ประเทศอาร์เจนตินา
ประเทศในทวีปอเมริกาใต้ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ประเทศในทวีปอเมริกาใต้ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อาร์เจนตินา (อังกฤษและสเปน: Argentina, เสียงอ่านภาษาสเปน: [aɾxenˈtina]) มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐอาร์เจนตินา[upper-alpha 1] (อังกฤษ: Argentine Republic; สเปน: República Argentina) เป็นประเทศทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาใต้ ครอบคลุมพื้นที่ 2,780,400 ตารางกิโลเมตร (1,073,500 ตารางไมล์) นับเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ในทวีปอเมริกาใต้ รองจากบราซิล อันดับที่ 4 ในทวีปอเมริกา และอันดับที่ 8 ของโลก อาร์เจนตินาตั้งอยู่ในภูมิภาคกรวยใต้ร่วมกับชิลีทางทิศตะวันตก และยังมีพรมแดนติดต่อกับโบลิเวียและปารากวัยทางทิศเหนือ บราซิลทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ อุรุกวัยและมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ทางทิศตะวันออก และช่องแคบเดรกทางทิศใต้ เป็นสหพันธรัฐที่แบ่งออกเป็น 23 รัฐ กับ 1 นครปกครองตนเองซึ่งก็คือกรุงบัวโนสไอเรส เมืองหลวงของสหพันธ์และเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ นครปกครองตนเองและรัฐต่าง ๆ มีธรรมนูญเป็นของตนเองแต่อยู่ภายใต้ระบบของสหพันธ์ อาร์เจนตินายังอ้างอำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่ส่วนหนึ่งของทวีปแอนตาร์กติกา หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ และเกาะเซาท์จอร์เจียและหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิชอีกด้วย
สาธารณรัฐอาร์เจนตินา[upper-alpha 1] República Argentina (สเปน) | |
---|---|
พื้นที่ของอาร์เจนตินาตั้งอยู่ในสีเขียว พื้นที่ที่อ้างสิทธิ์แต่มิได้ควบคุมอยู่ในสีเขียวอ่อน | |
เมืองหลวง และเมืองใหญ่สุด | บัวโนสไอเรส 34°36′S 58°23′W |
ภาษาราชการ | สเปน[lower-alpha 1] |
| |
กลุ่มชาติพันธุ์ | |
ศาสนา (ค.ศ. 2019)[10] |
|
การปกครอง | สหพันธ์สาธารณรัฐระบบประธานาธิบดี |
• ประธานาธิบดี | ฆาบิเอร์ มิเลย์ |
• รองประธานาธิบดี | บิกโตเรีย บิยาร์รูเอล |
• หัวหน้ารัฐมนตรี | นิโกลัส โปเซ |
• ประธานสภาผู้แทนราษฎร | มาร์ติน เมเนม |
• ประธานศาลสูงสุด | โอราซิโอ โรซาติ |
สภานิติบัญญัติ | รัฐสภา |
• สภาสูง | วุฒิสภา |
• สภาล่าง | สภาผู้แทนราษฎร |
เอกราช จากสเปน | |
• การปฏิวัติพฤษภาคม | 25 พฤษภาคม ค.ศ. 1810 |
• ประกาศ | 9 กรกฎาคม ค.ศ. 1816 |
• รัฐธรรมนูญ | 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1853 |
พื้นที่ | |
• รวม | 2,780,400 ตารางกิโลเมตร (1,073,500 ตารางไมล์)[upper-alpha 2] (อันดับที่ 8) |
1.57 | |
ประชากร | |
• ค.ศ. 2021 ประมาณ | 45,605,826[12] (อันดับที่ 31) |
• สำมะโนประชากร ค.ศ. 2010 | 40,117,096[11] |
14.4 ต่อตารางกิโลเมตร (37.3 ต่อตารางไมล์)[11] (อันดับที่ 214) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | ค.ศ. 2019 (ประมาณ) |
• รวม | 1.033 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ[13] (อันดับที่ 26) |
• ต่อหัว | 22,997 ดอลลาร์สหรัฐ[13] (อันดับที่ 56) |
จีดีพี (ราคาตลาด) | ค.ศ. 2019 (ประมาณ) |
• รวม | 444.458 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[13] (อันดับที่ 25) |
• ต่อหัว | 9,890 ดอลลาร์สหรัฐ[13] (อันดับที่ 53) |
จีนี (ค.ศ. 2020) | 42.9[14][15] ปานกลาง |
เอชดีไอ (ค.ศ. 2019) | 0.845[16] สูงมาก · อันดับที่ 46 |
สกุลเงิน | เปโซอาร์เจนตินา ($) (ARS) |
เขตเวลา | UTC−3 (เวลาในประเทศอาร์เจนตินา) |
รูปแบบวันที่ | วว.ดด.ปปปป (ค.ศ.) |
ขับรถด้าน | ขวามือ[lower-alpha 3] |
รหัสโทรศัพท์ | +54 |
โดเมนบนสุด | .ar |
|
หลักฐานการปรากฏของมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดในอาร์เจนตินามีอายุย้อนไปได้ถึงยุคหินเก่า[17] จักรวรรดิอินคาขยายอำนาจมาถึงภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศในสมัยก่อนโคลัมบัส ประเทศนี้มีรากฐานมาจากการยึดครองดินแดนเป็นอาณานิคมของจักรวรรดิสเปนในคริสต์ศตวรรษที่ 16[18] ต่อมาอาร์เจนตินาปรากฏขึ้นเป็นรัฐสืบสิทธิ์ของเขตอุปราชแห่งริโอเดลาปลาตา[19] ซึ่งเป็นเขตอุปราชโพ้นทะเลของสเปนที่ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1776 การประกาศและการต่อสู้เพื่อเอกราช (ค.ศ. 1810–1818) ตามมาด้วยสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมาจนถึง ค.ศ. 1861 ซึ่งลงเอยด้วยการปฏิรูปโครงสร้างประเทศเป็นสหพันธรัฐ จากนั้นประเทศก็ค่อนข้างสงบและมีเสถียรภาพ โดยชาวยุโรป (ส่วนใหญ่เป็นชาวอิตาลีและชาวสเปน) ได้อพยพย้ายถิ่นเข้ามาหลายระลอกและเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าทางวัฒนธรรมและประชากรไปอย่างสิ้นเชิง ประชากรอาร์เจนตินากว่าร้อยละ 60 มีบรรพชนทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นชาวอิตาลี[20][21][22] และวัฒนธรรมอาร์เจนตินาเกี่ยวโยงกับวัฒนธรรมอิตาลีอย่างมีนัยสำคัญ[23]
ความเจริญรุ่งเรืองที่เพิ่มขึ้นอย่างแทบไม่มีใครเทียบได้ทำให้อาร์เจนตินากลายเป็นประเทศที่มั่งคั่งที่สุดเป็นอันดับที่ 7 ของโลกเมื่อถึงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20[24][25][26] ใน ค.ศ. 1896 จีดีพีต่อหัวของอาร์เจนตินาแซงหน้าจีดีพีต่อหัวของสหรัฐ[27] และอยู่ในสิบอันดับแรกอย่างสม่ำเสมอก่อนถึง ค.ศ. 1920 เป็นอย่างน้อย[28][29] แต่หลังเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในคริสต์ทศวรรษ 1930 อาร์เจนตินาก็เข้าสู่ภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองและความเสื่อมถอยทางเศรษฐกิจที่ผลักประเทศกลับเข้าสู่ภาวะล้าหลัง[30] แม้จะยังคงอยู่ในกลุ่มสิบห้าประเทศที่ร่ำรวยที่สุดเป็นเวลาหลายทศวรรษก็ตาม[24] หลังจากที่ประธานาธิบดีฆวน เปรอน ถึงแก่อสัญกรรมใน ค.ศ. 1974 อิซาเบล มาร์ติเนซ เด เปรอน ภริยาและรองประธานาธิบดีของเขาก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีก่อนจะถูกโค่นล้มใน ค.ศ. 1976 คณะทหารผู้ยึดอำนาจการปกครองซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐได้ไล่ล่าและสังหารนักวิจารณ์การเมือง นักเคลื่อนไหว และฝ่ายซ้ายนับพันคนใน "สงครามสกปรก" ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการก่อการร้ายโดยรัฐและการก่อความไม่สงบที่ดำเนินไปจนกระทั่งราอุล อัลฟอนซิน ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีใน ค.ศ. 1983
อาร์เจนตินาเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่ติดอันดับสูงมากในดัชนีการพัฒนามนุษย์ ซึ่งถือว่าสูงเป็นอันดับที่ 2 ในลาตินอเมริการองจากชิลี เป็นประเทศอำนาจนำภูมิภาคและยังคงรักษาสถานะเก่าแก่ในฐานะประเทศอำนาจปานกลางในกิจการระหว่างประเทศ[31][32][33] เป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ในอเมริกาใต้และเป็นสมาชิกของกลุ่ม 15 และกลุ่ม 20 นอกจากนี้ยังเป็นสมาชิกก่อตั้งของสหประชาชาติ เครือธนาคารโลก องค์การการค้าโลก ตลาดร่วมอเมริกาใต้ตอนล่าง ประชาคมรัฐลาตินอเมริกาและแคริบเบียน และองค์การรัฐไอบีโร-อเมริกา
ประเทศอาร์เจนตินามีพื้นที่ประมาณ 2,736,691 ตารางกิโลเมตร มีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับทีสองในทวีปอเมริกาใต้ มีขนาดความยาวตั้งแต่เหนือจรดใต้ประมาณ 3,900 กิโลเมตร ความกว้างวัดจากส่วนที่กว้างที่สุดกว้างประมาณ 1,400 กิโลเมตร จุดที่สูงที่สุดของประเทศอยู่ที่เขาอากองกากัว ภาคกลางของอาร์เจนตินา จะเป็นพื้นที่ลุ่ม ส่วนทางภาคตะวันตกของประเทศ จะเป็นแนวเทือกเขาแอนดีส ทอดไปตามแนวความสูงของประเทศทั้งประเทศ
ระบบการปกครองเป็นแบบสาธารณรัฐประชาธิปไตย มีประธานาธิบดีเป็นประมุข
ฝ่ายนิติบัญญัติประกอบด้วย 2 สภา คือ
ประธานาธิบดีเป็นผู้แต่งตั้งผู้พิพากษาศาลสูงจำนวน 9 คน โดยได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา
อาร์เจนตินากับไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1955 โดยเป็นประเทศแรกในลาตินอเมริกาและประเทศที่สองในทวีปอเมริกาที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย อาร์เจนตินามีสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ณ กรุงเทพมหานคร และไทยมีสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบัวโนสไอเรส[34]
อาร์เจนตินาเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทยในลาตินอเมริกา รองจากเม็กซิโกและบราซิล ค.ศ. 2016 ไทยและอาร์เจนตินามีปริมาณการค้ารวม 1,541.43 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคิดเป็นการส่งออกจากไทย 980.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้าของไทยจากอาร์เจนตินา 560.57 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยได้ดุลการค้า 420.29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สินค้าส่งออกที่สำคัญจากไทยไปอาร์เจนตินา ได้แก่ รถยนต์, อุปกรณ์และส่วนประกอบ, เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบและส่วนประกอบ, เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ, เหล็ก, เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์ยาง และสินค้านำเข้าที่สำคัญจากอาร์เจนตินา ได้แก่ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช (ถั่วเหลืองและกากถั่วเหลือง), สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์, สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป, ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม และเคมีภัณฑ์[35]
ใน ค.ศ. 2018 มีนักท่องเที่ยวชาวอาร์เจนตินาเดินทางมาประเทศไทยจำนวน 44,020 คน[36]
ประเทศอาร์เจนตินาแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 23 รัฐ (provincias) และ 1 นครปกครองตนเอง (ciudad autónoma) *
# | ธง | จังหวัด | อักษรย่อ | ประชากร[37] | เขต | ความหนาแน่นของประชากร[37] |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | นครปกครองตนเองบัวโนสไอเรส | CF | 2,891,082 | 203 ตารางกิโลเมตร (78 ตารางไมล์) | 14,241.8 คนต่อตารางกิโลเมตร (36,886 คนต่อตารางไมล์) | |
2 | รัฐบัวโนสไอเรส | BA | 15,594,428 | 307,571 ตารางกิโลเมตร (118,754 ตารางไมล์) | 50.7 คนต่อตารางกิโลเมตร (131 คนต่อตารางไมล์) | |
3 | รัฐกาตามาร์กา | CT | 367,820 | 102,602 ตารางกิโลเมตร (39,615 ตารางไมล์) | 3.6 คนต่อตารางกิโลเมตร (9.3 คนต่อตารางไมล์) | |
4 | รัฐชาโก | CC | 1,053,466 | 99,633 ตารางกิโลเมตร (38,469 ตารางไมล์) | 10.6 คนต่อตารางกิโลเมตร (27 คนต่อตารางไมล์) | |
5 | รัฐชูบุต | CH | 506,668 | 224,686 ตารางกิโลเมตร (86,752 ตารางไมล์) | 2.3 คนต่อตารางกิโลเมตร (6.0 คนต่อตารางไมล์) | |
6 | รัฐกอร์โดบา | CD | 3,304,825 | 165,321 ตารางกิโลเมตร (63,831 ตารางไมล์) | 20.0 คนต่อตารางกิโลเมตร (52 คนต่อตารางไมล์) | |
7 | รัฐกอร์ริเอนเตส | CR | 993,338 | 88,199 ตารางกิโลเมตร (34,054 ตารางไมล์) | 11.3 คนต่อตารางกิโลเมตร (29 คนต่อตารางไมล์) | |
8 | รัฐเอนเตรริโอส | ER | 1,236,300 | 78,781 ตารางกิโลเมตร (30,418 ตารางไมล์) | 15.7 คนต่อตารางกิโลเมตร (41 คนต่อตารางไมล์) | |
9 | รัฐฟอร์โมซา | FO | 527,895 | 72,066 ตารางกิโลเมตร (27,825 ตารางไมล์) | 7.3 คนต่อตารางกิโลเมตร (19 คนต่อตารางไมล์) | |
10 | รัฐฆูฆุย | JY | 672,260 | 53,219 ตารางกิโลเมตร (20,548 ตารางไมล์) | 12.6 คนต่อตารางกิโลเมตร (33 คนต่อตารางไมล์) | |
11 | รัฐลาปัมปา | LP | 316,940 | 143,440 ตารางกิโลเมตร (55,380 ตารางไมล์) | 2.2 คนต่อตารางกิโลเมตร (5.7 คนต่อตารางไมล์) | |
12 | รัฐลาริโอฆา | LR | 331,847 | 89,680 ตารางกิโลเมตร (34,630 ตารางไมล์) | 3.7 คนต่อตารางกิโลเมตร (9.6 คนต่อตารางไมล์) | |
13 | รัฐเมนโดซา | MZ | 1,741,610 | 148,827 ตารางกิโลเมตร (57,462 ตารางไมล์) | 11.7 คนต่อตารางกิโลเมตร (30 คนต่อตารางไมล์) | |
14 | รัฐมิซิโอเนส | MN | 1,097,829 | 29,801 ตารางกิโลเมตร (11,506 ตารางไมล์) | 36.8 คนต่อตารางกิโลเมตร (95 คนต่อตารางไมล์) | |
15 | รัฐเนวเกน | NQ | 550,334 | 94,078 ตารางกิโลเมตร (36,324 ตารางไมล์) | 5.8 คนต่อตารางกิโลเมตร (15 คนต่อตารางไมล์) | |
16 | รัฐริโอเนโกร | RN | 633,374 | 203,013 ตารางกิโลเมตร (78,384 ตารางไมล์) | 3.1 คนต่อตารางกิโลเมตร (8.0 คนต่อตารางไมล์) | |
17 | รัฐซัลตา | SA | 1,215,207 | 155,488 ตารางกิโลเมตร (60,034 ตารางไมล์) | 7.8 คนต่อตารางกิโลเมตร (20 คนต่อตารางไมล์) | |
18 | รัฐซานฆวน | SJ | 680,427 | 89,651 ตารางกิโลเมตร (34,614 ตารางไมล์) | 7.6 คนต่อตารางกิโลเมตร (20 คนต่อตารางไมล์) | |
19 | รัฐซานลุยส์ | SL | 431,588 | 76,748 ตารางกิโลเมตร (29,633 ตารางไมล์) | 5.6 คนต่อตารางกิโลเมตร (15 คนต่อตารางไมล์) | |
20 | รัฐซานตากรุซ | SC | 272,524 | 243,943 ตารางกิโลเมตร (94,187 ตารางไมล์) | 1.1 คนต่อตารางกิโลเมตร (2.8 คนต่อตารางไมล์) | |
21 | รัฐซานตาเฟ | SF | 3,200,736 | 133,007 ตารางกิโลเมตร (51,354 ตารางไมล์) | 24.1 คนต่อตารางกิโลเมตร (62 คนต่อตารางไมล์) | |
22 | รัฐซานเตียโกเดลเอสเตโร | SE | 896,461 | 136,351 ตารางกิโลเมตร (52,645 ตารางไมล์) | 6.6 คนต่อตารางกิโลเมตร (17 คนต่อตารางไมล์) | |
23 | รัฐติเอร์ราเดลฟูเอโก | TF | 126,190a | 21,263 ตารางกิโลเมตร (8,210 ตารางไมล์)a | 5.8 คนต่อตารางกิโลเมตร (15 คนต่อตารางไมล์)a | |
24 | รัฐตูกูมัน | TM | 1,448,200 | 22,524 ตารางกิโลเมตร (8,697 ตารางไมล์) | 64.3 คนต่อตารางกิโลเมตร (167 คนต่อตารางไมล์) |
a ไม่รวมหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ อาร์เจนตินา แอนตาร์กติกา
เนื่องจากภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ราบปัมปัสที่เหมาะสมสำหรับทำเกษตรกรรม ทำให้อาร์เจนตินาเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าเกษตรรายใหญ่ของโลกพืชเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของอาร์เจนตินาคือถั่วเหลือง ซึ่งอาร์เจนตินาเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับที่ 3 ของโลก นอกจากนี้ยังมีเมล็ดทานตะวัน ข้าวโพด ข้าวสาลี ข้าวไรย์ มะนาว องุ่น ถั่วลิสง ชา และแฟลกซ์ โดยนำเมล็ดไปใช้ทำนํ้ามันลินสีดสำหรับละลายหมึกสีและพรมนํ้ามัน นอกจากนี้ยังมีการทำปศุสัตว์เนื่องจากมีภูมิประเทศและอากาศที่เหมาะสม สัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่วัวและแกะ เลี้ยงมากในเกาะติเอร์ราเดลฟูเอโกซึ่งมีอากาศหนาวเย็นในฤดูหนาวและมีอากาศเย็นสบายในฤดูร้อน
อาร์เจนตินาประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจรุนแรงที่สุดเมื่อ ค.ศ. 2000–2002 หลังจากเกิดสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี สาเหตุสำคัญมาจากภาวะชะงักงันของเงินทุนต่างประเทศ การขาดดุลการคลัง และดุลการค้า และความพยายามของรัฐบาลที่จะรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐไว้ที่ระดับ 1 เปโซ ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนั้นเศรษฐกิจของอาร์เจนตินายังได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหา รวมทั้งการระงับการจ่ายหนี้สินต่างประเทศและการลดค่าเงินเปโซ
เศรษฐกิจของอาร์เจนตินาเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ปลาย ค.ศ. 2002 จนถึงปัจจุบัน โดยมีการขยายตัวของการส่งออกและการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศเป็นปัจจัยสำคัญ ทั้งนี้ การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการส่งออกนับตั้งแต่ ค.ศ. 2003 เป็นผลจากการลดค่าเงินเปโซซึ่งทำให้อาร์เจนตินาได้เปรียบดุลการค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการที่รัฐบาลอาร์เจนตินาสามารถผลักดันนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งนำไปสู่การลดลงของอัตราการว่างงานและการเพิ่มขึ้นของความต้องการสินค้าภายในประเทศ
ระบบการศึกษาของอาร์เจนตินาจัดได้ว่าเป็นระบบที่ดีที่สุดระบบหนึ่งในลาตินอเมริกา หลังจากได้รับเอกราช อาร์เจนตินาได้มีการสร้างระบบการศึกษาแห่งชาติขึ้นมาให้ทัดเทียมกับชาติอื่น ในปัจจุบันมีอัตราการรู้หนังสือร้อยละ 97 และผู้ใหญ่อายุเกิน 20 ปี สามในแปดคนจบการศึกษาระดับมัธยมปลายหรือสูงกว่า
การศึกษาภาคบังคับมีผลใช้ตั้งแต่อายุ 5 ถึง 17 ปี โดยประกอบด้วยการเรียนระดับประถมศึกษาเป็นเวลาหกหรือเจ็ดปี และระดับมัธยมศึกษาเป็นเวลาห้าถึงหกปี ประธานาธิบดีโดมิงโก เฟาส์ติโน เป็นผู้ที่มีบทบาทอย่างมากในการผลักดันและบังคับใช้ระบบการศึกษาสมัยใหม่แบบไม่คิดค่าเล่าเรียนในอาร์เจนตินา และการปฏิรูปมหาวิทยาลัยใน ค.ศ. 1918 ได้เป็นตัวสร้างรูปแบบมหาวิทยาลัยในระบบสามส่วน (tripartite) ในปัจจุบันเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐส่วนใหญ่
ภาษีของประชาชนนั้นครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการศึกษาทั้งหมด ยกเว้นแต่การศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา และมีระบบการศึกษาของเอกชนในทุกระดับด้วยเช่นกัน โดยใน ค.ศ. 2006 มีนักเรียนนักศึกษาอยู่ในการศึกษาในระบบประมาณ 11.4 ล้านคน โดยในจำนวนนี้เป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัย 85 แห่งทั่วประเทศจำนวน 1.5 ล้านคน
นับตั้งแต่ช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา ระบบการศึกษาของภาครัฐในอาร์เจนตินานั้นไม่คิดค่าเล่าเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับมหาวิทยาลัย ส่งผลให้ความต้องการเข้าเรียนนั้นสูงเกินกว่างบประมาณของรัฐ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งนับตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา) และส่งผลให้สถาบันการศึกษาของเอกชนขยายตัวขึ้น
ทั่วประเทศมีมหาวิทยาลัยรัฐบาล 38 แห่ง โดยมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส มหาวิทยาลัยแห่งชาติกอร์โดบา มหาวิทยาลัยแห่งชาติเดลาปลาตา มหาวิทยาลัยแห่งชาติโรซาริโอ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งชาติจัดได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่สำคัญที่สุด มหาวิทยาลัยของรัฐบาลนั้นไม่คิดค่าเล่าเรียนแก่นักศึกษาทุกคนรวมถึงนักศึกษาต่างชาติด้วย อย่างไรก็ดี มหาวิทยาลัยของรัฐบาลนั้นประสบปัญหาการตัดงบประมาณในคริสต์ทศวรรษ 1980 และ 1990 ซึ่งส่งผลให้คุณภาพโดยรวมนั้นลดลง
อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ผ่านมานี้ รัฐบาลอาร์เจนตินาได้ให้ความสนใจด้านการศึกษามากขึ้น โดยมีการพลิกผันงบประมาณการศึกษาครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ใน ค.ศ. 2009 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของมหาวิทยาลัยและโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ
การประมาณจำนวนประชากรอย่างเป็นทางการใน ค.ศ. 2009 ได้ผลว่าอาร์เจนตินามีประชากร 40,134,425 คน จัดเป็นอันดับที่ 3 ในอเมริกาใต้ และอันดับที่ 33 ของโลก โดยมีความหนาแน่นของประชากร 15 คนต่อตารางกิโลเมตร ซึ่งน้อยกว่าความหนาแน่นเฉลี่ยของโลกที่ 50 คนต่อตารางกิโลเมตรเป็นอย่างมาก อัตราการเติบโตของประชากรในปี 2008 อยู่ที่ประมาณร้อยละ 0.92 ต่อปี โดยมีอัตราการเกิดมีชีพเฉลี่ย 16.32 คนต่อประชากร 1,000 คน และอัตราการตายอยู่ที่ 7.54 คนต่อประชากร 1,000 คน อัตราการอพยพสุทธิอยู่ที่ 0 คนต่อผู้อยู่อาศัย 1,000 คน
อาร์เจนตินามีอัตราการเพิ่มของประชากรต่ำที่สุดประเทศหนึ่งในลาตินอเมริกา และมีอัตราการตายของทารกค่อนข้างต่ำ ค่ามัธยฐานของอายุประชากรอยู่ที่ 30 ปี และอายุขัยอยู่ที่ 76 ปี
รัฐธรรมนูญอาร์เจนตินารับประกันเสรีภาพทางศาสนา[38] ถึงแม้จะไม่มีการระบุศาสนาประจำชาติไว้[39] แต่ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกก็ได้รับสิทธิพิเศษ[40][upper-alpha 3]
รายงานจากผลสำรวจของสภาวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคนิคแห่งชาติใน ค.ศ. 2008 ร้อยละ 76.5 นับถือนิกายโรมันคาทอลิก, ร้อยละ 11.3 นับถืออไญยนิยมและอเทวนิยม, ร้อยละ 9 นับถือโปรเตสแตนต์นิกายอีแวนเจลิคัล, ร้อยละ 1.2 นับถือพยานพระยะโฮวา และร้อยละ 0.9 นับถือมอร์มอน ในขณะที่ร้อยละ 1.2 นับถือศาสนาอื่น เช่น อิสลาม, ยูดาห์, พุทธ[42] ในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตัวเลขเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ข้อมูลที่บันทึกใน ค.ศ. 2017 กล่าวว่า ประชากรที่นับถือโรมันคาทอลิกที่เคยมีถึงร้อยละ 66 ของประชากร ลดลงไปร้อยละ 10.5 ในเวลา 9 ปี และผู้ไม่นับถือศาสนาที่เคยมีร้อยละ 21 ของประชากร กลับเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในเวลาเดียวกัน[43]
ประเทศนี้มีทั้งประชากรมุสลิม[41] และยิวมากที่สุดในลาตินอเมริกา โดยกลุ่มหลังมีจำนวนมากเป็นอันดับที่ 7 ของโลก[44]
ชาวอาร์เจนตินามีการสร้างความเป็นตัวตนเฉพาะบุคคลและยกเลิกสถาบันความเชื่อทางศาสนาสูง[45] โดยมีผู้อ้างว่าเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาเสมอร้อยละ 23.8 เคยบางครั้งร้อยละ 49.1 และไม่เคยเลยร้อยละ 26.8[46]
ในวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 2013 ฆอร์เฆ มาริโอ เบร์โกกลิโอ คาร์ดินัลอัครมุขนายกแห่งบัวโนสไอเรส ได้รับเลือกเป็นบิชอปแห่งโรมและพระสันตะปาปาแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก พระองค์ใช้ชื่อของ "ฟรังซิส" และกลายเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกจากทวีปอเมริกาหรือซีกโลกใต้ พระองค์เป็นพระสันตะปาปาองค์แรกที่มาจากนอกยุโรปนับตั้งแต่สมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 3 (ผู้เป็นชาวซีเรีย) ใน ค.ศ. 741[47]
วัฒนธรรมของอาร์เจนตินาได้รับอิทธิพลเป็นอย่างมากจากวัฒนธรรมยุโรป กรุงบัวโนสไอเรสเป็นทั้งเมืองหลวงแห่งชาติและเมืองหลวงทางวัฒนธรรม และมีลักษณะเด่นอยู่ตรงที่มีผู้สืบเชื้อสายจากชาวยุโรปอยู่เป็นจำนวนมาก และมีการเลียนแบบสถาปัตยกรรมยุโรป ส่วนอิทธิพลทางวัฒนธรรมอีกแง่หนึ่งมาจากกลุ่มโคบาลเกาโช (gaucho) และวิถีชีวิตของโคบาลในชนบทและวิถีชีวิตแบบพึ่งพาตนเอง นอกจากนี้ ยังมีวัฒนธรรมจากชาวอเมริกันพื้นเมือง (เช่น การดื่มชาเยร์บามาเต) ได้รับการซึมซับเข้ามาอยู่ในวัฒนธรรมทั่วไปของอาร์เจนตินา
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.