ฟุตบอลทีมชาติบราซิล
ทีมฟุตบอลตัวแทนประเทศบราซิล / From Wikipedia, the free encyclopedia
ฟุตบอลทีมชาติบราซิล (โปรตุเกส: Seleção Brasileira de Futebol) เป็นทีมฟุตบอลชายตัวแทนของประเทศบราซิล อยู่ภายใต้การควบคุมของสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล (CBF) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลฟุตบอลในประเทศบราซิล พวกเขาเป็นสมาชิกของฟีฟ่ามาตั้งแต่ ค.ศ. 1923 และเป็นสมาชิกของคอนเมบอลมาตั้งแต่ ค.ศ. 1916
ฉายา | A Seleção (ทีมชาติ) Canarinho (นกขมิ้นน้อย) แซมบ้า (ฉายาในภาษาไทย) | ||
---|---|---|---|
สมาคม | สมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล (CBF) | ||
สมาพันธ์ | คอนเมบอล (อเมริกาใต้) | ||
หัวหน้าผู้ฝึกสอน | เฟอร์นันโด ดินิซ (รักษาการ) | ||
กัปตัน | คาเซมิโร่ | ||
ติดทีมชาติสูงสุด | กาฟู (142)[1][2] | ||
ทำประตูสูงสุด | เนย์มาร์ (79) [3] | ||
สนามเหย้า | หลายแห่ง | ||
รหัสฟีฟ่า | BRA | ||
| |||
อันดับฟีฟ่า | |||
อันดับปัจจุบัน | 4 1 (20 มิถุนายน 2024)[4] | ||
อันดับสูงสุด | 1 (159 ครั้งใน 8 โอกาส[5]) | ||
อันดับต่ำสุด | 22 (6 มิถุนายน ค.ศ. 2013) | ||
เกมระดับนานาชาติครั้งแรก | |||
อาร์เจนตินา 3–0 บราซิล (บัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา; 20 กันยายน ค.ศ. 1914)[6][7] | |||
ชนะสูงสุด | |||
บราซิล 10–1 โบลิเวีย (เซาเปาลู ประเทศบราซิล; 10 เมษายน ค.ศ. 1949)[8] บราซิล 9–0 โคลอมเบีย (ลิมา ประเทศเปรู; 24 มีนาคม ค.ศ. 1957) | |||
แพ้สูงสุด | |||
อุรุกวัย 6–0 บราซิล (บิญญาเดลมาร์ ประเทศชิลี; 18 กันยายน ค.ศ. 1920) บราซิล 1–7 เยอรมนี (เบลูโอรีซองชี ประเทศบราซิล; 8 กรกฎาคม ค.ศ. 2014) | |||
ฟุตบอลโลก | |||
เข้าร่วม | 22 (ครั้งแรกใน 1930) | ||
ผลงานดีที่สุด | ชนะเลิศ (1958, 1962, 1970, 1994, 2002) | ||
โกปาอาเมริกา | |||
เข้าร่วม | 37 (ครั้งแรกใน 1916) | ||
ผลงานดีที่สุด | ชนะเลิศ (1919, 1922, 1949, 1989, 1997, 1999, 2004, 2007, 2019) | ||
แพนอเมริกันแชมเปียนชิป | |||
เข้าร่วม | 3 (ครั้งแรกใน 1952) | ||
ผลงานดีที่สุด | ชนะเลิศ (1952, 1956) | ||
คอนเฟเดอเรชันส์คัพ | |||
เข้าร่วม | 7 (ครั้งแรกใน 1997) | ||
ผลงานดีที่สุด | ชนะเลิศ (1997, 2005, 2009, 2013) | ||
บราซิลเป็นทีมชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในฟุตบอลโลก โดยชนะเลิศทั้งสิ้น 5 สมัยในปี 1958, 1962, 1970, 1994 และ 2002 นอกจากนี้ ยังทำอีกหลายสถิติในฟุตบอลโลก ได้แก่ ชนะมากที่สุดที่ 76 นัดจากการลงเล่น 114 นัด ทำผลต่างประตูได้ถึง 129 ลูก ทำคะแนนได้ถึง 247 แต้ม และแพ้เพียงแค่ 19 นัดเท่านั้น[9][10] บราซิลเป็นเพียงทีมชาติเดียวที่ลงแข่งขันฟุตบอลโลกครบทุกครั้ง และไม่เคยต้องแข่งขันในรอบเพลย์ออฟ[11]
บราซิลเป็นทีมชาติที่มีอันดับอีโลโดยเฉลี่ยสูงที่สุดในโลก และมีอันดับอีโลสูงสุดสูงเป็นอันดับที่ 4 ของโลก โดยการจัดอันดับนี้เริ่มขึ้นใน ค.ศ. 1962[12] บราซิลได้รับรางวัลทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่ามากที่สุดที่ 13 ครั้ง[13] บรรดานักวิจารณ์และอดีตผู้เล่นต่างออกมายกย่องว่าทีมชาติบราซิลยุคปี 1970 เป็นทีมฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลก[14][15][16][17][18] ส่วนทีมชาติบราซิลในยุคอื่น ๆ ก็ถูกมองว่าเป็นทีมที่มีคุณภาพดีด้วยเช่นกัน อย่างเช่น ทีมชาติในปี 1958–62 และ 1982[19][20][21][22]
บราซิลเป็นเพียงชาติเดียวที่ชนะเลิศฟุตบอลโลกบนสี่ทวีปที่แตกต่างกัน ได้แก่ หนึ่งสมัยที่ยุโรป (สวีเดน 1958), หนึ่งสมัยที่อเมริกาใต้ (ชิลี 1962), สองสมัยที่อเมริกาเหนือ (เม็กซิโก 1970 และสหรัฐ 1994) และหนึ่งสมัยที่เอเชีย (เกาหลีใต้/ญี่ปุ่น 2002) พวกเขาเป็นหนึ่งในสามทีมชาติร่วมกับฝรั่งเศสและอาร์เจนตินาที่ชนะเลิศการแข่งขันครบสามรายการใหญ่ของฟีฟ่า ได้แก่ ฟุตบอลโลก, คอนเฟเดอเรชันส์คัพ และโอลิมปิกฤดูร้อน[note 1] พวกเขาเคยครองสถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันมากที่สุดที่ 35 นัดร่วมกับทีมชาติสเปน[23] บราซิลยังเป็นชาติที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในรายการฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพจากการชนะเลิศสี่สมัยใน ค.ศ. 1997, 2005, 2009 และ 2013 และจากการคว้าเหรียญทองในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ส่งผลให้บราซิลเป็นชาติที่สองต่อจากฝรั่งเศสที่ชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลชายของฟีฟ่าแบบผู้เล่น 11 คนในทุกรุ่นอายุ[24][25][26][27]
บราซิลมีทีมชาติคู่ปรับหลายทีม ได้แก่ อาร์เจนตินา ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Superclássico das Américas ในภาษาโปรตุเกส, อิตาลี ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Clásico Mundial ในภาษาสเปนหรือ เวิลด์ดาร์บี ในภาษาอังกฤษ[28][29] อุรุกวัย จากเหตุการณ์มารากานาโซอันเป็นบาดแผลทางใจของบราซิล[30] ฝรั่งเศส จากการพบกันในฟุตบอลโลกที่บราซิลมักเป็นรองกว่า[31] เนเธอร์แลนด์ จากการพบกันในฟุตบอลโลกและรูปแบบการเล่นของทั้งสองทีมที่คล้ายกัน[32] และโปรตุเกส จากการที่ทั้งคู่มีมรดกและวัฒนธรรมร่วมกัน เช่นเดียวกับการที่มีนักฟุตบอลชาวบราซิลหลายคนเกิดที่โปรตุเกส[33][34] มีคำพูดหนึ่งที่กล่าวว่า "อังกฤษคิดค้นฟุตบอล แต่บราซิลทำให้มันสมบูรณ์แบบ" (Os ingleses o inventaram, os brasileiros o aperfeiçoaram)[35]