![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/0/07/Tumen_River_near_Songhak-ri.jpg/640px-Tumen_River_near_Songhak-ri.jpg&w=640&q=50)
แม่น้ำตูเมน
From Wikipedia, the free encyclopedia
แม่น้ำตูเมน (อังกฤษ: Tumen River) หรือ แม่น้ำทูมัน (เกาหลี: 豆滿江, 두만강)[lower-alpha 1] เป็นแม่น้ำทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปเอเชีย เป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างประเทศจีน เกาหลีเหนือ และรัสเซีย มีความยาว 521 กิโลเมตร (324 ไมล์) มีต้นน้ำอยู่ที่ภูเขาแพ็กดู (Mount Paektu)[2] ไหลผ่านระหว่างมณฑลจี๋หลินของจีนกับจังหวัดรยังกัง (Ryanggang Province) และจังหวัดฮัมกย็องเหนือ (North Hamgyong Province) ของเกาหลีเหนือ และไหลผ่านพรมแดนรัสเซียกับเกาหลีเหนือเป็นระยะทาง 17 กิโลเมตร (11 ไมล์) ก่อนไหลลงทะเลญี่ปุ่น[3]
แม่น้ำตูเมน | |
---|---|
![]() | |
![]() ที่ตั้งของแม่น้ำตูเมน | |
ที่มาของชื่อ | ภาษามองโกล, "หนึ่งหมื่น (ᠲᠦᠮᠡᠨ, Tümen)" & ภาษาเกาหลีเก่า "หนึ่งหมื่น (드먼, Tŭmŏn)" |
ชื่อท้องถิ่น | |
ที่ตั้ง | |
ประเทศ | เกาหลีเหนือ, จีน, รัสเซีย |
จังหวัด (เกาหลีเหนือ) | ฮัมกย็องเหนือ, รยังกัง |
มณฑล (จีน) | จี๋หลิน |
องค์ประกอบของสหพันธรัฐ (รัสเซีย) | ดินแดนปรีมอร์เย |
ลักษณะทางกายภาพ | |
ต้นน้ำ | ภูเขาแพ็กดู |
ปากน้ำ | ทะเลญี่ปุ่น |
• ตำแหน่ง | ทะเลญี่ปุ่น, เกาหลีเหนือ, รัสเซีย |
• พิกัด | 42°17′34″N 130°41′56″E |
ความยาว | 521 กิโลเมตร (324 ไมล์) |
พื้นที่ลุ่มน้ำ | 33,800 ตารางกิโลเมตร (13,100 ตารางไมล์) |
ชื่อแม่น้ำตูเมนมาจากคำในภาษามองโกเลีย tümen (แปลว่า หนึ่งหมื่น) ชื่อภาษารัสเซียคือ Tumannaya (แปลว่า หมอก) ปัจจุบันแม่น้ำสายนี้ได้รับมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมของเกาหลีเหนือและจีน แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่ง เมืองสำคัญริมแม่น้ำได้แก่ ฮเวรย็อง (Hoeryong), อนซ็อง (Onsong) ของเกาหลีเหนือ และหนานผิง (Nanping) ของจีน ในปี ค.ศ. 1938 ญี่ปุ่นได้สร้างสะพานข้ามแม่น้ำตูเมนตรงจุดที่แม่น้ำฉวน (Quan River) มารวมกับแม่น้ำตูเมน ต่อมาในปี ค.ศ. 1995 จีน มองโกเลีย รัสเซีย เกาหลีใต้ได้ลงนามในความร่วมมือพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจแม่น้ำตูเมน[4][5]
ชาวเกาหลีเหนือที่ต้องการหลบหนีออกนอกประเทศมักใช้แม่น้ำตูเมนเป็นเส้นทางหลบหนี[6] เนื่องจากมีความตื้นและไม่กว้างมาก[2] สามารถเดินหรือว่ายข้ามเป็นระยะสั้น ๆ ได้[2] ในฤดูหนาว แม่น้ำสายนี้จะเป็นน้ำแข็งจนเดินข้ามไปอีกฝั่งได้[7] ผู้ที่หลบหนีส่วนใหญ่จะเลือกข้ามไปประเทศจีนมากกว่ารัสเซีย เนื่องจากรัสเซียมีการลาดตระเวนตามชายแดนที่ดีกว่า[2] และมีชาวเกาหลีคอยช่วยเหลือน้อยกว่า