Loading AI tools
นักฟุตบอลชาวอังกฤษ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มาร์คัส แรชฟอร์ด เอ็มบีอี (อังกฤษ: Marcus Rashford; เกิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 1997) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวอังกฤษที่เล่นเป็นกองหน้าและปีกให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและทีมชาติอังกฤษ
ข้อมูลส่วนตัว | |||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | มาร์คัส แรชฟอร์ด | ||||||||||||||||||||||
วันเกิด | 31 ตุลาคม ค.ศ. 1997 | ||||||||||||||||||||||
สถานที่เกิด | แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ | ||||||||||||||||||||||
ส่วนสูง | 5 ft 11 in (1.80 m)[1] | ||||||||||||||||||||||
ตำแหน่ง | กองหน้า / ปีก | ||||||||||||||||||||||
ข้อมูลสโมสร | |||||||||||||||||||||||
สโมสรปัจจุบัน | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | ||||||||||||||||||||||
หมายเลข | 10 | ||||||||||||||||||||||
สโมสรเยาวชน | |||||||||||||||||||||||
2003–2005 | เฟลตเชอร์มอสเรนเจอส์ | ||||||||||||||||||||||
2005–2015 | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | ||||||||||||||||||||||
สโมสรอาชีพ* | |||||||||||||||||||||||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) | ||||||||||||||||||||
2015– | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 272 | (83) | ||||||||||||||||||||
ทีมชาติ‡ | |||||||||||||||||||||||
2012 | อังกฤษ รุ่นไม่เกิน 16 ปี | 2 | (0) | ||||||||||||||||||||
2014 | อังกฤษ รุ่นไม่เกิน 18 ปี | 2 | (0) | ||||||||||||||||||||
2016 | อังกฤษ รุ่นไม่เกิน 20 ปี | 2 | (0) | ||||||||||||||||||||
2016 | อังกฤษ รุ่นไม่เกิน 21 ปี | 1 | (3) | ||||||||||||||||||||
2016– | อังกฤษ | 60 | (17) | ||||||||||||||||||||
เกียรติประวัติ
| |||||||||||||||||||||||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2024 (UTC) ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 23 มีนาคม 2024 (UTC) |
ผลผลิตจากระบบเยาวชนของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เขาเข้าร่วมสโมสรเมื่ออายุได้ 7 ขวบ แรชฟอร์ดทำ 2 ประตูในนัดเปิดตัวให้กับทีมชุดใหญ่และในฟุตบอลสโมสรยุโรปที่พบกับมิดทิลแลนด์ในยูฟ่ายูโรปาลีกในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016 เนื่องจากอาการบาดเจ็บของอ็องตอนี มาร์ซียาลระหว่างการฝึกซ้อม และ 2 ประตูในเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกของเขาเจอกับอาร์เซนอลในอีก 3 วันต่อมา เขายังทำประตูในแมนเชสเตอร์ดาร์บีครั้งแรกของเขา เช่นเดียวกับนัดเปิดตัวในลีกคัพและยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก แรชฟอร์ดคว้าแชมป์เอฟเอคัพ, ลีกคัพ 2 สมัย, เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์และยูฟ่ายูโรปาลีกกับยูไนเต็ด
แรชฟอร์ดเริ่มเล่นฟุตบอลให้กับเฟลตเชอร์ มอส เรนเจอส์ เมื่ออายุ 5 ขวบ[2] โดยเริ่มต้นจากการเป็นผู้รักษาประตู และยกทิม ฮาวเวิร์ดอดีตผู้รักษาประตูของยูไนเต็ดเป็นไอดอลในตำแหน่งผู้รักษาประตูของเขา[3][4] เดฟ ฮอร์ร็อคส์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาอคาเดมี่ของเฟลตเชอร์ มอส เรนเจอส์ เล่าว่าแรชฟอร์ดอยู่ใน “ระดับที่แตกต่าง” จากเด็กคนอื่น ๆ โดยมีบทบาทสำคัญในทีมที่ชนะการแข่งขันโดยมีแมวมอง 15 คนจากสโมสรต่าง ๆ เฝ้าดูอยู่[5]
เขาใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ในการฝึกซ้อมกับแมนเชสเตอร์ซิตี ก่อนที่จะเข้าร่วมระบบอะคาเดมีของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เมื่ออายุ 7 ขวบ ท่ามกลางความสนใจจากเอฟเวอร์ตันและลิเวอร์พูล[6][7] เขาให้เครดิตพี่ชายของเขาในการช่วยเขาตัดสินใจเข้าร่วมยูไนเต็ด[8] พอล แมคกินเนส อดีตโค้ชเยาวชนของยูไนเต็ด (ลูกชายของวิล์ฟ แม็คกินเนส อดีตผู้จัดการทีมยูไนเต็ด) มองเห็นศักยภาพของแรชฟอร์ดอย่างรวดเร็วเนื่องจากเห็นความเป็นนักกีฬาของเขาทั้งในและนอกสนาม[5] แต่ในช่วงปีแรก ๆ ที่สโมสรเขามักจะพลาดการฝึกซ้อมอันเป็นผลมาจากความยากลำบากในการเดินทางไปที่นั่นในขณะที่แม่และพี่ชายของเขาอยู่ที่ทำงาน ในที่สุดเขาก็ได้รับความช่วยเหลือจากโค้ชเยาวชนของสโมสรเช่น Dave Bushell, Eamon Mulvey และ Tony Whelan ซึ่งช่วยหาคนขับรถให้แรชฟอร์ดเพื่อไปที่สนามฝึกซ้อม แรชฟอร์ดมีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรองของทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนโดยลูวี ฟัน คาลในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกที่พบกับวอตฟอร์ด ซึ่งแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดชนะ 2–1 แต่เขาไม่ได้ลงเล่น[9] เขาได้รับเสื้อแข่งหมายเลข 39 เนื่องจากฟัน คาลยืนกรานว่ากองหน้าจะต้องสวมเสื้อที่มีหมายเลข 9[10] สัปดาห์ถัดมากับเลสเตอร์ซิตี เขามีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรองอีกครั้งโดยไม่ได้ใช้ในเกมที่เสมอ 1–1[11] ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2016 แรชฟอร์ดได้รับข้อเสนอยืมตัวจากครูว์ อเล็กซานดรา สโมสรในลีกวัน แต่ข้อตกลงยืมตัวถูกปฏิเสธโดยวอร์เรน จอยซ์ ผู้จัดการทีมสำรองในเวลานั้น[12][13]
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2016 แรชฟอร์ดมีชื่อเป็น 1 ใน 18 ผู้เล่นของยูไนเต็ดในศึกยูฟ่ายูโรปาลีก รอบ 32 ทีม นัดที่ 2 กับมิดทิลแลนด์จากเดนมาร์กที่โอลด์แทรฟฟอร์ด เนื่องจากวิกฤตอาการบาดเจ็บซึ่งทำให้มีผู้เล่นได้รับบาดเจ็บถึง 13 คน[14] หลังจากที่อ็องตอนี มาร์ซียาล ได้รับบาดเจ็บระหว่างวอร์มอัพก่อนการแข่งขัน แรชฟอร์ดก็ถูกส่งเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงและประเดิมสนามในนามทีมชุดใหญ่ด้วยการยิง 2 ประตูใส่มิดทิลแลนด์ในช่วงครึ่งหลังซึ่งจบลงด้วยชัยชนะของยูไนเต็ดเหนือมิดทิลแลนด์ 5–1[15] ประตูของแรชฟอร์ดทำให้เขาเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดของยูไนเต็ดในการแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรป ทำลายสถิติที่เทพบุตรมหาภัย จอร์จ เบสต์เคยทำได้[16] และต่อมาถูกทำลายโดยเมสัน กรีนวุดในฤดูกาล 2019–20[17] แรชฟอร์ดประเดิมสนามในพรีเมียร์ลีกเจอกับอาร์เซนอลในอีก 3 วันต่อมา; เขายิงได้ 2 ประตูอีกครั้งและทำ 1 แอสซิสต์ในชัยชนะในบ้าน 3–2 ทำให้เขาเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 3 ของยูไนเต็ดในพรีเมียร์ลีก ต่อจากเฟเดรีโก มาเกดา และแดนนี เวลเบก[18] ลูวี ฟัน คาล ผู้จัดการทีมในขณะนั้นยกย่องผลงานของเขาว่า “ยอดเยี่ยม” และดีกว่านัดแรก[19] แต่เตือนสื่อมวลชนไม่ให้รบกวนหรือล้อเลียนเขา[20]
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม แรชฟอร์ดสร้างประวัติศาสตร์เมื่อเขายิงประตูชัยในแมนเชสเตอร์ดาร์บี ซึ่งเป็นชัยชนะในเกมเยือนนัดแรกของทีมเหนือแมนเชสเตอร์ซิตีนับตั้งแต่ปี 2012 ด้วยวัยเพียง 18 ปี 141 วัน เขากลายเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดในการแข่งขันในยุคพรีเมียร์ลีก ทำลายสถิติของเวย์น รูนีย์ ซึ่งเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสร[21] ระหว่างการเล่นเอฟเอคัพรอบที่ 6 นัดรีเพลย์กับเวสต์แฮมยูไนเต็ดเมื่อวันที่ 13 เมษายน แรชฟอร์ดยิงประตูสุดมหัศจรรย์ในการชนะ 2–1 ช่วยให้ยูไนเต็ดผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ[22] 3 วันต่อมา เขายิงประตูชัยในเกมกับแอสตันวิลลา ซึ่งต่อมาตกชั้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1987[23] ต่อมาเขาได้ลงเล่นในเอฟเอคัพรอบชิงชนะเลิศเจอกับคริสตัลพาเลซเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ซึ่งจบลงด้วยชัยชนะ 2–1 ถือเป็นแชมป์เอฟเอคัพสมัยที่ 12 ของยูไนเต็ดและเป็นถ้วยรางวัลใบแรกของแรชฟอร์ด[24]
วันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 แรชฟอร์ดได้ต่อสัญญากับสโมสรออกไปอีก 4 ปีทำให้แรชฟอร์ดจะได้ค้าแข้งในถิ่น โอลด์แทรฟฟอร์ด จนถึงเดือน มิถุนายน ค.ศ. 2020
ในฤดูกาล 2018–19 แรชฟอร์ดเปลี่ยนไปสวมเสื้อหมายเลข 10 ให้กับทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แทนที่ เวย์น รูนีย์ กองหน้าและกัปตันทีมที่ออกจากทีมไปเมื่อจบฤดูกาล 2017-18 จากเดิมที่ใส่เสื้อหมายเลข 19 มาก่อนหน้านั้น
แรชฟอร์ดซึ่งเพิ่งจะก้าวขึ้นมาติดทีมชุดแรกของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้ถูกเรียกตัวไปติด ทีมชาติอังกฤษ ชุดลุยศึกยูโร 2016 ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากหลายฝ่ายโดยเฉพาะ นิคกี บัตต์ โค้ชทีมเยาวชนของทีมปีศาจแดงที่ให้เหตุผลว่าแรชฟอร์ดยังเด็กเกินไปแต่ในวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 แรชฟอร์ดก็ได้ถูก รอย ฮอดจ์สัน กุนซือทีมชาติอังกฤษเรียกตัวมาเป็น 1 ใน 26 นักเตะรอบก่อนการตัดตัวซึ่งแรชฟอร์ดก็ได้ติดเป็น 1 ใน 23 นักเตะทีมชาติอังกฤษชุดลุยศึกยูโร 2016
ในวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดอุ่นเครื่องที่ชนะ ทีมชาติออสเตรเลีย ไป 2-1โดยแรชฟอร์ดเป็นผู้ทำประตูแรกในนาทีที่ 3 นับเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูได้ในนามทีมชาติอังกฤษด้วยวัย 18 ปี 208 วัน ทำลายสถิติของ ทอมมี่ ลอว์ตัน ที่ทำไว้เมื่อปี พ.ศ. 2481 นอกจากนี้เขายังเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับที่ 3 ที่ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ
วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ในศึกยูโร 2016 นัดที่ 2 กลุ่มบีในนัดที่ทีมชาติอังกฤษเอาชนะ ทีมชาติเวลส์ ไป 2-1 แรชฟอร์ดได้ลงมาเป็นตัวสำรองแทน อดัม ลาลลานา ในนาทีที่ 75 ทำให้เขากลายเป็นนักเตะอังกฤษอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในศึกยูโรด้วยวัย 18 ปี 228 วันทำลายสถิติของ เวย์น รูนีย์ ที่ทำไว้ในศึก ยูโร 2004 ด้วยวัย 18 ปี 232 วัน
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | เอฟเอคัพ | อีเอฟแอลคัพ | ยุโรป | อื่น ๆ | รวม | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 2015–16[25] | พรีเมียร์ลีก | 11 | 5 | 4 | 1 | 0 | 0 | 3[a] | 2 | — | 18 | 8 | |
2016–17[26] | พรีเมียร์ลีก | 32 | 5 | 3 | 3 | 6 | 1 | 11[a] | 2 | 1[b] | 0 | 53 | 11 | |
2017–18[27] | พรีเมียร์ลีก | 35 | 7 | 5 | 1 | 3 | 2 | 8[c] | 3 | 1[d] | 0 | 52 | 13 | |
2018–19[28] | พรีเมียร์ลีก | 33 | 10 | 4 | 1 | 0 | 0 | 10[c] | 2 | — | 47 | 13 | ||
2019–20[29] | พรีเมียร์ลีก | 31 | 17 | 4 | 0 | 3 | 4 | 6[a] | 1 | — | 44 | 22 | ||
2020–21[30] | พรีเมียร์ลีก | 37 | 11 | 3 | 1 | 4 | 1 | 13[e] | 8 | — | 57 | 21 | ||
2021–22[31] | พรีเมียร์ลีก | 25 | 4 | 2 | 0 | 0 | 0 | 5[c] | 1 | — | 32 | 5 | ||
2022–23[32] | พรีเมียร์ลีก | 35 | 17 | 6 | 1 | 6 | 6 | 9[a] | 6 | — | 56 | 30 | ||
2023–24[33] | พรีเมียร์ลีก | 27 | 7 | 2 | 0 | 1 | 0 | 4[c] | 0 | — | 34 | 7 | ||
รวมทั้งหมด | 266 | 83 | 33 | 8 | 23 | 14 | 69 | 25 | 2 | 0 | 393 | 130 |
ทีมชาติ | ปี | ลงเล่น | ประตู |
---|---|---|---|
อังกฤษ | 2016 | 6 | 1 |
2017 | 9 | 1 | |
2018 | 16 | 5 | |
2019 | 7 | 4 | |
2020 | 2 | 1 | |
2021 | 6 | 1 | |
2022 | 5 | 3 | |
2023 | 8 | 2 | |
รวม | 59 | 17 |
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
อังกฤษ
ส่วนตัว
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.