Loading AI tools
นักการเมือง ทหาร และประธานาธิบดีโครเอเชีย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ฟราโญ ตุจมัน (โครเอเชีย: Franjo Tuđman; 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2465 – 10 ธันวาคม พ.ศ. 2542) เป็นทหารและนักการเมืองของประเทศโครเอเชียซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนแรกของโครเอเชียตั้งแต่ พ.ศ. 2533 จนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมใน พ.ศ. 2542 และเขาเป็นประธานาธิบดีคนสุดท้ายของสาธารณรัฐสังคมนิยมโครเอเชีย เมื่อมีการประกาศเอกราชจากยูโกสลาเวียเมื่อ พ.ศ. 2533
ฟราโญ ตุจมัน | |
---|---|
ตุจมันใน พ.ศ. 2538 | |
ประธานาธิบดีแห่งโครเอเชียคนที่ 1 | |
ดำรงตำแหน่ง 22 ธันวาคม พ.ศ. 2533 – 10 ธันวาคม พ.ศ. 2542 | |
ก่อนหน้า | ตัวเขาเอง (ในฐานะประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมโครเอเชีย) |
ถัดไป |
|
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2465 เวลิกอเตอร์กอวีชเช ราชอาณาจักรยูโกสลาเวีย |
เสียชีวิต | 10 ธันวาคม พ.ศ. 2542 (77 ปี) ซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย |
ที่ไว้ศพ | สุสานมิรอกอย ซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย |
คู่สมรส | อังกิตซา ตุจมัน |
บุตร | 3 คน |
บุพการี |
|
ศิษย์เก่า |
|
วิชาชีพ | นักการเมือง, นักประวัติศาสตร์, ทหาร |
ลายมือชื่อ | |
เว็บไซต์ | tudjman |
ชื่อเล่น | "ฟรันต์เซ็ก" |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | ยูโกสลาเวีย (2479–2504) โครเอเชีย (2538–2542) |
สังกัด | พลพรรคยูโกสลาเวีย (2479–2485) กองทัพประชาชนยูโกสลาเวีย (2488–2504) กองทัพโครเอเชีย (2538–2542) |
ประจำการ | 1942–1961 1995–1999 |
ยศ | พลตรี (พลพรรคยูโกสลาเวีย) จอมพล (กองทัพโครเอเชีย)[1][2] |
ผ่านศึก | สงครามโลกครั้งที่สอง สงครามยูโกสลาเวีย สงครามบอสเนีย |
เขาเกิดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเวลิกอเตอร์กอวีชเช ในช่วงที่เขาเป็นวัยรุ่นเขาผ่านสงครามโลกครั้งที่สองและเข้าร่วมกับพลพรรคแห่งยูโกสลาเวีย ต่อมาเขาได้รับรัฐการเป็นทหารประจำกองทัพประชาชนยูโกสลาเวีย จนกระทั่งได้ลาออกจากการเป็นทหารไปและได้ทำหน้าที่เป็นอาจารย์สอนวิชารัฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยซาเกร็บและสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยซาดาร์ เขาได้เป็นประธานาธิบดีคนแรกของประเทศโครเอเชียหลังได้รับเอกราชจากยูโกสลาเวีย ซึ่งเขาดำรงตำแหน่งในช่วงสงครามยูโกสลาเวียซึ่งเขามีบทบาทในสงครามนี้ทั้งในสงครามบอสเนีย สมครามการประกาศเอกราชของโครเอเชีย และการปราบกบฏกรายินาซึ่งเป็นชาวเซิร์บในโครเอเชีย เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเรื่อยมาจนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2542 บทบาทของเขาในประวัติศาสตร์ยังคงเป็นที่ถกเถียง โดยฝ่ายที่สนับสนุนเขามองว่าเขามีบุญคุณต่อชาวโครแอตในฐานะผู้ประกาศเอกราชจากยูโกสลาเวีย แต่ฝ่ายที่ต่อต้านเขาได้มองว่าเขาเป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จ
เขาเกิดที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเวลิกอเตอร์กอวีชเชซึ่งอยู่ในภูมิภาคเคอร์วัตสกอซากอริเยซึ่งในขณะนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรยูโกสลาเวีย หลังจากที่เขาเกิดได้ไม่นานครอบครัวของเขาก็ย้ายถิ่นฐานออกไป เขาเป็นบุตรของสติเยปาน ตุจมัน ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคกสิกรแห่งโครเอเชีย[3] และยุสตินา กมัซ เขามีพี่สาว 2 คน คือดานิตซา อานา (เสียชีวิตตั้งแต่ยังเป็นทารก) อิวิตซา และน้องชายอีกหนึ่งคนคือสติเยปาน (ชเตเฟ็ก) เมื่อตุจมันอายุได้เจ็ดปี มารดาของเขาได้เสียชีวิตลงขณะกำลังคลอดบุตรคนที่ห้า[4][5] วัยเด็กเขาได้รับอิทธิพลจากผู้เป็นบิดาซึ่งมีแนวคิดที่ต่อต้านศาสนา[3] เขาเข้าศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาที่หมู่บ้านของเขาเองตั้งแต่ พ.ศ. 2472 ถึง พ.ศ. 2476 ซึ่งตลอดเวลาที่เขาศึกษาอยู่เขามีผลการเรียนที่ดีเยี่ยม[6]
ต่อมาเขาเข้าศึกษาระดับมัธยมศึกษาใน พ.ศ. 2477 แต่ต้องหยุดเรียนไปเนื่องจากสภาพทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่และไม่มีเงินมากพอที่จะชำระค่าเทอม[7] แต่เพราะความช่วยเหลือจากทางราชการในตำบลและครูที่ปรึกษาของเขา ทำให้เขาได้ศึกษาต่อ เขาฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสต์ เป็นเหตุให้เขาถูกจับกุมเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2483 หลังจากที่เขาเข้าร่วมขบวนของนักศึกษาที่เฉลิมฉลองการปฏิวัติรัสเซีย[8]
เมื่อปี พ.ศ. 2484 โครเอเชียอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐเอกราชโครเอเชียซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐหุ่นเชิดของนาซีเยอรมนี เขาจึงเข้าร่วมกับพลพรรคยูโกสลาเวียในช่วงต้นปี พ.ศ. 2485 โดยได้รับการคัดเลือกจากมาร์กอ เบลินิช[8] และบิดาของเขาก็เข้าร่วมด้วย และได้ก่อตั้งสภาต่อต้านฟาสซิสต์แห่งรัฐเพื่อการปลดปล่อยแห่งชาติโครเอเชียขึ้นมา เป็นเหตุให้บิดา น้องชาย และตัวเขาถูกพวกอูสตาเช (กลุ่มลัทธิฟาสซิสต์ที่ปกครองโครเอเชียในเวลานั้น) จับกุมตัว แต่สามารถรอดชีวิตมาได้ยกเว้นน้องชายของเขาคือสติเยปานซึ่งถูกพวกเกสตาโพสังหาร[8]
หลังเสร็จสิ้นสงคราม เขาได้รับราชการทหารและได้รับตำแหน่งในกระทรวงกลาโหมของยูโกสลาเวีย ต่อมาเขาได้รับยศพลตรีก่อนที่เขาจะลาออกไปเป็นอาจารย์สอนวิชารัฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยซาเกร็บ[9] และเขาได้รับปริญญาเอกจากคณะประวัติศาสตร์เมื่อ พ.ศ. 2508 จากมหาวิทยาลัยซาดาร์[10] ต่อมาเขาจึงมาเป็นนักประวัติศาสตร์และเขาต่อต้านระบอบการปกครองของสาธารณรัฐสังคมนิยมโครเอเชียในเวลานั้น เขาจึงได้เข้าร่วมขบวนการโครเอเชียสปริงซึ่งเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการปกครองเสียใหม่ ทำให้เขาถูกทางการจับกุมและถูกจำคุกใน พ.ศ. 2515[ต้องการอ้างอิง] หลังจากนั้นเขาจึงได้อาศัยอยู่อย่างโดดเดี่ยวและสงบจนกระทั่งสิ้นสุดการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ในสหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย เขาจึงเข้าสู่เส้นทางการเมืองใน พ.ศ. 2532 ด้วยการก่อตั้งพรรคสหภาพประชาธิปไตยโครเอเชีย ต่อมาพรรคของเขาได้ชนะการเลือกตั้งในโครเอเชีย เขาจึงเป็นประธานาธิบดีโครเอเชียเป็นคนแรก และได้ประกาศเอกราชจากสหพันธ์สาธารณรัฐยูโกสลาเวียและได้รับเอกราชในวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2534 หลังจากผ่านการลงประชามติเห็นชอบจากชาวโครเอเชียร้อยละ 93
หลังจากที่โครเอเชียได้รับเอกราช ชนชาติเซิร์บซึ่งอาศัยอยู่ในโครเอเชียจำนวนมากได้ก่อการกบฏและตั้งประเทศเซอร์เบียกรายินาขึ้นมา เซอร์เบียกรายินาได้รับการสนับสนุนจากกองทัพยูโกสลาเวีย มีการสู้รบกันมาจนกระทั่งมีการลงนามสนธิสัญญาหยุดยิงใน พ.ศ. 2535 ทว่าสงครามกลับลุกลามไปถึงประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาซึ่งเป็นพันธมิตรของโครเอเชีย แต่ต่อมาความร่วมมือระหว่างบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนากับโครเอเชียได้เกิดปัญหาขึ้น เมื่อรัฐบาลของเขาหันไปสนับสนุนสาธารณรัฐโครเอเชียแห่งเฮิร์ตเซก-บอสเนียระหว่างสงครามโครแอต-บอสนีแอก[11] ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวบอสนีแอกโดยทหารโครแอต ต่อมาเฮิร์ตเซก-บอสเนียก็ถูกยุบรวมกับบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา และใน พ.ศ. 2538 เขาได้ลงนามร่วมกับอาลียา อีเซตเบกอวิชเพื่อยุติสงครามโครแอต-บอสเนียกและทั้งสองประเทศได้ร่วมมือกันอีกครั้งเพื่อดำเนินปฏิบัติการพายุซึ่งเป็นการหยุดสงครามในโครเอเชียได้สำเร็จจากการที่สามารถปราบปรามกบฏชาวเซิร์บในโครเอเชีย[12] และเขาได้รับเลือกตั้งอีกครั้งใน พ.ศ. 2535 ถึง พ.ศ. 2540
ตุจมันป่วยด้วยโรคมะเร็งตั้งแต่ พ.ศ. 2536 และสุขภาพของเขาได้อ่อนแอลงจนทรุดหนักลงตามลำดับ และได้ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2542[13] สิริอายุได้ 77 ปี และมีพิธีศพที่ซาเกร็บและศพของเขาถูกฝังไว้ที่นั่น
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.