รายชื่อแหล่งมรดกโลกในสหราชอาณาจักร
บทความรายชื่อวิกิมีเดีย / From Wikipedia, the free encyclopedia
ในสหราชอาณาจักรและอาณานิคมโพ้นทะเลมีแหล่งมรดกโลกที่ขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโกทั้งหมด 33 รายการ[1] แหล่งมรดกโลกของสหราชอาณาจักรที่ได้ขึ้นทะเบียนในครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2529 ได้แก่
- ไจอันส์คอสเวย์และชายฝั่ง
- ปราสาทและมหาวิหารเดอรัม
- เกาะเซนต์คิลดา
- โกรกธารไออันบริดจ์
- อุทยานหลวงสตัดลีย์รวมทั้งซากอารามฟาวน์ทินส์
- สโตนเฮนจ์ เอฟเบอรี และสถานที่ใกล้เคียง
- ปราสาทและกำแพงเมืองของพระเจ้าเอดเวิร์ดในเมืองกวิเนดด์
ใน พ.ศ. 2489 ประเทศ 26 ประเทศ รวมถึงสหราชอาณาจักร ได้ให้สัตยาบันธรรมนูญแห่งองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ซึ่งมีความมุ่งหมายเพื่อ "อนุรักษ์และคุ้มครองมรดกทางเอกสาร งานศิลปะ และอนุสรณ์ทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติของโลก"[2] สหราชอาณาจักรได้ให้เงินช่วยเหลือกองทุนมรดกโลกปีละ 130,000 ปอนด์เพื่อเป็นเงินทุนในการอนุรักษ์แหล่งมรดกโลกในประเทศกำลังพัฒนา[3] แหล่งมรดกโลกบางแห่งนั้นประกอบด้วยสถานที่หลายแห่งที่มีสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์หรือมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกัน
คณะกรรมการแห่งสหราชอาณาจักรว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ มีบทบาทในการแนะนำนโยบายเกี่ยวกับยูเนสโกต่อรัฐบาลอังกฤษซึ่งรับผิดชอบต่อการดูและรักษาแหล่งมรดกโลกในประเทศ[4] ใน พ.ศ. 2551]แอนดี เบิร์นแฮม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม สื่อ และกีฬาในขณะนั้น ได้แถลงถึงความกังวลเกี่ยวกับประโยชน์ของการขึ้นทะเบียนสถานที่ในสหราชอาณาจักรเป็นแหล่งมรดกโลก และเรียกร้องให้ทบทวนนโยบายของรัฐบาลในการเสนอชื่อสถานที่ใหม่ๆ เนื่องมาจากค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นและมีรายได้จากนักท่องเที่ยวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ อีกทั้งมีนักท่องเที่ยวไม่มากที่ตระหนักถึงสถานะมรดกโลกของสถานที่เหล่านั้น[5]
เกณฑ์การรับรองแหล่งมรดกโลกข้อที่ i-iv ใช้สำหรับมรดกโลกประเภทวัฒนธรรม และข้อที่ vii-x ใช้สำหรับประเภทธรรมชาติ[6] ในสหราชอาณาจักรมีแหล่งมรดกโลกประเภทวัฒนธรรมยี่สิบสามแห่ง ประเภทธรรมชาติสี่แห่ง และประเภทผสมหนึ่งแห่ง[note 1][1] จำนวนแหล่งมรดกโลกในสหราชอาณาจักรที่แบ่งตามประเภทจะใกล้เคียงจำนวนแหล่งมรดกโลกทั้งหมดในโลกที่แบ่งตามประเภทเช่นกัน คือ จากแหล่งมรดกโลก 890 แห่งทั่วโลก เป็นประเภทวัฒนธรรมร้อยละ 77.4 ธรรมชาติร้อยละ 19.8 และผสมร้อยละ 2.8%[7] โดยเซนต์คิลดาเป็นแหล่งมรดกโลกประเภทผสมแห่งเดียวในสหราชอาณาจักร ซึ่งแต่เดิมนั้นได้ขึ้นทะเบียนเนื่องด้วยเป็นถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติของพันธุ์พืชและสัตว์เท่านั้น[8] ต่อมาใน พ.ศ. 2548 ได้รับการเสนอให้เพิ่มความสำคัญในฐานะที่ตั้งชุมชนเกษตรกรรมในอดีต และกลายเป็นแหล่งมรดกโลกประเภทผสมหนึ่งใน 25 แห่งจากทั่วโลก[9] ส่วนแหล่งมรดกโลกประเภทธรรมชาติได้แก่ ชายฝั่งดอร์เซตและอีสต์เดวอน ไจอันส์คอสเวย์และชายฝั่ง เกาะกอฟและอินักเซสซิเบิล และเกาะเฮนเดอร์สัน ที่เหลือเป็นประเภทวัฒนธรรม[1]