สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี
สโมสรฟุตบอลของสหราชอาณาจักร / From Wikipedia, the free encyclopedia
สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี (อังกฤษ: Manchester City Football Club) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า แมนซิตี เป็นสโมสรฟุตบอลของประเทศอังกฤษที่ตั้งอยู่ ณ เมืองแมนเชสเตอร์ ปัจจุบันแข่งขันในพรีเมียร์ลีกซึ่งเป็นลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1880 ในชื่อ เซนต์มากส์ (เวสต์กอร์ตัน) ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น สโมสรฟุตบอลอาร์ดวิก ใน ค.ศ. 1887 และเปลี่ยนชื่อเป็นแมนเชสเตอร์ซิตีใน ค.ศ. 1894 มีสนามเหย้าคือสนามกีฬาซิตีออฟแมนเชสเตอร์ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมือง โดยสโมสรใช้งานสนามแห่งนี้มาตั้งแต่ ค.ศ. 2003 หลังจากที่เคยใช้สนามเมนโรดมาตั้งแต่ ค.ศ. 1923 สโมสรใช้สีฟ้าเป็นชุดเหย้ามาตั้งแต่ ค.ศ. 1894[4] แมนเชสเตอร์ซิตีชนะเลิศการแข่งขันลีกสูงสุด 9 สมัย, เอฟเอคัพ 7 สมัย, ลีกคัพ 8 สมัย, เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 6 สมัย, ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 1 สมัย, ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 1 สมัย และฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 1 สมัย
ชื่อเต็ม | สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี | |||
---|---|---|---|---|
ฉายา | ||||
ชื่อย่อ | เเมนเชสเตอร์ชิตี | |||
ก่อตั้ง | 1880; 144 ปีที่แล้ว (1880) ในชื่อ เซนต์มากส์ (เวสต์กอร์ตัน) 1887; 137 ปีที่แล้ว (1887) ในชื่อ สโมสรฟุตบอลอาร์ดวิก 16 เมษายน 1894; 130 ปีก่อน (1894-04-16) ในชื่อ แมนเชสเตอร์ซิตี[lower-alpha 1] | |||
สนาม | สนามกีฬาซิตีออฟแมนเชสเตอร์ | |||
ความจุ | 53,400 ที่นั่ง[3] | |||
เจ้าของ | ซิตีฟุตบอลกรุป | |||
ประธาน | ค็อลดูน อัลมุบาร็อก | |||
ผู้จัดการ | เเป็บ กาวดิโอล่า | |||
ลีก | พรีเมียร์ลีก | |||
2022–23 | พรีเมียร์ลีก อันดับที่ 1 (ชนะเลิศ) | |||
เว็บไซต์ | เว็บไซต์สโมสร | |||
| ||||
ฤดูกาลปัจจุบัน |
แมนเชสเตอร์ซิตีเข้าร่วมฟุตบอลลีกครั้งแรกใน ค.ศ. 1892 และคว้าถ้วยรางวัลแรกด้วยการชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอคัพในปี 1904 ช่วงเวลาที่สโมสรเริ่มประสบความสำเร็จคือทศวรรษ 1960 ซึ่งสโมสรชนะเลิศทั้งลีก, ยูโรเปียนคัพวินเนอร์สคัพ, เอฟเอคัพ และลีกคัพภายใต้การคุมทีมของโจ เมอร์เซอร์และมัลคอม อัลลิซัน สโมสรเริ่มเข้าสู่ช่วงตกต่ำหลังจากที่แพ้ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพปี 1981 โดยเคยตกชั้นจนถึงลีกระดับที่สามมาแล้ว พวกเขาเลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดได้ในฤดูกาล 2001–02 และได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมาตั้งแต่ฤดูกาล 2002–03
แมนเชสเตอร์ซิตีได้รับการลงทุนทางการเงินจำนวนมากทั้งในด้านทีมงานและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ หลังจากที่ชีคมานซูร์ บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน เข้าครอบครองกิจการผ่านอาบูดาบียูไนเต็ดกรุป ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2008[5] สิ่งนี้เริ่มต้นยุคใหม่แห่งความสำเร็จอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยสโมสรคว้าแชมป์เอฟเอคัพใน ค.ศ. 2011 และแชมป์พรีเมียร์ลีกใน ค.ศ. 2012 ซึ่งพวกเขาคว้าแชมป์ทั้งสองรายการเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 ตามด้วยแชมป์ลีกอีกครั้งใน ค.ศ. 2014 ภายใต้การคุมทีมของเปป กวาร์ดิโอลา แมนเชสเตอร์ซิตีประสบความสำเร็จมากที่สุดด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกใน ค.ศ. 2018 และกลายเป็นทีมเดียวในประวัติศาสตร์การแข่งขันที่เก็บได้ 100 คะแนนในฤดูกาลเดียว ในฤดูกาล 2018–19 พวกเขาคว้าแชมป์ 4 รายการ คว้าแชมป์ในประเทศทุกรายการ และกลายเป็นทีมฟุตบอลชายของอังกฤษทีมแรกที่คว้าเทรเบิลแชมป์ในประเทศ[6] ตามด้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัยติดต่อกันในฤดูกาล 2020–21, 2021–22 และ 2022–23; ซึ่งเป็นแชมป์สมัยที่สาม, สี่ และห้าในยุคของกวาร์ดิโอลา ใน ค.ศ. 2023 พวกเขากลายเป็นสโมสรที่สองของอังกฤษที่คว้าเทรเบิลแชมป์ระดับทวีป ซึ่งรวมถึงการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกครั้งแรก และสโมสรมีค่าสัมประสิทธิ์ของยูฟ่าสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่งเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล 2022–23[7]
แมนเชสเตอร์ซิตีได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับหนึ่งโดยดีลอยท์ฟุตบอลมันนีลีก เมื่อจบฤดูกาล 2021–22 ทำให้เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีรายได้สูงที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าประมาณ 731 ล้านยูโร[8] ใน ค.ศ. 2022 ฟอบส์ ประเมินว่าสโมสรมีมูลค่ามากเป็นอันดับ 6 ของโลกกว่า 4.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[9][10] แมนเชสเตอร์ซิตี้มีเจ้าของคือซิตีฟุตบอลกรุป บริษัทโฮลดิ้งในอังกฤษมูลค่า 3.73 พันล้านปอนด์ (4.8 พันล้านดอลลาร์) ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2019[11][12]