ออตโต วอร์มเบียร์
From Wikipedia, the free encyclopedia
ออตโต เฟรเดอริก วอร์มเบียร์ (อังกฤษ: Otto Frederick Warmbier, 12 ธันวาคม 2537 – 19 มิถุนายน 2560) เป็นนักศึกษาระดับอุดมศึกษาชาวอเมริกัน ในปี 2559 เขาถูกคุมขังในประเทศเกาหลีเหนือในข้อหาบ่อนทำลาย ต่อมาในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2560 เขาได้รับการปล่อยตัวจากเกาหลีเหนือในสภาพผักเรื้อรังและเสียชีวิตลงในเวลาไม่นานหลังได้รับการปล่อยตัว
ออตโต วอร์มเบียร์ | |
---|---|
เกิด | ออตโต เฟรเดอริก วอร์มเบียร์ (Otto Frederick Warmbier) 12 ธันวาคม ค.ศ. 1994(1994-12-12) ซินซินแนติ, รัฐโอไฮโอ, สหรัฐอเมริกา |
เสียชีวิต | 19 มิถุนายน ค.ศ. 2017(2017-06-19) (22 ปี) ซินซินแนติ, โอไฮโอ, สหรัฐอเมริกา |
การศึกษา | โรงเรียนมัธยมไวโอมิง |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน |
การคุมขัง | |
ประเทศ | ![]() |
คุมขัง | 000000002016-01-02-00002 มกราคม 2016 |
ข้อหา | บ่อนทำลาย (จากการถูกกล่าวหาในฐานพยายามโจรกรรมโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อ) |
คำตัดสิน | จำคุก 15 ปี |
ปล่อยตัว | 000000002017-06-12-000012 มิถุนายน 2017 |
วอร์มเบียร์เข้าประเทศเกาหลีเหนือในวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558 โดยเป็นส่วนหนึ่งของคณะทัวร์ ต่อมาในวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2559 เขาถูกจับกุมที่ท่าอากาศยานนานาชาติเปียงยางระหว่างการรอเครื่องบินขากลับประเทศ เขาถูกตัดสินให้มีความผิดฐานพยายามโจรกรรมโปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อจากโรงแรม นำไปสู่การถูกจำคุก 15 ปีประกอบกับให้ใช้แรงงานอย่างหนัก[1]
ต่อมาในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2559 ไม่นานหลังถูกพิพากษาให้คุมขัง วอร์มเบียร์ได้รับบาดเจ็บทางประสาทอย่างหนักและเข้าสู่อาการโคม่า เขายังคงอยู่ในภาวะนี้จนกระทั่งเสียชีวิต ทางด้านสาเหตุนั้นยังไม่ได้รับการยืนยัน[2] ส่วนทางการของเกาหลีเหนือก็ไม่ได้ประกาศถึงอาการป่วยของเขา จนเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2560 ก็ได้มีการประกาศถึงอาการป่วย พร้อมบอกว่าอาการโคม่านั้นมีต้นเหตุจากโรคโบทูลิซึมและการใช้ยานอนหลับ ต่อมาภายในเดือนเดียวกัน เขาก็ถูกปล่อยตัวในภาวะโคม่า หลังจากถูกคุมขังมานานถึง 17 เดือน เขาเดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกา และถูกส่งตัวไปยังซินซินแนติ รัฐโอไฮโอ ในวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เพื่อเข้ารับการประเมินและการรักษาอย่างเร่งด่วนที่ ศูนย์สุขภาพแห่งมหาวิทยาลัยซินซินแนติ
ตลอดระยะเวลารักษาตัว เขาไม่ได้สติกลับคืนมาและเสียชีวิตลงในวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เพียง 6 วันหลังจากกลับมายังสหรัฐอเมริกา โดยทางครอบครัวเป็นผู้ร้องขอให้ถอดสายให้อาหารออก[3] จากรายงานของเจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพ ให้สาเหตุการเสียชีวิตว่า เขาเสียชีวิตจากอาการสมองขาดออกซิเจนเนื่องด้วยการบาดเจ็บอันไม่ทราบสาเหตุ[4] ผลจากการการสแกนภายในแบบไม่รุกล้ำให้ผลว่า ไม่ปรากฏถึงร่องรอยของรอยร้าวบนกะโหลกศีรษะ[3]
ในปี 2561 ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ตัดสินให้รัฐบาลเกาหลีเหนือต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ในข้อหาทรมานและเป็นเหตุให้วอร์มเบียร์เสียชีวิต ตามคำเรียกร้องของผู้ปกครองของวอร์มเบียร์ ประกอบกับการที่เกาหลีเหนือไม่ได้เข้าสู้คดีความ ศาลจึงให้คำพิพากษาโดยขาดนัด (Default judgment) เอื้อประโยชน์แก่ผู้ปกครองของวอร์มเบียร์[5][6] ต่อมาในปี 2562 คำพูดของประธานาธิบดีสหรัฐ ดอนัลด์ ทรัมป์ ได้ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ที่ว่า เขาเชื่อในคำของผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จ็อง-อึน ที่ว่า คิมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของวอร์มเบียร์ เพื่อเป็นการตอบโต้ ผู้ปกครองของวอร์มเบียร์ได้วิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์ว่า "หาข้อแก้ตัวให้คิมและระบอบการปกครองอันชั่วร้ายของเขา"[7][8]