บริษัทอินเดียตะวันออก
From Wikipedia, the free encyclopedia
บริษัทอินเดียตะวันออกอันทรงเกียรติ (อังกฤษ: Honourable East India Company) [2] หรือในเวลาต่อมาคือ บริษัทอินเดียตะวันออกของบริเตน (British East India Company)[3] เป็นบริษัทร่วมทุนสัญชาติอังกฤษในช่วงแรก ซึ่งเดิมถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อแสวงหาการค้ากับภูมิภาคอินเดียตะวันออก แต่ในภายหลังได้ดำเนินการค้าส่วนใหญ่กับอนุทวีปอินเดียและจีน และยังมีหน้าที่ปกครองอาณานิคมในอนุทวีปอินเดีย บริษัทอินเดียตะวันออกถือได้ว่ามีความเก่าแก่ที่สุดเมื่อเทียบกับบริษัทอินเดียตะวันออกของชาติทวีปยุโรปอื่น ๆ
ตราอาร์ม (1698) คำขวัญ: Auspicio Regis et Senatus Angliae ("ในกำกับของพระเจ้าแผ่นดินแลรัฐสภาอังกฤษ") | |
ประเภท | บริษัทมหาชน รัฐวิสาหกิจบางส่วน[1] |
---|---|
อุตสาหกรรม | การค้าระหว่างประเทศ |
ก่อตั้ง | 31 ธันวาคม 1600; 423 ปีก่อน (1600-12-31) |
ผู้ก่อตั้ง | โทมัส สไมธ์ |
เลิกกิจการ | 1 มิถุนายน 1874; 149 ปีก่อน (1874-06-01) |
สาเหตุ | การค้าระหว่างประเทศ:
|
สำนักงานใหญ่ | อีสต์อินเดียเฮาส์, , บริเตนใหญ่ |
ผลิตภัณฑ์ | ฝ้าย ผ้าไหม สีย้อมคราม เกลือ เครื่องเทศ ดินประสิว ชาและฝิ่น |
เมื่อแรกก่อตั้ง บริษัทได้รับพระราชทานตราตั้งโดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 ให้เป็น "ข้าหลวงแลบริษัทพาณิชย์แห่งลอนดอนซึ่งจักทำการค้าไปยังอินเดียตะวันออก" เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1600[4] บริษัทนี้เกิดขึ้นจากการร่วมทุนระหว่างพ่อค้าและชนชั้นสูงในอังกฤษ รัฐบาลมิได้ถือหุ้นอยู่ในบริษัทแต่ก็มีการอำนวยความสะดวกต่างๆให้แก่บริษัท เช่น สนับสนุนกำลังทหารและกองเรือปืน การดำเนินงานของบริษัทมีส่วนแบ่งถึงครึ่งหนึ่งของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของทั้งโลก สร้างรายได้ในรูปแบบภาษีให้แก่รัฐบาลอังกฤษมหาศาล บริษัทเป็นผู้จัดหาสินค้าสำคัญคือ ผ้าฝ้าย, ผ้าไหม, สีย้อมผ้า, เกลือ, ดินประสิว, ใบชา และฝิ่น
ในอินเดียเอง ก็มีนิคมของชาติยุโรปอื่นๆตั้งอยู่เช่นกัน เช่นของประเทศปรัสเซีย(เยอรมัน), เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส แต่ในปี 1740 อังกฤษได้ขัดแย้งกับประเทศปรัสเซียและฝรั่งเศสจากผลของสงครามสืบราชบัลลังก์ออสเตรีย การต่อสู้นั้นเกิดขึ้นทั้งในยุโรปและบางส่วนของอินเดีย จักรวรรดิโมกุลเลือกที่จะยืนอยู่ข้างฝรั่งเศสและทำสงครามกับบริษัท อย่างไรก็ตาม กองเรือของบริษัทซึ่งนำโดยพันเอกรอเบิร์ต ไคลฟ์ สามารถมีชัยเหนือกองทัพราชวงศ์โมกุลและฝรั่งเศส บริษัทจึงเข้าปกครองภาคเบงกอล ต่อมาหลังฝรั่งเศสพ่ายแพ้ในสงครามเจ็ดปี ฝรั่งเศสก็เสียดินแดนพิหารในอินเดียให้แก่อังกฤษ และจำยอมถอนอิทธิพลออกจากอนุทวีปอินเดีย
เดิมที บริษัทมีอำนาจสิทธิขาดในการปกครองอินเดียทั้งหมด แต่เมื่อมีการตราพระราชบัญญัติรัฐบาลอินเดีย ค.ศ. 1858 บริษัทก็ถูกลดบทบาท กฎหมายฉบับนี้ทำให้อำนาจการปกครองในอินเดียขึ้นตรงต่อพระเจ้าแผ่นดินอังกฤษ