Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
การปฏิวัติเบลเยียม (ฝรั่งเศส: Révolution belge, ดัตช์: Belgische Revolutie/opstand/omwenteling, อังกฤษ: Belgian revolution) เป็นการปฏิวัติแบ่งแยกของจังหวัดแถบใต้ (ส่วนใหญ่มาจากอดีตดินแดนในเนเธอร์แลนด์ใต้) จากสหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ จนนำไปสู่การก่อตั้งราชอาณาจักรเบลเยียม
การปฏิวัติเบลเยียม | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ การปฏิวัติ ค.ศ. 1830 | |||||||
ภาพเขียน Episode of the Belgian Revolution of 1830 โดยกุสตาฟ วัปเปอร์ส (Gustaf Wappers) | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
ผู้ก่อกบฎชาวเบลเยียม ราชอาณาจักรแห่งชาวฝรั่งเศส รัสเซีย | สหราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
พระเจ้าเลออปอลที่ 1 ชาร์ลส์ โรฌีเย เอราสม์ หลุยส์ ซุร์เลต์ เดอ โชกีเย พระเจ้าหลุยส์-ฟีลิปที่ 1 เอเตียน โมรีซ เฌราร์ด |
พระเจ้าวิลเลิมที่ 1 เจ้าชายวิลเลิม เจ้าชายเฟรเดอริก | ||||||
กำลัง | |||||||
60,000[1] | 50,000[1] |
ผู้คนในจังหวัดแถบใต้นั้นประกอบด้วยชาวเฟลมมิช และชาววัลลูน ซึ่งนับถือนิกายคาทอลิกมาแต่เดิม ตรงกันข้ามกับชาวดัตช์ทางเหนือที่นับถือนิกายโปรเตสแตนท์ (คริสตจักรปฏิรูปแห่งดัตช์) เป็นหลัก ทำให้เหล่าผู้คนหัวเสรีนิยมส่วนใหญ่ไม่พอใจกับการถูกกดขี่จากการปกครองในรัชสมัยของพระเจ้าวิลเลิมที่ 1 ซึ่งมีอัตราการว่างงานสูง และเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในระหว่างชนชั้นแรงงานอยู่เสมอ[2]
เมื่อ 25 สิงหาคม ค.ศ. 1830 ได้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบครั้งใหญ่ขึ้นในกรุงบรัสเซลส์ โดยมีแนวร่วมเป็นผู้นิยมอุปรากรเรื่อง ลา มูเอ็ต เดอ ปอร์ตีชี (La muette du Portici) ซึ่งเข้าร่วมก่อการ และต่อมาได้มีการชุมนุมเกิดขึ้นทั่วประเทศ โรงงานอุตสาหกรรมได้ถูกยึดครองและเครื่องจักรต่างๆ ถูกทำลาย ต่อมาพระเจ้าวิลเลิมที่ 1ได้ส่งกองทัพเข้าตรึงกำลังรักษาความสงบในจังหวัดแถบใต้แต่ก็ไม่สามารถทัดทานกลุ่มผู้ต่อต้านซึ่งนำโดยผู้นำหัวรุนแรงเริ่มพูดถึงการแบ่งแยกดินแดนขึ้น[3]
ในขณะนั้นกองทัพดัตช์ได้พบการหนีทหารครั้งใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยทหารจากจังหวัดแถบใต้ ซึ่งต่อมาสภาที่กรุงบรัสเซลส์ได้มีมติรับรองการแบ่งแยกดินแดน และประกาศอิสรภาพ โดยได้มีการจัดตั้งรัฐสภาแห่งชาติ (National Congress) ขึ้น ทำให้พระเจ้าวิลเลิมที่ 1ได้หยุดการดำเนินการทางทหาร และหันไปหามหาอำนาจเพื่อช่วยยุติความไม่สงบในครั้งนี้ ทว่าในการประชุมลอนดอน ค.ศ. 1830 ประเทศมหาอำนาจในยุโรปได้มีมติรับรองการแบ่งแยกดินแดนของเบลเยียม และรับรองสถานะความเป็นเอกราชของเบลเยียมโดยสมบูรณ์
ต่อมาในปีค.ศ. 1831 ภายหลังจากการสถาปนาพระเจ้าเลออปอลที่ 1 ขึ้นเป็น "พระมหากษัตริย์แห่งชาวเบลเยียม" พระเจ้าวิลเลิมที่ 1ได้มีความพยายามทำปฏิบัติการทางการทหารเพื่อยึดดินแดนคืน หรือรู้จักกันในชื่อ "ยุทธการสิบวัน" (Ten Days' Campaign) ซึ่งล้มเหลวโดยสิ้นเชิงจากการเข้าแทรกแทรงช่วยเหลือจากกองทัพฝรั่งเศสในขณะนั้น และต่อมาในที่สุดก็ยอมรับรองอิสรภาพให้เบลเยียมในปีค.ศ. 1839 ภายหลังจากการลงนามในสนธิสัญญาลอนดอน
ภายหลังจากการพ่ายแพ้ของนโปเลียนในยุทธการที่วอเตอร์ลูในปีค.ศ. 1815 มติการประชุมใหญ่แห่งเวียนนาทำให้มีการก่อตั้งราชอาณาจักรของราชวงศ์ออเรนจ์-นัสเซาโดยรวมดินแดนของสาธารณรัฐดัตช์เข้ากับดินแดนเก่าของออสเตรียนเนเธอร์แลนด์โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นรัฐกันชนทางตอนเหนือของฝรั่งเศส
มูลเหตุในการปฏิวัตินั้นมาจากหลายเหตุการณ์ ส่วนสำคัญได้แก่ความแตกต่างทางศาสนา (โรมันคาทอลิกในเบลเยียม และโปรเตสแตนท์ในเนเธอร์แลนด์) รวมถึงการขาดการแบ่งแยกอำนาจที่สมดุลเพื่อปกครองตนเองของจังหวัดแถบใต้
ตัวแปรอื่นๆ ซึ่งมีความสำคัญอันเป็นมูลเหตุในการปฏิวัติ ได้แก่
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.