ประเทศอัฟกานิสถาน
ประเทศในเอเชียใต้ / From Wikipedia, the free encyclopedia
อัฟกานิสถาน (อังกฤษ: Afghanistan; ดารี/ปาทาน: افغانستان) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า เอมิเรตอิสลามอัฟกานิสถาน (อังกฤษ: Islamic Emirate of Afghanistan; ปาทาน: د افغانستان اسلامي امارت; ดารี: امارت اسلامی افغانستان) เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในเอเชียใต้ มีอาณาเขตทางทิศตะวันตกติดกับประเทศอิหร่าน ทางทิศใต้และทิศตะวันออกติดกับปากีสถาน ทางทิศเหนือติดเติร์กเมนิสถาน อุซเบกิสถาน และทาจิกิสถาน ส่วนทางทิศตะวันออกสุดติดประเทศจีน มีอาณาเขต 652,000 ตารางกิโลเมตร มีกรุงคาบูลเป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศ มีประชากรประมาณ 40 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาติพันธุ์ปาทาน ทาจิก ฮาซาราและอุซเบก
เอมิเรตอิสลามอัฟกานิสถาน
| |
---|---|
สถานะ | รัฐสมาชิกสหประชาชาติที่มีรัฐบาลที่ไม่ได้รับการยอมรับ |
เมืองหลวง และเมืองใหญ่สุด | คาบูล 34°31′N 69°11′E[3] |
ภาษาราชการ | |
กลุ่มชาติพันธุ์ | |
ศาสนา | |
เดมะนิม | ชาวอัฟกัน[lower-alpha 2][12][13] |
การปกครอง | รัฐเดี่ยวในระบบรวบอำนาจเบ็ดเสร็จ[14] เอมิเรตเฉพาะกาล ในระบอบเทวาธิปไตยอิสลาม[15] |
• ผู้นำสูงสุด | ฮิบะตุลลอฮ์ อะคูนซาดะฮ์ |
• นายกรัฐมนตรี | ฮาซัน อะคูน (รักษาการ) |
• ประธานศาลฎีกา | อับดุล ฮากิม อิสฮักไซ |
สภานิติบัญญัติ | สภาผู้นำ[16] |
สถาปนา | |
• จักรวรรดิโฮทัก | ค.ศ. 1709–1738 |
• จักรวรรดิดูรานี | ค.ศ. 1747–1842 |
• เอมิเรต | ค.ศ. 1823–1926 |
• ได้รับการรับรอง | 19 สิงหาคม ค.ศ. 1919 |
9 มิถุนายน ค.ศ. 1926 | |
17 กรกฎาคม ค.ศ. 1973 | |
7 กันยายน ค.ศ. 1996 | |
26 มกราคม ค.ศ. 2004 | |
15 สิงหาคม ค.ศ. 2021 | |
พื้นที่ | |
• รวม | 652,867[17] ตารางกิโลเมตร (252,073 ตารางไมล์) (อันดับที่ 40) |
น้อย | |
ประชากร | |
• ค.ศ. 2022 ประมาณ | 38,346,720[18] (อันดับที่ 37) |
48.08 ต่อตารางกิโลเมตร (124.5 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 174) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | ค.ศ. 2018 (ประมาณ) |
• รวม | 72.911 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[19] (อันดับที่ 96) |
• ต่อหัว | 2,024 ดอลลาร์สหรัฐ[19] (อันดับที่ 169) |
จีดีพี (ราคาตลาด) | ค.ศ. 2018 (ประมาณ) |
• รวม | 21.657 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[19] (อันดับที่ 111) |
• ต่อหัว | 493 ดอลลาร์สหรัฐ[19] (อันดับที่ 177) |
เอชดีไอ (ค.ศ. 2021) | 0.478[20][21] ต่ำ · อันดับที่ 180 |
สกุลเงิน | อัฟกานี (افغانی) (AFN) |
เขตเวลา | UTC+4:30 ปฏิทินจันทรคติ[22] (เวลาอัฟกานิสถาน) |
ไม่มี[23] | |
ขับรถด้าน | ขวา |
รหัสโทรศัพท์ | +93 |
โดเมนบนสุด | .af افغانستان. |
บริเวณนี้มีมนุษย์อยู่อาศัยมาอย่างน้อย 50,000 ปี[24] จนมีการตั้งถิ่นฐานเป็นหลักแหล่งอยู่ถาวรในบริเวณเมื่อ 9,000 ปีมาแล้ว ก่อนค่อย ๆ พัฒนาไปเป็นอารยธรรมสินธุ อารยธรรมอ็อกซัสและอารยธรรมเฮลมันด์ในสหัสวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล[25] ชาวอินโด-อารยันย้ายเข้ามา ตามด้วยความเจริญของวัฒนธรรม Yaz I ยุคเหล็ก (ประมาณ 1500–1100 ปีก่อน ค.ศ.) ซึ่งมีความสัมพันธ์กับวัฒนธรรมที่มีกล่าวถึงใน Avesta คัมภีร์ของศาสนาโซโรอัสเตอร์[26] บริเวณนี้ได้ตกเป็นของเปอร์เซียในศตวรรษที่ 6 ก่อน ค.ศ. ไปจนถึงแม่น้ำสินธุ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาอำราจบุกครองดินแดนดังกล่าวในศตวรรษที่ 4 ก่อน ค.ศ. อาณาจักรกรีก-แบ็กเทรียเป็นปลายตะวันออกสุดของอารยธรรมกรีก ต่อมาดินแดนนี้ถูกพิชิตโดยอินเดียสมัยราชวงศ์เมารยะ ทำให้ศาสนาพุทธและฮินดูแพร่หลายในพื้นที่นี้หลายศตวรรษ พระเจ้ากนิษกะแห่งจักรวรรดิกุษาณะมีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่ศาสนาพุทธนิกายมหายานเข้าสู่ประเทศจีนและเอเชียกลาง หลังจากนั้นมีราชวงศ์ที่นับถือพุทธปกครองดินแดนแถบนี้มาอีกหลายราชวงศ์
ศาสนาอิสลามเข้าสู่บริเวณนี้ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 7 แต่มีการเผยแผ่ศาสนาอย่างจริงจังระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 9 ถึง 12 และมีการผลัดเปลี่ยนราชวงศ์อยู่อีกหลายครั้ง ประวัติศาสตร์การเมืองของรัฐอัฟกานิสถานสมัยใหม่เริ่มต้นจากราชวงศ์ Hotak ซึ่งประกาศเอกราชในอัฟกานิสถานตอนใต้ใน ค.ศ. 1709 ต่อมามีการตั้งอาณาจักรดูรานีใน ค.ศ. 1747 ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 อัฟกานิสถานเป็นรัฐกันชนใน "เกมใหญ่" ระหว่างจักรวรรดิบริติชและรัสเซีย[27][28]
ในสงครามอังกฤษ-อัฟกันครั้งที่หนึ่ง (ค.ศ. 1839 ถึง 1842) กองทัพบริติชจากอินเดียเข้าควบคุมอัฟกานิสถานได้ แต่สุดท้ายเป็นฝ่ายแพ้ หลังสงครามอังกฤษ-อัฟกันครั้งที่สามใน ค.ศ. 1919 อัฟกานิสถานจึงปลอดจากอิทธิพลของต่างชาติ และได้เป็นราชาธิปไตยภายใต้พระเจ้าอมานุลเลาะห์ แต่ใน ค.ศ. 1973 มีการโค่นล้มระบอบกษัตริย์และเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ ใน ค.ศ. 1978 หลังมีรัฐประหารครั้งที่สอง อัฟกานิสถานกลายเป็นรัฐสังคมนิยม และถูกสหภาพโซเวียตรุกรานในสงครามโซเวียต–อัฟกานิสถานในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980 ต่อกบฏมุญาฮิดีน หลังจากที่สหภาพโซเวียตถอนกำลังออกไป กลุ่มตอลิบานซึ่งเป็นพวกอิสลามมูลวิวัติก็ได้เข้ายึดครองประเทศใน ค.ศ. 1996 และปกครองประเทศด้วยระบอบเผด็จการเบ็ดเสร็จ ทำให้มีการลิดรอนสิทธิมนุษยชนและสิทธิสตรีในอัฟกานิสถานอย่างรุนแรง ต่อมากลุ่มตอลิบานถูกโค่นจากอำนาจหลังจากที่สหรัฐอเมริกาเข้ายึดครองครองใน ค.ศ. 2001 แต่ยังควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศได้ เนื่องจากรัฐบาลใหม่ของอัฟกานิสถานต้องพึ่งพาความช่วยเหลือทางทหารและเศรษฐกิจจากสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวนมากมาก ทำให้มีการเรียกอัฟกานิสถานว่าเป็น"รัฐบริวารของสหรัฐฯ"[29] หลังจากที่สหรัฐอเมริกาถอนกำลังออกไป ก็มีการรุกครั้งใหญ่ของตอลิบานใน ค.ศ. 2021 ส่งผลให้ตอลีบานหวนคืนสู่อำนาจอีกครั้ง
อัฟกานิสถานมีระดับการก่อการร้าย ความยากจน จำกัดสิทธิสตรีโดย ตาลีบัน ภาวะทุพโภชนาการเด็กและการฉ้อราษฎร์บังหลวงสูง เศรษฐกิจมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 96 ของโลก โดยมีจีดีพีมูลค่า 72,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่มีจีดีพีต่อหัวต่ำมาก อยู่อันดับที่ 169 จาก 186 ประเทศใน ค.ศ. 2018 อัฟกานิสถานยังอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญรวมถึง ลิเทียม เหล็ก สังกะสี และ ทองแดง และเป็นหนึ่งประเทศผู้ผลิตฝิ่นรายใหญ่ของโลก[30] และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งองค์การความร่วมมืออิสลาม