![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/8/89/Flag_of_Yemen.svg/langth-640px-Flag_of_Yemen.svg.png&w=640&q=50)
ประเทศเยเมน
From Wikipedia, the free encyclopedia
เยเมน (อังกฤษ: Yemen;/ˈjɛmən/ ( ฟังเสียง); อาหรับ: ٱلْيَمَنْ, อักษรโรมัน: al-Yaman) หรือ สาธารณรัฐเยเมน[lower-alpha 2] เป็น รัฐเอกราช ตั้งอยู่ในเขตเอเชียตะวันตกเฉียงใต้[11] ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของ คาบสมุทรอาหรับ, มีชายแดนทางเหนือติดกับ ซาอุดีอาระเบีย, ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือติดกับโอมาน, ทางใต้ติดกับ มหาสมุทรอินเดีย, แบ่งปันพรมแดนทางทะเลกับประเทศเอริเทรีย, ประเทศจิบูตี และ ประเทศโซมาเลีย ข้าม จะงอยแอฟริกา ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 528,000 ตารางกิโลเมตร (204,000 ตารางไมล์)[12] มีแนวชายฝั่งประมาณ 2,000 กิโลเมตร (1,200 ไมล์) เยเมนเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับสองบนคาบสมุทรอาหรับ[13] ซานา เป็นเมืองหลวงตามรัฐธรรมนูญและเมืองที่ใหญ่ที่สุด ประชากรเยเมนโดยประมาณอยู่ที่ 34.7 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชาวอาหรับ มุสลิม[14] เป็นสมาชิกของสันนิบาตอาหรับ, สหประชาชาติ, ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และองค์การความร่วมมืออิสลาม
![]() | เนื้อหาในบทความนี้ล้าสมัย โปรดปรับปรุงข้อมูลให้เป็นไปตามเหตุการณ์ปัจจุบันหรือล่าสุด ดูหน้าอภิปรายประกอบ |
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
สาธารณรัฐเยเมน ٱلْجُمْهُورِيَّةُ ٱلْيَمَنِيَّةُ (อาหรับ) al-Jumhūriyyatu l-Yamaniyyatu (ทางการ) al-Jumhūriyyah l-Yamaniyyah (ไม่ทางการ) | |
---|---|
สถานะ | |
เมืองหลวง และเมืองใหญ่สุด | ซานา [n 1] 15°20′54″N 44°12′23″E |
เมืองหลวงพลัดถิ่น | รียาด (การบริหารของประธานาธิบดี) |
ภาษาหลัก และภาษาของชาติ | ภาษาอาหรับ[2] |
กลุ่มชาติพันธุ์ (2000)[3] | |
ศาสนา (2020),[4] ดูเพิ่มเติม ศาสนาในเยเมน | |
เดมะนิม | Yemeni Yemenite |
การปกครอง | รัฐเดี่ยว โดย สาธารณรัฐ แบบชั่วคราว |
• ประธานาธิบดี | Rashad al-Alimi (โต้แย้ง) [n 2] |
• รองประธานาธิบดี | Ahmad Awad bin Mubarak (โต้แย้ง)[n 3] |
สภานิติบัญญัติ | รัฐสภา |
• สภาสูง | สภาชูระ |
• สภาล่าง | สภาผู้แทนราษฎร |
การสถาปนา | |
• สถาปนาราชอาณาจักรมุตาวัคคิไลต์เยเมนa | 30 ตุลาคม ค.ศ. 1918 |
26 กันยายน ค.ศ. 1962 | |
• เยเมนใต้ได้รับเอกราชb | 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1967 |
• การรวมชาติ | 22 พฤษภาคม ค.ศ. 1990 |
• รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน | 16 พฤษภาคม ค.ศ. 1991 |
16 กันยายน ค.ศ. 2014 | |
พื้นที่ | |
• รวม | 555,000[lower-alpha 1] ตารางกิโลเมตร (214,000 ตารางไมล์) (อันดับที่ 49) |
น้อยมาก | |
ประชากร | |
• ค.ศ. 2023 ประมาณ | 34,449,825[6] ![]() |
65.0 ต่อตารางกิโลเมตร (168.3 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 152) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | ค.ศ. 2023 (ประมาณ) |
• รวม | ![]() |
• ต่อหัว | ![]() |
จีดีพี (ราคาตลาด) | ค.ศ. 2023 (ประมาณ) |
• รวม | ![]() |
• ต่อหัว | ![]() |
จีนี (ค.ศ. 2014) | 36.7[8] ปานกลาง |
เอชดีไอ (ค.ศ. 2022) | ![]() ต่ำ · อันดับที่ 186 |
สกุลเงิน | เรียลเยเมน (YER) |
เขตเวลา | UTC+3 (AST) |
ขับรถด้าน | ขวามือ[10] |
รหัสโทรศัพท์ | +967 |
รหัส ISO 3166 | YE |
โดเมนบนสุด | .ye, اليمن. |
ด้วยทำเลที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ เยเมนเป็นจุดศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรืองของอารยธรรมต่างๆ มานานกว่า 7,000 ปี ชาวซาบา ได้ก่อตั้งอาณาจักรการค้าที่รุ่งเรือง ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของเอธิโอเปีย และเอริเทรียสมัยใหม่ด้วย[15][16][17] หลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 275 อาณาจักรฮิมยัร ได้เข้ามาแทนที่ ครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของเยเมนในปัจจุบัน และได้รับอิทธิพลอย่างมากจากศาสนายูดาย[18] ศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแพร่ในเยเมนราวศตวรรษที่ 4 ต่อมาในศตวรรษที่ 7 ศาสนาอิสลามได้แพร่หลายอย่างรวดเร็ว กองทหารเยเมนมีบทบาทสำคัญในช่วงแรกของการพิชิตดินแดนเพื่อขยายอาณาจักรอิสลาม[19] ราชวงศ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9 ถึง 16 [20] ในช่วงศตวรรษที่ 19 ประเทศถูกแบ่งระหว่างจักรวรรดิออตโตมันและอังกฤษ หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ราชอาณาจักรมุตาวัคคิไลต์เยเมนได้ถูกสถาปนาขึ้น ซึ่งในปี ค.ศ. 1962 ได้กลายเป็นสาธารณรัฐอาหรับเยเมน (เยเมนเหนือ) ภายหลังการรัฐประหาร ในปี ค.ศ. 1967 บริติชเอเดนในอารักขากลายเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเยเมน (เยเมนใต้) ซึ่งเป็นรัฐสังคมนิยมอย่างเป็นทางการแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกอาหรับ ในปี ค.ศ. 1990 รัฐทั้งสองของเยเมนได้รวมตัวกันเพื่อก่อตั้งสาธารณรัฐเยเมนสมัยใหม่ (อัล-จุมฮูรียาห์ อัล-ยามานียาห์) โดยมีอาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรกจนกระทั่งเขาลาออกในปี ค.ศ. 2012 หลังกระแสอาหรับสปริง[21][22]
ตั้งแต่ปี 2011 เยเมนเผชิญวิกฤตทางการเมือง รัฐบาลเผชิญการประท้วงบนท้องถนนจากประชาชน เนื่องจากปัญหาความยากจน ว่างงาน การทุจริต และแผนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อยกเลิกการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของซาเลห์[23] สถานการณ์เลวร้ายลงจนถึงปี 2015 ประเทศเข้าสู่สงครามกลางเมือง มีหลายฝ่ายที่ต้องการช่วงชิงอำนาจปกครอง ฝ่ายต่างๆเหล่านี้ ได้แก่ คณะรัฐบาลที่ได้รับการรับรองจากประชาคมโลก นำโดยสภาประธานาธิบดี[1] (Presidential Leadership Council), คณะกรรมการการเมืองสูงสุดของกลุ่มฮูษี (Houthi movement's Supreme Political Council) และ คณะกรรมการบริหารฝ่ายใต้ (Southern Transitional Council) ซึ่งเป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดนภาคใต้ ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงและมีการแทรกแซงจากต่างชาติหลายประเทศ นำไปสู่วิกฤตด้านมนุษยธรรมที่รุนแรง[24][25][26][27][28][29]
เยเมนถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในประเทศพัฒนาน้อยที่สุดของโลก[30] เนื่องจากเผชิญปัญหาและอุปสรรคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน[31] นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีปัญหาความยากจนรุนแรงที่สุดในแถบ ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ[32] ในปี 2019 องค์การสหประชาชาติรายงานว่าเยเมนมีจำนวนผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมากที่สุด ซึ่งคิดเป็นประมาณ 24 ล้านคน หรือเกือบ 75% ของประชากรทั้งหมด[33] เยเมนติดอันดับประเทศเปราะบางที่สุดในดัชนีความเปราะบาง (Fragile States Index) และอยู่ในอันดับสองที่เลวร้ายที่สุดในดัชนีความหิวโหยโลก (Global Hunger Index) รองเพียงสาธารณรัฐแอฟริกากลางเท่านั้น[34] นอกจากนี้ เยเมนยังมีดัชนีการพัฒนามนุษย์ (Human Development Index) ต่ำที่สุดในบรรดประเทศนอกทวีปแอฟริกาอีกด้วย