocarbamide[5] ได้ และโดยส่วนหนึ่ง มีเหตุจากมีปุ่มรูปดอกเห็ด (fungiform papillae ที่ประกอบด้วยเซลล์รับรส) บนลิ้นที่มากกว่าปกติ[6]
การได้เปรียบของความสามารถนี้ในวิวัฒนาการไม่ใชัดเจน ในสิ่งแวดล้อมบางประเภท การตอบสนองทางรสชาติในระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะต่อรสขม อาจจะเป็นความได้เปรียบที่สำคัญใช้ในการหลีกเลี่ยงสารแอลคาลอยด์[7]ที่อาจเป็นพิษในพืช แต่ในสิ่งแวดล้อมอื่น การตอบสนองในระดับที่สูงขึ้นอาจจะจำกัดอาหารที่ทานแล้วรู้สึกอร่อย
คำนี้บัญญัติโดยนักจิตวิทยาเชิงทดลองชื่อว่า ลินดา บาร์โทชัก ซึ่งทำงานวิจัยเป็นอาชีพเป็นเวลานานเกี่ยวกับความแตกต่างในยีนของการรับรู้รส ในต้นคริสต์ทศวรรษที่ 1990 ดร. บาร์โทชัก และคณะได้ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้รับการทดลองบางจำพวกดูเหมือนจะมีการตอบสนองต่อรสชาติในระดับที่สูงกว่าปกติ แล้วก็ได้เริ่มเรียกบุคคลเหล่านั้นว่า ซูเปอร์เทสเตอร์[8][ไม่แน่ใจ ] การตอบสนองในระดับที่สูงขึ้นนี้ ไม่ใช่เกิดจาก response bias[9] หรือเกิดจากการกำหนดค่าที่ไม่เหมือนกันในระหว่างบุคคล แต่ปรากฏว่ามีรากฐานทางกายภาพหรือทางชีวภาพจริง ๆ
ในปี ค.ศ. 1931 นักเคมีของบริษัทดูป็อนต์ (DuPont) ชื่อว่าอาร์เธอร์ ฟ็อกซ์ ค้นพบว่า บุคคลบางจำพวกบอกว่าสาร phenylthiocarbamide[5] (PTC) มีรสขม แต่บางพวกกลับบอกว่า ไม่มีรส[10][11] ในงานประชุมปี ค.ศ. 1931 ของสมาคมอเมริกันเพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ (American Association for the Advancement of Science) ฟ็อกซ์ได้เข้าร่วมงานกับนักพันธุศาสตร์อัลเบิรต์ เบลกสลี ทำการทดลองให้ผู้เข้าประชุมลิ้มรส PTC แล้วพบว่า 65% บอกว่า ขม 28% บอกว่า ไม่มีรสชาติ และ 6% บอกว่า มีรสอื่น งานวิจัยต่อ ๆ มาพบว่า ความสามารถในการรับรสของ PTC มีเหตุมาจากยีน]
ในคริสต์ทศวรรษที่ 1960 โรแลนด์ ฟิชเช่อร์ เป็นบุคคลแรกที่เชื่อมความสามารถในการลิ้มรส PTC และสารประกอบที่เกี่ยวข้องกันคือ propylthiouracil[4] (PROP) กับความชอบใจในอาหารและกับรูปร่างของร่างกาย ปัจจุบันนี้ PROP ได้แทนที่ PTC เพื่อใช้ในงานวิจัยเกี่ยวกับการลิ้มรสเพราะ PTC มีกลิ่นกำมะถันเล็กน้อย และเพราะความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของ PTC[12]
ดังที่กล่าวมาก่อน ดร. บาร์โทชักและคณะได้ค้นพบว่า กลุ่มคนผู้รับรสอาหารสามารถแบ่งออกเป็นระดับกลางและระดับซูเปอร์ ค่าประเมินโดยมากเสนอว่า 25% ในประชากรเป็นผู้รับรสพื้นฐาน (nontaster) 50% รับรสได้ในระดับกลาง และ 25% เป็นซูเปอร์เทสเตอร์[13]
มีการเชื่อมโยงยีนของตัวรับรส TAS2R38 กับความสามารถในการได้รส PROP[4][14] และ PTC[5][15] แต่ว่า เหตุนี้ก็ยังไม่สามารถอธิบายปรากฏการณ์นี้ได้อย่างหมดสิ้น[16]
หลังจากนั้น ก็มีการเชื่อมต่อลักษณะทางพันธุกรรม (genotype) ประเภท T2R38 กับการชอบของหวาน ๆ ในเด็ก[17] การหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์[14][14] ความชุกที่สูงขึ้นของมะเร็งลำไส้ใหญ่ (เพราะการบริโภคผักผลไม้ที่ไม่เพียงพอ) [18] และการหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่[19]
ในตอนแรก มีการตรวจหาซูเปอร์เทสเตอร์โดยเทียบระดับความรู้สึกถึงรสของ PROP[4]โดยเทียบกับน้ำเกลือที่เป็นรสอ้างอิง แต่เพราะว่า ซูเปอร์เทสเตอร์มีความรู้สึกที่มีกำลังกว่าคนชิมอาหารระดับกลางและ nontaster การใช้รสอ้างอิงแบบนี้อาจนำไปสู่ การให้ค่ารสชาติที่แตกต่างกันตามสัดส่วนในระหว่างบุคคล (scaling artifact) [11] ดังนั้น หลังจากนั้น จึงได้ใช้เสียง (ที่ไม่ใช่เสียงพูด) เพื่อสร้างระดับการรับรู้อ้างอิงแทน นั่นก็คือ ถ้าคนสองคนให้ค่าระดับความรู้สึกที่เท่า ๆ กันตอบสนองต่อสิ่งเร้าทางกายภาพที่มีระดับเท่ากัน แต่คนหนึ่งให้ค่าความขมของสารละลาย PROP เป็นสองเท่า ผู้ทดลองก็จะสามารถมีความมั่นใจว่า มีความต่างกันจริง ๆ ไม่ใช่เป็นผลของการที่บุคคลใช้อัตราส่วนที่แตกต่างกัน[ต้องการอ้างอิง]
แต่ว่า งานวิจัยหลายงานก็ไม่ได้ใช้ระดับความรู้สึกอ้างอิงที่ข้ามระบบประสาท และทำการจำแนกบุคคลโดยค่าความขมของสารละลาย PROP[20][21] หรือกระดาษที่อิ่มด้วย PROP[22] นอกจากนั้นแล้ว ยังสามารถทำการวินิจฉัยด้วยตนที่ค่อนข้างจะแม่นยำโดยดูลิ้นแล้วหาจำนวนของปุ่มรูปดอกเห็ด (fungiform papillae) [ต้องการอ้างอิง] และสีอาหารสีน้ำเงินอาจทำงานนี้ให้ง่ายขึ้น (ดูรูป) เนื่องจากว่า มีทั้งซูเปอร์เทสเตอร์และ nontaster ในกลุ่มประชากรโดยปกติ เหมือนกับมีสีของตาและผมที่ต่าง ๆ กัน ไม่จำเป็นที่จะต้องไปหาหมอเพราะเหตุนั้น
แม้ว่า จะไม่มีแบบความชอบใจในการเลือกอาหารของซูเปอร์เทสเตอร์ ตัวอย่างที่มีการบันทึกไว้เกี่ยวกับอาหารเครื่องดื่มที่ซูเปอร์เทสเตอร์ไม่ชอบใจหรือไม่บริโภครวมทั้ง
โดยหลักฐานโดยอ้อม อาหารเครื่องดื่มประเภทอื่นที่ซูเปอร์เทสเตอร์อาจจะไม่ชอบใจอีก รวมทั้ง
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.